สวัสดีทุกคนค่าาาา ชื่อเมย์นะคะ ที่มาตั้งกระทู้ก็เพื่อบอกเล่าประสบการณ์และขั้นตอนที่สัมผัสมาเองตอนทำเลสิค
ก็เพราะเข้าใจว่าก่อนตัดสินใจจะทำเลสิคนั้น หลายๆคนก็ต้องหาข้อมูลอย่างหนักหน่วงใช่มั้ยล่ะ
เพราะงั้นเลื่อนไปบรรทัดต่อไปโลด.....
• ทำที่ไหน?
: ทำที่ศูนย์เลสิค โรงพยาบาลลาดพร้าว เมื่อช่วงวันพ่อ ปีที่แล้ว (2016)
• เลสิคมีกี่ประเภท และต่างกันอย่างไร?
: มี 2 ประเภท คือ
1. เลสิค เป็นวิธีการผ่าตัดรักษาภาวะสายตาผิดปกติ (สายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด สายตาเอียง และสายตายาวตามอายุ) แบบถาวร โดยใช้
เครื่องแยกชั้นกระจกตา Microkeratome แยกชั้นกระจกตาให้มีความหนาประมาณ 1 ใน 3 ของความหนาของกระจกตาทั้งหมดแล้วใช้
Excimer Laser ขัดเนื้อกระจกตาชั้นกลาง เพื่อเปลี่ยนความโค้งของกระจกตาโดยรวมแล้วจึงปิดผิวกระจกตาเข้าที่เดิม
2. PRK เป็นวิธีการผ่าตัดรักษาสายตาผิดปกติ (สายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด และสายตาเอียง) แบบถาวรวิธีหนึ่ง โดยการลอกผิวกระจกตา
อยู่ด้านนอกสุด (ที่เรียกว่า Epithelium) ของกระจกตาออกก่อน ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายผิวถลอก แล้วใช้ Excimer Laser ปรับแต่งความโค้ง
ของผิวกระจกตาโดยตรง วิธีนี้เป็นวิธีที่มีมาก่อนเลสิค หลายสิบปี และยังใช้จนถึงปัจจุบัน
(รายละเอียดเพิ่มเติม อ่านต่อได้ใน
http://www.ladpraohospital.com/homepage2015/medical-ser.php?ID=18)
• ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
: - Lasik 1 ข้าง ราคา 27,000 บาท
- Lasik 2 ข้าง ราคา 38,000 บาท
- PRK 1 ข้าง ราคา 22,000 บาท
- PRK 2 ข้าง ราคา 35,000 บาท
แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ที่โรงพยาบาลมีโปรโมชั่นซึ่งสามารถแบ่งจ่าย 0% ได้นาน 6 เดือนด้วยแหละ
• ก่อนทำสายตาสั้นเท่าไหร่?
: สั้น 400 ทั้ง 2 ข้าง แต่ข้างขวามีเอียงด้วย
• ขั้นตอนต้องทำยังไงบ้าง?
: จริงๆ สำหรับคนที่สนใจ สามารถโทรไปปรึกษา พูดคุย เบื้องต้นกับทางศูนย์เลสิคได้นะคะ
(เสิร์ช ศูนย์เลสิค โรงพยาบาลลาดพร้าว ในกูเกิ้ล หรือเฟซบุ๊คได้เลยค่ะ)
>>วันตรวจตา (ก่อนตรวจงดใส่คอนแทคเลนส์ 1week นะจ๊ะ รายละเอียดการเตรียมตัว พี่พยาบาลจะบอกให้เราอีกทีเน้อ)
- อันดับแรกก็ตรวจสายตาแบบละเอียดก่อนเลย ตามด้วยตรวจความดันตา จะเป็นเครื่องที่พ่นลมเบาๆใส่ตาเรา
ต่อมาก็วัดความหนาของกระจกตา (จะได้ทำมั้ยหรือได้ทำวิธีไหนขึ้นอยู่กับความหนากระจกตาของเราเลย)
หลังจากนั้นจะมีการวัดค่าน้ำตา และหยอดยาขยายม่านตาเพื่อวัดค่าสายตาอีกที
ปล.วันนี้ควรพาคนที่ไว้ใจได้มาด้วยนะ เพราะตาเราจะสู้แสงไม่ได้ แล้วก็มองใกล้ไม่เห็นแหละไปสัก 2-3 ชม.)
