สวัสดีครับ ก่อนอื่นก็ต้องขอบอกก่อนนะครับว่าพึ่งหัดเขียนเป็นครั้งแรก เพราะเสพรีวิวของชาวบ้านจนทำให้ได้ไปเที่ยวในหลายๆสถานที่แล้ว วันนี้เลยอยากจะลองมาเขียนบ้างครับเผื่อเป็นประโยชน์กับใครหลายๆคน ถูกผิดยังไงต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย เอาละครับเพื่อเป็นการไม่เสียนาฬิกา เอ้ย! เสียเวลา แฮร่รรร  ผมจะพาทุกคน ไปเที่ยวเมืองชิคๆ เดินเสพศิลปะบนกำแพง ของประเทศเพื่อนบ้านทางภาคใต้กันครับ ที่ๆผมบอกมานั้นจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจาก เกาะปีนัง ประเทศมาเลยเซีย แหละครับผม


ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นๆก่อนนะครับว่า ทริปนี้เราจะไปด้วย รถไฟครับ แน่นอนครับต้องเป็นรถไฟฟรี จะเสียตังทำไมเราคนไทยชอบของฟรี ไม่ค่อยเน้นกินเท่าไหร่ #ไม่ใช่เพราะจนนะครับ ไม่ได้จนครับแค่ไม่มีตัง โดยระยาเวลาที่อยู่ในปีนัง เราจะอยู่ที่นั่นกัน 2 คืน รวมเดินทางแล้วก็ 5 วัน 4 คืน ครับผม ทริปนี้มาคนเดียวแบบ งง นะครับโดนเพื่อเทมา เอาล่ะครับไปกันเลยดีกว่า

DAY 1
   เริ่มต้นเราออกเดินทางจาก สถานีรถไฟหัวลำโพงครับ กรุงเทพ-ชุมทางหาดใหญ่ ขบวน 171รถออก 13.00น.
การเดินทางแสนยาวนานกำลังจะเริ่มขึ้น บรรยากาศ ในใจตอนแรกก็คิดกลัวๆนะครับถึงเราจะเป็นผู้ชาย กลัวของจะหายบนรถไฟเพราะ เรามาคนเดียว


บอกเลยตอนนี้เริ่มกลัวๆครับ พี่ที่นั่งข้างๆก็หน้าโหดกันเหลือเกิน นั่งมาสักพักพี่เขาก็ซื้อขนมบนรถไฟแล้วมาแบ่งให้ผมกิน ผมนี่ดีใจมากครับคิดว่ารอดแล้วเจอคนดีแล้ว จากนั้นจะลุกไปไหนมาไหนก็ฝากพี่แกดูของเลยครับ บรรยากาศสองข้างทางก็ดีต่อใจซ่ะจนบรรยายไม่ถูก โชคดีที่เราได้นั่งฝั่งพระอาทิตย์ตก ได้ดูพระอาทิตย์ตกบนรถไฟนี่มันมีความฟินไปอีกแบบนะครับ เพราะส่วนใหญ่จะไปดูแต่บนเขา ขอวาปไปเช้าอีกวันเลยนะครับ


Day 2
    นั่งหลับๆตื่นๆ กำลังเพลินๆ ก็ถึงสถานี ชุมทางหาดใหญ่ แล้ว ประมาณ 06.10น.จากนั้นก็ไม่รอช้าครับ รีบใช้บริการพี่วินไป จองตั๋วรถทัวร์ กลับกรุงเทพไว้ กลัวหมด จองตั๋วกลับกรุงเทพท ราคา 643บาท รอบ 15.00น. รอบสุดท้ายของวัน จากนั้นก็ให้พี่วินไปส่งที่โรงแรม อาโลฮา รอจองตั๋วรถตู้
กับบริษัท K.S.T TRAVEL ไปกลับ หาดใหญ่-ปีนัง ในราคา 750บาท ถ้าซื้อแบบต่อเที่ยวก็เที่ยวละ 400บาท (ราคาหน้าเว็ปกับหน้างานไม่เท่ากัน)
มีบริการส่งถึงที่พักด้วย (ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม) เช็คชื่อที่พักตามลิ้งค์นี้ได้เลยครับ http://www.ksttravelthailand.com/place-stop-penang

