1. ประเภทครัว
ในปัจจุบันครัว ก็มีหลากหลายแบบให้เลือก ซึ่งก็มีข้อดี-ข้อเสีย ที่แตกต่างกันออกไป โดยหลักๆ จะแบ่งออกเป็น 4 แบบด้วยกัน คือ
- ครัวปูน : หากจะพูดถึงเรื่องความทนทาน แข็งแรง ต้องยกให้ครัวปูนเป็นอันดับ 1 เลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะทำครัวหนักแค่ไหน ก็ไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย หรือเสียหายได้ยากและมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างนาน
จึงเหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่ทำครัวหนัก หุง อุ่น ต้ม ผัด ทอด แบบจัดเต็ม แต่อาจไม่ถูกใจในเรื่องของความสวยงาม อีกทั้งเมื่อใช้ไปนานๆ อาจก่อให้เกิดกลิ่นอับได้อีกด้วยครับ
- ครัวสำเร็จรูป : หรือครัวแบบ Knock Down โดยจะเป็นครัวประกอบแบบสำเร็จ จึงทำให้มีความรวดเร็ว สะดวกในการติดตั้ง ซึ่งดูมีความทันสมัย สวยงามและมีหลากหลายแบบให้เลือก เหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่ทำครัวไม่หนักมาก โดยส่วนใหญ่จะนิยมใช้กับคอนโด แต่ทั้งนี้ขนาดครัวอาจจะไม่พอดีกับพื้นที่ เนื่องจากครัวสำเร็จรูปจะมีการกำหนดขนาดไว้อย่างเรียบร้อยแล้ว
- ครัวบิวท์อิน : จะมีลักษณะคล้ายกับครัวแบบสำเร็จรูป โดยจะมีความแตกต่างกันคือ สามารถสั่งทำได้ตามขนาด รูปแบบที่ต้องการ ซึ่งจะทำให้ได้ขนาดที่พอดีกับพื้นที่ รวมไปถึงในเรื่องของความทันสมัย ความสวยงาม ส่วนใหญ่นิยมใช้กับบ้านและคอนโด สามารถทำได้ทั้งครัวหนัก ครัวเบา แต่ไม่ทนทาน เท่าครัวปูน อีกทั้งยังมีราคาที่ค่อนข้างสูงครับ
- ครัวสแตนเลส : จะมีความทนทาน รักษาความสะอาดได้ง่าย และไม่เป็นรอยขูดขีด ซึ่งมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างนาน เหมาะสำหรับการทำครัวที่หนักมากๆ ส่วนใหญ่นิยมใช้ในภัตรคาร และ ร้านอาหารใหญ่ๆ ครับ
2. วัสดุที่เลือกใช้ ตอบโจทย์การใช้งาน
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่น้อย สำหรับการเลือกใช้วัสดุของเคาน์เตอร์ครัว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเพื่อนๆ ด้วยเช่นกัน ว่าต้องการทำครัวหนักมากน้อยเพียงใด เพราะวัสดุแต่ละตัว ก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป อาทิ
- หินอ่อน : จะให้ในเรื่องของความสวยงาม หรูหรา สามารถทนน้ำ ทนความร้อนได้ดี แต่เป็นรอยขูดขีดได้ง่ายหากไม่ระมัดระวัง อีกทั้งยังมีราคาสูงอีกด้วย
- หินแกรนิต : จะมีความคงทนแข็งแรง ทนต่อทุกสภาพอากาศ สามารถดูแลรักษาได้ง่าย มีความสวยงาม และราคาไม่สูงมาก แต่ดูดซับน้ำค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับวัสดุอื่นๆ
- หินสังเคราะห์ : จะทนต่อความร้อน และ ทนต่อการขีดข่วน ซึ่งคุณภาพจะดีกว่าหินอ่อนและหินแกรนิต จึงทำให้มีราคาค่อนข้างสูง
- ไม้ : จะให้ความเป็นธรรมชาติ และมีหลากหลายแบบให้เลือก สามารถทำความสะอาดได้ง่าย แต่ไม่ค่อยถูกกับน้ำ เพราะเมื่อโดนน้ำอาจก่อให้เกิดเป็นดวงหรือรอยได้
- ลามิเนต : ถือเป็นวัสดุที่นิยมใช้ ซึ่งมีให้เลือกมากมายหลากหลายสี สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ราคาไม่แพง แต่ไม่ทนต่อความร้อน และเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย
- กระเบื้อง : สามารถทำความสะอาดได้ง่าย และทนความร้อนได้ดี แต่มักจะเกิดการแตกหักจนอาจทำให้กระเบื้องหลุดร่อนได้
3. ขนาดห้องครัว
ก่อนที่เพื่อนๆ จะทำการเลือกเคาน์เตอร์ครัวนั้น เราแนะนำให้มีการวัดขนาดพื้นที่ภายในห้องครัวที่แน่นอน ชัดเจน เพราะจะทำให้สามารถเลือกเคาร์เตอร์ครัวได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้ได้ขนาดที่พอดี ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป แต่หากเลือกเป็นครัวบิ้วท์อิน สำหรับข้อนี้คงหมดปัญหาไปได้เลย
4. สไตล์การตกแต่งและความชอบ
ทั้งหมดนี้ก็คงต้องขึ้นอยู่กับความชอบ รวมไปถึงสไตล์การตกแต่งบ้านของแต่ละบุคคล เพราะครัวแต่ละแบบก็ให้ความสวยงามและมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป หรืออาจจะมีการเลือกใช้วัสดุ โทนสีให้เหมาะกับสไตล์การตกแต่งบ้านก็สามารถทำได้เช่นกันครับ
Cr.Author infinity
Designer.Aof Asgard Design
Picture. Asgard Design