เมื่อวัดทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็พบหมอ หมอก็จะคุยรายละเอียดต่างๆ แล้วก็นัดวันที่จะมาขึ้นเขียง เป็นอันเสร็จ กลับบ้านดั้ยยย.
>>วันขึ้นเขียงงงงง
(ก่อนวันขึ้นเขียงนี่ก็งดคอนแทคเหมือนกันเน้อ กระจกตาเราจะได้คืนตัวเต็มที่ และพาคนสนิทไปด้วย ใครใคร่พาแฟนไป พาไป
ส่วนใครไม่มีแฟน ก็ให้พาแม่ไปแทนนะจ๊ะ 5555)
- วันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก กินข้าวมาให้เรียบร้อย หรือถ้าไม่อยากข้าวก็กินก๋วยเตี๋ยวแทนเนอะ ตึ่ง!
อ่ะ มาถึงรพ.ก็ วัดค่าสายตาเพื่อความชัวร์อีกที หมอก็จะอธิบายขั้นตอนการทำ ขอความร่วมมือให้อยู่นิ่งๆ จะได้ทำเสร็จโดยเรียบร้อย
หลังจากนั้นก็ล้างหน้า คือไม่ต้องแต่งหน้ามานะ มาแบบเปลือยๆเลย เพราะต้องมาล้างหน้าอีกที แล้วก็สวมชุดผ่าตัด ใส่หมวก เปลี่ยนเกิบ
พี่จุ๋ม ผู้เป็นพยาบาลแสนใจดี ก็มาสอนการเช็ดทำความสะอาดตาให้ เพราะหลังผ่าน้ำตาจะไหลเยอะ ตาจะเขรอะมาก เสร็จแล้วก็นั่งรอเข้าห้องผ่าตัด
~~~~~~~~เข้าห้องผ่าตัดล้าวว~~~~~~
- นอนที่เตียงเลยจ้า แอร์เย็นม๊ากกกกกก
- หมอจะเริ่มหยอดยาชาและยาฆ่าเชื้อ
- เริ่มเอาพลาสติกมาแปะเพื่อเก็บขนตา
- พอยาเริ่มชาก็เริ่มล้ะ หมอจะวัดองศาตาเราโดยเอามาร์กเกอร์มาจิ้มๆ ที่ตาเรา ไม่เจ็บนะให้อยู่นิ่งๆ
- เอาที่ล็อคตามาขึงตาเรา โดยมีจุดโฟกัสให้เราคอยมอง เราจะรู้สึกตึงๆแต่ไม่เจ็บ ช่วงนี้เราจะเห็นแบบเบลอๆ ให้มองนิ่งๆ อย่ากลอกตา
- ขั้นตอนสำคัญ ทีนี้หมอก็จะเปิดกระจกตาแล้ว ฟรึ่บบ! เพียงแว้บเดียวเท่าน้านนน ไม่มีความรู้สึกใดๆทั้งนั้น พอเปิดกระจกตาแล้วหมอ
ก็จะเช็คว่าขอบกระจกตาเรียบดีมั้ย ถ้าเรียบก็ลงมือเลซอร์เลย โดยความนานจะขึ้นอยู่กับค่าสายตา สั้นมากก็ยิงนานหน่อย ของเราไม่กี่วิเอง
ยิ่งแก้ค่าเอียงก่อน แล้วค่อยยิ่งแก้สั้น
- แล้วก็ล้างๆๆตา สะดุ้งเล็กน้อย เพราะน้ำเย็น 5555
- ปิดกระจกตา แล้วก็ล้างๆๆๆอีก โดยรวมใช้เวลาในห้องผ่าตัดแค่ 15-30 นาทีเองแกร๊
***สำคัญมาก*** ห้ามทำตาลอกแลก เพราะกระจกตาจะย่นได้ มองที่จุดโฟกัสที่เป็นไฟสีเขียวอย่างเดียว แต่มันจะมีช่วงที่เรามองไม่เห็น
หมอเค้าจะคอยบอกช่วยเราเองว่าให้เรามองตรงไหน เพราะงั้นไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ
พอปิดกระจกตาแล้วก็เป็นอันเสร็จ ย้ายไปทำอีกข้างต่อ. พอเสร็จสองข้าง ก็จับเราไปวัดสายตาอีกที
>>หลังทำเลสิค
- หมอจะปิดตาอุลตร้าแมนให้ ปิดไว้เลยไม่ต้องยุ่งกับมัน จนไปพบหมอวันรุ่งขึ้น
