[CR] ดอยหลวงเชียงดาว จ เชียงใหม่ [ ทั้งเหนื่อย-ทั้งหนาว-ทั้งสูง-ทั้งเสียว ] 7-8 ม ค 60

จุดเริ่มต้น มาจาก เพื่อนถ่ายรูปแล้วฉากหลังเป็นภูเขา สวย ยิ่งใหญ่ อลังการมาก
“เฮ้ย ที่ไหน ทำไมสวยจัง”
“ดอยหลวง เราขึ้นกันมั้ย พี่ๆที่มาเค้าขึ้นกันหมดแล้ว”
“โอเค เด่วฟอรมทีมแปบ”

ดอยหลวงเชียงดาว เป็นดอยที่สูงอันดับ 3 ของประเทศไทย
ภาษาเหนือ "หลวง" แปลว่า "ใหญ่"
อย่าง วัดเจดีย์หลวง (มีเจดีย์ใหญ่) กาดหลวง (ตลาดที่ใหญ่)

โดยปกติดอยหลวงเชียงดาวเปิดให้เที่ยวได้ ในเดือน พ ย - มี ค ของทุกปี

6 ม ค เรานอนที่เชียงใหม่

7 ม ค ลุงแกละให้เราออกมาจากเชียงใหม่ตอน  6 โมงครึ่ง

การขึ้นดอย เลือกที่จะขึ้นเอง ทำอาหารเอง กางเต้นเอง ก็ได้
หรือ ใช้บริการผู้นำทาง โดยจะเตรียมอาหาร ที่พักให้เรา
เราเลือกใช้อย่างหลัง

ลุงแกละ นัดเรามาพบที่ วัดถ้ำเชียงดาว ร้านอาหารของแกอยู่ที่นั่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เอารถมาจอดที่ร้านลุง
ลุงแจกอาหารกลางวันคนละถุง
น้ำเปล่าขวดเล็ก คนละขวด
จากนั้นนั่งรถกระบะไปยังตีนดอย
ใช้เวลานั่งรถประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ตอนแรกนึกว่าแป็บเดียว ไม่คิดว่านานขนาดนี้


ระหว่างทางขึ้น เป็นทางลูกลัง หมอกลงหนาไปหมด มองแทบไม่เห็นข้างหน้า
นี่เรามาผิดวันมั้ยเนี่ย โอ้ยน้ออออออออ


พอนั่งรถขึ้นมาเลยหมอกเมฆเท่านั้นแหละ
โอ้ว แม่เจ้า
นี่ใช่ที่ๆเดียวกันมั้ย
อากาศคนละเรื่องเลย คน ละ เรื่อง จริงๆ โอ้ยน้ออออ อีกรอบ ทำตูใจเสียเลย

ลุงแกละจอดรถให้เราถ่ายรูป
“โอโห สวยมั้ย คุ้มมั้ย นี่สวยที่สุดในปีนี้เลยนะเนี่ย”
โหพ่อใหญ่ นี่ก็ พึ่งวันที่ 6 ของปี ก่อนหน้านี้ฝนก็ตกทุกวัน พูดให้กำลังใจลูกทีมเก่งจริง  -_-“


การขึ้นดอยหลวง มี 2 เส้น แล้วจะบรรจบเป็นเส้นทางเดียว
เด่นหญ้าขัด ทางเดินง่ายกว่า ไม่ชัน วิวสวย แต่ระยะทางไกล เขาว่า 8.5 กิโล
ปางวัว ทางชัน ทางเดินส่วนมากเป็นป่า แต่ระยะทางใกล้กว่า เขาว่า 6.5 กิโล
เราเลือกขึ้นทาง เด่นหญ้าขัด และลงทาง ปางวัว

อุปกรณ์ที่สำคัญคือ รองเท้า จะเป็นรองเท้าเดินป่าเดินเขา และมีความรู้ใหม่ที่เค้าแนะนำต่อๆกันมา
คือ สตั๊ดดอย รองเท้าที่ลูกหาบใช้กัน

ภาพจาก internet

เราแวะซื้อร้านคุณป้า ใกล้ร้านขาหมูเชียงดาว หันหน้าเข้าร้านขาหมู ร้านคุณป้าเดินไปทางซ้าย ฝั่งเดียวกับร้านขาหมู ตรงข้ามธนาคารกรุงไทย ราคา 60 บาท ถูกมากและ work more