"4TIPS" การเลือกเคาน์เตอร์ครัว
1. ประเภทครัว
ในปัจจุบันครัว ก็มีหลากหลายแบบให้เลือก ซึ่งก็มีข้อดี-ข้อเสีย ที่แตกต่างกันออกไป โดยหลักๆ จะแบ่งออกเป็น 4 แบบด้วยกัน คือ
- ครัวปูน : หากจะพูดถึงเรื่องความทนทาน แข็งแรง ต้องยกให้ครัวปูนเป็นอันดับ 1 เลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะทำครัวหนักแค่ไหน ก็ไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย หรือเสียหายได้ยากและมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างนาน
จึงเหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่ทำครัวหนัก หุง อุ่น ต้ม ผัด ทอด แบบจัดเต็ม แต่อาจไม่ถูกใจในเรื่องของความสวยงาม อีกทั้งเมื่อใช้ไปนานๆ อาจก่อให้เกิดกลิ่นอับได้อีกด้วยครับ
- ครัวสำเร็จรูป : หรือครัวแบบ Knock Down โดยจะเป็นครัวประกอบแบบสำเร็จ จึงทำให้มีความรวดเร็ว สะดวกในการติดตั้ง ซึ่งดูมีความทันสมัย สวยงามและมีหลากหลายแบบให้เลือก เหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่ทำครัวไม่หนักมาก โดยส่วนใหญ่จะนิยมใช้กับคอนโด แต่ทั้งนี้ขนาดครัวอาจจะไม่พอดีกับพื้นที่ เนื่องจากครัวสำเร็จรูปจะมีการกำหนดขนาดไว้อย่างเรียบร้อยแล้ว
- ครัวบิวท์อิน : จะมีลักษณะคล้ายกับครัวแบบสำเร็จรูป โดยจะมีความแตกต่างกันคือ สามารถสั่งทำได้ตามขนาด รูปแบบที่ต้องการ ซึ่งจะทำให้ได้ขนาดที่พอดีกับพื้นที่ รวมไปถึงในเรื่องของความทันสมัย ความสวยงาม ส่วนใหญ่นิยมใช้กับบ้านและคอนโด สามารถทำได้ทั้งครัวหนัก ครัวเบา แต่ไม่ทนทาน เท่าครัวปูน อีกทั้งยังมีราคาที่ค่อนข้างสูงครับ
- ครัวสแตนเลส : จะมีความทนทาน รักษาความสะอาดได้ง่าย และไม่เป็นรอยขูดขีด ซึ่งมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างนาน เหมาะสำหรับการทำครัวที่หนักมากๆ ส่วนใหญ่นิยมใช้ในภัตรคาร และ ร้านอาหารใหญ่ๆ ครับ
2. วัสดุที่เลือกใช้ ตอบโจทย์การใช้งาน
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่น้อย สำหรับการเลือกใช้วัสดุของเคาน์เตอร์ครัว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเพื่อนๆ ด้วยเช่นกัน ว่าต้องการทำครัวหนักมากน้อยเพียงใด เพราะวัสดุแต่ละตัว ก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป อาทิ
- หินอ่อน : จะให้ในเรื่องของความสวยงาม หรูหรา สามารถทนน้ำ ทนความร้อนได้ดี แต่เป็นรอยขูดขีดได้ง่ายหากไม่ระมัดระวัง อีกทั้งยังมีราคาสูงอีกด้วย
- หินแกรนิต : จะมีความคงทนแข็งแรง ทนต่อทุกสภาพอากาศ สามารถดูแลรักษาได้ง่าย มีความสวยงาม และราคาไม่สูงมาก แต่ดูดซับน้ำค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับวัสดุอื่นๆ
- หินสังเคราะห์ : จะทนต่อความร้อน และ ทนต่อการขีดข่วน ซึ่งคุณภาพจะดีกว่าหินอ่อนและหินแกรนิต จึงทำให้มีราคาค่อนข้างสูง
- ไม้ : จะให้ความเป็นธรรมชาติ และมีหลากหลายแบบให้เลือก สามารถทำความสะอาดได้ง่าย แต่ไม่ค่อยถูกกับน้ำ เพราะเมื่อโดนน้ำอาจก่อให้เกิดเป็นดวงหรือรอยได้
- ลามิเนต : ถือเป็นวัสดุที่นิยมใช้ ซึ่งมีให้เลือกมากมายหลากหลายสี สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ราคาไม่แพง แต่ไม่ทนต่อความร้อน และเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย
- กระเบื้อง : สามารถทำความสะอาดได้ง่าย และทนความร้อนได้ดี แต่มักจะเกิดการแตกหักจนอาจทำให้กระเบื้องหลุดร่อนได้
3. ขนาดห้องครัว
ก่อนที่เพื่อนๆ จะทำการเลือกเคาน์เตอร์ครัวนั้น เราแนะนำให้มีการวัดขนาดพื้นที่ภายในห้องครัวที่แน่นอน ชัดเจน เพราะจะทำให้สามารถเลือกเคาร์เตอร์ครัวได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้ได้ขนาดที่พอดี ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป แต่หากเลือกเป็นครัวบิ้วท์อิน สำหรับข้อนี้คงหมดปัญหาไปได้เลย
4. สไตล์การตกแต่งและความชอบ
ทั้งหมดนี้ก็คงต้องขึ้นอยู่กับความชอบ รวมไปถึงสไตล์การตกแต่งบ้านของแต่ละบุคคล เพราะครัวแต่ละแบบก็ให้ความสวยงามและมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป หรืออาจจะมีการเลือกใช้วัสดุ โทนสีให้เหมาะกับสไตล์การตกแต่งบ้านก็สามารถทำได้เช่นกันครับ
Cr.Author infinity
Designer.Aof Asgard Design
Picture. Asgard Design