หลังจากจองรถตู้ไปปีนังเสร็จแล้ว ผมได้รอบ9โมงเช้า ดูแล้วเวลาเหลือเฟือก็ไปหาของกินสิครับ เดินข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามก็จะเจอเลย ร้านโจ๊ก ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยเล็กๆข้างโรงแรม อาโลฮา คุณลุงเจ้าของร้านบอกว่าเปิดมาแล้วกว่า 60 ปี (แกบอกผมมาแบบนี้ผมไม่ได้โม้นะครับ) ว่าแล้วก็สั่งมาเลยครับ หมูสับอร่อยมากเด้งมากครับ *เพลงมา.. เด้ง เด้ง เด้ง  555ตาหลก



เมื่อถึงเวลารถก็มารับ การผจญภัยในปีนังได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว! เราใช้เวลาจาก หาดใหญ่จนถึงที่พักในปีนัง ราวๆ 4ชั่วโมงกว่าๆได้ครับ งีบไปสักพัก...เสียงพี่จีนท้ายรถก็ดังจนนอนไม่หลับ ตื่นมาอีกทีอย่างที่เห็นครับ เราจะถึงเกาะปีนังแล้ว
ตื่นเต้นสุดๆ

รถวนไปส่งนักท่องเที่ยวตามโรงแรม สักแป๊บก็ถึงคิวผมละครับ เสียงพี่คนขับบอก Wassup youth hostel เตรียมตัว! ผมนี่ดีมากใจมากเพราะเมื่อยตูดสุดๆ ถึงโรงแรมเช็คอินเรียบร้อย รีบเก็บของอาบน้ำ และไปลุยต่อครับ ห้องที่ผมพักเป็นห้องนอนรวม4เตียงชายหญิงนะครับ จองจาก booking 2คืน ราคา 67 ริงกิต *มีค่ามัดจำด้วยนะครับ50 ริงกิต ได้คืนเมื่อเช๊คเอ้าท์ (ลืมถ่ายรูปบรรยากาศในห้องพักมาแต่ขอบอกว่าสะอาดมากครับ)


ต่อไปนี้จะเป็นบรรยากาศภายใน Hostel นะครับน่ารักมากๆ สิ่งอำนวยความสะดวกมีครบจบในที่เดียว มีทั้งโซนนั่งเล่น
คอมพิวเตอร์ส่วนกลาง โซนดูทีวี โซนทานข้าว ห้องครัวส่วนกลาง โซนอาบแดด *โซนนี้ชอบมากครับเพราะตอนกลางคืนมานอนดูดาวได้ครับ




หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จท้องก็ร้องดังขึ้นมาเหมือนกำลังจะบอก จงออกไปหาของกินเดี๋ยวนี้! แล้วจะรออะไรครับไปกันเลย จากที่พักสามารถเดินไปขึ้นรถที่ใต้ตึก Komtar ได้ซึ่งไม่ห่างกันมากนัก ที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมร้านขายของมากมาย รวมถึงเป็นท่ารถที่ ไม่ว่าเราจะไปที่ไหนในเกาะปีนัง เราสามารถนั่งรถจากที่นี่ไปได้เลยครับ



ตอนนี้เราจะออกไปหาของกินที่ Anjung gurney โดยนั่งรถสาย 101 จาก Komtar ไป Gurney plaza ราคา 1.40 ริงกิต รถเมล์ที่นี่ไม่ทอนนะจ๊ะ เราไม่มีเหรียญก็โดนไป 2 ริงกิต บอกคนขับว่าจะไปลงที่ไหนแล้วเค้าก็จะบอกราคามา หย่อนเงินใส่ในกล่อง รับตั๋วเป็นอันเสร็จ รถเมล์ที่นี่จะเป็นระเบียบมาก คนที่จะขึ้นต้องขึ้นทางประตูหน้าและส่วนคนที่จะลงต้องลงทางประตูหลังเท่านั้น


