ขออธิบายก่อนนะคะ
บ้านที่ดิฉันนี้ คือท้ายซอยของหมู่บ้าน ข้างหลังบ้านนั้นจะเป็นคูน้ำเล็กๆๆ เพื่อกันระหว่างกรุงเทพและสมุทรปราการ และถัดไปคือที่ดินผืนกว้าง น่าจะประมาณ 100 ไร่
เพื่อนบ้านทางด้านขวามือนั้น ไม่ถูกกับพ่อของดิฉัน ตั้งแต่เริ่มสร้างบ้านเมื่อ 25 ปีที่แล้ว เหตุเกิดจากลุงแกขอสร้างกำแพงติดกับบ้านของดิฉัน แต่พ่อของดิฉันไม่ยินยอม จึงต้องเว้นไว้ 50 ซม. หากไม่ได้รับอนุญาตจากบ้านใกล้เคียง หลังจากเหตุการณ์นั้นก็ไม่ถูกกันอีกเลย
ขอเข้าเรื่องเลยนะค่ะ ดังที่อธิบายไปว่าถัดจากคูน้ำเล็กๆนั้น จะเป็นที่ดินผืนกว้าง ซึ่งใครก็ไม่รู้เป็นเจ้าของ แต่ลุงข้างบ้านก็ได้ทำสะพานข้าม เพื่อเอาไปเก็บกองไม้ ปลูกผัก หรือทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งส่วนตัวดิฉันก็คิดว่าเป็นการบุกรุกที่คนอื่น แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เมื่อ 2 ปีที่แล้วลุงแกได้ลามมาปลูกก่อไผ่ไว้ในที่ตรงนั้น แต่ลุงไม่ปลูกในตำแหน่งของบ้านลุง ลุงปลูกตรงกลางตำแหน่งบ้านดิฉันค่ะ ซึ่งตอนที่เริ่มปลูกนั้น แม่ของดิฉันได้บอกลุงแล้วว่า ไม่ปลูกไผ่ได้มั้ย เพราะถ้ามันโต และเกิดไฟไหม้ทุ่งตรงนี้จะเดือดร้อน (ลืมบอกไปค่ะว่า 5 ปีที่ผ่านมานี้ เกิดไฟไหม้ทุ่งนี้ทุกปี ซึ่งบ้านดิฉันก็เรียกดับเพลิงมาตลอด) ลุงบอกแม่ดิฉันว่า จะปลูกไว้กินหน่อไม้ ??? (หือออออ.....ซื้อเอามั้ยค่ะ ??? 5555)
ตอนนี้ต้นไผ่สูงมากแล้ว น่าจะ 5-6 เมตร และกอก็ใหญ่มาก ซึ่งวันศุกร์ที่ผ่านมาและเมื่อวานนี้ก็เกิดเพลิงไหม้ ป้าข้างบ้านด้านซ้ายมือมาเรียกพ่อของดิฉันตอนตีห้าครึ่ง ว่าไฟไหม้ๆ มาช่วยกันหน่อยและป้านั้นก็กลัวกอไผ่กอนั้นเช่นเดียวกัน ซึ่งป้าก็สัญญาว่าจะเป็นแรงช่วยพูดกับลุงที่ปลูกกอไผ่ว่าตัดเถอะ ในเมื่อที่ตรงนั้นไม่ใช่ที่ของลุง และมันสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น แม่ดิฉันเลยไปบอกที่บ้านลุง แต่เจอเมียลุง เมียลุงบอก "ตัดเลยแต่ขอบอกสามีก่อน" ซึ่งตอนนี้แม่ของดิฉันยอมรับว่าไม่สนใจความพูดของป้าที่ว่า ถามสามีก่อน เพราะตอนที่บอกนั้น คือตอนเจ็ดโมงเช้า ซึ่งไฟกำลังไหม้ใกล้ก่อไผ่นั้นเลย
เมื่อวานนี้ แม่ของดิฉันนัดช่างตัดต้นไม้มา และก็เป็นตามที่คิดไว้จริงๆ พอช่างเดินข้ามคูน้ำไปเพื่อไปตัดไผ่ ลุงรีบวิ่งมาเลยจ้าาา และบอกว่า
ลุงและลูกสาวลุง : ใครให้ตัด (ขออนุญาติใช่คำพูดไม่สุภาพ แต่ลุงพูดยังงี้จริงๆ) และลุงสาวลุงมีการสั่งให้ช่างวางมีดลง
แม่ดิฉัน : xxxxเองค่ะ
ลุง : ทำไมไม่บอก
แม่ดิฉัน : บอกแล้ว บอกเมื่อวาน
ลุง : มีสิทธิ์อะไรมาตัด
แม่ดิฉัน : คุณเห็นมั้ยว่ามันเดือดร้อน คนอื่นเค้าก็เดือนร้อนกับสิ่งที่คุณปลูกและที่สำคัญ มันไม่ใช่ที่ของลุงด้วย
ลุง : ต้นไม้กุ กุปลุก
แม่ดิฉัน : ที่ลุงเหรอ ?
