(กระทู้ยาวนิดหนึ่งนะคะ คืออยากแชร์หลายอย่างเผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านค่ะ)
เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปทำเลสิกที่รพ.เวชธานีมาค่ะ จอร์แดนเป็นคนสายตาสั้นมาสิบห้าปีแล้วค่ะ สั้นครั้งแรก 150 มาถึงปัจจุบันข้างขวาสั้น 450 ซ้าย 325 ใส่แว่นสลับกับคอนแทคเลนส์มาตลอด วันไหนอยากสวยอยากแต่งหน้าให้เป๊ะๆก็จะใส่คอนแทคเลนส์ค่ะ แต่มีปัญหาคือเป็นคนตาแห้ง แล้วใส่คอนแทคส์ได้ไม่เกินห้าชม.ก็จะเริ่มปวดตาแล้วค่ะ บางทีปวดตามากจนไมเกรนขึ้นเลยก็มี สนใจจะทำเลสิกมานานแต่งบไม่เอื้ออำนวย จนสุดท้ายเมื่อเดือนก่อนเพื่อนจอร์แดนไปหาหมอที่รพ.เวชานีเนื่องจากนางเป็นคนสายตาสั้น แต่ไม่ชอบใส่แว่น บางทีก็ปวดตา คุณหมอเลยแนะนำให้ทำเลสิกซะเลย จอร์แดนไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับทางรพ.นะคะ แต่คิดว่าเป็นราคาที่เหมาะสมกับการรักษาและบริการเลยอยากมาบอกทุกคนเผื่อมีใครสนใจค่ะ
ที่รพ.เวชธานีจะมีวิธีรักษาสายตาสั้น 3 แบบคือ
1. PRK เหมาะกับคนสายตาสั้นไม่เกิน 300 กระจกตาบาง ตาเล็ก (เพราะไม่ต้องใช้เครื่องจุ๊บตาให้ถลนออกมาเหมือนเลสิกและ Femto) เพื่อนจอร์แดนสั้น 150 ตาเล็กมากๆ เลยเลือกวิธีนี้ค่ะ
2. เลสิก เหมาะกับคนสายตาสั้นเกิน 300 มีเนื้อกระจกตาพอสมควร - จอร์แดนเลือกวิธีนี้ค่ะ
3. Femto เหมือนเลสิกเลยค่ะ ต่างกันแค่เลสิกจะใช้ใบมีดในการเปิดกระจกตา แล้วยิงเลเซอร์ ซึ่งการใช้มีดอาจทำให้ตาตึงๆ มากกว่าการยิงเลเซอร์ แล้วก็จะเสียเนื้อกระจกตามากกว่า Femto
จอร์แดนขอไม่อธิบายรายละเอียดวิธีรักษาแต่ละแบบนะคะ เพราะทุกท่านสามารถไปหาอ่านได้ตามเว็บทั่วไป ที่มาแชร์วันนี้คืออยากบอกเรื่องข้อดีข้อเสียของการทำเลสิกที่รพ.เวชธานี และความรู้สึกในการทำมากกว่าค่ะ
เมื่อเพื่อนจอร์แดนตัดสินใจทำ PRK จอร์แดนก็รอให้เพื่อนทำเสร็จสักพักค่ะ (อารมณ์ว่าถ้าแกรอดฉันก็น่าจะรอด555) หลังทำ PRK สองวันแรกเพื่อนจอร์แดนลืมตาไม่ได้เลยค่ะ เหมือนคนตาบอด กว่าจะสามารถลืมตามาทำกิจวัตรเหมือนคนทั่วไปได้ก็ห้าวันไปแล้วค่ะ (ซึ่ง PRK จะหายช้ากว่าเลสิกและ Femto อยู่แล้วค่ะ เพราะไม่มีการเปิดกระจกตาแต่ยิ่งเลเซอร์เข้าไปเลยทำให้กระจาเป็นแผลค่ะ) ช่วงนั้นจอร์แดนก็หาข้อมูลจากรพ.อื่นๆ ที่มีชื่อเสียงด้านการทำเลสิกทุกที่ค่ะ ราคาต่ำสุดก็ 35,000 ไปจนถึงแสนกว่าๆ กลับมาคิดถึงรพ.เวชธานีที่เพื่อนไปทำมา ราคาต่ำสุดกว่าทุกที่แล้วค่ะ เป็นราคาเหมารวมทุกอย่างแล้ว (**รบกวนส่ง- เมสเสจ - สอบถามหลังไมค์นะคะ) คือตอนแรกก็ถามหมอว่าทำไมมันถูกขนาดนี้คะ เหตุผลที่หมออธิบายก็พอฟังขึ้นค่ะ คุณหมอบอกว่าแผนกจักษุที่นี่เปิดมาได้แค่ปีเดียวเองค่ะ พูดง่ายๆ ว่าไม่มีชื่อเสียง คนไม่ค่อยรู้ว่าที่นี่ทำเลสิกได้ ดังนั้นจึงอยากจะโปรโมทให้คนมาทำด้วยราคาที่ต่ำกว่าที่อื่น