"26 ก.พ. 60 - นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีวัดพระธรรมกายในหัวข้อ "ชายชรา-ความเชื่อ- ม.44"ว่า
ในที่สุดชายชรา ก็ผูกคอตายคาเสาโทรศัพท์ สังเวยความเชื่อของตัวเอง ความขัดแย้งเมืองไทยก็ขยายลึกจากการเมืองลงถึงศาสนาเรียบร้อยแล้ว ความเชื่อ จะผิดหรือถูกไม่สำคัญแต่เมื่อมันพัฒนาสู่"ความเชื่อสูงสุด"มนุษย์ก็ยอมพลีตนเองปกป้องความเชื่อนั้น ชายชรา จบการศึกษาระดับไหนผมไม่รู้ รอบรู้เรื่องศาสนาแค่ไหน ผมไม่ทราบ ใช้โซเชี่ยลมีเดียเป็นหรือไม่ ผมก็ไม่ทราบ ผมทราบเพียงว่า
1.มนุษย์ในสังคมโซเชี่ยลจำนวนหนึ่ง -ดัน สะใจ สนับสนุนให้ชายชรากระทำอัตวินิบาตกรรม(ฆ่าตัวตาย)
2.ผมรู้เพียงว่า มนุษย์ที่สะใจ -ดัน ให้ชายชรากระทำอัตวินิบาตกรรม น่าจะมีความรู้มากกว่าชายชรา
3.ผมรู้เพียงว่าผู้สนับสนุนให้ชายชรากระทำอัตวินิบาตกรรม อ้างว่าตัวเองนับถือพระพุทธศาสนา และส่วนใหญ่เชื่อว่าตัวเองศีลบริสุทธิ์กว่าชายชรา คงลืมไปว่า การฆ่าตัวตายในทางพระพุทธศาสนาถือเป็นบาป และคงลืมไปว่ามีคำสอนว่า "อย่ายินดีในบาป" ผมไม่รู้ว่า ระหว่างผู้ที่กระทำอัตวินิบาตกรรม กับผู้ที่ยินดี สะใจ สนับสนุน ในการที่ผู้อื่นกระทำอัตวินิบาตกรรม ใครละเมิดหลักการแห่งศาสนามากกว่ากัน แต่มีพุทธดำรัสว่า"ผู้ฆ่าสัตว์ ผู้ยินดีการฆ่าสัตว์ ผู้สรรเสริญการฆ่าสัตว์ ย่อมมีนรกเป็นที่สุด"
"
อ่านต่อที่:
http://www.nationtv.tv/main/content/social/378536327/
ลูกเมียลุงผูกคอต้าน‘ม.44’พบตร. เผยเป็นคนเครียดๆ เมื่อ10ปีก่อนเคยทำบุญวัดธรรมกาย
จากเหตุการณ์สลดเมื่อนายอนวัช ธนเจริญณัฐ อายุ 64 ปี ปีนเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ ในต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับตลาดกลางคลองหลวง เมื่อค่ำวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้ยกเลิกการประกาศใช้ ม.44 เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน พร้อมขีดเส้นหากไม่ดำเนินการในเวลา 21.00 น. อาจก่อเหตุไม่คาดคิด กระทั่งถึงเวลาที่นายอนวัชกำหนดไว้ ก่อนก่อเหตุผูกคอตัวเองเสียชีวิต ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 26 ก.พ. นางนวพร ธนเจริญณัฐ ภรรยาของลุงอนวัช พร้อมนายรัฐณัณท์ ธนเจริญณัฐ ลูกชาย เดินทางมาที่ สภ.คลองหลวง เพื่อให้ปากคำกับตำรวจ ซึ่งนางนวพรให้ข้อมูลว่านายอนวัชออกจากบ้านเวลาประมาณ 12.00 น.วันที่ 25 ก.พ. มาพร้อมกระเป๋าเป้สีดำ 1 ใบ โดยใช้รถกระบะโตโยต้า สีเทา มีหลังคาแครี่บอย ทะเบียน ฒณ 157 กทม. ตอนนั้นไม่ทราบว่าไปไหน ปกตินายอนวัชมักอยู่ด้วยกันที่หมู่บ้านเคซี นิมิตรใหม่ ตามที่อยู่ตามบัตรประชาชน ประกอบอาชีพค้าขายผลไม้แห้ง โดยจะขับรถมารับผลไม้ที่ตลาดไท ไปแพ็กขายอยู่เป็นประจำ แต่ก็มีปัญหาหนี้สินหลายแสนบาท
นางนวพรกล่าวอีกว่า ปกตินายอนวัชจะเป็นคนเครียดๆ และกินยาคลายเครียดของรพ.นวมินทร์มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว โดยนายอนวัชเคยมาทำบุญที่วัดพระธรรมกายเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว และเคยบวชเณรที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ เนื่องจากเคารพนับถือหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ อีกทั้งยังชอบอ่านหนังสือพิมพ์และดูข่าวทีวี ไม่เคยไปร่วมชุมนุมทางการเมือง ส่วนสาเหตุการฆ่าตัวตายนั้น ภรรยาและบุตรชายยังไม่ทราบมูลเหตุที่แน่ชัด และก่อนหน้านี้ไม่มีสิ่งบอกเหตุมาก่อน
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_233953
"รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์" พูดถึงคนที่สะใจในการฆ่าตัวตาย ของลูกศิษย์ธรรมกาย
ในที่สุดชายชรา ก็ผูกคอตายคาเสาโทรศัพท์ สังเวยความเชื่อของตัวเอง ความขัดแย้งเมืองไทยก็ขยายลึกจากการเมืองลงถึงศาสนาเรียบร้อยแล้ว ความเชื่อ จะผิดหรือถูกไม่สำคัญแต่เมื่อมันพัฒนาสู่"ความเชื่อสูงสุด"มนุษย์ก็ยอมพลีตนเองปกป้องความเชื่อนั้น ชายชรา จบการศึกษาระดับไหนผมไม่รู้ รอบรู้เรื่องศาสนาแค่ไหน ผมไม่ทราบ ใช้โซเชี่ยลมีเดียเป็นหรือไม่ ผมก็ไม่ทราบ ผมทราบเพียงว่า
1.มนุษย์ในสังคมโซเชี่ยลจำนวนหนึ่ง -ดัน สะใจ สนับสนุนให้ชายชรากระทำอัตวินิบาตกรรม(ฆ่าตัวตาย)
2.ผมรู้เพียงว่า มนุษย์ที่สะใจ -ดัน ให้ชายชรากระทำอัตวินิบาตกรรม น่าจะมีความรู้มากกว่าชายชรา
3.ผมรู้เพียงว่าผู้สนับสนุนให้ชายชรากระทำอัตวินิบาตกรรม อ้างว่าตัวเองนับถือพระพุทธศาสนา และส่วนใหญ่เชื่อว่าตัวเองศีลบริสุทธิ์กว่าชายชรา คงลืมไปว่า การฆ่าตัวตายในทางพระพุทธศาสนาถือเป็นบาป และคงลืมไปว่ามีคำสอนว่า "อย่ายินดีในบาป" ผมไม่รู้ว่า ระหว่างผู้ที่กระทำอัตวินิบาตกรรม กับผู้ที่ยินดี สะใจ สนับสนุน ในการที่ผู้อื่นกระทำอัตวินิบาตกรรม ใครละเมิดหลักการแห่งศาสนามากกว่ากัน แต่มีพุทธดำรัสว่า"ผู้ฆ่าสัตว์ ผู้ยินดีการฆ่าสัตว์ ผู้สรรเสริญการฆ่าสัตว์ ย่อมมีนรกเป็นที่สุด"
"
อ่านต่อที่: http://www.nationtv.tv/main/content/social/378536327/
ลูกเมียลุงผูกคอต้าน‘ม.44’พบตร. เผยเป็นคนเครียดๆ เมื่อ10ปีก่อนเคยทำบุญวัดธรรมกาย
จากเหตุการณ์สลดเมื่อนายอนวัช ธนเจริญณัฐ อายุ 64 ปี ปีนเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ ในต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับตลาดกลางคลองหลวง เมื่อค่ำวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้ยกเลิกการประกาศใช้ ม.44 เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน พร้อมขีดเส้นหากไม่ดำเนินการในเวลา 21.00 น. อาจก่อเหตุไม่คาดคิด กระทั่งถึงเวลาที่นายอนวัชกำหนดไว้ ก่อนก่อเหตุผูกคอตัวเองเสียชีวิต ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 26 ก.พ. นางนวพร ธนเจริญณัฐ ภรรยาของลุงอนวัช พร้อมนายรัฐณัณท์ ธนเจริญณัฐ ลูกชาย เดินทางมาที่ สภ.คลองหลวง เพื่อให้ปากคำกับตำรวจ ซึ่งนางนวพรให้ข้อมูลว่านายอนวัชออกจากบ้านเวลาประมาณ 12.00 น.วันที่ 25 ก.พ. มาพร้อมกระเป๋าเป้สีดำ 1 ใบ โดยใช้รถกระบะโตโยต้า สีเทา มีหลังคาแครี่บอย ทะเบียน ฒณ 157 กทม. ตอนนั้นไม่ทราบว่าไปไหน ปกตินายอนวัชมักอยู่ด้วยกันที่หมู่บ้านเคซี นิมิตรใหม่ ตามที่อยู่ตามบัตรประชาชน ประกอบอาชีพค้าขายผลไม้แห้ง โดยจะขับรถมารับผลไม้ที่ตลาดไท ไปแพ็กขายอยู่เป็นประจำ แต่ก็มีปัญหาหนี้สินหลายแสนบาท
นางนวพรกล่าวอีกว่า ปกตินายอนวัชจะเป็นคนเครียดๆ และกินยาคลายเครียดของรพ.นวมินทร์มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว โดยนายอนวัชเคยมาทำบุญที่วัดพระธรรมกายเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว และเคยบวชเณรที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ เนื่องจากเคารพนับถือหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ อีกทั้งยังชอบอ่านหนังสือพิมพ์และดูข่าวทีวี ไม่เคยไปร่วมชุมนุมทางการเมือง ส่วนสาเหตุการฆ่าตัวตายนั้น ภรรยาและบุตรชายยังไม่ทราบมูลเหตุที่แน่ชัด และก่อนหน้านี้ไม่มีสิ่งบอกเหตุมาก่อน
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_233953