ในกล่องเข้ามาถามกันประปรายเกี่ยวกับประโยชน์ทางโภชนาการของผู้ที่ถูกขนานนามว่า “ตัวแทนประกันชีวิต” คิด ๆ แล้วก็สงสัย มีไว้แค่เก็บเบี้ย เดินเอกสาร แค่นั้นไม่น่าจะช่วยอะไรได้ ค่าคอมมิชชั่นเป็นเงินสด เอามาเป็นส่วนลดให้ฉันดีกว่า กลายเป็นแข่งกันว่า “ส่วนลด” เยอะกว่าถือว่าเป็นตัวแทนที่ดี แม่มณีเห็นแล้วก็เลยอยากจะมาสดุดีถึงวีรกรรมอันมิค่อยจะได้มีการเปิดเผยสักเท่าไหร่ ให้ได้เห็นว่า “ตัวแทนเก่ง ๆ ดี ๆ” รักษาผลประโยชน์ให้คุณได้มากมายกว่าส่วนลดที่ได้ถมไปนะเจ้าคะ
กรณีต่าง ๆ เหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่แม่มณีประสบพบเจอจากบ่าวไพร่ ที่กระจายตัวอยู่ตามบริษัทต่าง ๆ ว่าง ๆ เค้าก็นั่งจับเข่าเม้าส์กันในเรือนครัว แม่มณีขอไม่เปิดตัวว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นที่บริษัทใด เพราะไม่ใช่สาระ ตัวแทนเก่ง หรือ เฮงซวยก็มีคละ ๆ ปะปนกันไปทุกบริษัทน่ะแหล่ะ
เรื่องแรกเป็นกรณีคลาสสิค ฝ่ายสินไหมจ่ายเงินขาดไปหนึ่งคืน เกิดขึ้นได้บ่อยครั้งหากเราพลาดพลั้งป่วยมิรู้เวล่ำเวลา หาโรงหมอหลังเที่ยงคืน ใบเสร็จโรงพยาบาลก็จะขึ้นว่าเป็นวันที่ถัดไป ถ้าเคลมได้ที่โรงพยาบาลไม่ต้องสำรองจ่ายก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเกิดต้องสำรองจ่ายแล้วเอาใบเสร็จไปเคลมทีหลัง หลายครั้งที่ฝ่ายสินไหมพลาดพลั้งเคลมตกไปหนึ่งวันให้เห็นกันบ่อย ๆ ยกตัวอย่างว่าเข้าโรงพยาบาลคืนวันที่ 13 เวลาสองยามครึ่ง (เที่ยงคืนครึ่ง) โรงพยาบาลก็นับคืนวันที่ 13 เป็นหนึ่งคืนด้วยนะเธอ ออกจากโรงพยาบาลวันที่ 15 สิบโมงเช้า ในใบเสร็จ / ใบรับรองแพทย์ส่วนใหญ่ก็จะขึ้นว่า นอนโรงพยาบาลวันที่ 14-15 เคลมออกมาได้หนึ่งคืน แต่โรงพยาบาลคิดค่ารักษาสองคืนนะจ้ะตัวเอง ฝ่ายสินไหมอ่านเอกสารไปลืมดูเวลาเข้าโรงพยาบาล เห็นบ่าวไพร่คุยว่าก็พลาดเหมือน ๆ กันหลายบริษัท ตัวแทนที่ดีจะเช็ครายละเอียดสินไหมที่อนุมัติว่าถูกต้องมั้ย แล้วก็ทำเรื่องให้เราได้เคลมเต็มจำนวนสองคืนโดยเราไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าเราไม่มีตัวแทนดี ๆ ต้องทำเรื่องเอง ก็หนุกหนานกับการโทรเจาะเกราะหา Call Center เดินเรื่องเดินเอกสารกับบริษัทประกันก็ไม่ง่ายเหมือนกัน แถมน่ารำคาญอีกต่างหาก