คุณหมออธิบายว่าเครื่องที่เราซื้อมาจากเยอรมันต้องเสียค่าบำรุงรักษาทุกปี ปีละ 4 ล้านบาท ถ้าเราตั้งราคาสูงเหมือนที่อื่นคนก็คงไปใช้บริการที่อื่น (ซึ่งมีมานานกว่าและชื่อเสียงดีกว่า) คุณหมอบอกว่าไม่ว่าจะตั้งราคาถูกหรือแพงเราก็ต้องจ่าย 4 ล้านบาทสิ้นปีอยู่ดี เพราะฉะนั้นตั้งราคาต่ำกว่าที่อื่นเพื่อดึงดูดให้คนเข้ามาใช้บริการค่ะ ซึ่งเครื่องมือที่นี่เป็นเครื่องมือที่ใหม่นะคะ ส่วนคุณหมอก็จะมีคุณหมอจากศูนย์เลสิกที่อื่นมาช่วยทำค่ะ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะทำกับหมอคนไหนที่มีก็ได้ค่ะ ซึ่งคุณหมอที่จอร์แดนเลือกเป็นหมอจากศูนย์เลสิกมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งที่เหมือนมาเก็บชม.ทำที่รพ.เวชธานีค่ะ
สุดท้ายพอตัดสินใจว่าเออ...เอาที่นี่แล้วกัน ราคาจ่ายเองได้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงก็มาตรวจตา กระจกตาจอร์แดนมีประมาณ 510 ค่ะ คนทั่วไปจะมีประมาณ 550 แต่ก็ไม่ถือว่าน้อย วันผ่าหมอก็บอกว่าห้ามใส่น้ำหอม ห้ามแต่งหน้า (เหมือนกฏทั่วไปก่อนทำเลสิกค่ะ) บอกก่อนว่าก่อนวันทำหนึ่งวันลังเลว่าหรือทำ Femto ดี? คิดว่าอาจจะเจ็บน้อยกว่าเลสิก แต่พอมาปรึกษาหมอหมอบอกว่าคือไม่ได้ต่างกันมากค่ะ คนเราชอบจินตนาการนึกถึงใบมีดว่าเจ็บแน่ เลเซอร์คงเจ็บน้อยกว่า ขอบอกว่าขั้นตอนที่เจ็บไม่ใช่ตอนยิงใบมีดหรือเลเซอร์ค่ะ แต่มันอยู่ตอนจุ๊บลูกตาเราต่างหาก!
ก่อนทำจอร์แดนต้องหยอดยาฆ่าเชื้อประมาณ 4-5 รอบ แล้วก็หยอดยาชาค่ะ พอเข้าไปในห้องผ่าคุณหมอจะลองเอาสำลีแตะตาว่าเจ็บมั้ย ถ้าไม่เจ็บคือยาชาออกฤทธิ์แล้วทำได้ จอร์แดนจำขั้นตอนไม่ค่อยได้นะคะ รู้แค่ว่ารำคาญตอนถ่างตา (รำคาญนะคะแต่ไม่เจ็บ) แต่ตอนที่หมอเอาเครื่องจุ๊บตามาครอบเพื่อให้ตาถลนออกมาบอกเลยว่าเจ็บค่ะ (ร้องครางออกมาเบาๆ) แต่พอยิงเลเซอร์ก็ไม่เจ็บแล้วค่ะ จอร์แดนทำข้างขวาก่อนแล้วมาทำข้างซ้าย ข้างขวาว่าเจ็บแล้ว แต่ข้างซ้ายเจ็บกว่าค่ะเพราะหมอบอกจอร์แดนตาข้างซายเล็กนะ ต้องกดมากๆ หน่อย (ฮือ เมื่อกี้ก็เจ็บแล้วนะคะหมอ) พอจุ๊บตาปุ๊บมีดก็ตัด ตอนตัดตาซ้ายเจ็บจนจอร์แดนกระตุกไปทีค่ะ น่าจะเจ็บตั้งแต่ตอนจุ๊บตาอ่ะค่ะ คือเวลาที่เราขยับเครื่องจะหยุดอัตโนมัตินะคะเพื่อความปลอดภัย หมอก็บอกอย่าขยับสิคะจะเสร็จแล้ว รอแค่อึดใจเดียวก็เสร็จ คุณหมอทำความสะอาดตาแล้วปิดที่ครอบตาค่ะ ใช้เวลาประมาณยี่สิบนาทีจอร์แดนก็เดินออกจากห้องผ่าตัดอย่างปลอดภัยไร้กังวล
