1. โรงเรียนธารทิพย์ (ภายใต้มูลนิธิธารทิพย์ธารธรรม) เป็นโรงเรียนเอกชนไม่แสวงหากำไร ช่วยเหลือผู้ดอยโอกาส ได้จัดทำโครงการเพื่อก่อสร้างบ้านพักนักเรียนด้อยโอกาส จากรัฐบาลญี่ปุ่นตามโครงการความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ (จีจีพี) เป็นส่วนหนึ่งใน Official Development Assistance (ODA) Scheme (ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ หรือโอดีเอ) เพื่อช่วยเหลือประเทศที่กำลังพัฒนา โดยการสนับสนุนด้านเงินทุนแก่องค์กรที่ไม่ได้แสวงหาผลกำไรที่ดำเนินกิจกรรมทางด้านการพัฒนาสังคมในประเทศไทย
2. ในข้อเสนอโครงการที่เสนอก่อสร้างบ้านพัก รัฐบาลญี่ปุ่นแจ้งว่างบประมาณก่อสร้างที่เสนอราคาจะต้องไม่รวมภาษีใดๆ (เนื่องจากข้อตกลงระหว่างประเทศ) มูลนิธิฯ จึงแจ้งให้ผู้รับเหมาเสนอราคาโดยไม่รวมภาษี (ข้อเสนอราคาของผู้รับเหมา เสนอราคาที่ 3.3 ล้าน)
3. ภายหลังจัดส่งโครงการแล้ว หลังจากนั้นมูลนิธิธารทิพย์ธารธรรม ได้รับแจ้งว่ารัฐบาลญี่ปุ่น โดยกงสุลใหญ่ ณ นครเชียงใหม่ อนุมัติบริจาคเงินให้ก่อสร้างอาคารบ้านพักนักเรียนด้อยโอกาส จำนวน 1 หลัง เป็นเงิน 3.3 ล้านบาท
4. กงสุลใหญ่ ณ นครเชียงใหม่ ลงนามความตกลงร่วมมือ (MOU) กับมูลนิธิธารทิพย์ธารธรรม ในการสนับสนุนเงินงบประมาณของโครงการ
5. รัฐบาลญี่ปุ่นเรียกมูลนิธิฯ ไปประชุมหารือ และแจ้งว่า ค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนโครงการดังกล่าวจะไม่สนับสนุนภาษีและการจัดเก็บภาษีต่างๆให้กับรัฐบาลไทย (ภาษีมูลค่าเพิ่มอัตราร้อยละ 0)
6. มูลนิธิธารทิพย์ธารธรรม ได้ทำสัญญาจ้างผู้รับเหมา โดยแจ้งผู้รับเหมาว่าเสนอราคาโดยไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาที่ผู้รับเหมาเสนอจึงเป็นราคาที่ไม่รวมภาษี
(รัฐบาลญี่ปุ่น บริจาค >>>มูลนิธิธารทิพย์ธารธรรม ทำสัญญาจ้าง>>>ผู้รับเหมา )
คำถามคือ
1) ในกรณีนี้มูลนิธิธารทิพย์ธารธรรมไม่ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นองค์กรการกุศล แต่ "ผู้รับหมา" ซึ่งเสนอราคาโดยไม่รวม VAT จะต้องยื่นเอกสารต่อสรรพากรโดยอ้างอิงระเบียบ กฎหมาย หรือประกาศกรมสรรพากรฉบับใด หรือต้องมีหนังสือรับรองใด จึงจะสามารถยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้เป็น 0%
2) นิติกรสรรพากรจังหวัด อ้างอิงว่า ต้องยึดประกาศกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ฉบับที่ 28 >>> ปัญหาคือ ประกาศฉบับดังกล่าวครอบคลุมเฉพาะส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจ ไม่ได้ครอบคลุมมูลนิธิหรือองค์กรการกุศล
ขอความรู้จากท่านผู้รู้ทางด้านภาษีด้วยครับ
การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) กรณีได้รับบริจาคจากรัฐบาลญี่ปุ่น
2. ในข้อเสนอโครงการที่เสนอก่อสร้างบ้านพัก รัฐบาลญี่ปุ่นแจ้งว่างบประมาณก่อสร้างที่เสนอราคาจะต้องไม่รวมภาษีใดๆ (เนื่องจากข้อตกลงระหว่างประเทศ) มูลนิธิฯ จึงแจ้งให้ผู้รับเหมาเสนอราคาโดยไม่รวมภาษี (ข้อเสนอราคาของผู้รับเหมา เสนอราคาที่ 3.3 ล้าน)
3. ภายหลังจัดส่งโครงการแล้ว หลังจากนั้นมูลนิธิธารทิพย์ธารธรรม ได้รับแจ้งว่ารัฐบาลญี่ปุ่น โดยกงสุลใหญ่ ณ นครเชียงใหม่ อนุมัติบริจาคเงินให้ก่อสร้างอาคารบ้านพักนักเรียนด้อยโอกาส จำนวน 1 หลัง เป็นเงิน 3.3 ล้านบาท
4. กงสุลใหญ่ ณ นครเชียงใหม่ ลงนามความตกลงร่วมมือ (MOU) กับมูลนิธิธารทิพย์ธารธรรม ในการสนับสนุนเงินงบประมาณของโครงการ
5. รัฐบาลญี่ปุ่นเรียกมูลนิธิฯ ไปประชุมหารือ และแจ้งว่า ค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนโครงการดังกล่าวจะไม่สนับสนุนภาษีและการจัดเก็บภาษีต่างๆให้กับรัฐบาลไทย (ภาษีมูลค่าเพิ่มอัตราร้อยละ 0)
6. มูลนิธิธารทิพย์ธารธรรม ได้ทำสัญญาจ้างผู้รับเหมา โดยแจ้งผู้รับเหมาว่าเสนอราคาโดยไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาที่ผู้รับเหมาเสนอจึงเป็นราคาที่ไม่รวมภาษี
(รัฐบาลญี่ปุ่น บริจาค >>>มูลนิธิธารทิพย์ธารธรรม ทำสัญญาจ้าง>>>ผู้รับเหมา )
คำถามคือ
1) ในกรณีนี้มูลนิธิธารทิพย์ธารธรรมไม่ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นองค์กรการกุศล แต่ "ผู้รับหมา" ซึ่งเสนอราคาโดยไม่รวม VAT จะต้องยื่นเอกสารต่อสรรพากรโดยอ้างอิงระเบียบ กฎหมาย หรือประกาศกรมสรรพากรฉบับใด หรือต้องมีหนังสือรับรองใด จึงจะสามารถยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้เป็น 0%
2) นิติกรสรรพากรจังหวัด อ้างอิงว่า ต้องยึดประกาศกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ฉบับที่ 28 >>> ปัญหาคือ ประกาศฉบับดังกล่าวครอบคลุมเฉพาะส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจ ไม่ได้ครอบคลุมมูลนิธิหรือองค์กรการกุศล
ขอความรู้จากท่านผู้รู้ทางด้านภาษีด้วยครับ