เคสที่สอง บ่าวไพร่สายแข็งของแม่มณีเพิ่งช่วยลูกค้า ขอทบทวนการพิจารณาสินไหมค่ารถพยาบาล สามีเต้นซุมบ้าอยู่บนคอนโดไฮโซชั้น 30 ผิดจังหวะไปนิดจี๊ดสันหลังขึ้นมา ล้มลงไปนอนลุกไม่ขึ้น เจ็บหลังปวดตัว อยู่กันแค่เมียผัวสองคน จากชั้น 30 ลงสู่พื้นดิน เมียเอกก็มิกล้า ยกสามีสุ่มสี่สุ่มห้า กลัวว่าจะหลังเดาะหนักกว่าเดิม เรียกรถพยาบาลแถบสุขุมวิท ชื่อ สะ-มิด ... โดนค่ารถพยาบาลไปหกพัน ประกันไม่จ่ายจร้า!!! เนื่องจากว่าหมอเขียนในใบรับรองแพทย์ว่าเป็นแค่ “กล้ามเนื้ออักเสบ” ฝ่ายสินไหมอ่านแค่เอกสาร พาลรู้สึกว่ามันต้องเรียกรถพยาบาลตรงไหนเนี่ย.. แต่เคสเนี้ยตัวแทนเขียนหนังสือชี้แจงเหตุการณ์และเหตุผลอันสมควร ลูกค้าไม่ต้องครวญครางอะไร บริษัทประกันก็ตามจ่ายเคลมค่ารถพยาบาลคืนมาให้สบาย ๆ ไม่ต้องมีดราม่า
เคสสุดท้ายแม่มณีอยากแชร์ไว้ อยากจะให้เหรียญกล้าหาญกับบ่าวไพร่ พลิกเคลมจากที่บริษัทปฏิเสธไปแล้วกลายเป็นยอมจ่ายให้เต็มจำนวน ผลงานล้วน ๆ มาจากความอุตสาหะของตัวแทน เคสนี้ค่ารักษาสองแสนนะจ้ะ ถ้าลูกค้าต้องเดินเรื่องเอง บอกได้คำเดียวเลยว่า “ยาวววว”
เรื่องมีอยู่ว่าลูกค้าเคลมค่ารักษาผ่าตัดไซนัส ซึ่งที่ตัดสินใจผ่าก็เพราะมั่นใจว่าตัวเองมีประกัน ไม่งั้นก็คงยอมปวดหัวคิ้วชิลล์ต่อไป หรือไม่ก็ไปผ่าโรงพยาบาลรัฐ แต่นี่จัดโรงพยาบาลเอกชน เพราะมั่นใจในสิทธิ์ประกันของตนบวกกับความมั่นใจว่าตัวเองไม่เคยเป็นมาก่อนจริง ๆ ทำประกันไปแค่ 5 เดือน จ่ายเบี้ยหลักหมื่นเคลมผ่าตัดหลักแสนคุ้มจริงหนอ เอาเลยหมอ ผ่าโลด สองแสนกว่าอย่าไปกลัว ผ่าเสร็จหายปวดหัวโล่งจมูก แต่มาจุกดอกแรกประกันให้สำรองจ่ายก่อนเพื่อเช็คประวัติการรักษา เอาวะ! รูดบัตรไปก่อน ถือว่าได้พอยต์ กรูคอยได้ กรูโลกสวย รอผลการพิจารณา 7 เดือนกว่าปรากฎว่า “ปฏิเสธ” แม่เจ้าโว้ยยยย! โลกกรูมืดมนเช่นนี้ใครจะรับผิดชอบ กระสอบทรายอันดับหนึ่ง คือ “ตัวแทน” บ่าวไพร่ต้องรับคำด่าแทนบริษัท หลังจากจัดหนักไปสองชั่วโมง