หลังทำคืนนั้นลืมตาได้เลยค่ะ บอกเลยว่าโลกชัดเจนกว่าที่เคย แต่คืนแรกน้ำตาไหลตลอด เหมือนมีก้อนกรวดเล็กๆ ในตาเราค่ะ วันต่อมาก็เดินไปไหนมาไหนได้แต่ก็ใส่แว่นกันแดดตลอดค่ะ น้ำตาไม่ไหลแล้ว แต่ตาแห้ง ก็หยอดน้ำตาเทียมกับยาหยอดที่หมอให้มาค่ะ อาการจอร์แดนต่างจากเพื่อนที่ทำ PRK ที่ลืมตาไม่ได้อยู่หลายวัน จอร์แดนทำวันพฤหัส วันศุกร์ซ่ามากค่ะไปเดินช้อปปิ้งที่เดอะมอล์ วันเสาร์ก็กินนอนๆ อยู่ในห้อง สิ่งที่เกิดขึ้นหลังทำคือตาขาวมีจุดเลือดเล็กๆ ซึ่งหมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติ เกิดจากเส้นเลือดฝอยแตก (จากอีเครื่องจุ๊บตานี่แหละค่ะ) คือไม่ว่าจะทำเลสิกหรือ Femto ก็จะโดนเครื่องจุ๊บตาจนมีจุดเลือดเหมือนกันหมด (หลังทำดีใจมากที่ไม่เลือก Femto เพราะมันไม่ได้เจ็บตอนใบมีดหรือยิงเลเซอร์ แต่เจ็บตรงอีเครื่องจุ๊บตานี่แหละค่ะ! เฮ้อ...ดีนะไม่เสียเงินเพิ่ม) จุดเลือดที่ตาจะหายไปเองภายใน 1-2 อาทิตย์ค่ะ
ตอนนี้จอร์แดนทำมาได้ 4 วันแล้วค่ะ ยังมีอาการเคืองตา ตาแห้ง แล้วก็มองไปยังขุ่นนิดๆ หมอบอกเป็นปกตินะคะ เพราะแผลต้องการเวลาในการรักษาค่ะ หลังทำวันแรกไปตรวจยังสั้นอยู่ 50 ซึ่งหมอบอกว่ามันอาจจะไม่ 0-0 เลย เอาแค่คนไข้มองเห็นชัดเจนสบายใจ ซึ่งตอนนี้จอร์แดนก็พอใจกับมันนะคะ เพราะคนสายตาปกติทั่วไปน้อยที่จะ 0-0 เลยค่ะ ตอนกลางคืนมีอาการแสงแตกบ้างเล็กน้อยแต่ไม่รำคาญค่ะ อาการตาแห้งหมอบอกว่าให้หยอดน้ำตาเทียม เดี๋ยวจะค่อยๆ ดีขึ้น แต่จอร์แดนก็ว่าจอร์แดนยังไม่ได้พักเท่าที่ควร เมื่อคืนเพิ่งไปนั่งดริ้งมาค่ะ..ซ่าซะไม่มี 55
หลังจากทำเลสิกที่รพ.เวชธานีจอร์แดนขอสรุปข้อดี ข้อด้อย (ขอใช้ว่าข้อด้อยกว่าที่อื่นดังนี้ค่ะ)
ข้อดี 1. ถูกมาก...ถูกเว่อร์ ถูกกว่านี้คงไม่มีแล้ว (แต่ถ้ามีที่อื่นถูกกว่านี้ช่วยบอกจอร์แดนด้วยนะคะ)
2. การบริการดีค่ะ คนไม่เยอะ เพราะเป็นรพ.ไม่ใหญ่มากและคนมารักษาส่วนใหญ่เป็นแขกและชาวต่างชาติค่ะ
3. หมอให้คำแนะนำดีค่ะ สงสัยอะไรถามหมอได้หมอ อีกทั้งหมอให้เราเลือกได้ค่ะว่าสบายใจจะทำกับหมอคนไหน ไม่เลือกทำกับหมอ
ของรพ.แต่ไปทำกับหมอจากศูนย์เลสิกที่อื่นที่มาช่วยก็ได้ค่ะ
4. เครื่องมือใหม่เหมือนที่อื่นค่ะ
5. ค่าตรวจฟรีค่ะ ตอนไปตรวจหมอจะแนะนำว่ากระจกตาเราหนาพอไหม ควรทำวิธีไหน ถ้าไปตรวจแล้วตัดสินใจไม่ทำก็ไม่เป็นไรค่ะ ไม่มี
ค่าใช้จ่ายตรงนี้ค่ะ
6. ใกล้บ้านจอร์แดน (คงไม่เกี่ยวกับท่านอื่นที่ไม่ได้อยู่ละแวกลาดพร้าวล่ะค่ะ)
ข้อด้อย (อันนี้เปรียบเทียบจากที่เคยไปอ่านรีวิวจากท่านอื่นที่ทำจากที่ดังๆ หลายที่นะคะ)
1. ยาที่ได้มากินเป็นยาพารา ไม่มียานอนหลับเหมือนที่อื่นนะคะ - ซึ่งจอร์แดนก็กินพาราคืนที่ทำเพราะปวดนิดๆ แต่ก็ไม่ซีเรียสค่ะ เพราะไม่ได้ปวดมากถึงขั้นต้องกินยานอนหลับ
2. ที่อื่นเห็นว่าจะมีลูกบอลยางเล็กๆให้บีบๆ ขณะทำเพื่อไม่ให้เราเครียด ซึ่งที่นี่ไม่มีค่ะ แต่จอร์แดนก็เตรียมไปเองเพราะรู้ว่าฉันเครียดแน่นอน555 คุณหมอยังแซวว่านี่เตรียมมาเองเลยเหรอ จอร์แดนบีบบอลจนบอลแทบแตกค่ะ ซึ่งอันนี้ก็ไม่ซีเรียส สามารถหาซื้อได้ตามตลาดนัดทั่วไปค่ะ