ลุง : เห็นแก่ตัว และการศึกษาของพวกไม่ช่วยให้มีน้ำใจเหรอ ??? (หืออออ ถือว่าเป็นคำชมล่ะกัน)
แม่ดิฉัน : เห็นแก่ตัวอะไร (ซึ่งตอนนั้นป้าของบ้านที่ว่าจะเป็นผู้สนับสนุนก็อยู่ แต่ไม่พูดอะไรเลย (ดิฉันแอบสงสารแม่ที่ต้องสู้อยู่คนเดียว) และขอเสริมว่าเมื่อตอนน้ำท่วมใหญ่ปี 54 มั้งค่ะ จำปีไม่ได้ ทุกคนในหมู่บ้านร่วมลงขันค่าทรายกันคนละ 2,000 บาท ซึ่งพอทรายมาถึงปุ๊บ ลุงแกรีบมาตักๆ และเอาเข้าบ้านก่อนใครเลยและมีเหตุการณ์ต่างๆมากมาย แต่ขอละเอาไว้
ลุง : กุปลูก กุดูแลอยู่
แม่ดิฉัน : แต่มันเดือดร้อนคนอื่น ตอนไฟไหม้ลุงมาดูบ้างมั้ย
ลุง : แล้วมันไหม้รึยังบ้านน่ะ
แม่ดิฉัน : เจอให้มันไหม้เหรอ ถ้าเกิดมันไหม้และกอไผ่ล้มมาฟาดบ้านหนู เกิดไฟขึ่นมาจะรับผิดชอบมั้ย
ลุง : มันไม่ไหม้หรอก (คนอะไรเกิดมาเพิ่งเจอ ดิฉันคิดในใจ)
ซึ่งตอนนั้นช่างตัดต้นไม้กลับไปแล้วนะค่ะ อาจจะกลัว
ลุง : ตัดนะเห็นดีกันแน่ และเดี๋ยวกุตัดเอง
แม่ดิฉันสู้ไม่ไหว ก็เลยหยุด
แต่ดิฉันก็เลยเดินไปหาลุงที่บ้าน (คิดในใจเอาไงก็เอากัน) บอกขอโทษนะค่ะ ที่ว่าจะตัดตัดเมื่อไร
ลุง : เดี๋ยวตัดเอง
ดิฉัน : ขอภายในสองอาทิตย์นะค่ะ
ลุง : (เงียบและไม่ตอบ ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ลุงบอกตลอดว่าจะตัด แต่ลุงก็ไม่เคยทำ) และลุงบอกว่าทีบ้านดิฉันทำหลังคาโรงรถเกือบเข้ามาเขตบ้านลุง ทีงี้ัทำไมไม่สนใจ
แม่ดิฉันออกมา : ทิ้งดิ่งเลยมั้ยค่ะ ให้เห็นกันไปเลย เพราะมั่นใจมาก
ลุง : ไม่ต้อง (ดิฉันคิดในใจว่า ไม่กล้านี่หว่าและบ่นทำไม)
เพื่อนแม่ดิฉันและเพื่อนดิฉัน ก็งง ว่าทำไมเรื่องแค่นี้แล้วบุกรุกที่คนอื่น ยังมาทำนิสัยอย่างงี้ พวกเขาแนะนำให้ไปแจ้งตำรวจ ดิฉันเลยไปแจ้งเรื่องแต่คุณตำรวจแนะนำว่าควรใช้กฏหมายเล่นงาน เพราะตอนนี้ยังไม่เกิดเรื่อง
ไฟก็ไหม้มา 2 วันแหละค่ะ ตอนเช้าบ้าง ตอนเย็นบ้าง กลัวอยู่ตลอดต้องเฝ้าบ้าน เฝ้าไฟ ออกไปไหนไม่ได้ ซึ่งพ่อแม่ดิฉันก็ปล่อยไปตามเวรตามกรรม แต่ดิฉันคิดว่ามันไม่ถูกต้องมากๆ และจึงขอมาตั้งกระทู้ในวันนี้ เพื่อขอคำแนะนำและคำปรึกษาจากเพื่อนๆชาวๆ พันทิพค่ะ
หากเนื่อเรื่องยาวไปขออภัยด้วยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
กลุ้มใจกับเพื่อนบ้านมากๆค่ะ เจอกรณียังงี้ทำอย่างๆไรดี
บ้านที่ดิฉันนี้ คือท้ายซอยของหมู่บ้าน ข้างหลังบ้านนั้นจะเป็นคูน้ำเล็กๆๆ เพื่อกันระหว่างกรุงเทพและสมุทรปราการ และถัดไปคือที่ดินผืนกว้าง น่าจะประมาณ 100 ไร่