- หลังทำเสร็จจะมองเบลอๆ ลืมตาไม่ขึ้น เป็นปกติ หลับตาไปเลย ให้แม่จูงเอา อิอิ
- กลับบ้านให้นอน นอน แล้วก็นอน ยิ่งนอนเยอะยิ่งหายเร็ว
- วันรุ่งขึ้นก็ไปหาหมออีกรอบ วันนี้เริ่มเห็นชัดแล้ว หมอจะถอดที่ครอบตาให้ แล้วก็วัดสายตาอีกรอบ แต่วันนี้เราจะยังมองเห็นไม่ 100%
มิต้องตกใจเพราะมันจะค่อยๆชัดขึ้นเอง แล้วอีกอาทิตย์นึงค่อยมาหาหมออีกที หลังจากทำนี้ห้ามตาโดยน้ำเด็ดขาด 7 วัน
และต้องหยอดยาแก้อักเสบตามหมอสั่ง และหยอดน้ำตาเทียมอย่างเคร่งครัด แต่งหน้าได้แต่เว้นรอบตาไว้หน่อยนะ
ส่วนของเราต่อมไขมันในตาเยอะ ตาเลยอักเสบนิดหน่อย หมอให้พักเลยยาวๆ หยอดยาทุก 2ชั่วโมง ㅠㅠ
>> ปัจจุบัน
: คงเหลือแต่อาการตาแห้ง ซึ่งเป็นแอฟเฟคปกติของการทำเลสิคนะคะ คอยหยอดน้ำตาเทียมไว้ แต่ไม่ต้องห่วง
หมอแจ้งว่าจะดีขึ้นภายใน 6 เดือน ส่วนอาการแสงกระเจิงมีเล็กน้อย แต่ไม่เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตนะ
ตอนนี้หมอก็ยังนัดติดตามอาการอยู่นะ ว่ากระจกตาเราโอเคมั้ย สายตาสั้นมันกลับมารึเปล่า
แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นการกลับมาของความสั้นนี้ ก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราเองด้วย
ใครที่ทำมาแล้วก็พยายามดูแลดวงตาของเรานิสนึง มันจะได้อยู่กับเราไปนานๆ เพราะทำมาก็ไม่ใช่ถูกๆอ่ะเนาะ
ส่วนใครที่ไม่สั้น ขอให้ดูแล ลดละเลิกพฤติกรรมทำร้ายดวงตา เพราะถ้ามันสั้นไปแล้ว สกิลการใช้ชีวิตยากขึ้น +6
สุดท้ายแล้ว...การทำเลสิคไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะเทคโนโลยีสมัยนี้มันล้ำมากๆ แต่ก็ถือเป็นการดีที่เราจะเตรียมตัวหาข้อมูล
ให้ละเอียด เพราะทุกการกระทำล้วนมีความเสี่ยง ใครลังเลแนะนำให้ไปตรวจกับคุณหมอเลยค่ะ แนะนำจริงๆสำหรับคนที่มีปัญหาสายตา
ตื่นมาแล้วมองเห็นได้เลยไม่ต้องคลำหาแว่น เป็นความรู้สึกที่สบายขึ้นมากกกกกกกกก
ขั้นตอนการทำเลสิกไม่มีอะไรน่ากลัวเลย ยกเว้นแค่ "ราคา" 555
และที่มาเขียนรีวิวเพราะประทับใจการบริการของที่นี่มากๆ พี่จุ๋มพยาบาลใส่ใจที่สุด
ไลน์ถามอาการตลอด คุณหมอก็อธิบายขั้นตอนอย่างละเอียดจนเราสบายใจ เพราะงั้นถ้าใครสนใจลองสอบถามได้เลยนะคะ
สุดท้ายจริงๆ แฮะๆ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ให้แก่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นะคะ
ขอบคุณ ศูนย์เลสิค โรงพยาบาลลาดพร้าว สำหรับการดูแลทำเลสิกให้ในครั้งนี้
ขอบคุณจริงๆค่ะ ที่ทำให้กลับมามองเห็นโดยไม่ต้องผ่านแว่นอีกครั้ง
บ๊ายบายยยยยยยยย.