ตอนนี้คิดข้อดีข้อด้อยได้แค่นี้ค่ะ จอร์แดนเอามาแชร์เผื่อมีท่านใดงบน้อย แต่อยากทำเลสิกที่ๆ มีคุณภาพ บริการเหมาะสม แต่เข้าใจว่าบางท่านอาจคิดว่าเฮ้ย เรื่องตาไม่ได้นะ ขอที่ดังๆ แพงๆ หมอเก่งๆ ไว้ใจได้ไว้ก่อน ซึ่งจอร์แดนก็ต้องบอกว่าที่เวชธานีเครื่องมือใหม่ หมอก็ดัง (ของที่อื่นมาช่วย) แต่ยาที่ให้มา หรือการบริการ อาจไม่ดีเลิศเหมือนศูนย์เลสิกที่อื่น แต่สำหรับจอร์แดนพิจารณาเห็นว่าที่นี่โอเค เพราะการทำเลสิกสิ่งสำคัญที่สุดคือเครื่องมือนะคะว่าใหม่หรือเปล่า ใช้เครื่องรุ่นไหน เพราะการทำเลสิกอาจเรียกได้ว่าอาศัยเครื่อง 60% และความเก่งของหมอ 40 % ค่ะ แต่ก็แล้วแต่แต่ละท่านพิจารณาค่ะ เพราะเรื่องตาเราเป็นเรื่องสำคัญ จอร์แดนเข้าใจว่าใครๆ ก็กลัวและกังวลทั้งนั้นหากต้องทำการผ่าอะไรเกี่ยวกับตา
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนอยู่ไม่น้อย ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ค่ะเพราะตาแห้งแล้ว ขอไปนอนพักหยอดน้ำตาเทียม ซ่าไม่เลิกเดี๋ยวไม่หายซะที สวัสดีค่ะ
*** มีหลายท่านสอบถามมาหลังไมค์ถึงราคาและชื่อคุณหมอ ที่รักษาจอร์แดน ขออธิบายเหตุผลที่ไม่บอกรายละเอียดหน้าไมค์ดังนี้ค่ะ
- เรื่องราคา – จอร์แดนไม่มั่นใจว่าหากมีการระบุราคาลงไปเลยจะเหมือนเป็นการโฆษณาหรือไม่ และอาจเกิดผลได้ผลเสียต่อโรงพยาบาลหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขอให้ทุกท่านเข้าใจด้วยค่ะ หากอยากรู้ราคาสามารถถามหลังไมค์มาที่จอร์แดนได้ หรือโทรไปถามรพ.ได้เลยค่ะที่เบอร์ 02-734-0000 ต่อแผนกจักษุปรึกษาเรื่องเลสิกค่ะ
- เรื่องชื่อคุณหมอที่รักษา – อันนี้บอกเลยค่ะว่าไม่สามารถบอกได้ เพราะคุณหมอที่รักษาจอร์แดนเป็นหมอจากศูนย์เลสิกจากที่อื่น ซึ่งจอร์แดนไม่มั่นใจว่าหากจอร์แดนบอกชื่อคุณหมอไปจะกระทบต่อรพ.ที่คุณหมอท่านนั้นรักษาประจำอยู่หรือไม่ (ประมาณว่ารพ.ที่ทำประจำแพงกว่าที่เวชธานี) ซึ่งเรื่องนี้ก็ละเอียดอ่อนอีกเช่นกัน หากท่านใดมาอ่านรีวิวจอร์แดนแล้วรู้สึกว่าเอ๊า แค่ชื่อหมอก็บอกไม่ได้ แล้วจะรู้ได้ไงว่ารักษากับใครดี จอร์แดนแนะนำให้โทรไปปรึกษาที่รพ.เวชธานี แผนกจักษุเลยค่ะ ที่นั่นจะบอกเลยว่ามีคุณหมอท่านใดบ้าง เค้าจะแจกแจงคุณสมบัติหมอแต่ละคนให้เราทราบเลยค่ะ เพราะจอร์แดนก็ไม่รู้จักคุณหมอที่รักษามาก่อน อารมณ์ว่าหมอที่เวชธานีแนะนำมาอีกทีว่าหมอท่านนี้ประสบการณ์สูง จอร์แดนก็เลยเลือกหมอท่านนี้จากคำแนะนำของหมอที่เวชธานีนั่นแหละค่ะ
จอร์แดนมารีวิวอะไรก็คิดถึงผลได้ผลเสียของรพ.ค่ะ เอาจริงๆ เรื่องแบบนี้หากเราทำรพ.เสียหายก็อาจถูกฟ้องได้ เพราะฉะนั้นขอให้ทุกท่านเข้าใจจอร์แดนด้วยนะคะ อะไรที่สามารถบอกได้ก็บอกค่ะ ไม่มีหมกเม็ด แต่อะไรที่ละเอียดอ่อน) จอร์แดนก็แนะนำให้ไปถามที่รพ.ตามเบอร์ที่บอกได้เลยค่ะ คุณหมอที่นั่นพร้อมให้คำปรึกษาฟรีกับทุกท่านที่สนใจนะคะ
