กฎแห่งกรรม คือ???

"กฎแห่งกรรม" คือ อะไร ? "กรรม" คือ กฎของเหตุและผล  นั่นคือ

"เหตุ" ที่ได้กระทำนำมาซึ่ง "ผล" ที่ต้องได้รับ

"ผล" ที่ได้รับอยู่ในขณะนี้แสดงถึง "เหตุ" ที่เคยกระทำไว้แต่ก่อน

มันเป็นเรื่องที่ ธรรมดามาก เหมือนกับที่ เราเพาะปลูกเมล็ดมะม่วง ต่อมาเราก็ได้รับต้นมะม่วงและเมื่อเราเห็นต้นมะม่วงโตเราก็จะย่อมรู้ได้ว่า มันมาจากเมล็ดมะม่วง เช่นเดียวกัน ถ้าคนเราทำแต่สิ่งที่ดีๆ มาตลอดชีวิต ในชีวิตหน้าเราก็จะพบชีวิตที่สุขสบาย ในทางตรงกันข้ามหากคนที่ทำแต่ความชั่วมาตลอดชีวิตต่อไปในภายหน้าเขาก็ต้อง ประสบแต่ความทุกข์ยากลำบาก ต้องตกไปอยู่ในสภาพที่ไม่พึงปรารถนา

"กรรม" ให้ผลในรูปลักษณ์ต่างๆ และสามารถพบเห็นได้ในทุกๆ คน ดังเช่น

คำพูดที่ว่า "หว่านพืชเช่นไรได้รับผลเช่นนั้น" หมายความว่า เราปลูกพืชชนิดใด เราปลูกพืชชนิดใด เราก็จะได้รับผลของพืชเช่นนั้น ถ้าเราปลูกแตงโมเราก็ต้องได้ผลเป็นลูกแตงโม ถ้าเราปลูกลิ้นจี่ เราย่อมจะหวังได้เลยว่าต้องได้ผลเป็นลิ้นจี่แน่นอน ถ้าหากมิเป็นเช่นนั้นแล้วชีวิตของชาวสวนคงมีแต่ความยุ่งยากวุ่นวายเพราะจะ หวังอะไรไม่ได้เลยว่า เมล็ดที่ตนปลูกลงไปนั้นจะออกลูกเป็นอะไรกันแน่ !

ในด้านคณิตศาสตร์

คุณครูจะสอนเราว่า 1+1 = 2 ......... 1+1 คือ "เหตุ" และ "ผล" ต้องเป็น 2 แน่นอน

ในด้านฟิสิกซ์

คุณครูก็จะสอนว่า "การกระทำทุกอย่างย่อมต้องมีปฏิกิริยาโต้ตอบ"

เมื่อน้ำมีอุณหภูมิที่ 0 องศาเซลเซียส มันต้องแข็งตัวกลายเป็นน้ำแข็ง

การลดอุณหภูมิ คือ กระทำเหตุ

น้ำแข็งที่ได้ คือ ผลลัพธ์

ในด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์

คุณครูพละจะสอนเรา เสมอว่า "ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ร่างกายแข็งแรง" แต่ถ้าเราสูบบุหรี่จัด ปอดของเราจะถูกทำลาย ถ้าเราดื่มเหล้ามากๆ เป็นประจำจะเป็นโรคตับแข็ง ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้คือความเป็นเหตุและผลที่ตามมา

ในด้านมนุษย์สัมพันธ์

คนที่มีแต่ความ หยิ่งยโสจองหองคิดว่าตนจะต้องเป็นฝ่ายถูกเสมอ คนอื่นทำผิดหมด เขาก็จะมีแต่ความสูญเสีย ขาดเพื่อนสนิท ถ้าคนเรารู้จักมีเมตตามีความอ่อนน้อมถ่อมตน ปฏิบัติต่อผู้อื่น ด้วยความจริงใจด้วยความเคารพยกย่องให้เกียรติ เขาก็ย่อมได้รับไมตรีจิตและแวดล้อมไปด้วยผู้คนที่คอยเมตตาให้ความช่วยเหลือ

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นลักษณะของ "กรรม" และ "ผลของกรรม" ในรูปแบบที่ต่างกันไปตามเหตุและปัจจัย

กรรมในแง่มุมต่างๆ

ให้เรามาศึกษา "กรรม" ให้ลึกลงไปอีกใน 2 แง่มุม คือ

1. ระยะเวลาที่กรรมจะปรากฎผล และผลกรรมนั้นจะยาวนานแค่ไหน ?

(กรรมที่เห็นผลทันตาและกรรมที่ส่งผลข้ามภพข้ามชาติ)

"กรรม" ให้ผลในระยะเวลาที่ต่างกันตาม "เหตุ" ตาม "ชนิด" ของมัน เช่นเดียวกับพืชยกตัวอย่าง มะเขือเทศใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ก็ให้ผล ต้นมะละกอก็จะใช้เวลาไม่กี่เดือนจึงให้ผล แต่ถ้าเป็นต้นทุเรียนต้องใช้เวลาถึง 7 ปีจึงจะให้ผล

ในเรื่องกรรมของเรา บางคนได้รับผลจากการกระทำของตนทันทีในชาตินี้ บางคน อาจได้รับผลกรรมของตนในอนาคตหรือชาติหน้า

กรรมที่ส่งผลให้เรา ต้องได้รับจะมากน้อยยาวนานหรือระยะสั้นๆ ก็เปรียบได้กับ ถ้าเรามีงานที่ค้างอยู่มากมาย เราก็อาจจะไม่สามารถทำให้เสร็จได้ภายในวันเดียว เราย่อมต้องใช้เวลานานหลายวันกว่าที่จะสะสางให้เสร็จเรียบร้อย

