รีวิว Logan ชะตากรรมสุดท้ายของมนุษย์กลายพันธุ์



Logan คือหนังภาค 3 ของ วูล์ฟเวอรีน (ต่อจาก X-Men Origins : Wolverine 2009 และThe Wolverine 2013) หนึ่งในตัวละครที่โด่งดังที่สุดของ X-Men ทีมซุปเปอร์ฮีโร่มนุษย์กลายพันธุ์  ซึ่งเป็นที่แน่นอนแล้วว่า ฮิวจ์ แจ็คแมน จะแสดงบทนี้เป็นครั้งสุดท้าย เช่นเดียวกับหนังที่คงปิดฉากลงแค่ไตรภาค ส่วนนักแสดงคนอื่นๆก็มี แดฟเน คีน , แพทริค สจ๊วต,บอยด์ โฮลบรู๊ค , เอลิซาเบธ ร็อดริเกซ และ สตีเฟ่น เมอร์แชนท์

หนังเป็นผลงานการกำกับของ เจมส์ แมนโกล์ด  จาก The Wolverine , Knight and Day  , Walk the Line และ Cop Land บทภาพยนตร์โดย เจมส์ แมนโกล์ด , สก็อต แฟรงค์ กับ ไมเคิล กรีน

เนื้อหาของ Logan เล่าถึงปี 2029 มิวเทนท์ หรือ มนุษย์กลายพันธุ์ถูกตามล่าจนเกือบสูญพันธุ์ โลแกน เป็นคนเดียวที่แอบแฝงตัวอยู่ในเมืองหากินกับอาชีพขับรถรับจ้าง แต่เขาก็มีสภาพแย่ไม่ต่างจากสุนัขแก่ๆ วันๆเอาแต่ดื่มเหล้าเพื่อหวังจะลืมความเจ็บปวดทั้งทางกายและใจ ภาจกิจสุดท้ายที่เขาทำในตอนนั้นคือการปกป้อง ศาสตราจารย์เอ็กซ์ ในวัยชราที่ป่วยจนคุมสติไม่ได้ โดยมีแคลิแบนมนุษย์กลายพันธุ์เผือกช่วยดูแลอยู่ที่แหล่งซ่อนตัวบริเวณเขตชายแดนเม็กซิโก

ต่อมามีหญิงสาวลึกลับปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับเด็กหญิง เธอขอร้องให้ โลแกน ช่วยชีวิตพวกเธอจากการถูกตามล่าด้วยการพาไปส่งยังชายแดนแคนนาดา โลแกน อยากได้เงินก้อนเพื่อซื้อเรืออพยพไปอยู่ในทะเลจะได้รอดพ้นจากสายตาของรัฐบาลสหรัฐฯจึงยอมตกลง โดยหารู้ไม่ว่ามันเกี่ยวพันกับชะตากรรมสุดท้ายของเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่เหลืออยู่

เมื่อดูหนังแล้วเราจะไม่สงสัยเลยว่าทำไมค่ายจึงตั้งชื่อหนังว่า Logan แทนที่จะเป็น Wolverine เพราะมันคือภาคจบที่เศร้าสลดแต่งดงามของตัวละครที่ชื่อว่า โลแกน ที่มีความเป็นมนุษย์สูงมากๆ ก่อนหน้านั้นเขาเคยเดือดเนื้อร้อนใจกับความสามารถพิเศษที่ไม่มีวันตายของตัวเอง แต่แล้วครั้งนี้ทุกอย่างกลับตรงกันข้าม แม้ว่าความ โหด ดิบ เถื่อน ของฉากต่อสู้ในหนังจะมีเยอะกว่าทุกภาคของ Wolverine และ X-Men แต่คนดูจะรู้สึกถึงความร้าวของ โลแกน เนื่องจากเขากำลังแก่ กำลังป่วย ไม่ใช่มนุษย์กลายพันธุ์กระดูกเหล็กอมตะอีกต่อไป และยังมีพาร์ทที่น่าเห็นใจเกี่ยวกับชีวิตของมือสังหาร