เริ่มเลยเถิด ฟ้อง แม่มเลยดีกว่า ยังงี้มันมาโกงกันชัด ๆ แต่บ่าวไพร่แม่มณีคนนี้จัดว่าเป็นตัวท้อป ค่อย ๆ ดรอปความก้าวร้าวของลูกค้า และสนทนาหาทางช่วยเหลือ เมื่อมั่นใจว่าลูกค้าไม่ได้ปกปิดมาก่อนจริง ๆ ก็ติดต่อยิงตรงกับฝ่ายสินไหมว่าทำไมปฏิเสธ ไปได้ประวัติจากโรงพยาบาลอะไรว่าลูกค้าเป็นมาก่อนทำประกัน แม่มณีนั้นก็เพิ่งรู้ว่าบริษัทประกันจะปิดเป็นความลับว่าได้ประวัติมาจากโรงพยาบาลอะไร บอกได้แค่วันที่ชัดเจนว่าประวัติการรักษาโรคไซนัสเกิดขึ้นวันไหนที่เป็นเหตุให้ปฏิเสธสินไหม ลูกค้าก็ไล่มาให้ประมาณสี่ห้าโรงพยาบาล บ่าวไพร่แม่มณีนั้นไปตามขอประวัติมาจากโรงพยาบาลที่คิดว่าเป็นไปได้ มานั่งอ่านไล่หาร้อยกว่าหน้า จึงไปเจอว่า “โรงพยาบาลปั้มวันที่ผิดไปปีนึง” แม่มณียังทึ่งว่าแบบนี้ก็มีด้วย ปั้มวันที่ป่วยผิด พ.ศ. งานนี้ก็จบแฮปปี้เอ็นดิ้ง บ่าวไพร่เดินเรื่องให้โรงพยาบาลเขียนจดหมายชี้แจงมาที่บริษัทประกัน สุดท้ายนั้นบริษัทประกันก็อนุมัติเคลมมาครบจำนวน ฝีมือและความอดทนล้วน ๆ ของตัวแทน แสนจะน่าภูมิใจในวีรกรรมบ่าวไพร่ ที่ทำให้ลูกค้ากลับมาโลกสวยได้เหมือนเดิม
ตัวแทนเก่ง ๆ ดี ๆ นอกจากจะมีการบริการที่ดีแล้วไซร้ ยังช่วยเราได้ยามที่เราต้องเจอกับปัญหา แม้เค้าจะโดนเราด่ากระจุย แต่ก็ยังลุยให้เราจนถึงที่สุด อยู่ในจุดที่เป็นทั้งตัวแทนของลูกค้าและตัวแทนของบริษัท ถ้าเราจะจัดประกันซักเล่ม เราก็ต้องเข้มข้นในการค้นหาตัวแทนที่มีคุณภาพด้วย เกิดเคสเฮงซวยจะได้มีคนช่วยกัน ตัวแทนดี ๆ ซักคนนั้นมีมูลค่ามากกว่าส่วนลดมากมาย แม่มณีไม่ได้หมายความว่าตัวแทนที่ลดราคานั้นไม่ดี แค่อยากจะชี้ว่าส่วนลดไม่ใช่สิ่งเดียวที่ต้องพิจารณา แล้วก็อย่าไปบี้ขอให้เค้าลดค่าคอมฯจนหมดนะจ้ะ ไม่งั้นเค้าจะเอาเงินที่ไหนมาเหลือเป็นต้นทุนบริการ คิดซะว่าตัวแทนกับลูกค้าก็เหมือนน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ตัวแทนทั้งดีและฉลาด ตลาดนั้นต้องการนะเธอว์ เจอแล้วก็จงรักษาน้ำใจและหวงแหน มนุษย์ตัวแทนเค้าก็มีหัวใจ บ่าวไพร่แม่มณีเค้าฝากมาเตือนนน อิอิ
