สวัสดีค่ะ เราชื่ออ้อมน้า เราก็เป็นอีกคนนึงที่ใฝ่ฝันว่าจะได้มีโอกาสมาหาประสบการณ์ทั้งการเรียนและการใช้ชีวิตในต่างแดน ตอนนี้ความฝันสำเร็จไปอีกขั้นนึงแล้ว (เย่ ^O^) ตอนนี้เราเรียนภาษาอยู่ที่ (Harbin Institute of Technology : 哈尔滨工业大学 เรียกสั้นๆว่า 哈工大Hāgōngdà) อยู่ที่นี่มาได้ประมาณ 6 เดือนล้ะ ก็เลยอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์การใช้ชีวิตในเมืองน้ำแข็งแห่งนี้ แต่ขอออกตัวก่อนว่านี่เป็นกระทู้แรกของเรา ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะค้า
ก่อนเข้าเรื่องขอเล่าที่มาที่ไปหน่อยเนอะว่าไปไงมาไงถึงมาเรียนที่นี่ได้ : ตอนแรกเราตกลงกับเพื่อน (ต่างมหา’ลัย) ว่าจะมาเรียนซัมเมอร์ที่จีนด้วยกัน (ไปกับโครงการของมหา’ลัยเพื่อน) บอกเลยว่าเราดีใจมากกกก เพราะอยากมาเรียนที่จีนตั้งแต่มัธยมแล้ว ก็ขออนุญาตขุ่นแม่เรียบร้อย ขุ่นแม่ให้ผ่าน ดีใจขึ้นมาอีกเป็นสิบเท่า เพราะปกติแม่ไม่ค่อยให้ไปไหนไกลๆ (ห่วงลูกสาวนั้นแหละ อิอิ) แต่สรุปไปๆมาๆโดนเพื่อนเทค่า คือพ่อเค้าไม่ให้ไป ก็เลยไปไม่ได้ เรานี่เคว้งเลย
แต่ก็ไม่ยอมแพ้หรอกเฟ้ย ไปคนเดียวก็ได้ ......โอเคหาข้อมูล
“ฮาร์บิน” ..... เมืองนี้น่าสนใจดีแฮะ คนที่นี่ส่วนใหญ่ใช้ภาษาจีนกลางกัน (学汉语普通话到哈尔滨) การคมนาคมก็สะดวก มหาลัยอยู่ใจกลางเมือง จะเดินทางไปไหนได้ สบายๆ ที่สำคัญคือค่าครองชีพถู้กถูก อย่างค่ารถโดยสารประจำทางนี่ 1 หยวนตลอดสาย (1 หยวน ประมาณ 5 บาท)
[ขอโทษคุณลุงเสื้อน้ำตาลด้วยนะค้า TOT]
รถใต้ดินก็แค่ 2 หยวนเอง ส่วนค่าอาหารก็ราคาก็พอๆกะที่ไทยเลย ถึงแม้จะมีฤดูหนาวถึงครึ่งปีก็ตาม แต่เราก็ไม่หวั่นค่ะ เอาเมืองนี้แหละ ต่อไปเลือกมหาลัยอะไรดีน้า
“ฮาร์กงต้า (哈工大)” มหา’ลัยนี้ก็โอแฮะ ติดอันดับที่ 7 มหา’ลัยที่ดีที่สุดในจีนด้วย ส่วนเรื่องการสอนภาษาก็ถือว่ามาตรฐานใช้ได้ เค้าว่ากันว่าอาจารย์ที่นี่ค่อนข้างจะเข้มงวดนิสนึง เด็กที่นี่ก็เรียนกันโฮ้ดโหด (ล้ะมันก็เป็นแบบนั้นเจรงๆ T^T’) แต่เราชอบนะ เพราะเป้าหมายของเราคือ เรียนภาษาจีนให้ได้ภาษาจีน (แอบกระซิบนิดนึงว่าม.นี้เกาหลีโอ๊ปป้าเยอะมาก รัสเซียก็เช่นกัน คนไทยก็เยอะขึ้นกว่าเมื่อก่อนด้วยแต่ก็ไม่เยอะเท่าเมืองใหญ่ๆๆอย่างปักกิ่งและเซี่ยงไฮ : แต่เราก็เลือกได้เนอะว่าจะเลือกคบกับเพื่อนกลุ่มไหน)