[CR] -------- ทำ Lasik ครั้งแรกในชีวิต เจ็บแป๊บเดียวเพื่อความงามตลอดไป ----------
เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปทำเลสิกที่รพ.เวชธานีมาค่ะ จอร์แดนเป็นคนสายตาสั้นมาสิบห้าปีแล้วค่ะ สั้นครั้งแรก 150 มาถึงปัจจุบันข้างขวาสั้น 450 ซ้าย 325 ใส่แว่นสลับกับคอนแทคเลนส์มาตลอด วันไหนอยากสวยอยากแต่งหน้าให้เป๊ะๆก็จะใส่คอนแทคเลนส์ค่ะ แต่มีปัญหาคือเป็นคนตาแห้ง แล้วใส่คอนแทคส์ได้ไม่เกินห้าชม.ก็จะเริ่มปวดตาแล้วค่ะ บางทีปวดตามากจนไมเกรนขึ้นเลยก็มี สนใจจะทำเลสิกมานานแต่งบไม่เอื้ออำนวย จนสุดท้ายเมื่อเดือนก่อนเพื่อนจอร์แดนไปหาหมอที่รพ.เวชานีเนื่องจากนางเป็นคนสายตาสั้น แต่ไม่ชอบใส่แว่น บางทีก็ปวดตา คุณหมอเลยแนะนำให้ทำเลสิกซะเลย จอร์แดนไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับทางรพ.นะคะ แต่คิดว่าเป็นราคาที่เหมาะสมกับการรักษาและบริการเลยอยากมาบอกทุกคนเผื่อมีใครสนใจค่ะ
ที่รพ.เวชธานีจะมีวิธีรักษาสายตาสั้น 3 แบบคือ
1. PRK เหมาะกับคนสายตาสั้นไม่เกิน 300 กระจกตาบาง ตาเล็ก (เพราะไม่ต้องใช้เครื่องจุ๊บตาให้ถลนออกมาเหมือนเลสิกและ Femto) เพื่อนจอร์แดนสั้น 150 ตาเล็กมากๆ เลยเลือกวิธีนี้ค่ะ
2. เลสิก เหมาะกับคนสายตาสั้นเกิน 300 มีเนื้อกระจกตาพอสมควร - จอร์แดนเลือกวิธีนี้ค่ะ
3. Femto เหมือนเลสิกเลยค่ะ ต่างกันแค่เลสิกจะใช้ใบมีดในการเปิดกระจกตา แล้วยิงเลเซอร์ ซึ่งการใช้มีดอาจทำให้ตาตึงๆ มากกว่าการยิงเลเซอร์ แล้วก็จะเสียเนื้อกระจกตามากกว่า Femto
จอร์แดนขอไม่อธิบายรายละเอียดวิธีรักษาแต่ละแบบนะคะ เพราะทุกท่านสามารถไปหาอ่านได้ตามเว็บทั่วไป ที่มาแชร์วันนี้คืออยากบอกเรื่องข้อดีข้อเสียของการทำเลสิกที่รพ.เวชธานี และความรู้สึกในการทำมากกว่าค่ะ
เมื่อเพื่อนจอร์แดนตัดสินใจทำ PRK จอร์แดนก็รอให้เพื่อนทำเสร็จสักพักค่ะ (อารมณ์ว่าถ้าแกรอดฉันก็น่าจะรอด555) หลังทำ PRK สองวันแรกเพื่อนจอร์แดนลืมตาไม่ได้เลยค่ะ เหมือนคนตาบอด กว่าจะสามารถลืมตามาทำกิจวัตรเหมือนคนทั่วไปได้ก็ห้าวันไปแล้วค่ะ (ซึ่ง PRK จะหายช้ากว่าเลสิกและ Femto อยู่แล้วค่ะ เพราะไม่มีการเปิดกระจกตาแต่ยิ่งเลเซอร์เข้าไปเลยทำให้กระจาเป็นแผลค่ะ) ช่วงนั้นจอร์แดนก็หาข้อมูลจากรพ.อื่นๆ ที่มีชื่อเสียงด้านการทำเลสิกทุกที่ค่ะ ราคาต่ำสุดก็ 35,000 ไปจนถึงแสนกว่าๆ กลับมาคิดถึงรพ.เวชธานีที่เพื่อนไปทำมา ราคาต่ำสุดกว่าทุกที่แล้วค่ะ เป็นราคาเหมารวมทุกอย่างแล้ว (**รบกวนส่ง- เมสเสจ - สอบถามหลังไมค์นะคะ) คือตอนแรกก็ถามหมอว่าทำไมมันถูกขนาดนี้คะ เหตุผลที่หมออธิบายก็พอฟังขึ้นค่ะ คุณหมอบอกว่าแผนกจักษุที่นี่เปิดมาได้แค่ปีเดียวเองค่ะ พูดง่ายๆ ว่าไม่มีชื่อเสียง คนไม่ค่อยรู้ว่าที่นี่ทำเลสิกได้ ดังนั้นจึงอยากจะโปรโมทให้คนมาทำด้วยราคาที่ต่ำกว่าที่อื่น