วีรกรรมบ่าวไพร่ ตัวแทนดี พิทักษ์ทรัพย์ ได้นับแสน โดย เเม่มณี Ms.Many
ในกล่องเข้ามาถามกันประปรายเกี่ยวกับประโยชน์ทางโภชนาการของผู้ที่ถูกขนานนามว่า “ตัวแทนประกันชีวิต” คิด ๆ แล้วก็สงสัย มีไว้แค่เก็บเบี้ย เดินเอกสาร แค่นั้นไม่น่าจะช่วยอะไรได้ ค่าคอมมิชชั่นเป็นเงินสด เอามาเป็นส่วนลดให้ฉันดีกว่า กลายเป็นแข่งกันว่า “ส่วนลด” เยอะกว่าถือว่าเป็นตัวแทนที่ดี แม่มณีเห็นแล้วก็เลยอยากจะมาสดุดีถึงวีรกรรมอันมิค่อยจะได้มีการเปิดเผยสักเท่าไหร่ ให้ได้เห็นว่า “ตัวแทนเก่ง ๆ ดี ๆ” รักษาผลประโยชน์ให้คุณได้มากมายกว่าส่วนลดที่ได้ถมไปนะเจ้าคะ
กรณีต่าง ๆ เหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่แม่มณีประสบพบเจอจากบ่าวไพร่ ที่กระจายตัวอยู่ตามบริษัทต่าง ๆ ว่าง ๆ เค้าก็นั่งจับเข่าเม้าส์กันในเรือนครัว แม่มณีขอไม่เปิดตัวว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นที่บริษัทใด เพราะไม่ใช่สาระ ตัวแทนเก่ง หรือ เฮงซวยก็มีคละ ๆ ปะปนกันไปทุกบริษัทน่ะแหล่ะ
เรื่องแรกเป็นกรณีคลาสสิค ฝ่ายสินไหมจ่ายเงินขาดไปหนึ่งคืน เกิดขึ้นได้บ่อยครั้งหากเราพลาดพลั้งป่วยมิรู้เวล่ำเวลา หาโรงหมอหลังเที่ยงคืน ใบเสร็จโรงพยาบาลก็จะขึ้นว่าเป็นวันที่ถัดไป ถ้าเคลมได้ที่โรงพยาบาลไม่ต้องสำรองจ่ายก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเกิดต้องสำรองจ่ายแล้วเอาใบเสร็จไปเคลมทีหลัง หลายครั้งที่ฝ่ายสินไหมพลาดพลั้งเคลมตกไปหนึ่งวันให้เห็นกันบ่อย ๆ ยกตัวอย่างว่าเข้าโรงพยาบาลคืนวันที่ 13 เวลาสองยามครึ่ง (เที่ยงคืนครึ่ง) โรงพยาบาลก็นับคืนวันที่ 13 เป็นหนึ่งคืนด้วยนะเธอ ออกจากโรงพยาบาลวันที่ 15 สิบโมงเช้า ในใบเสร็จ / ใบรับรองแพทย์ส่วนใหญ่ก็จะขึ้นว่า นอนโรงพยาบาลวันที่ 14-15 เคลมออกมาได้หนึ่งคืน แต่โรงพยาบาลคิดค่ารักษาสองคืนนะจ้ะตัวเอง ฝ่ายสินไหมอ่านเอกสารไปลืมดูเวลาเข้าโรงพยาบาล เห็นบ่าวไพร่คุยว่าก็พลาดเหมือน ๆ กันหลายบริษัท ตัวแทนที่ดีจะเช็ครายละเอียดสินไหมที่อนุมัติว่าถูกต้องมั้ย แล้วก็ทำเรื่องให้เราได้เคลมเต็มจำนวนสองคืนโดยเราไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าเราไม่มีตัวแทนดี ๆ ต้องทำเรื่องเอง ก็หนุกหนานกับการโทรเจาะเกราะหา Call Center เดินเรื่องเดินเอกสารกับบริษัทประกันก็ไม่ง่ายเหมือนกัน แถมน่ารำคาญอีกต่างหาก