ในทำนองเดียวกัน ถ้าในอดีตเราทำควมชั่วที่ร้ายแรงและทำไว้มาก ผลกรรมก็จะปรากฏขึ้นรวดเร็วและต้องชดใช้ไปอีกนาน บางทีอาจต้องชดใช้ไปถึงชาติหน้ากว่าผลกรรมนั้จะหมดสิ้น

ในการสสร้างความดี และบุญกุศลไว้มากๆ ก็เช่นเดียวกัน เหตุนี้เองที่คนดีมากมายในชาตินี้กลับมีชีวิตที่ทุกข์ยากลำบาก ก็เนื่องมาจากกรรมชั่วในอดีตส่งผลมาให้เขาต้องชดใช้

และในหลายกรณีที่คน ชั่วในเวลานี้ มีชีวิตอยู่สุขสบายก็เพราะเขากำลังเสวยผลบุญที่ตัวเขาและบรรพบุรุษได้สะสม ไว้ในอดีต แต่กรรมชั่วที่เขากำลังทำอยู่ในปัจจุบันนี้ทุกวันก็จะต้องส่งผลเป็นรายการ ต่อไปแน่นอน

"กฎแห่งกรรมและการเวียนว่ายตายเกิด"

อะไรคือ "กฏแห่งกรรมและการเวียนว่ายตายเกิด ?"

การที่เรารู้เรื่องกฎแห่งกรรมและการเวียนว่ายตายเกิด มันสำคัญอย่างไรต่อชีวิตของเรา?

เราจะพยายามไขข้อ ข้องใจเล่านี้และหวังอย่างยิ่งว่าเมื่อจบการบรรยายนี้แล้ว จะทำให้ท่านสามารถเข้าใจได้ดียิ่งขึ้นในเรื่องของกฎแห่งกรรมและการเวียนว่าย ตายเกิด ก่อนอื่นข้าพเจ้าจะเล่าเรื่องๆ หนึ่ง

ในสมัยพุทธกาล ครั้งหนึ่งพระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงสาวัตถีได้ตรัสถามพระสงฆ์พุทธสาวกว่า

"ในแผ่นดินที่เรา ปกครองอยู่ทำไมราษฎรทั้งหลายจึงแตกต่างกัน? บางคนเกิดมายากจนต้องทุกข์ยากลำบาก ในขณะที่บางคนเกิดมาร่ำรวยมีเกียรติยศชื่อเสียง ทำไมบางคนเกิดมาเป็นคนดีมีศีลธรรมแต่บางคนเป็นอาชญากร ? บางคนยินดีที่ได้เกิดมา แต่บางคนกลับสาปแช่งการเกิดของเขา"

อันที่แท้จริงแม้ใน ทุกวันนี้ ถ้าเรามองดูรอบๆ ตัวเราจะเห็นชีวิตที่แตกต่างกันได้อย่างง่าย บางคนเกิดมาในบ้านของมหาเศรษฐีและสนุกเพลิดเพลินกับชีวิตที่หรูหราฟุ่มเฟือย ในขณะเดียวกันกับที่บางคนตกอยู่ในความยากจนได้รับความลำบากแสนเข็ญ

บางคนเกิดมาสวยงามและมีคนหลงรักมากมาย ในขณะที่บางคนต้องทนอยู่กับหน้าตาขี้เหร่และรูปร่างที่อัปลักษณ์ตั้งแต่เกิด

บางคนเกิดมาร่างกายสมบูรณ์ แต่บางคนอ่อนแอและถูกโรคภัยไข้เจ็บคุกคามเบียดเบียน บ้างก็เกิดมาเป็นคนพิการปัญญาอ่อน

บางคนครอบครัวอยู่อย่างกลมเกลียวมีความสุข แต่บางคนครอบครัวทะเลาะเบาะแว้งกันทุกวัน

สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นชะตาชีวิตที่แต่ละคนจะต้องได้รับ

พุทธสาวกผู้รอบรู้ มิได้ตอบพระเจ้ากรุงสาวัตถีในทันที แต่ได้ถามพระองค์ว่า "ข้าแต่มหาบพิตร ทำไมผลไม้ถึงรสชาดที่แตกต่างกันล่ะ บ้างก็หลานบ้างก็เปรี้ยว บางผลสดสวยสมบูรณ์ดี บางผลแคระแกรนและลีบ

พระราชาทรงครุ่นคิดสักครู่แล้วตรัสตอบว่า "อาจเป็นเพราะสภาพและชนิดของเมล็ดพันธุ์ที่แตกต่างกัน"

พระสงฆ์สาวกจึงพูด ขึ้นว่า "ถูกต้องแล้ว มหาบพิตร" พืชที่ปลูกให้ผลต่างกันก็เพราะเมล็ดพันธุ์ที่ต่างกัน มนุษย์มีโชคชะตาแตกต่างกันก็เพราะผลกรรมที่ต่างกันนั่นเอง จากคำตอบของพุทธสาวกนี้เป็นคำอธิบายให้พวกเราได้รู้ว่า

คนเราเกิดมาต่างกันและมีวิถีชีวิตที่ต่างกันก็เพราะ

"แต่ละคนต่างมีกรรมเป็นของตนเองโชคชะตา และวิถีชีวิตของมนุษย์ที่เขาประสอบอยู่ในเวลานี้ก็เป็นผลมาจากการกระทำของเขาเองในอดีต"


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.96rangjai.com/kod/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่