John Wick: Chapter 2 – แรงกว่านรก 2



          John Wick: Chapter 2 (2017) คือ การกลับมาอีกครั้งของคีอานู รีฟส์ ซึ่งเคยฝากฝีไม้ลายมือไว้ใน John Wick (2014) ไปแล้ว ที่เซอร์ไพร์สยิ่งกว่านั้น นั่นคือ John Wick: Chapter 2 ยังเป็นการกลับมาพบกันอีกครั้งของ Keanu Reeves และ Laurence Fishburne จากที่ทั้งคู่เคยได้พบกันใน The Matrix ด้วย ซึ่งในภาคนี้ ผู้สร้างยังคงทำหนังได้ดีเหมือนเดิม หนังสามารถสร้างกระแสและกวาดรายได้ได้อย่างมากมาย John Wick: Chapter 2 ยังคงสนุก มันส์ แถมเนื้อเรื่องในภาคนี้ยังดีกว่าภาคก่อนอีกด้วย

          John Wick: Chapter 2 กำกับโดย Chad Stahelski (อดีต Stunt man จาก The Matrix) สำหรับภาคนี้ มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการหวนคืนวงการนักฆ่าอีกครั้งของ John Wick โดย John Wick ต้องการจะกลับมามีชีวิตอย่างสงบ หลังจากที่ไปฆ่าเขย่าวงการในภาคที่แล้ว ยังไม่ทันจะได้พักผ่อน ก็โดนอดีตเพื่อนนักฆ่า Santino D'Antonio กลับมาขอร้องจอห์น วิค ให้ช่วยไปฆ่าพี่สาวของเขา โดยการฆ่าครั้งนี้ ก็จะถือเป็นการใช้หนี้ตราเลือดที่เคยติดไว้กับซานติโนด้วย จอห์นปฏิเสธที่จะทำภารกิจนี้ ซานติโนจึงถล่มบ้านจอห์นอีกครั้ง เพื่อขู่จอห์นให้ช่วยทำภารกิจให้เขา เป็นเหตุให้จอห์นต้องกลับคืนสู่วงการอีกครั้ง เพื่อใช้หนี้ตราเลือดและแก้แค้นที่โดนซานติโนถล่มบ้าน


John Wick: Chapter 2 : เนื้อเรื่องดีกว่าภาคแรก & มีฐานเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ขึ้น

          สำหรับ John Wick: Chapter 2 ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมของหนังไว้อย่างเหนียวแน่น คือ การฆ่าและล้างแค้นผู้ที่ขวางทางจอห์นทุกคน เนื้อหาภาคนี้ดีกว่าเดิม มีเหตุผลมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากหนังมีการขยายเรื่องราว สร้างโลกของวงการนักฆ่าให้ชัดเจนขึ้นไปอีกระดับ โลกของนักฆ่ามีกฎเป็นของตัวเอง มีตราเลือด มีคอนทิเนนทัล สภาสูงและผู้คุมกฎในวงการ (ซึ่งนักฆ่าใดๆก็จะละเมิดไม่ได้) อีกทั้งหนังสร้างโลกและบรรยากาศที่ทำให้ทุกคนสามารถเป็นนักฆ่าได้ ภาคนี้จึงมีเนื้อหาที่หนักแน่นและมีเรื่องราวหลายอย่างให้โยงไปมาได้มากมายด้วยขอบเขตฐานเนื้อเรื่องที่กว้างขึ้น การขยายเนื้อเรื่องในภาคนี้ ถือเป็นสิ่งที่ผมคิดว่าผู้กำกับเดินมาถูกทางมาก เพราะ ผู้สร้างสามารถขยายภาคต่อได้อย่างสบาย มีวัตถุดิบให้เลือกใช้อีกมากมายในภาคถัดไป (ซึ่งก็น่าจะมีการสร้างภาคต่อนะครับ)

          ที่ประทับใจในเนื้อเรื่องภาคนี้อีกอย่าง คือ การจบหนังได้อย่างสมบูรณ์มาก ในตอนจบของภาคนี้ คือ การจบเพื่อเปิดทางสู่ภาคสามได้อย่างดีเยี่ยม จอห์นวิคได้ทำในสิ่งที่ไม่คาดคิดและเขาไม่สามารถที่จะหันกลับสู่เส้นทางเดิมได้อีกแล้ว


