😎😎😎
เดินทางมาถึงภาค 4 แล้วสำหรับหนังแอ็คชั่นสุดมันส์ที่เริ่มต้นจากหมาตาย จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตถึงขั้นโค่นล้มองค์กร ภาคนี้เป็นภาคที่ Keanu Reeves และผู้กำกับถึงขั้นต้องบอกว่า จบภาคนี้แล้วต้องหยุดพักเบรกกันแล้ว เพราะหนังมันน่าจะสุดทางแล้วล่ะ แต่ในความสุดทาง ภาคนี้ก็ยังคงความดุเดือดไว้อย่างไม่เกรงใจสามภาคก่อนหน้า
😎😎😎
จอห์น วิค ยังคงพยายามดิ้นรนเพื่ออิสรภาพของเขา โดยครั้งนี้ต้องเผชิญหน้ากับ มาร์คีส์ เดอ กรามองต์ หัวหน้าคนใหม่ของสภาสูงแห่งองค์กรนักฆ่า ซึ่งทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่อสู้นองเลือกมากมาย รวมถึงคู่ต่อกรจากอดีตกับคู่ปรับเก่า เคน ที่ยิ่งทำลายปลายทางความสงบสุขของเขาในวงการอาชีพนักฆ่าที่อยากจะปลีกตัวหนี
😎😎😎
เป็นไปได้ยากมากๆ ที่หนังแอ็คชั่นเต็มตัวแบบนี้จะสามารถทำให้คนดูนั่งลุ้นไปกับมันได้ถึงเกือบๆ สามชั่วโมง แต่กับ JW4 ทำได้ครับ หนังที่มีความยาวเกือบสามชั่วโมง แต่อัดแน่นไปด้วยฉากแอ็คชั่นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพและความมันส์สุดๆ ซึ่งในภาคนี้ฉากแอ็คชั่นทุกฉากถูกออกแบบมาอย่างละเอียดปราณีต และทำให้ภาพออกมาดูไหลลื่นละมุนละไมมากๆ
😎😎😎
หลายๆ ฉากที่ดูแล้วไม่น่าจะออกมาได้ขนาดนี้แต่กลับทำออกมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็นฉากที่สู้กับที่วงเวียนประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) ฉากต่อสู้ที่บันได 200 ขั้น หรือแม้แต่ฉากต่อสู้ด้วยปืนไฟ ซึ่งฉากนี้คนที่ออกแบบฉากเรียกว่าอัจฉริยะมากๆ เอามุมมองจากด้านบนมาทำให้ฉากนี้กลายเป็นฉากที่ดูสนุกและสมบูรณ์แบบเอามากๆ
😎😎😎
ทางด้านเนื้อหา ผมว่าภาคนี้อาจจะอ่อนเรื่องเนื้อหาไปนิด เพราะไม่มีอะไรจะพูดถึงมากไปกว่าเดิมแล้ว หนังเลยเล่าถึงวิธีการที่จะทำให้ John Wick หลุดพ้นให้ได้ โดยเสริมเข้ามาด้วยตัวร้ายตัวใหม่อย่าง มาร์คีส์ เดอ กรามองต์, Mr.Nobody, และที่โดดเด่นที่สุดต้องยกให้ เคน ที่ได้ ดอนนี่เยน มารับบท ซึ่งตัวละครสองคนแรกถือว่าเป็นสีสันให้กับเรื่องได้อย่างดี แต่กับตัวละคร เคน ถือว่าเป็นตัวเด่นอีกตัวไม่แพ้ John Wick เลยทีเดียว
😎😎😎
และในความที่เนื้อเรื่องมันอาจจะถึงทางตันแล้ว หนังเลยต้องไปให้สุดทางในภาคนี้ ซึ่งบทสรุปของมันสำหรับผม ผมว่ามันสร้างความน่าเสียดายให้คนดูอย่างผมที่อยากเห็นตอนจบอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะถ้าจบแบบนี้มันเหมือนกับหนังตัดความสัมพันธ์ของคนรักที่ปูมานาน 9 ปีทิ้งไปอย่างไม่แยแส แต่กับบางคนก็อาจจะชอบตอนจบแบบนี้ก็ได้ ซึ่งก็แล้วแต่มุมมอง
😎😎😎
พอดูจบถึงรู้สึกว่า เออ ทำไม Keanu Reeves กับผู้กำกับของเรื่องถึงได้บอกว่า จะขอกพัก John Wick ไว้ก่อน ทั้งๆ ที่ค่ายหนังอยากให้สร้างต่อด้วยซ้ำ แต่ก็เข้าใจได้ว่า เหมือนหนังมันเดินทางมาอย่างดีมากจนมันเหนื่อยล้าแล้ว ถ้าฝืนไปต่ออาจจะกลายเป็นออกทะเลเหมือนหนังหลายๆ เรื่องที่ฝืนทำภาคต่อออกมาทั้งที่ไม่มีอะไรเลย แต่กับ JW เลือกที่จะหยุดเพื่อหาอะไรใหม่ๆ มาทำให้มันเกิดเป็นภาคต่อขึ้นมา ระหว่างนี้ก็ดูภาคแยก Spin-off อย่าง Ballerina หรือซีรี่ส์ The Continental ไปก่อนละกัน
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] [#Review] John Wick Chapter 4 - ดุ เดือด มันส์แบบไม่ต้องลืมหูลืมตา จบจากนี้ต้องพักก่อนสักหน่อยนะ
