[CR] รีวิว หมี ห ล ง ... สิงคโปร์ ทั้งตกเครื่อง ทั้งเสียค่าโง่ โดย หมีคับ


Mheekrub.com รีวิวย้อนหลัง พ.ค. 58 (สะกดผิดเยอะหน่อย แต่เป็นหมีขี้เกียจเลยไม่ได้เเก้'งับบ)

งานนี้เริ่มต้นจากการพลาดทริปไปเที่ยวเวียดนามของน้องหมี น้องหมีเธอก็เลยเริ่ม เอามือปุกปุ้ยของเธอคุ้ยเขี่ยตาม Facebook หาตั๋วราคาพิเศษ ในที่สุดสายการบินสีแดงก็มีตั๋วราคาพิเศษไปสิงค์โปร์ จองล่วงหน้าบินปลายปี (ตอนนั้นเพิ่งเดือน มีนา 58 ) หมีเช็คราคาวนไปวนมา แต่ เอ๊ะ ! ทำไมมันยังเเพงอยู่ (คุยวีดีโอคอลกันอยู่) หมีสงสัย เริ่มถามว่า

น้องหมี : พี่ พี่ พี่ไปวันธรรมดาได้ป่าว ?

ผม : เออ… พี่หยุดเสาร์อาทิตย์

น้องหมี : มิน่าทำไมแพง วันธรรมดาถูกกว่าเกือบครึ่งเบย

ผม : เค้าขอโต้ด T T

สงสัยเจ้าหมีตัดใจไม่ไปและ เราก็เลยไปลองจองดูบ้าง วันเสาร์แพงจริงด้วย แต่ด้วยความอยากไปเที่ยวกับเจ้าหมีก็เลยฝืนใจ ยอมเสียสละลางานวันศุกร์ 1 วัน(เข้าทางเลย ขี้เกียจอยู่เเล้ว ^o^)

ลองหาตั๋วราคาถูกที่สุดเมื่อเราหยุดวันศุกร์ด้วยอุปกรณ์การค้นหาผ่านโทรศัพท์มือถือที่ชื่อว่าเครื่องค้นหาน่านฟ้า (พยายามแปลเล่น เดากันเอาเองนะ) สรุปได้ตัว Scoot ขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองตอนสองทุ่มครึ่ง ไปถึงเที่ยงคืน ราคาที่ได้ใกล้เคียงกับการจองล่วงหน้าตั๋วโปรโมชั่นล่วงหน้า 6  เดือน ก็เลยจองซะ


การเตรียมตัวก่อนเดินทาง

วิธีที่ถูกต้องเป็นอย่างไรไม่ทราบ ที่ทราบคือได้รับกระทู้พันทิปและเว็ปต่างๆมากมายเกี่ยวกับสิงค์โปร ส่งมาทั้งใน Line และ ใน Chat Facebook ผู้ส่งไม่ลงชื่อแต่รูปที่แสดงบนบัญชีผู้ส่งนี้ แก้มยุ้ยขนปุกปุยเชียว เมื่อได้รับบัญชามาก็ต้องค่อยๆหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ โดยเริ่มจากข้อคิด 3 ข้อที่ได้จากการเดินทาง ( หา internet ให้เร็วที่สุด , ต้องรู้วิธีการเข้าเมือง และ จองโรงแรมคืนแรก) รวบรวมข้อมูลได้ดังนี้

Internet Sim มีขายที่บูธธนาคาร UOB (ลุ้นว่าเที่ยงคืนจะเปิดอยู่ไหม?)
เข้าเมืองหลังเที่ยงคืน มี 2 วิธี
แท็กซี่มีอัตราพิเศษช่วงกลางคืน ต่างๆนาๆ ที่จะทำให้มันเเพงขึ้นอีกเยอะจากช่วงเวลาปกติ
รถ shuttle bus ปริศนาที่มีหลายคนบอกว่ามีและหลายคนบอกว่าไม่มี (สะกิดต่อมเผือกพี่พอดี )
สะกิดน้องหมีบอกว่า พี่อยากรู้พี่อยากลอง ขอจัด Shuttle Bus เข้าเมืองก่อนนะ ถ้าพี่พลาด(พลาดประจำ) ค่อยนั้งพี่แท็กซี่ละกัน น้องหมีตาแวววาว บอกจัดเลย จัดเลย น้องหมีก็อยากนั้งรถบัส (ในใจคงคิดว่าจะได้นั้งรถสาธารณะ แบบรถเมย์บ้านเราละมั้ง )