เพื่อนเคยใส่นิวบาลานส คือต้องหาบาลานสใหม่ทุกก้าวเลย สตั๊ดดอยชนะขาด : )

ภาพจาก internet

อุปกรณ์อีกอย่าง คือ ไม้เท้า หรือ trekking pole แล้วแต่ความสะดวก
หรือบางคนก็ว่าไม่จำเป็น แต่ความเห็นส่วนตัวช่วยได้เยอะ
โดยเฉพาะทางที่ลื่นมากๆ แต่ก็แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน

ต่อไปเป็นวิวระหว่างทาง หลังเดินขึ้นมาได้นิดเดียว


พระเจ้าาาาา สวยมาก อากาศสดชื่นมาก
กำลังใจในการเดินทางไกลมาแล้ววววว


เส้นทางที่เดิน เหมือนเรากำลังเดินเข้าไปยังเขานี้เลย นึกถึงหนังผจญภัยขึ้นมา
แต่เขาข้างหน้าไม่ใช่จุดหมายปลายทางนะ
เราต้องเดินอ้อมเขานี้ไปแล้วข้ามอีกลูกไปต่างหาก OH SHHHHH!
เขาข้างหน้านี่เรียกว่า เขา 3 พี่น้อง จริงๆจะมี 3 ยอด แต่มุมนี้เห็นพี่มาคนเดียวก่อน

ลุย!


วิวระหว่างทาง ช่วงนี้เป็นป่าสน สีสวยตัดกับท้องฟ้าสดใส
มีอะไรจะสดชื่นไปกว่านี้


ให้ชมทางเดิน ว่าน่าเดินขนาดไหน
ถ้าทางเป็นอย่างนี้ เดินทั้งวันก็ไหว (หรอ?)


ซักพักเริ่มเปลี่ยนบรรยากาศ ดงหญ้าอะไรจะมาสูงท่วมหัวขนาดนี้ ??


Jurassic park มั้ยหละ ?
บรรยากาศได้มาก !
เหนื่อยก็พัก แวะกินเสบียงที่เราหอบมา กระเป๋าจะได้เบาลง
แนะนำพวก เจเล่ไลท์นะครับ ดับกระหายดี ถ้าพวกขนมกรุบกรอบ จะทำให้กระหาย ผมว่า


พอเดินมาได้ซักระยะ เราจะเจอยอดพีระมิด เป็นยอดเขาอีกลูกนึง
ที่เห็นนะครับ เราต้องข้ามผ่านเขาลูกนี้ไปอีก ไปอีกกกก !!
ตอนนี้ขวามือเราเป็น เขา 3 พี่น้อง
ซ้ายมือ เป็นเขา พีระมิด เราเดินมาตรงกลางผ่านหุบเขานี้ลึกเข้าไปจะเป็นจุดกางเต๊น


ตอนเดินป่า เห็นเหยี่ยวร่อนอยู่ตัวนึง
แต่พอมาดูรูป โห เหยี่ยวบินร่อนอยู่เยอะมากๆครับ จุดดำๆ นั่นคือใช่เลย


ต้นปาล์มที่อยู่บนเขาหินปูนนี้ คือ “ค้อเชียงดาว”
ลุงแกละบอกว่า
“เห็นนั่นมั้ย ค้อเชียงดาว เป็นตระกูลปาล์ม ที่ขึ้นเฉพาะที่เชียงดาว มันเก่งมั้ย มันขึ้นบน หินปูนที่ไม่มีใครขึ้นได้ มันอยู่มาเป็นร้อยๆปีนะกว่าจะเห็นต้นสูงเท่านี้”

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ทีมเราใช้เวลา 4 ชม ครึ่ง เดินมาถึงจุดกางเต๊น ที่เรียกว่า อ่างสลุง
จะเป็นพื้นที่ราบ หลายซอกซอย แล้วแต่ว่ากลุ่มไหนจะกางตรงไหน

ของเราทีมลุงแกละจะมีป้ายติดบอกว่า “เต๊นลุงแกละ”

ทำเลกางเต๊นของเราอยู่ใต้ร่มไม้ ซึ่งมันดีต่อเราตอนนี้มาก ที่ขึ้นมาเหนื่อยๆแล้วต้องการนอนพัก ลุงปูผ้าใบรอเราแล้ว
อีกทำเลคือที่โล่งแจ้ง ตอนกลางวันน่าจะร้อน แต่กลางคืนดูดาวได้สวยทีเดียว

