ไปประชุมครั้งแรก ก็ตื่นเต้นดี ได้กินแต่น้ำเปล่ากับกาแฟเพราะขนมหมดแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ทั้งที่เราไปเร็วมาก
แต่ไม่เป็นไร ไม่ได้ไปกินขนม โห้ประชุมเสร็จเร็วมาก ผลการประชุมก็มีดังนี้นะเพื่อนๆ อันนี้เป็นการจดจาก
ที่เราประชุมนะ ขาดตกบกพร่องต้องขออภัย มือใหม่ เราจะเหลา เฉพาะวาระที่สำคัญๆ แล้วกันนะครับ
(1.) อย่างที่ทุกคนทราบ กลุ่มเหล็กสองปีที่แล้ว หนักหนาสาหัส ขาดทุนทุกราย ตามที่คุณชำนิแจ้ง แต่ปีนี้มีการลงทุนของภาครัฐ
2 ล้านๆ บาท กลุ่มเหล็กก็ต้องมีการใช้งานเพิ่มขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือ Supplier 2 ราย(จีพี่ จีน้อง) ไม่สามารถส่งมอบสินค้าให้ได้
แต่ตอนนี้เขากลับมาผลิตแล้วนะที่ปริมาณ 60000 ตันต่อเดือนในช่วงแรก และในสิ้นปีนี้คาดว่าจะแสนตันต่อเดือน คิดว่าจี จะเทรินด์
อะราวด์ได้ไหมเนี่ย ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุให้แมกจำเป็นต้องบันทึกบัญชี สินค้าจ่ายล่วงหน้าที่ 80 ล้าน และอีก 45 ล้านกำลังฟ้องร้องเอา
กับลูกหนี้อยู่ ก็เลยทำให้มีผลขาดทุนในไตรมาสที่ผ่านมา ถ้ารีเวิสด์กลับรายการได้ก็จะทำให้มีผลบวกได้ และคงไม่ถึงขั้นเอสพีตาม
ที่ทุกคนกลัว
(2) กลยุทธ์ทางด้านการตลาดในอนาคต แมกจะมีการนำเข้าสินค้าจากโรงงานที่จีน
(3) มีการอนุมัติเพิ่มทุนให้กับ RO ที่ 0.25 สตางค์ และ PP ที่ 0.31 สตางค์ สามารถจองซื้อเพิ่มได้สองเท่า
โดยจะทะยอยเพิ่มทุน โดยทุนที่ต้องการประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งจะให้แมกสามารถเปิด LC กับแบงค์ได้
สมมุติที่ 70 % ก็จะทำให้แมกมีกำไร 85-100 ล้านบาท ซึ่งคุณชำนิเองก็อยู่ในวงการเหล็กมาถึง 35 ปีแล้ว
(4) เงินทุนที่คาดว่าจะได้รับจากการเพิ่มทุน คุณชำนิ ได้ศึกษาแผนการลงทุน เช่น
4.1 การทำ Logistic หรือ คลังสินค้าให้กับกลุ่มเหล็ก อันนี้เราเห็นด้วยอ่ะ อยากให้ทำ เพราะคุณชำนิแจ้งว่า กำไรโดยคร่าวๆ ในการขนส่ง
ของกลุ่มเหล็กจะอยู่ที่ 200- 350 บาทต่อตัน โห้ถ้าทำ Supply Chain ให้กลุ่มเหล็กได้ กำไรเยอะเลยทีเดียว
4.2 การทำถ่านหิน แต่คุณชำนิไม่ค่อยชอบ เพราะมีวงจรผลิตภัณฑ์คล้ายเหล็ก
4.3 ลงทุนในโครงการไฟฟ้าจากขยะ หรือ Solar เซล กำลังฮิตกันเลย คุณชำนิบอกว่า นอกจากขยะที่ได้ เช่นพลาสติก
ยังสามารถนำไปขายเป็นเงินกลับมาได้ด้วย โห้ อย่างนี้ IEC มีโรงฟฟ้าจากขยะตั้ง 6.8 เมกะ ก็ได้เงินค่าขยะด้วยซิเนี่ย
ซึ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าของ Solar Cell จะอยู่ที่ 7-9 ล้านบาท ต่อเมกะวัตต์ ต่อปี ทั้งนี้ทั้งนั้นโครงการทั้งหมดยังอยู่ในการศึกษา
ความเป็นไปได้อยู่ แต่ก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้บริษัทกลับมามีกำไร
(5) วาระที่ 8 จะเป็นเรื่องของการเพิ่มทุน ตามที่กล่าวมา คุณชำนิบอกว่า PP จะซื้อประมาณ 1250 ล้านหุ้น ที่ 0.31 บาท
สมมุติว่าหุ้นที่ RO ขายไม่หมด PP ก็จะรับซื้อทั้งหมด ดังนั้น เพิ่มทุนไม่น่าจะมีปัญหานะ ว่าแต่ PP นี้คือใครเนี่ย
เป็นสิ่งที่เราจดมาได้จากการประชุมนะครับ ใช้วิจารณญาณของท่านในการลงทุนได้ ในฐานะเราก็มีหุ้นของตัวนี้ถืออยู่