อ้อ เกือบลืมบอกไป ที่ฮาร์กงต้ามีแบบให้แทรกคอร์สได้ด้วยน้า (สำหรับคนที่มีพื้นฐานภาษาจีนเท่านั้น) ครั้งแรกที่มาเราเรียนแทรกคอร์ส B 班 (ห้อง B) (รายละเอียดการเรียนเลื่อนดูด้านล่างน้า) ตอนสามสัปดาห์สุดท้ายของภาคการศึกษานั้น ค่าเรียนก็คิดแบบ >> เอาค่าเทอมทั้งหมดหารสี่ (หนึ่งเทอมมีสี่เดือน) ก็เท่ากับ 2,225 หยวน หรือประมาณ 11,125 บาท (ขาดทุนไปหนึ่งสัปดาห์ T^T)
เตรียมตัวออกเดินทาง :
ช่วงที่เรามาเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ (ปลายพฤษภา) ของฮาร์บิน อากาศที่นี่ก็จะไม่ต่างจากบ้านเราเท่าไหร่ เสื้อผ้าที่ใส่ตอนอยู่ไทยก็มาใส่ที่นี่ในช่วงนี้ได้ ส่วนอาหารที่เตรียมมาก็พวกอาหารแห้ง มาม่า ปลากระป๋องอะไรพวกนี้ (ใครที่ชอบกินเผ็ดก็อย่าลืมติดน้ำพริกมาด้วยน้า เพราะพริกที่นี่โคตรจะไม่เผ็ดเลย)
[มาม่าที่จีนซองละ 6 หยวนนะฮ้าบบบ ---> 30 บาท]
เอาล่ะเก็บกระเป๋าเรียบร้อย ออกเดินทางกัน >>>
เราเลือกเดินทางของ China Eastern Airline เค้าให้น้ำหนักกระเป๋า 46 กิโลกรัม (วีซ่านักเรียน) ค่าเครื่องก็อยู่ที่ประมาณ 18,000 บาท (ไป-กลับ) ไปต่อเครื่องที่เซี่ยงไฮ้ มีอาหารให้ทั้งสองมื้อเบย อิ่ม(แต่ไม่ค่อย)อร่อย 5555
อย่างที่บอกไปว่าเราเดินทางมาคนเดียว แต่พอถึงสนามบินฮาร์บินก็มีพี่คนไทยมารับ เรารู้สึกโชคดีมากอ่ะที่ได้เจอพี่เค้า เพราะก่อนจะมาถึงที่นี่ได้ พี่เค้าคอยช่วยให้คำแนะนำเรามาตลอด นี่ก็แอบคิดว่า ถ้าไม่มีพี่เค้าเราคงไม่เดินมาถึงจุดนี้...แบบราบรื่น (แอบกระซิบนิดนึงว่าพี่เค้าเป็นแอดมินเพจ
Study in Harbin เรียนภาษาจีนกลาง https://www.facebook.com/StudyinHarbin/ ใครที่สนใจจะมาเรียนภาษาที่นี่ก็ปรึกษาพี่เค้าได้นะคะ พี่เค้าน่ารักจิงๆ เป็นที่ปรึกษาได้ดีมั๊กๆ เป็นกันเองฝุดๆพี่เค้าให้คำแนะนำและดำเนินการเรื่องเอกสารให้ทั้งหมดไม่คิกค่าดำเนินการเลยสักบาทเดียวว ค่าเรียนเราก็มาจ่ายเองวันลงทะเบียนที่มหาวิทยาลัย *0*)
มาถึงฮาร์บินแล้วก็แวะดูบ้านเมืองเค้าหน่อยเนอะ :
[เมืองฮาร์บิน]
[เดินเล่นสวยๆในสวนสาธารณะ 555]
[ใช่ค่ะ จขกท.เป็นคนขาใหญ่ 5555 โฟกัสวิวกันนะคะ]
[极乐寺 พวกเราเรียกกันว่า “วัดเต่า” ด้านหลังเป็นสวนสนุกเล็กๆที่มีชิงช้าสวรรค์โดดเด่นเป็นสง่า อิอิ๊]
[โบสถ์เซ็นท์โซเฟีย (St.Sophea) เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของที่นี่ ใครไม่มาที่นี่ถือว่ายังมาไม่ถึงฮาร์บินนะ อิอิ]
[บริเวณรอบๆโบสถ์]