เคสที่สอง บ่าวไพร่สายแข็งของแม่มณีเพิ่งช่วยลูกค้า ขอทบทวนการพิจารณาสินไหมค่ารถพยาบาล สามีเต้นซุมบ้าอยู่บนคอนโดไฮโซชั้น 30 ผิดจังหวะไปนิดจี๊ดสันหลังขึ้นมา ล้มลงไปนอนลุกไม่ขึ้น เจ็บหลังปวดตัว อยู่กันแค่เมียผัวสองคน จากชั้น 30 ลงสู่พื้นดิน เมียเอกก็มิกล้า ยกสามีสุ่มสี่สุ่มห้า กลัวว่าจะหลังเดาะหนักกว่าเดิม เรียกรถพยาบาลแถบสุขุมวิท ชื่อ สะ-มิด ... โดนค่ารถพยาบาลไปหกพัน ประกันไม่จ่ายจร้า!!! เนื่องจากว่าหมอเขียนในใบรับรองแพทย์ว่าเป็นแค่ “กล้ามเนื้ออักเสบ” ฝ่ายสินไหมอ่านแค่เอกสาร พาลรู้สึกว่ามันต้องเรียกรถพยาบาลตรงไหนเนี่ย.. แต่เคสเนี้ยตัวแทนเขียนหนังสือชี้แจงเหตุการณ์และเหตุผลอันสมควร ลูกค้าไม่ต้องครวญครางอะไร บริษัทประกันก็ตามจ่ายเคลมค่ารถพยาบาลคืนมาให้สบาย ๆ ไม่ต้องมีดราม่า
เคสสุดท้ายแม่มณีอยากแชร์ไว้ อยากจะให้เหรียญกล้าหาญกับบ่าวไพร่ พลิกเคลมจากที่บริษัทปฏิเสธไปแล้วกลายเป็นยอมจ่ายให้เต็มจำนวน ผลงานล้วน ๆ มาจากความอุตสาหะของตัวแทน เคสนี้ค่ารักษาสองแสนนะจ้ะ ถ้าลูกค้าต้องเดินเรื่องเอง บอกได้คำเดียวเลยว่า “ยาวววว”
เรื่องมีอยู่ว่าลูกค้าเคลมค่ารักษาผ่าตัดไซนัส ซึ่งที่ตัดสินใจผ่าก็เพราะมั่นใจว่าตัวเองมีประกัน ไม่งั้นก็คงยอมปวดหัวคิ้วชิลล์ต่อไป หรือไม่ก็ไปผ่าโรงพยาบาลรัฐ แต่นี่จัดโรงพยาบาลเอกชน เพราะมั่นใจในสิทธิ์ประกันของตนบวกกับความมั่นใจว่าตัวเองไม่เคยเป็นมาก่อนจริง ๆ ทำประกันไปแค่ 5 เดือน จ่ายเบี้ยหลักหมื่นเคลมผ่าตัดหลักแสนคุ้มจริงหนอ เอาเลยหมอ ผ่าโลด สองแสนกว่าอย่าไปกลัว ผ่าเสร็จหายปวดหัวโล่งจมูก แต่มาจุกดอกแรกประกันให้สำรองจ่ายก่อนเพื่อเช็คประวัติการรักษา เอาวะ! รูดบัตรไปก่อน ถือว่าได้พอยต์ กรูคอยได้ กรูโลกสวย รอผลการพิจารณา 7 เดือนกว่าปรากฎว่า “ปฏิเสธ” แม่เจ้าโว้ยยยย! โลกกรูมืดมนเช่นนี้ใครจะรับผิดชอบ กระสอบทรายอันดับหนึ่ง คือ “ตัวแทน” บ่าวไพร่ต้องรับคำด่าแทนบริษัท