คุณหมออธิบายว่าเครื่องที่เราซื้อมาจากเยอรมันต้องเสียค่าบำรุงรักษาทุกปี ปีละ 4 ล้านบาท ถ้าเราตั้งราคาสูงเหมือนที่อื่นคนก็คงไปใช้บริการที่อื่น (ซึ่งมีมานานกว่าและชื่อเสียงดีกว่า) คุณหมอบอกว่าไม่ว่าจะตั้งราคาถูกหรือแพงเราก็ต้องจ่าย 4 ล้านบาทสิ้นปีอยู่ดี เพราะฉะนั้นตั้งราคาต่ำกว่าที่อื่นเพื่อดึงดูดให้คนเข้ามาใช้บริการค่ะ ซึ่งเครื่องมือที่นี่เป็นเครื่องมือที่ใหม่นะคะ ส่วนคุณหมอก็จะมีคุณหมอจากศูนย์เลสิกที่อื่นมาช่วยทำค่ะ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะทำกับหมอคนไหนที่มีก็ได้ค่ะ ซึ่งคุณหมอที่จอร์แดนเลือกเป็นหมอจากศูนย์เลสิกมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งที่เหมือนมาเก็บชม.ทำที่รพ.เวชธานีค่ะ
สุดท้ายพอตัดสินใจว่าเออ...เอาที่นี่แล้วกัน ราคาจ่ายเองได้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงก็มาตรวจตา กระจกตาจอร์แดนมีประมาณ 510 ค่ะ คนทั่วไปจะมีประมาณ 550 แต่ก็ไม่ถือว่าน้อย วันผ่าหมอก็บอกว่าห้ามใส่น้ำหอม ห้ามแต่งหน้า (เหมือนกฏทั่วไปก่อนทำเลสิกค่ะ) บอกก่อนว่าก่อนวันทำหนึ่งวันลังเลว่าหรือทำ Femto ดี? คิดว่าอาจจะเจ็บน้อยกว่าเลสิก แต่พอมาปรึกษาหมอหมอบอกว่าคือไม่ได้ต่างกันมากค่ะ คนเราชอบจินตนาการนึกถึงใบมีดว่าเจ็บแน่ เลเซอร์คงเจ็บน้อยกว่า ขอบอกว่าขั้นตอนที่เจ็บไม่ใช่ตอนยิงใบมีดหรือเลเซอร์ค่ะ แต่มันอยู่ตอนจุ๊บลูกตาเราต่างหาก!
ก่อนทำจอร์แดนต้องหยอดยาฆ่าเชื้อประมาณ 4-5 รอบ แล้วก็หยอดยาชาค่ะ พอเข้าไปในห้องผ่าคุณหมอจะลองเอาสำลีแตะตาว่าเจ็บมั้ย ถ้าไม่เจ็บคือยาชาออกฤทธิ์แล้วทำได้ จอร์แดนจำขั้นตอนไม่ค่อยได้นะคะ รู้แค่ว่ารำคาญตอนถ่างตา (รำคาญนะคะแต่ไม่เจ็บ) แต่ตอนที่หมอเอาเครื่องจุ๊บตามาครอบเพื่อให้ตาถลนออกมาบอกเลยว่าเจ็บค่ะ (ร้องครางออกมาเบาๆ) แต่พอยิงเลเซอร์ก็ไม่เจ็บแล้วค่ะ จอร์แดนทำข้างขวาก่อนแล้วมาทำข้างซ้าย ข้างขวาว่าเจ็บแล้ว แต่ข้างซ้ายเจ็บกว่าค่ะเพราะหมอบอกจอร์แดนตาข้างซายเล็กนะ ต้องกดมากๆ หน่อย (ฮือ เมื่อกี้ก็เจ็บแล้วนะคะหมอ) พอจุ๊บตาปุ๊บมีดก็ตัด ตอนตัดตาซ้ายเจ็บจนจอร์แดนกระตุกไปทีค่ะ น่าจะเจ็บตั้งแต่ตอนจุ๊บตาอ่ะค่ะ คือเวลาที่เราขยับเครื่องจะหยุดอัตโนมัตินะคะเพื่อความปลอดภัย หมอก็บอกอย่าขยับสิคะจะเสร็จแล้ว รอแค่อึดใจเดียวก็เสร็จ คุณหมอทำความสะอาดตาแล้วปิดที่ครอบตาค่ะ ใช้เวลาประมาณยี่สิบนาทีจอร์แดนก็เดินออกจากห้องผ่าตัดอย่างปลอดภัยไร้กังวล