[ถนนจงยาง (中央大街) ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่ไม่ควรพลาด อาคารต่างๆมีสไตล์การก่อสร้างเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ยุคบารอคและไบแซนไทน์ ปัจจุจันอาคารเหล่านี้ถูกปรับแต่งให้เป็นห้างสรรพสินค้า แต่ก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์เอาไว้ ส่วนพื้นถนนจะปูด้วยหินสีเขียวอ่อน ถือเป็นถนนย่านธุรกิจและการค้าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในฮาร์บิน]
[รูปนี้ถ่ายตรงถนนใกล้ๆกะกับมหา’ลัย ถ่ายตอนเดินไปจ่ายตลาดเช้า]
ค่าครองชีพ :
[เมนูแรกขอแนะนำ麻辣串 หรือ “หมาล่าช่วน” (ไม่ได้ทำจากเนื้อสุนัขนะคะทุกคน ‘หมา’ในที่นี้หมายถึง (ความรู้สึก)ชา) อารมณ์ลูกชิ้นเสียบไม้ที่ต้มในน้ำซุป มาจิ้มกับน้ำจิ้มถั่วแสนอร่อย โอ๊ยยยย ฟินนน... แต่ครั้งแรกที่เพื่อนพาไป จขกท.ก็ไม่ค่อยกล้ากินหรอกนะ 555 มันดูไม่ค่อยสะอาด แต่พอกินแล้วติดใจหว่ะ ไปกินเกือบทุกสัปดาห์เลย อิอิ๊ นี่ไม้ละ 1 หยวนเอง ถูกไปอี๊กกก]
[麻辣烫 (หมาล่าทาง) ทางร้านจะมีพวกเนื้อ และผักสดๆตั้งไว้ให้เราตักตามใจชอบ แล้วเอาไปต้ม ออกมาก็จะได้อย่างในรูป รสชาติจะชาๆนิดนึง แต่สำหรับเรา เราว่าอร่อยนะ ครั้งนี้ตักเยอะไปหน่อย ถ้วยนี้ประมาณ 18 หยวน กินถ้วยเดียวอยู่ได้ทั้งวัน 5555 ]
[ที่จขกท.ชอบมากที่สุดก็คือ 麻辣香锅 ‘หมาล่าเซียงกัว’เค้าจะเอาผักและเนื้อสัตว์ที่เราเลือกไปผัดในอะไรก็ไม่รู้ แต่อร่อยเชี่ยๆ เอามากินกับข้าวสวยร้อนๆนะ โอ๊ยยย โคตรฟิน ถ้าวยนี้ก็อยู่ที่ประมาณ 16 หยวน]
[เราเรียกมันว่าเครปจีน แป้งบางกรอบ เคลือบไข่ไก่ ใส่ไส้กรอกข้าวโพด ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะของร้าน อิ่มอร่อย 8 หยวน]
[นี่ก็เป็นอีกอย่างที่เค้ากินบ่อยๆ ข้าวไก่กรอบราดซอสมะเขือเทศมายองเนส พร้อมยำผักลวก คือให้มาเยอะมาก ตอนมาแรกๆกินจานเดียวไม่หมดหรอก แต่อยู่ไปๆก็เริ่ม(กินเยอะจน)ชินล้ะ 5555 นี่แค่ 10 หยวนเองนะ แถมน้ำผลไม้ฟรี 1 กล่อง อิ่ม อร่อยยยยยยยยย]
[ข้าวหมูผัดผงกะหรี่สไตล์ไชนีส เห็นจานเท่านี้นะแค่ 15 หยวนเอง]
[ขอบอกว่าร้านอาหารเกาหลีที่นี่เยอะมากกกก อร่อย แถมราคายังไม่แพงด้วย อย่างหมึกผัดกิมจิจานนี้แค่ 15 หยวนเอง]
[หมูสามชั้นผัดกิมจิสุดฟิน 14 หยวน]
[หมูสามชั้นผัดกิมจิสุดฟิน 14 หยวน]
[ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่อร่อยอ่ะ]
[ทาร์ตไข่ชิ้นละ 1 หยวน]
อย่างที่บอกไปว่าค่าครองชีพของฮาร์บินถูกมากถ้าเทียบกับเมืองอื่นในจีน เงินค่ากินขนมของเราจะอยู่ที่ประมาณเดือนละ 9,000 บาท (มีเงินเหลือเก็บไว้อีกต่างหาก) เราชอบทำอาหารกินเองด้วย ก็เลยประหยัดเงินไปได้เยอะมาก เพราะอาหารสดที่นี่ถูกมาก ผักกาดขาวหัวใหญ่ๆที่นี่ขายแค่หัวละ 1 หยวนเอง