[SR] บอกเล่าประสบการณ์ทำเลสิค น่ากลัวมั้ย? ทำแล้วเหมือนเกิดใหม่จริงรึเปล่า? มาอ่านกัน!
ก็เพราะเข้าใจว่าก่อนตัดสินใจจะทำเลสิคนั้น หลายๆคนก็ต้องหาข้อมูลอย่างหนักหน่วงใช่มั้ยล่ะ
เพราะงั้นเลื่อนไปบรรทัดต่อไปโลด.....
• ทำที่ไหน?
: ทำที่ศูนย์เลสิค โรงพยาบาลลาดพร้าว เมื่อช่วงวันพ่อ ปีที่แล้ว (2016)
• เลสิคมีกี่ประเภท และต่างกันอย่างไร?
: มี 2 ประเภท คือ
1. เลสิค เป็นวิธีการผ่าตัดรักษาภาวะสายตาผิดปกติ (สายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด สายตาเอียง และสายตายาวตามอายุ) แบบถาวร โดยใช้
เครื่องแยกชั้นกระจกตา Microkeratome แยกชั้นกระจกตาให้มีความหนาประมาณ 1 ใน 3 ของความหนาของกระจกตาทั้งหมดแล้วใช้
Excimer Laser ขัดเนื้อกระจกตาชั้นกลาง เพื่อเปลี่ยนความโค้งของกระจกตาโดยรวมแล้วจึงปิดผิวกระจกตาเข้าที่เดิม
2. PRK เป็นวิธีการผ่าตัดรักษาสายตาผิดปกติ (สายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด และสายตาเอียง) แบบถาวรวิธีหนึ่ง โดยการลอกผิวกระจกตา
อยู่ด้านนอกสุด (ที่เรียกว่า Epithelium) ของกระจกตาออกก่อน ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายผิวถลอก แล้วใช้ Excimer Laser ปรับแต่งความโค้ง
ของผิวกระจกตาโดยตรง วิธีนี้เป็นวิธีที่มีมาก่อนเลสิค หลายสิบปี และยังใช้จนถึงปัจจุบัน
(รายละเอียดเพิ่มเติม อ่านต่อได้ใน http://www.ladpraohospital.com/homepage2015/medical-ser.php?ID=18)
• ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
: - Lasik 1 ข้าง ราคา 27,000 บาท
- Lasik 2 ข้าง ราคา 38,000 บาท
- PRK 1 ข้าง ราคา 22,000 บาท
- PRK 2 ข้าง ราคา 35,000 บาท
แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ที่โรงพยาบาลมีโปรโมชั่นซึ่งสามารถแบ่งจ่าย 0% ได้นาน 6 เดือนด้วยแหละ
• ก่อนทำสายตาสั้นเท่าไหร่?
: สั้น 400 ทั้ง 2 ข้าง แต่ข้างขวามีเอียงด้วย
• ขั้นตอนต้องทำยังไงบ้าง?
: จริงๆ สำหรับคนที่สนใจ สามารถโทรไปปรึกษา พูดคุย เบื้องต้นกับทางศูนย์เลสิคได้นะคะ
(เสิร์ช ศูนย์เลสิค โรงพยาบาลลาดพร้าว ในกูเกิ้ล หรือเฟซบุ๊คได้เลยค่ะ)
>>วันตรวจตา (ก่อนตรวจงดใส่คอนแทคเลนส์ 1week นะจ๊ะ รายละเอียดการเตรียมตัว พี่พยาบาลจะบอกให้เราอีกทีเน้อ)
- อันดับแรกก็ตรวจสายตาแบบละเอียดก่อนเลย ตามด้วยตรวจความดันตา จะเป็นเครื่องที่พ่นลมเบาๆใส่ตาเรา
ต่อมาก็วัดความหนาของกระจกตา (จะได้ทำมั้ยหรือได้ทำวิธีไหนขึ้นอยู่กับความหนากระจกตาของเราเลย)
หลังจากนั้นจะมีการวัดค่าน้ำตา และหยอดยาขยายม่านตาเพื่อวัดค่าสายตาอีกที
ปล.วันนี้ควรพาคนที่ไว้ใจได้มาด้วยนะ เพราะตาเราจะสู้แสงไม่ได้ แล้วก็มองใกล้ไม่เห็นแหละไปสัก 2-3 ชม.)