ความสนุกอีกประการคือการที่ Wolverine คล้ายกับได้คู่หูที่เป็นมากกว่าคู่หูคนใหม่ ที่สามารถโยงให้เขากับเรื่องราวพาร์ทครอบครัวมนุษย์กลายพันธุ์ได้อย่างดี ซึ่งความสัมพันธ์ที่ไม่ได้เกี่ยวกันโดยสายเลือตรงๆอย่าง โลแกน กับ ลอร่า หรือ โลแกน กับ ศาสตราจารย์เอ็กซ์ ก็ลึกซึ้งกินใจผู้ชมเป็นอย่างดี อีกข้อที่น่าสนใจคือการเชื่อมเรื่องราวของการ์ตูนมาเข้ากับหนังได้อย่างกลมกลืน ส่วนตัวชอบการรำลึกถึงความหลังที่เป็นวันชื่นคืนสุขของเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่ทำให้อดคิดถึงหนังภาคก่อนๆไม่ได้

ดังนั้นถึงจะมีมิวเทนท์น้อยกว่าหนังตระกูล X-Men เรื่องอื่นๆ ทว่า Logan กลับมีความมันส์กว่าหลายเท่า ซีนแอ็คชั่นได้ลุ้นเอาใจช่วยตัวละคร กับวูล์ฟเวอรีนในพาร์ทลูเซอร์ สิ้นหวัง หดหู่ เขี้ยวเล็บไม่แข็งแรงเหมือนก่อน ซีนดราม่าอารมณ์มาเต็ม ได้ความประทับใจของความรักกับการเสียสละ(หนังไม่มีความรักแบบหนุ่มสาวเลย แต่ส่วนตัวชอบมาก) รวมถึงยังมีตลกร้ายล้อเลียนการเมืองของสังคมอเมริกันอีกมากมาย อย่างที่บอกว่ามิวเทนท์คือการเปรียบเปรยกับกลุ่มคนที่ถูกเหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติ เหยียดศาสนา ซึ่งช่วงหลังๆอาจจเน้นไปที่สังคมอเมริกัน มนุษย์กลายพันธุ์จึงเป็นคนชายขอบที่ถูกคนขาวเลือกปฏิบัติ พวกเขาทำได้แค่ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด ซอกหลืบของสังคมอย่างเจียมตัว อาจจะมีหลบหนีไปอยู่ตามชายแดนเพื่อนบ้านบ้าง

ฉากที่เจ็บแสบที่สุดน่าจะเป็นการที่เป้าหมายของเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์คือเดินทางไป ประเทศแคนาดา ซึ่งสามารถนำมาเทียบเคียงกับเหตุการณ์ที่ชาวอเมริกันเชื้อสายต่างๆ ชนกลุ่มน้อยในสหรัฐฯ และผู้อพยพจำนวนมากแสดงความต้องการว่าอยากย้ายไปอยู่แคนาดาหลัง ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง

Logan เป็นหนังฮีโร่ที่ต่างจากเรื่องอื่นๆในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีกลิ่นอายของภาพยนต์ชื่อดังหลายเรื่องทั้ง  Cop Land , No Country for Old Men และ The Dark Knight วูล์ฟเวอร์รีนในหนังเท่สุดๆ น้องดาฟเน่น่ารัก สร้างสีสันได้อย่างดี Logan ดูเป็นจุดจบของการเริ่มต้นบางอย่าง ตอนท้ายที่นำเอาประโยคของหนังคาวบอยคลาสสิกมาใช้เป็นไอเดียที่ปลาดเปรื่องมาก สรุปใจความของหนังได้หมดสิ้น เชื่อว่ามันทำให้คนดูไม่มีวันลืมชายที่ชื่อโลแกน สิงโตขาเป๋ในหุบเขาที่ไม่มีปืน

คะแนน 8.5/10

โดย นกไซเบอร์ https://www.facebook.com/cyberbirdmovie
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่