[อันนี้เป็นเมนูกับข้าว ให้เยอะมาก กินกันได้ทั้งตำบล ให้ข้าวเปล่าฟรีไม่อั้น]
[ร้านไก่ทอดไต้หวัน อร่อยบอกต่อเลยยย ราคาไม่แพงด้วย ให้เยอะมาก นี่กินได้ 2 มื้อ]
[ร้านนี้ก็เป็นแนวอาหารเช้า ซาลาเปาร้านนี้อร่อยมาก ^_^]
[ขนม 手抓饼 อารมณ์ประมาณแป้งโรตีกลมๆ กรอบๆ ข้างในก็จะเป็นไส้ซึ่งแล้วแต่เราจะสั่ง เราชอบกินไส้ไก่ ราดด้วยน้ำจิ้มสูตรเด็ดของร้าน แค่ 20 บาทเอง อิ่มอร่อยสบายกระเป๋า]
[ยี่ห้อคุ้นๆเนอะ 555 ไก่ร้านนี้ราคาโอเคอยู่ อกไก่เล็ก 500g 6.88 หยวนเอง ที่ตกใจคือตับไก่ 500g แค่ 1.68 หยวนเองถูกไปไหน ถูกได้อีก เอ๊ะ หรือว่าที่ไทยก็ราคาประมาณนี้]
[ผลไม้]
[ราคาผักต่อ 500g]
[ผักสดๆ ราคาเหมือนแจกฟรี]
เรียนภาษาจีนที่ประเทศจีน 1 เดือน ด้วยงบเพียงแค่สามหมื่นต้นๆ เมืองฮาร์บิน ตู้เย็นของโลก ไม่ง้อเอเจนซี่
ก่อนเข้าเรื่องขอเล่าที่มาที่ไปหน่อยเนอะว่าไปไงมาไงถึงมาเรียนที่นี่ได้ : ตอนแรกเราตกลงกับเพื่อน (ต่างมหา’ลัย) ว่าจะมาเรียนซัมเมอร์ที่จีนด้วยกัน (ไปกับโครงการของมหา’ลัยเพื่อน) บอกเลยว่าเราดีใจมากกกก เพราะอยากมาเรียนที่จีนตั้งแต่มัธยมแล้ว ก็ขออนุญาตขุ่นแม่เรียบร้อย ขุ่นแม่ให้ผ่าน ดีใจขึ้นมาอีกเป็นสิบเท่า เพราะปกติแม่ไม่ค่อยให้ไปไหนไกลๆ (ห่วงลูกสาวนั้นแหละ อิอิ) แต่สรุปไปๆมาๆโดนเพื่อนเทค่า คือพ่อเค้าไม่ให้ไป ก็เลยไปไม่ได้ เรานี่เคว้งเลย
แต่ก็ไม่ยอมแพ้หรอกเฟ้ย ไปคนเดียวก็ได้ ......โอเคหาข้อมูล
“ฮาร์บิน” ..... เมืองนี้น่าสนใจดีแฮะ คนที่นี่ส่วนใหญ่ใช้ภาษาจีนกลางกัน (学汉语普通话到哈尔滨) การคมนาคมก็สะดวก มหาลัยอยู่ใจกลางเมือง จะเดินทางไปไหนได้ สบายๆ ที่สำคัญคือค่าครองชีพถู้กถูก อย่างค่ารถโดยสารประจำทางนี่ 1 หยวนตลอดสาย (1 หยวน ประมาณ 5 บาท)
รถใต้ดินก็แค่ 2 หยวนเอง ส่วนค่าอาหารก็ราคาก็พอๆกะที่ไทยเลย ถึงแม้จะมีฤดูหนาวถึงครึ่งปีก็ตาม แต่เราก็ไม่หวั่นค่ะ เอาเมืองนี้แหละ ต่อไปเลือกมหาลัยอะไรดีน้า
“ฮาร์กงต้า (哈工大)” มหา’ลัยนี้ก็โอแฮะ ติดอันดับที่ 7 มหา’ลัยที่ดีที่สุดในจีนด้วย ส่วนเรื่องการสอนภาษาก็ถือว่ามาตรฐานใช้ได้ เค้าว่ากันว่าอาจารย์ที่นี่ค่อนข้างจะเข้มงวดนิสนึง เด็กที่นี่ก็เรียนกันโฮ้ดโหด (ล้ะมันก็เป็นแบบนั้นเจรงๆ T^T’) แต่เราชอบนะ เพราะเป้าหมายของเราคือ เรียนภาษาจีนให้ได้ภาษาจีน (แอบกระซิบนิดนึงว่าม.นี้เกาหลีโอ๊ปป้าเยอะมาก รัสเซียก็เช่นกัน คนไทยก็เยอะขึ้นกว่าเมื่อก่อนด้วยแต่ก็ไม่เยอะเท่าเมืองใหญ่ๆๆอย่างปักกิ่งและเซี่ยงไฮ : แต่เราก็เลือกได้เนอะว่าจะเลือกคบกับเพื่อนกลุ่มไหน)
