เหตุผลที่ Days Of Future Past เป็นหนังภาคที่ดีที่สุดใน X-MEN (ความเห็นส่วนตัว)

ความคิดเห็นส่วนตัวนะ

ต้อนรับหนังใหม่ Logan ที่กำลังเข้าฉาย ที่หลายเสียงค่อนข้างเทไปในทางที่บอกว่า Logan คือหนังที่ดีที่สุดใน X-MEN

แต่สำหรับผมแล้ว Days Of Future Past คือภาคที่ยอดเยี่ยมที่สุด


เพราะเป็นภาคที่รวบรวมองค์ประกอบเกือบทุกอย่างไว้ ไม่ว่าจะตัวละครภาคเก่า ภาคใหม่ ที่มาประชันบทบาทกัน ตัดสลับการกระทำตัวละครไปมาได้อย่างลงตัว และด้วยระยะเวลาที่ห่างจากภาคที่แล้วที่ตัวละครภาคเก่าเล่นใน The Last Stand 8ปี ทำให้เราหายคิดถึงตัวละครต่างๆ ได้เห็นพวกเขากลับมาโลดแล่นอีกครั้งในจอในบทบาทตัวละครเดิม จึงส่งผลให้ภาคนี้เป็นภาคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล X-MEN ที่รวบรวมตัวละครไว้มากที่สุด

การวางเนื้อเรื่องให้ซับซ้อน บทเนื้อหาที่แน่นจริงจัง เครียด ที่วางมาอย่างดี ซีจีสวยและเหมือนจริง ฉากแอ็กชั่นเร้าใจบีบคั้น แต่ละคนแสดงพลังออกมาเต็มที่กว่าภาคไหนๆ ตัวร้ายที่ทรงพลังที่สุดในหนังX-MEN แข็งแกร่งมากจนต้องย้อนอดีตมาแก้ไขอนาคต ไม่เพียงแก้ไขอนาคตเท่านั้นภาคนี้ถือเป็นการแก้ไขไทม์ไลน์ที่ผิดเพี้ยนขัดแย้งทั้งหมดให้เหลือไทม์ไลน์เดียว ลบจุดอ่อนภาคเก่าๆออกไป ดึงตัวละครอันเป็นที่รักที่ตายไปแล้วกลับมา และเชื่อมโยงทุกภาคไว้ให้กลายเป็นเนื้อเดียวกันไว้อย่างแนบสนิท

ถึงจะมากไปด้วยตัวละคร และยังต้องแบ่งเวลาให้แต่ละคนๆ หนังก็ยังสามารถเก็บรายละเอียดได้ทุกอย่างภายในหนังเรื่องนี้ ทั้งปมตัวละครยังคงต่อเนื่อง ไม่สะดุด เช่น

โลแกน ต่อเนื่องมาจาก The Wolverine ปมของเขาคือจีน เพราะจีนคือสิ่งที่เขาโหยหาหลังจากเธอตาย และท้ายสุดเขาก็ได้กลับมาเจอจีนอีกครั้งนึง มันคือโมเม้นท์ที่ดีที่สุดของโลแกน เพราะเขาได้เจอสิ่งที่เขาคิดถึง และความรู้สึกผิดที่เขาเคยทำไว้

และมิสทีค หนังเล่นประเด็นถึงความแตกต่างของเธอ ต่อเนื่องมาจากภาค First Class พลังวิเศษที่ต้องปกปิด ปมของเธอคือรูปลักษณ์ที่น่ารังเกียจ และชาร์ลส์ก็เป็นเหตุผลนึง ที่ผลักดันขับเคลื่อนตัวละครนี้ให้ไปในทางที่ไม่ดี  เรื่องที่เธอไม่อาจได้ใจชาร์ลส์ไป และทัศนคติของชาร์ลส์ก็ที่เหมือนจะผลักไสเรเว่นออกไป ทำให้เธอเป็นมิสทีคที่กำลังจะร้าย ไปสู่หนทางวงจรแห่งการฆ่าที่ไม่สิ้นสุด แต่สุดท้ายแล้วคนที่มาหยุดเธอ ฉุดเธอได้นั้นก็คือคนเดียวกับคนที่ทำให้เธอรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ซึ่งก็คือชาร์ลส์เท่านั้นในตอนท้าย