ส่วนข้อมูลว่าจะเที่ยวไหน กินอะไร ซื้ออะไร น้องหมีรับหน้าที่ไปแต่โดยดีโดยไม่ต้องบังคับ (แบ่งหน้าที่กันเหมาะสมมาก) น้องหมีเริ่มหาข้อมูลด้วยการดูรายการเที่ยวสิงค์โปร 48 ชม ที่เทปนั้นมีคุณ วุ้นเส้นเป็นพิธีกร ดูไปหยุดไป ดูไปจดไป ได้สถานที่เที่ยวมาคือ

Garden by the bay
Marina bay sand ( sky park)
ได้อาหารเช้า (ขนม) ที่ต้องไปกินให้ได้ (หมีเห็นด้วยกับคุณวุ้นเส้นเพียงเพราะหมีชอบกินอาหารหวานและขนมหวาน)

นอกจากนี้ น้องหมียังได้ชื่อ เอเจนซี่ขายตั๋วเข้าสถานที่ต่างๆ Sea Wheel Travel ที่ชาวเน็ทบอกว่าขายตั๋วราคาถูก (แต่ไม่เห็นมีอะไรยืนยันว่าเอเจนซี่อื่นขายแพงกว่านะ)

น้องหมีเป็นหมีที่ชอบน้ำหอมมาก ทั้งทาทั้งฉีดทั้งกิน ไปสิงค์โปร?ครั้งนี้เลยกะว่าจะไปซื้อมาตุ้นไว้เพิ่ม เพราะฉะนั้น ห้างมุสตาฟา จึงเป็นอีกหนึ่งเช็คพ้อยที่เราจะต้องไปกัน

วันเดินทาง 7 พ.ค. 58

หอบของขึ้นแทกซี่กัน 2 คน มีกระเป๋าเป้ใบใหญ่ผม 1 ใบ น้องหมี มีกระเป๋าเดินทาง 1 ใบ เป้ใบเล็กอีก 1 ใบ เครื่องขึ้น 2 ทุ่มครึ่ง ออกจากที่พักแถว MRT ลาดพร้าว ตอนห้าโมง ฝนทำท่าจะตก ดูรถเริ่มเยอะ ด้วยความกลัวว่าจะไปไม่ทันเลยบอกพี่คนขับให้ขึ้นทางด่วนไปลงดอนเมืองเลย ถึงดอนเมืองจริงๆก็ก่อนหกโมงนิดหน่อย คือ… รถบนทางด่วนโล่งมาก


เช็คอินยังไม่เปิดก็ต้องไปนั้งรอกันก่อน ระหว่างรอก็ไม่ให้เสียเวลา เอาขนมกับน้ำที่ซื้อมาเป็นเสบียงกินก่อนเลยเดียวจะหิว หิวบนเครื่องเปลืองนิดหน่อย ของมันแพง ^ ^

กินขนมอิ่มและ แต่ยังเหลืออีกนิดเผื่อไปเติมบนเครื่องเพราะเวลาเห็นคนอื่นทานแล้วมันจะหิวววว

เเลกเงินกันคนละหน่อยก็เลยแลกที่สนามบินเลยไม่ต้องไปหาที่แลกให้วุ่นวาย ถึงราคาสูงก็ต้องยอม@ 25.6 บาท ต่อ 1 เหรียรญสิงค์โปร์ (SGD)


ได้เวลาเชคอินและ ขั้นตอนไวมากเพราะที่ดอนเมืองคนบินไป ตปท น้อยเมื่อเทียบกับสนามบินหลักอย่างสุวรรณภูมิ ทุกขั้นตอนคิวสั้นสะดวกสุดๆ รักเลย

งานนี้เชคอินกระเป๋าลาก 1 ใบของน้องหมี เนื่องจากเป็น ผญ เลยมีอุปกรณ์เยอะ สำหรับผมเป้ใบเดียวเช่นเคย อุปกรณ์ที่เป็นน้ำใส่ถุงซิปล็อกเอาไว้ ต่อชิ้นขนาดที่ระบุบนภาชนะบรรจุไม่เกิน 100 ml รวมกันแล้วไม่เกิน 1,000 ml