หลังทำคืนนั้นลืมตาได้เลยค่ะ บอกเลยว่าโลกชัดเจนกว่าที่เคย แต่คืนแรกน้ำตาไหลตลอด เหมือนมีก้อนกรวดเล็กๆ ในตาเราค่ะ วันต่อมาก็เดินไปไหนมาไหนได้แต่ก็ใส่แว่นกันแดดตลอดค่ะ น้ำตาไม่ไหลแล้ว แต่ตาแห้ง ก็หยอดน้ำตาเทียมกับยาหยอดที่หมอให้มาค่ะ อาการจอร์แดนต่างจากเพื่อนที่ทำ PRK ที่ลืมตาไม่ได้อยู่หลายวัน จอร์แดนทำวันพฤหัส วันศุกร์ซ่ามากค่ะไปเดินช้อปปิ้งที่เดอะมอล์ วันเสาร์ก็กินนอนๆ อยู่ในห้อง สิ่งที่เกิดขึ้นหลังทำคือตาขาวมีจุดเลือดเล็กๆ ซึ่งหมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติ เกิดจากเส้นเลือดฝอยแตก (จากอีเครื่องจุ๊บตานี่แหละค่ะ) คือไม่ว่าจะทำเลสิกหรือ Femto ก็จะโดนเครื่องจุ๊บตาจนมีจุดเลือดเหมือนกันหมด (หลังทำดีใจมากที่ไม่เลือก Femto เพราะมันไม่ได้เจ็บตอนใบมีดหรือยิงเลเซอร์ แต่เจ็บตรงอีเครื่องจุ๊บตานี่แหละค่ะ! เฮ้อ...ดีนะไม่เสียเงินเพิ่ม) จุดเลือดที่ตาจะหายไปเองภายใน 1-2 อาทิตย์ค่ะ
ตอนนี้จอร์แดนทำมาได้ 4 วันแล้วค่ะ ยังมีอาการเคืองตา ตาแห้ง แล้วก็มองไปยังขุ่นนิดๆ หมอบอกเป็นปกตินะคะ เพราะแผลต้องการเวลาในการรักษาค่ะ หลังทำวันแรกไปตรวจยังสั้นอยู่ 50 ซึ่งหมอบอกว่ามันอาจจะไม่ 0-0 เลย เอาแค่คนไข้มองเห็นชัดเจนสบายใจ ซึ่งตอนนี้จอร์แดนก็พอใจกับมันนะคะ เพราะคนสายตาปกติทั่วไปน้อยที่จะ 0-0 เลยค่ะ ตอนกลางคืนมีอาการแสงแตกบ้างเล็กน้อยแต่ไม่รำคาญค่ะ อาการตาแห้งหมอบอกว่าให้หยอดน้ำตาเทียม เดี๋ยวจะค่อยๆ ดีขึ้น แต่จอร์แดนก็ว่าจอร์แดนยังไม่ได้พักเท่าที่ควร เมื่อคืนเพิ่งไปนั่งดริ้งมาค่ะ..ซ่าซะไม่มี 55
หลังจากทำเลสิกที่รพ.เวชธานีจอร์แดนขอสรุปข้อดี ข้อด้อย (ขอใช้ว่าข้อด้อยกว่าที่อื่นดังนี้ค่ะ)
ข้อดี 1. ถูกมาก...ถูกเว่อร์ ถูกกว่านี้คงไม่มีแล้ว (แต่ถ้ามีที่อื่นถูกกว่านี้ช่วยบอกจอร์แดนด้วยนะคะ)
2. การบริการดีค่ะ คนไม่เยอะ เพราะเป็นรพ.ไม่ใหญ่มากและคนมารักษาส่วนใหญ่เป็นแขกและชาวต่างชาติค่ะ
3. หมอให้คำแนะนำดีค่ะ สงสัยอะไรถามหมอได้หมอ อีกทั้งหมอให้เราเลือกได้ค่ะว่าสบายใจจะทำกับหมอคนไหน ไม่เลือกทำกับหมอ
ของรพ.แต่ไปทำกับหมอจากศูนย์เลสิกที่อื่นที่มาช่วยก็ได้ค่ะ
4. เครื่องมือใหม่เหมือนที่อื่นค่ะ
5. ค่าตรวจฟรีค่ะ ตอนไปตรวจหมอจะแนะนำว่ากระจกตาเราหนาพอไหม ควรทำวิธีไหน ถ้าไปตรวจแล้วตัดสินใจไม่ทำก็ไม่เป็นไรค่ะ ไม่มี
ค่าใช้จ่ายตรงนี้ค่ะ
6. ใกล้บ้านจอร์แดน (คงไม่เกี่ยวกับท่านอื่นที่ไม่ได้อยู่ละแวกลาดพร้าวล่ะค่ะ)
ข้อด้อย (อันนี้เปรียบเทียบจากที่เคยไปอ่านรีวิวจากท่านอื่นที่ทำจากที่ดังๆ หลายที่นะคะ)
1. ยาที่ได้มากินเป็นยาพารา ไม่มียานอนหลับเหมือนที่อื่นนะคะ - ซึ่งจอร์แดนก็กินพาราคืนที่ทำเพราะปวดนิดๆ แต่ก็ไม่ซีเรียสค่ะ เพราะไม่ได้ปวดมากถึงขั้นต้องกินยานอนหลับ
2. ที่อื่นเห็นว่าจะมีลูกบอลยางเล็กๆให้บีบๆ ขณะทำเพื่อไม่ให้เราเครียด ซึ่งที่นี่ไม่มีค่ะ แต่จอร์แดนก็เตรียมไปเองเพราะรู้ว่าฉันเครียดแน่นอน555 คุณหมอยังแซวว่านี่เตรียมมาเองเลยเหรอ จอร์แดนบีบบอลจนบอลแทบแตกค่ะ ซึ่งอันนี้ก็ไม่ซีเรียส สามารถหาซื้อได้ตามตลาดนัดทั่วไปค่ะ