😎😎😎
เดินทางมาถึงภาค 4 แล้วสำหรับหนังแอ็คชั่นสุดมันส์ที่เริ่มต้นจากหมาตาย จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตถึงขั้นโค่นล้มองค์กร ภาคนี้เป็นภาคที่ Keanu Reeves และผู้กำกับถึงขั้นต้องบอกว่า จบภาคนี้แล้วต้องหยุดพักเบรกกันแล้ว เพราะหนังมันน่าจะสุดทางแล้วล่ะ แต่ในความสุดทาง ภาคนี้ก็ยังคงความดุเดือดไว้อย่างไม่เกรงใจสามภาคก่อนหน้า
😎😎😎
จอห์น วิค ยังคงพยายามดิ้นรนเพื่ออิสรภาพของเขา โดยครั้งนี้ต้องเผชิญหน้ากับ มาร์คีส์ เดอ กรามองต์ หัวหน้าคนใหม่ของสภาสูงแห่งองค์กรนักฆ่า ซึ่งทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่อสู้นองเลือกมากมาย รวมถึงคู่ต่อกรจากอดีตกับคู่ปรับเก่า เคน ที่ยิ่งทำลายปลายทางความสงบสุขของเขาในวงการอาชีพนักฆ่าที่อยากจะปลีกตัวหนี
😎😎😎
เป็นไปได้ยากมากๆ ที่หนังแอ็คชั่นเต็มตัวแบบนี้จะสามารถทำให้คนดูนั่งลุ้นไปกับมันได้ถึงเกือบๆ สามชั่วโมง แต่กับ JW4 ทำได้ครับ หนังที่มีความยาวเกือบสามชั่วโมง แต่อัดแน่นไปด้วยฉากแอ็คชั่นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพและความมันส์สุดๆ ซึ่งในภาคนี้ฉากแอ็คชั่นทุกฉากถูกออกแบบมาอย่างละเอียดปราณีต และทำให้ภาพออกมาดูไหลลื่นละมุนละไมมากๆ
😎😎😎
หลายๆ ฉากที่ดูแล้วไม่น่าจะออกมาได้ขนาดนี้แต่กลับทำออกมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็นฉากที่สู้กับที่วงเวียนประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) ฉากต่อสู้ที่บันได 200 ขั้น หรือแม้แต่ฉากต่อสู้ด้วยปืนไฟ ซึ่งฉากนี้คนที่ออกแบบฉากเรียกว่าอัจฉริยะมากๆ เอามุมมองจากด้านบนมาทำให้ฉากนี้กลายเป็นฉากที่ดูสนุกและสมบูรณ์แบบเอามากๆ
😎😎😎
ทางด้านเนื้อหา ผมว่าภาคนี้อาจจะอ่อนเรื่องเนื้อหาไปนิด เพราะไม่มีอะไรจะพูดถึงมากไปกว่าเดิมแล้ว หนังเลยเล่าถึงวิธีการที่จะทำให้ John Wick หลุดพ้นให้ได้ โดยเสริมเข้ามาด้วยตัวร้ายตัวใหม่อย่าง มาร์คีส์ เดอ กรามองต์, Mr.Nobody, และที่โดดเด่นที่สุดต้องยกให้ เคน ที่ได้ ดอนนี่เยน มารับบท ซึ่งตัวละครสองคนแรกถือว่าเป็นสีสันให้กับเรื่องได้อย่างดี แต่กับตัวละคร เคน ถือว่าเป็นตัวเด่นอีกตัวไม่แพ้ John Wick เลยทีเดียว
😎😎😎
และในความที่เนื้อเรื่องมันอาจจะถึงทางตันแล้ว หนังเลยต้องไปให้สุดทางในภาคนี้ ซึ่งบทสรุปของมันสำหรับผม ผมว่ามันสร้างความน่าเสียดายให้คนดูอย่างผมที่อยากเห็นตอนจบอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะถ้าจบแบบนี้มันเหมือนกับหนังตัดความสัมพันธ์ของคนรักที่ปูมานาน 9 ปีทิ้งไปอย่างไม่แยแส แต่กับบางคนก็อาจจะชอบตอนจบแบบนี้ก็ได้ ซึ่งก็แล้วแต่มุมมอง
😎😎😎
พอดูจบถึงรู้สึกว่า เออ ทำไม Keanu Reeves กับผู้กำกับของเรื่องถึงได้บอกว่า จะขอกพัก John Wick ไว้ก่อน ทั้งๆ ที่ค่ายหนังอยากให้สร้างต่อด้วยซ้ำ แต่ก็เข้าใจได้ว่า เหมือนหนังมันเดินทางมาอย่างดีมากจนมันเหนื่อยล้าแล้ว ถ้าฝืนไปต่ออาจจะกลายเป็นออกทะเลเหมือนหนังหลายๆ เรื่องที่ฝืนทำภาคต่อออกมาทั้งที่ไม่มีอะไรเลย แต่กับ JW เลือกที่จะหยุดเพื่อหาอะไรใหม่ๆ มาทำให้มันเกิดเป็นภาคต่อขึ้นมา ระหว่างนี้ก็ดูภาคแยก Spin-off อย่าง Ballerina หรือซีรี่ส์ The Continental ไปก่อนละกัน
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้