อ้อ เกือบลืมบอกไป ที่ฮาร์กงต้ามีแบบให้แทรกคอร์สได้ด้วยน้า (สำหรับคนที่มีพื้นฐานภาษาจีนเท่านั้น) ครั้งแรกที่มาเราเรียนแทรกคอร์ส B 班 (ห้อง B) (รายละเอียดการเรียนเลื่อนดูด้านล่างน้า) ตอนสามสัปดาห์สุดท้ายของภาคการศึกษานั้น ค่าเรียนก็คิดแบบ >> เอาค่าเทอมทั้งหมดหารสี่ (หนึ่งเทอมมีสี่เดือน) ก็เท่ากับ 2,225 หยวน หรือประมาณ 11,125 บาท (ขาดทุนไปหนึ่งสัปดาห์ T^T)
เตรียมตัวออกเดินทาง :
ช่วงที่เรามาเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ (ปลายพฤษภา) ของฮาร์บิน อากาศที่นี่ก็จะไม่ต่างจากบ้านเราเท่าไหร่ เสื้อผ้าที่ใส่ตอนอยู่ไทยก็มาใส่ที่นี่ในช่วงนี้ได้ ส่วนอาหารที่เตรียมมาก็พวกอาหารแห้ง มาม่า ปลากระป๋องอะไรพวกนี้ (ใครที่ชอบกินเผ็ดก็อย่าลืมติดน้ำพริกมาด้วยน้า เพราะพริกที่นี่โคตรจะไม่เผ็ดเลย)
เอาล่ะเก็บกระเป๋าเรียบร้อย ออกเดินทางกัน >>>
เราเลือกเดินทางของ China Eastern Airline เค้าให้น้ำหนักกระเป๋า 46 กิโลกรัม (วีซ่านักเรียน) ค่าเครื่องก็อยู่ที่ประมาณ 18,000 บาท (ไป-กลับ) ไปต่อเครื่องที่เซี่ยงไฮ้ มีอาหารให้ทั้งสองมื้อเบย อิ่ม(แต่ไม่ค่อย)อร่อย 5555
อย่างที่บอกไปว่าเราเดินทางมาคนเดียว แต่พอถึงสนามบินฮาร์บินก็มีพี่คนไทยมารับ เรารู้สึกโชคดีมากอ่ะที่ได้เจอพี่เค้า เพราะก่อนจะมาถึงที่นี่ได้ พี่เค้าคอยช่วยให้คำแนะนำเรามาตลอด นี่ก็แอบคิดว่า ถ้าไม่มีพี่เค้าเราคงไม่เดินมาถึงจุดนี้...แบบราบรื่น (แอบกระซิบนิดนึงว่าพี่เค้าเป็นแอดมินเพจ Study in Harbin เรียนภาษาจีนกลาง https://www.facebook.com/StudyinHarbin/ ใครที่สนใจจะมาเรียนภาษาที่นี่ก็ปรึกษาพี่เค้าได้นะคะ พี่เค้าน่ารักจิงๆ เป็นที่ปรึกษาได้ดีมั๊กๆ เป็นกันเองฝุดๆพี่เค้าให้คำแนะนำและดำเนินการเรื่องเอกสารให้ทั้งหมดไม่คิกค่าดำเนินการเลยสักบาทเดียวว ค่าเรียนเราก็มาจ่ายเองวันลงทะเบียนที่มหาวิทยาลัย *0*)
มาถึงฮาร์บินแล้วก็แวะดูบ้านเมืองเค้าหน่อยเนอะ :
ค่าครองชีพ :
อย่างที่บอกไปว่าค่าครองชีพของฮาร์บินถูกมากถ้าเทียบกับเมืองอื่นในจีน เงินค่ากินขนมของเราจะอยู่ที่ประมาณเดือนละ 9,000 บาท (มีเงินเหลือเก็บไว้อีกต่างหาก) เราชอบทำอาหารกินเองด้วย ก็เลยประหยัดเงินไปได้เยอะมาก เพราะอาหารสดที่นี่ถูกมาก ผักกาดขาวหัวใหญ่ๆที่นี่ขายแค่หัวละ 1 หยวนเอง