เพื่อนบ้านทางด้านขวามือนั้น ไม่ถูกกับพ่อของดิฉัน ตั้งแต่เริ่มสร้างบ้านเมื่อ 25 ปีที่แล้ว เหตุเกิดจากลุงแกขอสร้างกำแพงติดกับบ้านของดิฉัน แต่พ่อของดิฉันไม่ยินยอม จึงต้องเว้นไว้ 50 ซม. หากไม่ได้รับอนุญาตจากบ้านใกล้เคียง หลังจากเหตุการณ์นั้นก็ไม่ถูกกันอีกเลย
ขอเข้าเรื่องเลยนะค่ะ ดังที่อธิบายไปว่าถัดจากคูน้ำเล็กๆนั้น จะเป็นที่ดินผืนกว้าง ซึ่งใครก็ไม่รู้เป็นเจ้าของ แต่ลุงข้างบ้านก็ได้ทำสะพานข้าม เพื่อเอาไปเก็บกองไม้ ปลูกผัก หรือทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งส่วนตัวดิฉันก็คิดว่าเป็นการบุกรุกที่คนอื่น แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เมื่อ 2 ปีที่แล้วลุงแกได้ลามมาปลูกก่อไผ่ไว้ในที่ตรงนั้น แต่ลุงไม่ปลูกในตำแหน่งของบ้านลุง ลุงปลูกตรงกลางตำแหน่งบ้านดิฉันค่ะ ซึ่งตอนที่เริ่มปลูกนั้น แม่ของดิฉันได้บอกลุงแล้วว่า ไม่ปลูกไผ่ได้มั้ย เพราะถ้ามันโต และเกิดไฟไหม้ทุ่งตรงนี้จะเดือดร้อน (ลืมบอกไปค่ะว่า 5 ปีที่ผ่านมานี้ เกิดไฟไหม้ทุ่งนี้ทุกปี ซึ่งบ้านดิฉันก็เรียกดับเพลิงมาตลอด) ลุงบอกแม่ดิฉันว่า จะปลูกไว้กินหน่อไม้ ??? (หือออออ.....ซื้อเอามั้ยค่ะ ??? 5555)
ตอนนี้ต้นไผ่สูงมากแล้ว น่าจะ 5-6 เมตร และกอก็ใหญ่มาก ซึ่งวันศุกร์ที่ผ่านมาและเมื่อวานนี้ก็เกิดเพลิงไหม้ ป้าข้างบ้านด้านซ้ายมือมาเรียกพ่อของดิฉันตอนตีห้าครึ่ง ว่าไฟไหม้ๆ มาช่วยกันหน่อยและป้านั้นก็กลัวกอไผ่กอนั้นเช่นเดียวกัน ซึ่งป้าก็สัญญาว่าจะเป็นแรงช่วยพูดกับลุงที่ปลูกกอไผ่ว่าตัดเถอะ ในเมื่อที่ตรงนั้นไม่ใช่ที่ของลุง และมันสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น แม่ดิฉันเลยไปบอกที่บ้านลุง แต่เจอเมียลุง เมียลุงบอก "ตัดเลยแต่ขอบอกสามีก่อน" ซึ่งตอนนี้แม่ของดิฉันยอมรับว่าไม่สนใจความพูดของป้าที่ว่า ถามสามีก่อน เพราะตอนที่บอกนั้น คือตอนเจ็ดโมงเช้า ซึ่งไฟกำลังไหม้ใกล้ก่อไผ่นั้นเลย
เมื่อวานนี้ แม่ของดิฉันนัดช่างตัดต้นไม้มา และก็เป็นตามที่คิดไว้จริงๆ พอช่างเดินข้ามคูน้ำไปเพื่อไปตัดไผ่ ลุงรีบวิ่งมาเลยจ้าาา และบอกว่า
ลุงและลูกสาวลุง : ใครให้ตัด (ขออนุญาติใช่คำพูดไม่สุภาพ แต่ลุงพูดยังงี้จริงๆ) และลุงสาวลุงมีการสั่งให้ช่างวางมีดลง
แม่ดิฉัน : xxxxเองค่ะ
ลุง : ทำไมไม่บอก
แม่ดิฉัน : บอกแล้ว บอกเมื่อวาน
ลุง : มีสิทธิ์อะไรมาตัด
แม่ดิฉัน : คุณเห็นมั้ยว่ามันเดือดร้อน คนอื่นเค้าก็เดือนร้อนกับสิ่งที่คุณปลูกและที่สำคัญ มันไม่ใช่ที่ของลุงด้วย
ลุง : ต้นไม้กุ กุปลุก
แม่ดิฉัน : ที่ลุงเหรอ ?