ก็เลยมาเล่าให้คนที่อยู่ ตจว และคนที่ไม่ได้ไปฟัง ใครคิดยังไงแชร์กันได้ครับ
ใครไปประชุม MAX มามาแชร์กัน
แต่ไม่เป็นไร ไม่ได้ไปกินขนม โห้ประชุมเสร็จเร็วมาก ผลการประชุมก็มีดังนี้นะเพื่อนๆ อันนี้เป็นการจดจาก
ที่เราประชุมนะ ขาดตกบกพร่องต้องขออภัย มือใหม่ เราจะเหลา เฉพาะวาระที่สำคัญๆ แล้วกันนะครับ
(1.) อย่างที่ทุกคนทราบ กลุ่มเหล็กสองปีที่แล้ว หนักหนาสาหัส ขาดทุนทุกราย ตามที่คุณชำนิแจ้ง แต่ปีนี้มีการลงทุนของภาครัฐ
2 ล้านๆ บาท กลุ่มเหล็กก็ต้องมีการใช้งานเพิ่มขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือ Supplier 2 ราย(จีพี่ จีน้อง) ไม่สามารถส่งมอบสินค้าให้ได้
แต่ตอนนี้เขากลับมาผลิตแล้วนะที่ปริมาณ 60000 ตันต่อเดือนในช่วงแรก และในสิ้นปีนี้คาดว่าจะแสนตันต่อเดือน คิดว่าจี จะเทรินด์
อะราวด์ได้ไหมเนี่ย ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุให้แมกจำเป็นต้องบันทึกบัญชี สินค้าจ่ายล่วงหน้าที่ 80 ล้าน และอีก 45 ล้านกำลังฟ้องร้องเอา
กับลูกหนี้อยู่ ก็เลยทำให้มีผลขาดทุนในไตรมาสที่ผ่านมา ถ้ารีเวิสด์กลับรายการได้ก็จะทำให้มีผลบวกได้ และคงไม่ถึงขั้นเอสพีตาม
ที่ทุกคนกลัว
(2) กลยุทธ์ทางด้านการตลาดในอนาคต แมกจะมีการนำเข้าสินค้าจากโรงงานที่จีน
(3) มีการอนุมัติเพิ่มทุนให้กับ RO ที่ 0.25 สตางค์ และ PP ที่ 0.31 สตางค์ สามารถจองซื้อเพิ่มได้สองเท่า
โดยจะทะยอยเพิ่มทุน โดยทุนที่ต้องการประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งจะให้แมกสามารถเปิด LC กับแบงค์ได้
สมมุติที่ 70 % ก็จะทำให้แมกมีกำไร 85-100 ล้านบาท ซึ่งคุณชำนิเองก็อยู่ในวงการเหล็กมาถึง 35 ปีแล้ว
(4) เงินทุนที่คาดว่าจะได้รับจากการเพิ่มทุน คุณชำนิ ได้ศึกษาแผนการลงทุน เช่น
4.1 การทำ Logistic หรือ คลังสินค้าให้กับกลุ่มเหล็ก อันนี้เราเห็นด้วยอ่ะ อยากให้ทำ เพราะคุณชำนิแจ้งว่า กำไรโดยคร่าวๆ ในการขนส่ง
ของกลุ่มเหล็กจะอยู่ที่ 200- 350 บาทต่อตัน โห้ถ้าทำ Supply Chain ให้กลุ่มเหล็กได้ กำไรเยอะเลยทีเดียว
4.2 การทำถ่านหิน แต่คุณชำนิไม่ค่อยชอบ เพราะมีวงจรผลิตภัณฑ์คล้ายเหล็ก
4.3 ลงทุนในโครงการไฟฟ้าจากขยะ หรือ Solar เซล กำลังฮิตกันเลย คุณชำนิบอกว่า นอกจากขยะที่ได้ เช่นพลาสติก
ยังสามารถนำไปขายเป็นเงินกลับมาได้ด้วย โห้ อย่างนี้ IEC มีโรงฟฟ้าจากขยะตั้ง 6.8 เมกะ ก็ได้เงินค่าขยะด้วยซิเนี่ย
ซึ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าของ Solar Cell จะอยู่ที่ 7-9 ล้านบาท ต่อเมกะวัตต์ ต่อปี ทั้งนี้ทั้งนั้นโครงการทั้งหมดยังอยู่ในการศึกษา
ความเป็นไปได้อยู่ แต่ก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้บริษัทกลับมามีกำไร
(5) วาระที่ 8 จะเป็นเรื่องของการเพิ่มทุน ตามที่กล่าวมา คุณชำนิบอกว่า PP จะซื้อประมาณ 1250 ล้านหุ้น ที่ 0.31 บาท
สมมุติว่าหุ้นที่ RO ขายไม่หมด PP ก็จะรับซื้อทั้งหมด ดังนั้น เพิ่มทุนไม่น่าจะมีปัญหานะ ว่าแต่ PP นี้คือใครเนี่ย
เป็นสิ่งที่เราจดมาได้จากการประชุมนะครับ ใช้วิจารณญาณของท่านในการลงทุนได้ ในฐานะเราก็มีหุ้นของตัวนี้ถืออยู่
ก็เลยมาเล่าให้คนที่อยู่ ตจว และคนที่ไม่ได้ไปฟัง ใครคิดยังไงแชร์กันได้ครับ