เมื่อวัดทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็พบหมอ หมอก็จะคุยรายละเอียดต่างๆ แล้วก็นัดวันที่จะมาขึ้นเขียง เป็นอันเสร็จ กลับบ้านดั้ยยย.
>>วันขึ้นเขียงงงงง
(ก่อนวันขึ้นเขียงนี่ก็งดคอนแทคเหมือนกันเน้อ กระจกตาเราจะได้คืนตัวเต็มที่ และพาคนสนิทไปด้วย ใครใคร่พาแฟนไป พาไป
ส่วนใครไม่มีแฟน ก็ให้พาแม่ไปแทนนะจ๊ะ 5555)
- วันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก กินข้าวมาให้เรียบร้อย หรือถ้าไม่อยากข้าวก็กินก๋วยเตี๋ยวแทนเนอะ ตึ่ง!
อ่ะ มาถึงรพ.ก็ วัดค่าสายตาเพื่อความชัวร์อีกที หมอก็จะอธิบายขั้นตอนการทำ ขอความร่วมมือให้อยู่นิ่งๆ จะได้ทำเสร็จโดยเรียบร้อย
หลังจากนั้นก็ล้างหน้า คือไม่ต้องแต่งหน้ามานะ มาแบบเปลือยๆเลย เพราะต้องมาล้างหน้าอีกที แล้วก็สวมชุดผ่าตัด ใส่หมวก เปลี่ยนเกิบ
พี่จุ๋ม ผู้เป็นพยาบาลแสนใจดี ก็มาสอนการเช็ดทำความสะอาดตาให้ เพราะหลังผ่าน้ำตาจะไหลเยอะ ตาจะเขรอะมาก เสร็จแล้วก็นั่งรอเข้าห้องผ่าตัด
~~~~~~~~เข้าห้องผ่าตัดล้าวว~~~~~~
- นอนที่เตียงเลยจ้า แอร์เย็นม๊ากกกกกก
- หมอจะเริ่มหยอดยาชาและยาฆ่าเชื้อ
- เริ่มเอาพลาสติกมาแปะเพื่อเก็บขนตา
- พอยาเริ่มชาก็เริ่มล้ะ หมอจะวัดองศาตาเราโดยเอามาร์กเกอร์มาจิ้มๆ ที่ตาเรา ไม่เจ็บนะให้อยู่นิ่งๆ
- เอาที่ล็อคตามาขึงตาเรา โดยมีจุดโฟกัสให้เราคอยมอง เราจะรู้สึกตึงๆแต่ไม่เจ็บ ช่วงนี้เราจะเห็นแบบเบลอๆ ให้มองนิ่งๆ อย่ากลอกตา
- ขั้นตอนสำคัญ ทีนี้หมอก็จะเปิดกระจกตาแล้ว ฟรึ่บบ! เพียงแว้บเดียวเท่าน้านนน ไม่มีความรู้สึกใดๆทั้งนั้น พอเปิดกระจกตาแล้วหมอ
ก็จะเช็คว่าขอบกระจกตาเรียบดีมั้ย ถ้าเรียบก็ลงมือเลซอร์เลย โดยความนานจะขึ้นอยู่กับค่าสายตา สั้นมากก็ยิงนานหน่อย ของเราไม่กี่วิเอง
ยิ่งแก้ค่าเอียงก่อน แล้วค่อยยิ่งแก้สั้น
- แล้วก็ล้างๆๆตา สะดุ้งเล็กน้อย เพราะน้ำเย็น 5555
- ปิดกระจกตา แล้วก็ล้างๆๆๆอีก โดยรวมใช้เวลาในห้องผ่าตัดแค่ 15-30 นาทีเองแกร๊
***สำคัญมาก*** ห้ามทำตาลอกแลก เพราะกระจกตาจะย่นได้ มองที่จุดโฟกัสที่เป็นไฟสีเขียวอย่างเดียว แต่มันจะมีช่วงที่เรามองไม่เห็น
หมอเค้าจะคอยบอกช่วยเราเองว่าให้เรามองตรงไหน เพราะงั้นไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ
พอปิดกระจกตาแล้วก็เป็นอันเสร็จ ย้ายไปทำอีกข้างต่อ. พอเสร็จสองข้าง ก็จับเราไปวัดสายตาอีกที
>>หลังทำเลสิค
- หมอจะปิดตาอุลตร้าแมนให้ ปิดไว้เลยไม่ต้องยุ่งกับมัน จนไปพบหมอวันรุ่งขึ้น
- หลังทำเสร็จจะมองเบลอๆ ลืมตาไม่ขึ้น เป็นปกติ หลับตาไปเลย ให้แม่จูงเอา อิอิ