นั่งประมาณสัก 10 นาทีก็ถึงที่หมาย แต่ด้วยเรามาก่อนเวลาเดินหาตั้งนานหาตลาดไม่เจอ เลยไปถามลุงแท็กซี่แกบอกเปิด 6โมงเย็น แหนะ นั่งรอๆๆๆๆ



นั่งรอจน6โมงเย็นก็เดินเข้าไปแล้วคือแบบ...อยู่ดงคนจีนอ่ะ แหลกอะไรไม่เป็นเลย เห็นอันนี้พอโอเครก็เอาวะ ก็ไม่รู้หลอกคืออะไรบ้าง ถามเค้าอันไหนอร่อยเค้าก็จัดมาให้ทั้งหมดนี้ 17.50 ริงกิต คือรถชาติก็อร่อยเลยนะ มีอันนึงคิดว่าน่าจะเป็นไก่ป๊อบบาบีคิว คือบาบีคิวเลยอ่ะรสชาติแบบสุดมาก อร่อยสัสรัฐเซีย..


ขากลับแบบพีคไปหน่อย คือต้องเดินทะลุซอยมาอีกฝั่ง เพื่อนั่งรถสาย101 กลับ komtar 1.40 ริงกิตเท่าเดิม แต่ไม่ใช่ถึงเลยนะ รถไปจอดที่ท่า นี่ก็งง นั่งไปสักพักพี่แกพึ่งมาบอกว่า ต้องไปต่อ อีกคัน สายCAT อันนี้คือรถฟรีละจังหวะที่เดินลงจากคันที่นั่งมา CAT แม่มออกไปพอดี โอ้โหห โมโหมาก #ไม่บอกกูพรุ่งนี้เลยละบังคร้าบบ

Day 3
- วันนี้ ออกจาก ที่พักตั้งแต่ 9โมง (มาเล) ไปเดินเก็บภาพสตรีทอาร์ต ได้มาไม่ครบเพราะไปแค่โซนเดียวและโทรศัพท์ก็ไม่มีอินเตอร์เน็ต  เราใช้เวลาเดินวนไปวนมา งมแผนที่ไปเรื่อยๆ ประมาณเที่ยงก็ครบแล้วครับเนื่องจากแต่ละจุดอยู๋ใกล้กันมาก ต่อไปนี้จะเป็นภาพศิลปะบนกำแพงนะครับ ชมกันไปยาวๆ












มื้อกลางวันจะไปกิน ที่ร้าน KAPITAN แต่เมนูที่เราอยากจะกิน พี่แกบอกต้องรอ 30 นาที มันนานมากหิวแล้วไม่ไหว เลยเดินข้ามมาอีกฝั่ง ร้านสีเขียวๆจำชื่อไม่ได้ อยู่ตรงข้ามกันเลยเห็นที่ว่างเยอะ เลยสั่ง น้ำส้มไป1แก้วคั้นสดๆ 4.50ริงกิต และก็สั่งโรตีอะไรนี่แหละราคาแพงสุดในหมวดนั้น คิดว่าต้องอร่อยแน่ๆเลยจัดมา 5 ริงกิต รอไม่ถึง5นาทีก็ได้แล้ว คือรสแบบเหมือนมะตะบะ แต่อันนี้จะจิ้มกับแกงกระหรี่เครื่องเทศแรงมากๆๆ กลิ่นแบบติดปากสัส แต่แอบจืดๆไปนิด แต่ก็อร่อยเหมือนกันชอบๆ มื้อนี้ 9.50 ริงกิต


กินจนอิ่มเป็นที่เรีนยบร้อยออกมาจากร้าน ก็เดินตรงอย่างเดียวเลยไปตามทางรถ จะเจอท่ารถเมล์ที่ไปหลงมาเมื่อวันก่อนตอนกลับจาก Gurney plaza ระหว่างทางก็เดินชมบ้านชมเมืองอันแสนสงบค่าเวลาไป




เดินต่อไปอีกด้วยยาวๆ ประมาณ 10 นาทีก็ถึงท่ารถเมล์ เรานั่งรถสาย CAT มาลงที่ Komtar รถฟรีดีต่อใจไปอีก กลับห้องนอน