ลุง : เห็นแก่ตัว และการศึกษาของพวกไม่ช่วยให้มีน้ำใจเหรอ ??? (หืออออ ถือว่าเป็นคำชมล่ะกัน)
แม่ดิฉัน : เห็นแก่ตัวอะไร (ซึ่งตอนนั้นป้าของบ้านที่ว่าจะเป็นผู้สนับสนุนก็อยู่ แต่ไม่พูดอะไรเลย (ดิฉันแอบสงสารแม่ที่ต้องสู้อยู่คนเดียว) และขอเสริมว่าเมื่อตอนน้ำท่วมใหญ่ปี 54 มั้งค่ะ จำปีไม่ได้ ทุกคนในหมู่บ้านร่วมลงขันค่าทรายกันคนละ 2,000 บาท ซึ่งพอทรายมาถึงปุ๊บ ลุงแกรีบมาตักๆ และเอาเข้าบ้านก่อนใครเลยและมีเหตุการณ์ต่างๆมากมาย แต่ขอละเอาไว้
ลุง : กุปลูก กุดูแลอยู่
แม่ดิฉัน : แต่มันเดือดร้อนคนอื่น ตอนไฟไหม้ลุงมาดูบ้างมั้ย
ลุง : แล้วมันไหม้รึยังบ้านน่ะ
แม่ดิฉัน : เจอให้มันไหม้เหรอ ถ้าเกิดมันไหม้และกอไผ่ล้มมาฟาดบ้านหนู เกิดไฟขึ่นมาจะรับผิดชอบมั้ย
ลุง : มันไม่ไหม้หรอก (คนอะไรเกิดมาเพิ่งเจอ ดิฉันคิดในใจ)
ซึ่งตอนนั้นช่างตัดต้นไม้กลับไปแล้วนะค่ะ อาจจะกลัว
ลุง : ตัดนะเห็นดีกันแน่ และเดี๋ยวกุตัดเอง
แม่ดิฉันสู้ไม่ไหว ก็เลยหยุด
แต่ดิฉันก็เลยเดินไปหาลุงที่บ้าน (คิดในใจเอาไงก็เอากัน) บอกขอโทษนะค่ะ ที่ว่าจะตัดตัดเมื่อไร
ลุง : เดี๋ยวตัดเอง
ดิฉัน : ขอภายในสองอาทิตย์นะค่ะ
ลุง : (เงียบและไม่ตอบ ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ลุงบอกตลอดว่าจะตัด แต่ลุงก็ไม่เคยทำ) และลุงบอกว่าทีบ้านดิฉันทำหลังคาโรงรถเกือบเข้ามาเขตบ้านลุง ทีงี้ัทำไมไม่สนใจ
แม่ดิฉันออกมา : ทิ้งดิ่งเลยมั้ยค่ะ ให้เห็นกันไปเลย เพราะมั่นใจมาก
ลุง : ไม่ต้อง (ดิฉันคิดในใจว่า ไม่กล้านี่หว่าและบ่นทำไม)
เพื่อนแม่ดิฉันและเพื่อนดิฉัน ก็งง ว่าทำไมเรื่องแค่นี้แล้วบุกรุกที่คนอื่น ยังมาทำนิสัยอย่างงี้ พวกเขาแนะนำให้ไปแจ้งตำรวจ ดิฉันเลยไปแจ้งเรื่องแต่คุณตำรวจแนะนำว่าควรใช้กฏหมายเล่นงาน เพราะตอนนี้ยังไม่เกิดเรื่อง
ไฟก็ไหม้มา 2 วันแหละค่ะ ตอนเช้าบ้าง ตอนเย็นบ้าง กลัวอยู่ตลอดต้องเฝ้าบ้าน เฝ้าไฟ ออกไปไหนไม่ได้ ซึ่งพ่อแม่ดิฉันก็ปล่อยไปตามเวรตามกรรม แต่ดิฉันคิดว่ามันไม่ถูกต้องมากๆ และจึงขอมาตั้งกระทู้ในวันนี้ เพื่อขอคำแนะนำและคำปรึกษาจากเพื่อนๆชาวๆ พันทิพค่ะ
หากเนื่อเรื่องยาวไปขออภัยด้วยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