ยังไม่รวมกับประเด็นความรักสามเศร้าบ้อบบี้ มารีและคิตตี้ที่ยังต่อเนื่องมาจาก The Last Stand

ปมของชาร์ลส์ตอนหนุ่มหลังจากเสียขาไป สิ้นหวังและกำลังใจ ซึ่งทำให้โลแกนเป็นผู้มาชี้นำเขาให้กลับมามีหวังอีกครั้งนึง
(ซึ่งเหมือนกับในภาค Logan ที่ชาร์ลส์เป็นผู้ถูกดูแลโดยโลแกนแทน)

"หวัง" จึงเป็นนิยามของหนังเรื่องนี้



มาพูดถึงภาคนี้กันบ้าง

หนังไม่เสียเวลาที่จะปูอะไรมาก่อนหน้านี้เลย เนื้อเรื่องหนังไม่ยอมแง้มว่าตัวเองอยู่ในไทม์ไลน์ไหน และไม่กล้าเปิดเผยอะไรออกมาโต้งๆ ไม่ยอมมีการเชื่อมโยงอะไรในภาคเก่าๆให้เห็นมากนัก (อาจเป็นเพราะกลัวขัดแย้งถ้าเกิดมีการสร้างภาคใหม่ที่เหตุการณ์อยู่ในอดีต)  

ภาคนี้เป็นหนังที่เห็นถึงความอ่อนโยนของชีวิต หนังเต็มไปด้วยความอบอุ่นและ"สิ้นหวัง"ไปพร้อมๆกัน ประเด็นที่มนุษย์กลายพันธุ์ใกล้จะหมดโลก แถมพลังก็ยังอ่อนลง

ชาร์ลส์ เซเวียร์แทบจะแตกต่างไปจากบทบาทที่เราเคยเห็น บัดนี้เขาโรยราและควมคุมพลังไม่ได้ เป็นตาแก่ออกจะสติเฟื่อง ยิ่งคนที่มีพลังสมองที่แข็งแกร่งกลับมีโรคที่ควบคุมสมองไม่ได้แล้วยิ่งไปกันใหญ่ แต่แพทริค สจ๊วตท์ก็แสดงออกมาได้ดี เป็นผู้ใหญ่ใจดี ดูแล้วยิ้มตาม เป็นการทิ้งทวนการแสดงบทบาทนี้ในครั้งสุดท้ายของเขา

โลแกนภาคนี้ก็แทบเป็นจุดสูงสุดในบทบาทวูลฟ์เวอรีนของ ฮิวจ์ แจ็คแมน ซึ่งเป็นภาคที่หนักแบกรับและดราม่า เล่นกับประเด็นที่พลังวิเศษที่เยียวยาตัวเองได้กำลังถดถอยลง บัดนี้ร่างกายเขากำลังเป็นพิษในตัวเขาเอง ดังนั้นเมื่อเราดูภาคนี้จะรู้สึกเอาใจช่วยวูล์ฟเวอรีนมากกว่าทุกครั้ง กลัวเป็นพิเศษเวลาเขาโดนบาดแผลแรงๆ เช่นยิง หรือแทง เขากลายเป็นคนที่ดูมีเลือดเนื้อขึ้นกว่าเดิม

ตัวร้ายในภาคนี้ไม่ค่อยมีอะไรมากนอกจากไล่ยิง ถึงจะมีเซอร์ไพรส์มา แต่ก็ไล่ฟันกันเฉยๆ ไม่มีการสาดพลังใส่กันเท่าไหร่ จึงไม่มีเสน่ห์ความเป็นX-MEN ในภาคนี้มากนัก

ให้ 8.5/10 ครับ

แล้วคนอื่นว่าอย่างไรกันบ้าง ภาคไหนคือภาคที่ดีที่สุดของX-MEN มาลองพูดคุยกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่