ตอนนี้คิดข้อดีข้อด้อยได้แค่นี้ค่ะ จอร์แดนเอามาแชร์เผื่อมีท่านใดงบน้อย แต่อยากทำเลสิกที่ๆ มีคุณภาพ บริการเหมาะสม แต่เข้าใจว่าบางท่านอาจคิดว่าเฮ้ย เรื่องตาไม่ได้นะ ขอที่ดังๆ แพงๆ หมอเก่งๆ ไว้ใจได้ไว้ก่อน ซึ่งจอร์แดนก็ต้องบอกว่าที่เวชธานีเครื่องมือใหม่ หมอก็ดัง (ของที่อื่นมาช่วย) แต่ยาที่ให้มา หรือการบริการ อาจไม่ดีเลิศเหมือนศูนย์เลสิกที่อื่น แต่สำหรับจอร์แดนพิจารณาเห็นว่าที่นี่โอเค เพราะการทำเลสิกสิ่งสำคัญที่สุดคือเครื่องมือนะคะว่าใหม่หรือเปล่า ใช้เครื่องรุ่นไหน เพราะการทำเลสิกอาจเรียกได้ว่าอาศัยเครื่อง 60% และความเก่งของหมอ 40 % ค่ะ แต่ก็แล้วแต่แต่ละท่านพิจารณาค่ะ เพราะเรื่องตาเราเป็นเรื่องสำคัญ จอร์แดนเข้าใจว่าใครๆ ก็กลัวและกังวลทั้งนั้นหากต้องทำการผ่าอะไรเกี่ยวกับตา
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนอยู่ไม่น้อย ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ค่ะเพราะตาแห้งแล้ว ขอไปนอนพักหยอดน้ำตาเทียม ซ่าไม่เลิกเดี๋ยวไม่หายซะที สวัสดีค่ะ
*** มีหลายท่านสอบถามมาหลังไมค์ถึงราคาและชื่อคุณหมอ ที่รักษาจอร์แดน ขออธิบายเหตุผลที่ไม่บอกรายละเอียดหน้าไมค์ดังนี้ค่ะ
- เรื่องราคา – จอร์แดนไม่มั่นใจว่าหากมีการระบุราคาลงไปเลยจะเหมือนเป็นการโฆษณาหรือไม่ และอาจเกิดผลได้ผลเสียต่อโรงพยาบาลหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขอให้ทุกท่านเข้าใจด้วยค่ะ หากอยากรู้ราคาสามารถถามหลังไมค์มาที่จอร์แดนได้ หรือโทรไปถามรพ.ได้เลยค่ะที่เบอร์ 02-734-0000 ต่อแผนกจักษุปรึกษาเรื่องเลสิกค่ะ
- เรื่องชื่อคุณหมอที่รักษา – อันนี้บอกเลยค่ะว่าไม่สามารถบอกได้ เพราะคุณหมอที่รักษาจอร์แดนเป็นหมอจากศูนย์เลสิกจากที่อื่น ซึ่งจอร์แดนไม่มั่นใจว่าหากจอร์แดนบอกชื่อคุณหมอไปจะกระทบต่อรพ.ที่คุณหมอท่านนั้นรักษาประจำอยู่หรือไม่ (ประมาณว่ารพ.ที่ทำประจำแพงกว่าที่เวชธานี) ซึ่งเรื่องนี้ก็ละเอียดอ่อนอีกเช่นกัน หากท่านใดมาอ่านรีวิวจอร์แดนแล้วรู้สึกว่าเอ๊า แค่ชื่อหมอก็บอกไม่ได้ แล้วจะรู้ได้ไงว่ารักษากับใครดี จอร์แดนแนะนำให้โทรไปปรึกษาที่รพ.เวชธานี แผนกจักษุเลยค่ะ ที่นั่นจะบอกเลยว่ามีคุณหมอท่านใดบ้าง เค้าจะแจกแจงคุณสมบัติหมอแต่ละคนให้เราทราบเลยค่ะ เพราะจอร์แดนก็ไม่รู้จักคุณหมอที่รักษามาก่อน อารมณ์ว่าหมอที่เวชธานีแนะนำมาอีกทีว่าหมอท่านนี้ประสบการณ์สูง จอร์แดนก็เลยเลือกหมอท่านนี้จากคำแนะนำของหมอที่เวชธานีนั่นแหละค่ะ
จอร์แดนมารีวิวอะไรก็คิดถึงผลได้ผลเสียของรพ.ค่ะ เอาจริงๆ เรื่องแบบนี้หากเราทำรพ.เสียหายก็อาจถูกฟ้องได้ เพราะฉะนั้นขอให้ทุกท่านเข้าใจจอร์แดนด้วยนะคะ อะไรที่สามารถบอกได้ก็บอกค่ะ ไม่มีหมกเม็ด แต่อะไรที่ละเอียดอ่อน) จอร์แดนก็แนะนำให้ไปถามที่รพ.ตามเบอร์ที่บอกได้เลยค่ะ คุณหมอที่นั่นพร้อมให้คำปรึกษาฟรีกับทุกท่านที่สนใจนะคะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น