อุปกรณ์ดำรงชีพอื่นๆ (ในความคิดผม)

ก็มี โทรศัพท์มือถือ สายชาจต่างๆ ปลั๊กไฟแบบเดินทาง ( travel adapter ) ปลั๊กสามตา (สมัยผมเป็นเด็กเรียกปลั๊กสามตา ถามน้องหมีบอกเรียกเหมือนกัน ไม่รู้คนอื่นๆเรียกอะไร ) ครีมกันแดด บัตรเครดิตเผื่อฉุกเฉิน

อุปกรณ์ดำรงชีพอื่นๆ (ในความคิดน้องหมี)

ครีมทาผิว ครีมกันแดด สายชาจ พาสปอร์ค  หมวก เครื่องสำอางค์ ชุดอาบน้ำ เครื่องโรลผม (ผมนี้ถึงกับถามย้ำอีกที)

ตรวจเช็คทุกอย่างเข้าไปรอเครื่องขึ้นก็ถ่ายรูปเล่นกันกับน้องหมี เพลินจนหิว เลยพากันไปซื้อขนมในสนามบินทานพร้อมทั้งไม่ลืมซื้อน้ำขึ้นเครื่องอีก 2 ขวดด้วย เราบอกกับน้องหมีว่าเดียวค่อยดูนะ เวลาเราอยู่บนเครื่องเราจะหิวน้ำมากกว่าปกติ แถมเวลาเราเห็นคนอื่นกินอะไรกันเราก็จะหิวมากกว่าปกติด้วย สงสัยเหมือนโดนสะกดจิต >< ปล. เมื่อก่อนไม่กล้าเอาอาหารกับเครื่องดื่มขึ้นเครื่องแต่มีอยู่ครั้งหนึ่งขากลับจากไปเที่ยว ญี่ปุ่นแล้วพบว่าผู้โดยสารซื้อทั้งอาหารและเครื่องดื่มขึ้นเครื่อง เท่านั้นเเหละเราก็นึกได้ว่า สายการบินเขาไม่ได้ห้ามนิน่า เราอยากทานอะไรก็สามารถเอาขึ้นเครื่องได้ ได้ทานอาหารถูกปากและราคาโอเคด้วย ^ ^v

มาดูเมนูอาหารบนเครื่องของ Nok Scoot กันหน่อย

หน้าปกน่ารัก ดูเเล้วหิววววว


อาหารในรูปดูดีนะ ราคา คูณ 25.6 THB  ราคาก็ราวๆ 500 กว่าบาท


อันนี้ แบบ ไม่เต็มมื้อ แค่กินรองท้อง ก็ราวๆ 200 กว่าบาท


บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็มีจร้าาา


เครื่องดื่ม ไม่มีแอลก็ฮอล พี่หมีไม่สนเท่าไหร่


แบบนี้ ตาลุกวาววว แต่ ดูราคาแล้ว อดทนอีกหน่อยละกัลลลล

ถึงสนามบิน Changi (อ่านเองว่า ชางจี แต่เฮีย Goo อ่านว่า ชางงี) ลงเครื่องที่สนามบินสิงค์โปร์เวลาเที่ยงคืน ทุกคนรีบเดินออกแต่เรากับน้องหมีเดินถ่ายรูปเล่นตลอดทาง

เดินผ่าน information ก็ส่งน้องหมีไปฝึกภาษาอังกฤษก่อนเลย โดยให้ไปขอรหัส free wifi ที่สนามบินมาใช้  การขอก็แค่ใช้พาสปอร์ตเล่มเดียว เล่นได้ 8 ชม ขอเสร็จก็เดินไปอีกนิดหน่อย เจอสวนจำลอง ก็ถ่ายรูปกันต่ออีกหน่อยชิลกันเกิ๊น สนามบินชางงีแปลกกว่าที่อื่นที่เคยไปมา ก็คือมีร้านขายของ มีที่ให้เดินเล่น ก่อนจะถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองเสียอีก


พอมาถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง ก็ยืนลุ้นน้องหมีก่อน น้องหมีก็ผ่าน ตม ออกมาสบาย สบาย พอถึงรอบเรา เขาก็ถามแค่ 2-3 คำถาม ว่ามากี่วัน พักที่ไหน แค่นี้ก็ออกมาได้เเล้ว (น้องหมีมาบอกทีหลังว่าไม่เห็นเค้าถามอะไรหนูเลย คือน้องหมีจะบอกว่าหน้าตาพี่ไม่น่าไว้ใจซินะ… ) เมื่อออกมาจาก ตม ทั้งสองคนก็พากันเดินชิลไปรับกระเป๋าที่โหลดลงใต้เครื่องกัน โดยที่สายพานก็จะมีบอกว่าสายพานไหน ลำเลียงกระเป๋าของเครื่องบินไฟล์ไหน แต่ก็ยังไปยืนรอผิดสายพานกันสัก 5 นาที พอไม่เห็นกระเป๋าเลยกลับมาดูที่ป้ายใหม่ สรุปว่าผิดสายพานงับ มีแววหลงตั้งแต่ลงเครื่องเบย  ^ ^”

(น้องหมีเดินลากกระเป๋าตามต๋อย ต๋อย น่ารักน่าชัง เพราะตอนนี้น้องหมียังเที่ยวเมืองนอกไม่เก่งเท่าไหร่ )


เข้าสู่ 3 ปฏิบัติการเริ่มต้นการเดินทาง เมื่อได้กระเป๋าก็เดินออกมาแล้วก็เริ่มทำ mission แรก คือ การหา internet sim ที่บูทแลกเงินของธนาคาร UOB ให้เดินตามป้ายที่เขียนว่า Airport shuttle เพราะ ที่แลกเงินของ UOB จะอยู่ใกล้กับ Shuttle bus เข้าเมือง โดยถ้าหันหน้าเข้าหาทางออกสายพานรับกระเป๋าหมายเลข 36-38 UOB จะอยู่ทาง ซ้ายมือ ส่วนที่ขายตั๋ว Shuttle bus เข้าเมืองจะอยู่ขวามือ กว่าจะรับกระเป๋าเดินออกมาจนถึงที่แลกเงินธนาคาร UOB ก็ตี 1 เเล้ว แต่ก็ยังมีพนักงานทำงานปกติ หน้าตาง่วงๆ


เข้าไปคุยก็ได้ความว่ามี internet sim ราคา 18 SGD ในความรู้สึกคือแพงไปนิดหน่อย แต่ถือคติที่ว่าอย่าหวังน้ำบ่อหน้า เผื่อเรามีเหตุจำเป็นที่ต้องใช้ในคืนนี้หลังออกจากสนามบินไปแล้ว ถ้าไม่มี Internet ตอนตี 2 ชีวิตคงไม่สนุกเป็นแน่ ก็เลยตัดสินใจซื้อ 1 อัน internet เป็นแบบใช้ได้ 5 วัน วันละ 2 GB. ไม่ต้องเลือกเพราะคนที่ขายเชาบอกว่ามีแค่แบบนี้แบบเดียว ไม่รู้วันอื่นจะมีแบบอื่นให้เลือกไหมนะคับ โดยซิมที่ซื้อจะเจาะไว้ทุกขนาด แค่แกะตามขนาดที่ต้องการ ส่งเรื่องการกดเปิดใช้บริการคุณพี่เค้าจัดการให้หมด อย่าลืมเก็บซิมการ์ดเมืองไทยกลับมาด้วยนะ (Tips: สำหรับ iphone หาคลิปหนีบกระดาษไว้สำหรับแกะซิมการ์ดเมื่อไทยใส่กลับเมื่อถึงประเทศไทยด้วยนะจ่ะ)


ต่อคอมเม้นหน้าจร้าาาาา

ติดตามเราที่ : www.mheekrub.com
FB : www.facebook.com/mheekrubb

รีวิว บอลลอย ณ วังเวียง  http://bit.ly/2jo6REj
รีวิว แม่กำปอง ไปง่ายไม่ขับรถ ข้อมูลเพียบ  http://bit.ly/2j3fghP
ชื่อสินค้า:   สิงคโปร์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่