หลังจากจัดหนักไปสองชั่วโมง เริ่มเลยเถิด ฟ้อง แม่มเลยดีกว่า ยังงี้มันมาโกงกันชัด ๆ แต่บ่าวไพร่แม่มณีคนนี้จัดว่าเป็นตัวท้อป ค่อย ๆ ดรอปความก้าวร้าวของลูกค้า และสนทนาหาทางช่วยเหลือ เมื่อมั่นใจว่าลูกค้าไม่ได้ปกปิดมาก่อนจริง ๆ ก็ติดต่อยิงตรงกับฝ่ายสินไหมว่าทำไมปฏิเสธ ไปได้ประวัติจากโรงพยาบาลอะไรว่าลูกค้าเป็นมาก่อนทำประกัน แม่มณีนั้นก็เพิ่งรู้ว่าบริษัทประกันจะปิดเป็นความลับว่าได้ประวัติมาจากโรงพยาบาลอะไร บอกได้แค่วันที่ชัดเจนว่าประวัติการรักษาโรคไซนัสเกิดขึ้นวันไหนที่เป็นเหตุให้ปฏิเสธสินไหม ลูกค้าก็ไล่มาให้ประมาณสี่ห้าโรงพยาบาล บ่าวไพร่แม่มณีนั้นไปตามขอประวัติมาจากโรงพยาบาลที่คิดว่าเป็นไปได้ มานั่งอ่านไล่หาร้อยกว่าหน้า จึงไปเจอว่า “โรงพยาบาลปั้มวันที่ผิดไปปีนึง” แม่มณียังทึ่งว่าแบบนี้ก็มีด้วย ปั้มวันที่ป่วยผิด พ.ศ. งานนี้ก็จบแฮปปี้เอ็นดิ้ง บ่าวไพร่เดินเรื่องให้โรงพยาบาลเขียนจดหมายชี้แจงมาที่บริษัทประกัน สุดท้ายนั้นบริษัทประกันก็อนุมัติเคลมมาครบจำนวน ฝีมือและความอดทนล้วน ๆ ของตัวแทน แสนจะน่าภูมิใจในวีรกรรมบ่าวไพร่ ที่ทำให้ลูกค้ากลับมาโลกสวยได้เหมือนเดิม
ตัวแทนเก่ง ๆ ดี ๆ นอกจากจะมีการบริการที่ดีแล้วไซร้ ยังช่วยเราได้ยามที่เราต้องเจอกับปัญหา แม้เค้าจะโดนเราด่ากระจุย แต่ก็ยังลุยให้เราจนถึงที่สุด อยู่ในจุดที่เป็นทั้งตัวแทนของลูกค้าและตัวแทนของบริษัท ถ้าเราจะจัดประกันซักเล่ม เราก็ต้องเข้มข้นในการค้นหาตัวแทนที่มีคุณภาพด้วย เกิดเคสเฮงซวยจะได้มีคนช่วยกัน ตัวแทนดี ๆ ซักคนนั้นมีมูลค่ามากกว่าส่วนลดมากมาย แม่มณีไม่ได้หมายความว่าตัวแทนที่ลดราคานั้นไม่ดี แค่อยากจะชี้ว่าส่วนลดไม่ใช่สิ่งเดียวที่ต้องพิจารณา แล้วก็อย่าไปบี้ขอให้เค้าลดค่าคอมฯจนหมดนะจ้ะ ไม่งั้นเค้าจะเอาเงินที่ไหนมาเหลือเป็นต้นทุนบริการ คิดซะว่าตัวแทนกับลูกค้าก็เหมือนน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ตัวแทนทั้งดีและฉลาด ตลาดนั้นต้องการนะเธอว์ เจอแล้วก็จงรักษาน้ำใจและหวงแหน มนุษย์ตัวแทนเค้าก็มีหัวใจ บ่าวไพร่แม่มณีเค้าฝากมาเตือนนน อิอิ