- กลับบ้านให้นอน นอน แล้วก็นอน ยิ่งนอนเยอะยิ่งหายเร็ว
- วันรุ่งขึ้นก็ไปหาหมออีกรอบ วันนี้เริ่มเห็นชัดแล้ว หมอจะถอดที่ครอบตาให้ แล้วก็วัดสายตาอีกรอบ แต่วันนี้เราจะยังมองเห็นไม่ 100%
มิต้องตกใจเพราะมันจะค่อยๆชัดขึ้นเอง แล้วอีกอาทิตย์นึงค่อยมาหาหมออีกที หลังจากทำนี้ห้ามตาโดยน้ำเด็ดขาด 7 วัน
และต้องหยอดยาแก้อักเสบตามหมอสั่ง และหยอดน้ำตาเทียมอย่างเคร่งครัด แต่งหน้าได้แต่เว้นรอบตาไว้หน่อยนะ
ส่วนของเราต่อมไขมันในตาเยอะ ตาเลยอักเสบนิดหน่อย หมอให้พักเลยยาวๆ หยอดยาทุก 2ชั่วโมง ㅠㅠ
>> ปัจจุบัน
: คงเหลือแต่อาการตาแห้ง ซึ่งเป็นแอฟเฟคปกติของการทำเลสิคนะคะ คอยหยอดน้ำตาเทียมไว้ แต่ไม่ต้องห่วง
หมอแจ้งว่าจะดีขึ้นภายใน 6 เดือน ส่วนอาการแสงกระเจิงมีเล็กน้อย แต่ไม่เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตนะ
ตอนนี้หมอก็ยังนัดติดตามอาการอยู่นะ ว่ากระจกตาเราโอเคมั้ย สายตาสั้นมันกลับมารึเปล่า
แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นการกลับมาของความสั้นนี้ ก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราเองด้วย
ใครที่ทำมาแล้วก็พยายามดูแลดวงตาของเรานิสนึง มันจะได้อยู่กับเราไปนานๆ เพราะทำมาก็ไม่ใช่ถูกๆอ่ะเนาะ
ส่วนใครที่ไม่สั้น ขอให้ดูแล ลดละเลิกพฤติกรรมทำร้ายดวงตา เพราะถ้ามันสั้นไปแล้ว สกิลการใช้ชีวิตยากขึ้น +6
สุดท้ายแล้ว...การทำเลสิคไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะเทคโนโลยีสมัยนี้มันล้ำมากๆ แต่ก็ถือเป็นการดีที่เราจะเตรียมตัวหาข้อมูล
ให้ละเอียด เพราะทุกการกระทำล้วนมีความเสี่ยง ใครลังเลแนะนำให้ไปตรวจกับคุณหมอเลยค่ะ แนะนำจริงๆสำหรับคนที่มีปัญหาสายตา
ตื่นมาแล้วมองเห็นได้เลยไม่ต้องคลำหาแว่น เป็นความรู้สึกที่สบายขึ้นมากกกกกกกกก
ขั้นตอนการทำเลสิกไม่มีอะไรน่ากลัวเลย ยกเว้นแค่ "ราคา" 555
และที่มาเขียนรีวิวเพราะประทับใจการบริการของที่นี่มากๆ พี่จุ๋มพยาบาลใส่ใจที่สุด
ไลน์ถามอาการตลอด คุณหมอก็อธิบายขั้นตอนอย่างละเอียดจนเราสบายใจ เพราะงั้นถ้าใครสนใจลองสอบถามได้เลยนะคะ
สุดท้ายจริงๆ แฮะๆ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ให้แก่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นะคะ
ขอบคุณ ศูนย์เลสิค โรงพยาบาลลาดพร้าว สำหรับการดูแลทำเลสิกให้ในครั้งนี้
ขอบคุณจริงๆค่ะ ที่ทำให้กลับมามองเห็นโดยไม่ต้องผ่านแว่นอีกครั้ง
บ๊ายบายยยยยยยยย.
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น