การดำเนินเรื่องสไตล์ John Wick : คุยกันด้วยปืนมากกว่าคุยด้วยคำพูด

          ในส่วนการดำเนินเรื่อง ยังคงเป็นไปตามสไตล์ภาคแรกเหมือนเดิมเป๊ะ คือ เป็นหนังแอ็คชันที่คุยกันด้วยปืนมากกว่าใช้ปากพูด หนังพูดกันนับคำได้ นอกนั้นคือ การยิงกันล้วนๆ (ได้ยินเสียงปืนมากกว่าเสียงพูดอีก 555) ซึ่งหนังก็ทำได้มันส์ ยิงกันทะลุจอ ส่วนในเรื่องของเทคนิคการถ่ายทำ มุมกล้อง เทคนิคหนัง ก็ยังคล้ายภาคแรก ไม่ได้แตกต่างอะไรมาก (แต่ยังคงทำได้ดีและยังคงความมันส์เหมือนเดิม) หนังสามารถดีไซน์ท่าต่อสู้ได้สวยงาม ทั้งท่ายิง ท่าสู้ด้วยศิลปะป้องกันตัว โดยรวมแล้วน่าประทับใจ

          ที่ชอบอีกอย่าง ก็คือ บรรยากาศหนังที่ให้สีโทนมืด เน้นโทนเข้มๆ เคร่งขรึม เหมือนบรรยากาศโลกที่มืดมน มันช่วยสร้างบรรยากาศให้โลกธรรมดากลายเป็นเมืองแห่งนักฆ่าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เป็นโลกที่ไม่น่าไว้วางใจ หนังสร้างคาแรคเตอร์ตัวละครต่างๆ ได้ดีขึ้น ตัวละครแต่ละตัวดูมีคลาส มีระดับ สมกับเป็นคู่ต่อสู้ที่จอห์น วิค ต้องรับมือด้วย (ดูไม่ใช่ศัตรูกระจอกอีกต่อไป) แถม Location ยังไปไล่ฆ่ากันในกรุงโรมที่มีบรรยากาศยิ่งใหญ่ เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมมากมาย แต่คลาสสิค ก็ยิ่งให้อารมณ์เป็นวงการนักฆ่าที่มีคลาสมากขึ้น

          ส่วนข้อเสียในมุมมองผม ก็คือ จอห์น วิค เก่งไปหน่อย โคตรมนุษย์อึด ถึก ทน ในภาคนี้ลูกสมุนก็ดูไม่อ่อน แต่พี่แกก็ยังสามารถหักกระดูกแต่ละคนได้อย่างไม่ยากเย็น พวกลูกสมุนที่เดินเข้ามา ก็โดนยิงย้ำหัวทุกตัว (ถ้ามองแบบไม่คิดมาก ยังไงพี่จอห์น วิค ก็เป็นนักฆ่ามือหนึ่งของวงการจะเก่งขนาดนี้ก็ไม่แปลกอะไร 555)

          ในภาคนี้แม้ว่าเนื้อเรื่องจะดีขึ้น แต่เนื้อเรื่องก็ไม่ได้ละเอียดลึกอะไรมากมาย หนังแทบไม่ได้คุยด้วยปากแต่คุยด้วยปืน สำหรับคนที่ชอบหนังที่มีเนื้อเรื่องแน่น หรือพวกสไตล์หนังรางวัลที่มีเหตุผลสูง ถ้าจะดูจอห์น วิค ก็ต้องปล่อยวางหน่อย อย่าไปคิดมาก ส่วนใครที่เป็นคอหนังแอ็คชันอยู่แล้ว John Wick : Chapter 2 คือ หนังที่ห้ามพลาด ยิ่งถ้าใครเคยดูภาคหนึ่งแล้วชอบ ภาคนี้สนุกยิ่งกว่าภาคหนึ่งอีกครับ (แต่ถ้าใครเฉยๆกับภาคหนึ่ง ก็แล้วแต่วิจารณญาณละกันนะครับ เพราะ สไตล์หนังก็ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมเหมือนภาคหนึ่ง 555)


นักแสดง : คาแรคเตอร์แต่ละตัวดูดียิ่งขึ้นสมกับเป็นศัตรูจอห์น วิค

          ในส่วนนักแสดง ก็แสดงได้ดีทุกคนในแนวทางหนังแอ็คชัน ภาคนี้ตัวละครแต่ละตัวมีเสน่ห์มากขึ้น ทั้งนักแสดงหน้าเดิมและหน้าใหม่

          John Wick (Keanu Reeves) ยังคงเท่เหมือนเดิม พูดน้อย ต่อยหนัก ยิ่งภาคนี้ไล่ฆ่ากันในโรม พี่แกใส่สูทตลอดเวลา ก็เท่ขึ้นไปอีก และอีกสองคนที่ชอบมาก คนแรกก็คือ Winston (Ian McShane) - เจ้าของโรงแรมคอนทิเนนทัล ผมรู้สึกว่าลุงแกแสดงได้ดูมีอิทธิพลกับโลกนักฆ่าจริงๆ แถมยังดูมีบารมี มีเสน่ห์แบบลุ่มลึก เป็นคนที่น่าเกรงขามและใครๆก็เกรงใจ ส่วนคนที่สอง Charon (Lance Reddick) - บุรุษผู้ดูแลคอนทิเนนทัล ผมชอบดี รู้สึกว่าแกเป็นสัญลักษณ์ของ John Wick 555

          ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ ที่ผมชอบคาแรคเตอร์ ก็มี Santino (Riccardo Scamarcio) – คู่แค้นจอห์น วิคในภาคนี้ , Bowery King (Laurence Fishburne) – ผู้มีอิทธิพลแห่งโลกใต้ดิน , Cassian (Common) – นักฆ่าคู่กัดจอห์นวิค , Ares (Ruby Rose) – นักฆ่าสาวศัตรูจอห์น วิค , Gianna D'Antonio (Claudia Gerini) – พี่สาวของซานติโน (ชอบฉากตอนเธอตายมาก) , Aurelio (John Leguizamo) – เพื่อนจอห์น เจ้าของอู่รถ


ดนตรีประกอบภาพยนตร์ : สร้างโลกแห่งนักฆ่าและคาแรคเตอร์ John Wick ได้ดีมาก

John Wick Chapter 2 Soundtrack - Le Castle Vania - John Wick Mode (Club Scene Music)

          สำหรับ John Wick: Chapter 2 ได้รับการประพันธ์โดย Tyler Bates และ Joel J. Richard หนังยังมีกลิ่นอายดนตรีเหมือนเดิม คล้ายๆกับในภาคแรก คือ ระทึกมันส์และสร้างบรรยากาศของโลกนักฆ่าได้ดี มีการผสมผสานดนตรีอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาด้วย

Coronation - feat. Ciscandra Nostalghia (John Wick: Chapter 2 OST)

Plastic Heart - feat. Ciscandra Nostalghia (John Wick: Chapter 2 OST)

สรุป

          John Wick: Chapter 2 สำหรับผมให้ 8/10 (เนื้อเรื่อง 7.5/10 แต่ความมันส์ บู๊ เดือด 8.5/10) John Wick: Chapter 2 ถือเป็นหนังแอ็คชันที่ทำได้ดี หนังยังคงคอนเซ็ปต์คล้ายภาคแรก คือ เน้นไปที่การไล่ล่า ฆ่า แก้แค้น ซึ่งในภาคนี้มีการขยายฐานเนื้อเรื่องให้กว้างขึ้น ทำให้โลกของ John Wick ดูมีอะไรที่หลากหลาย เป็นโลกแห่งมาเฟีย & นักฆ่ามากขึ้น ส่วนในการดำเนินเรื่อง ก็ทำได้สนุก มันส์ ยิงกันจุใจเช่นเคย แถมหนังยังมีดีไซน์ Production ต่างๆ ที่ดีกว่าภาคแรก ดูหรูหรา มีคลาสกว่า ตัวละครแต่ละคนก็มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ซึ่งโดยรวมแล้ว ผมถือว่าภาคนี้ดีกว่าภาคแรกครับ

          หากคุณชอบดูหนังแอ็คชันหรือเคยดู John Wick ภาคหนึ่งแล้วติดใจ John Wick: Chapter 2 จะทำให้คุณหลงรัก John Wick ยิ่งกว่าเดิม หรือถ้าหากใครเครียด ปวดหัว อย่างจะดูหนังระบายอารมณ์ที่ไม่ต้องใช้เหตุผลมาก แต่ได้ความสะใจเต็มสูบ John Wick: Chapter 2 ก็เป็นตัวเลือกที่พลาดไม่ได้

8/10

John Wick: Chapter 2 (2017)
After returning to the criminal underworld to repay a debt, John Wick discovers that a large bounty has been put on his life.
Director: Chad Stahelski
Writers: Derek Kolstad, Derek Kolstad (based on characters created by)
Stars: Keanu Reeves, Riccardo Scamarcio, Ian McShane


ป.ล.ใครประทับใจฉากใด คิดเห็นอย่างไรก็มาพูดคุยกันได้นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สำหรับผม
- ชอบฉากตอนจบมากๆเลย ที่ Winston สั่งให้หยุด แล้วคนทั้งสวนสาธารณะหยุดในฉับพลัน     
- ชอบฉากยิงกันในห้องกระจก
- ชอบฉากฆ่าด้วยดินสอ (โหดดี 555)
- ชอบฉากไล่ล่ากันตอนแรก

ป.ล.2 แปะเพลงไว้ให้นะครับ ชอบมากๆเลย รู้สึกเป็นเพลงที่แสดงถึงตัวตนของ John Wick

Marilyn Manson feat Tyler Bates - Killing Strangers (John Wick Soundtrack)

ป.ล.3 เกร็ดเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ John Wick: Chapter 2

' 10 เรื่องควรรู้ เตรียมพร้อมก่อนดู John Wick 2 '

http://movie.kapook.com/view165716.html

สุดท้าย หากชอบรีวิวหรืออยากติดตามพูดคุย สามารถติดตามได้ทาง Facebook อีกช่องทางนะครับ

https://www.facebook.com/BENJIREVIEW/