ดาวที่นี่สวยมากครับ สวยมากๆๆๆๆๆ

ลุงบอกให้เราเดินขึ้นยอดสูงสุดตอน 4 โมงเย็น
ไปดูพระอาทิตย์ตก


ทางเดินคือ ปีนป่ายตลอดทาง ดูรูปได้ ลัดเลาะมาตามสันเขาเลยทีเดียว

การเดินไปยอดสูงสุด ลุงแกละ ส่งไม้ต่อให้ “ลุงคำ” เป็นผู้นำทางเราขึ้นไป
ลุงคำ ให้กำลังใจเราตลอดเลยครับ
ผมชอบ การพูดของชาวเขานะ ผมว่าเพราะดี น่ารักดี ครับทุกคำ
“ไม่ต้องกลัวครับ ไม่ต้องร้องไห้ครับ จะร้องทำไมครับ เดี๋ยวก็ได้เห็นสวยๆแล้วครับ ไม่น่ากลัวครับ”
สุดยอดไกด์เลย


มองลงไปข้างล่าง จะเห็นจุดกางเต้นของ นักท่องเที่ยวครับ กระจายไปตามที่ราบ หรือ พุ่มไม้


กองทัพมดที่กำลังตามเราขึ้นมาครับ


พอถึงจุดสุดยอด ข้างหน้าที่พระอาทิตย์จะตกคือ เขา 3 พี่น้อง
ขวามือยอดแหลมๆ นั่นคือ ยอดพีระมิด


เรามีเวลาเยอะ อยู่ข้างล่างไม่มีสัญญาณ มาจุดสุดยอดนี่มี่สัญญาณเฉย
ได้อัพรูปพอดี


วิวรอบๆครับ


มองเห็นอะไรมั้ยครับ


เลียงผาครับ
มองเองคือมองไม่เห็นเลย พี่ไกด์ชี้ให้เราดู มันขยับตัวถึงมองเห็น
ทั้งหิน ทั้งหญ้า ลายตาไปหมด มองอยู่นาน
มองจากข้างบนตัวเล็กเหมือนหนู
แต่จริงๆตัวใหญ่ เท่าวัวววววว
ดีใจ ที่ได้เห็น ธรรมชาติก็ยังดีพอที่ให้พวกเค้ายังอยู่


พระอาทิตย์กำลังลง และมวลมหาประชาชนก็กำลังมากองกันที่จุดชมวิว


มองไปรอบๆ ด้านตรงข้ามพระอาทิตย์ตก สวยมากๆครับ
พึ่งรู้ว่า ด้านตรงข้ามมันมีเฉดสีท้องฟ้าเป็นสีรุ้งอย่างนี้
สวยมากกกก
ส่วนตัวชอบด้านนี้มากกว่าด้านพระอาทิตย์ตกอีก

พอตกเสร็จ มืดเร็ววมาก ลุงคำบอกว่า
ตอนพระอาทิตย์จะตกให้มารอตรงทางลงเลย รถจะติดเพราะทางเดินแคบ ต้องเรียงแถวกันลงมา
ถ้ามีคนช้า รถจะติดยาว

มันถูกต้องที่สุด เพราะตอนลง เราเป็นผู้นำ ไม่ต้องรถติดอยู่ข้างบน มีคนแซงเราก็เป็นพวกที่เทพแห่งการปีนเขา
โห กระโดด ๆ ๆ คล่องสุดๆ

ก่อนมาลุงบอกให้เอาไฟฉายมาคนละกระบอก ไม่เอาไฟฉายโทรศัพท์นะ
เอาไฟฉายจริงๆ ได้ใช้ตอนนี้แหละครับ
มองกลับขึ้นไป เห็นไฟฉายเป็นกองทัพมดลงมาเลย


มื้อเย็น ที่ลุงแกละเตรียมไว้ให้
ต้มมะระไก่ตุ๋น
ไข่เจียว
แคปหมู
น้ำพริกหนุ่ม (ทำสดๆบนดอย)
ผัดผักรวมมิตร
และ ข้าว เติมไม่อั้น
สวรรค์ค์ค์ค์
ชื่อสินค้า:   ดอยหลวงเชียงดาว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่