มนุษย์ต่างดาวที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสว่าอยู่บนดาว อุตรกุรุทวีป



ขอนอบน้อมแด่พระโพธิสัตว์เจ้า ผู้ซึ่งเป็นพระผู้เป็นเจ้าของมนุษย์ และ เทวดาทั้งหลาย

พระพุทธเจ้าตรัสเรื่องของมนุษย์ต่างดาวมานานกว่า 2,600 ปีมาแล้ว ก่อนนักวิทยาศาสตร์เสียอีก
ข้อความโดยย่อนี้คือ ความเป็นอยู่ รูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ สังคม  ภูมิประเทศ ของดาวอุตรกุรุทวีป

ภูมิประเทศ : โดยปกติดาวโลกของเรา (ชมพูทวีป) ภูมิประเทศก็อย่างที่เราทราบ มีมหาสมุทธ ทะเล เทือกเขา แผ่นดินต่างๆ
ของดาวอุตรกุรุทวีปก็เหมือนของเราทุกอย่าง เพียงแต่ประณีตกว่า ละเอียดกว่า นุ่มนวลกว่า สะอาดกว่า

ภูมิอากาศ : ก็มีฤดูเหมือนของเราทุกอย่าง เพียงแต่ละเอียดกว่า สบายกว่า ไม่มีพายุ ไม่หนาวเกินไป ไม่ร้อนเกินไป

อายุขัย : ชาวชมพูทวีป มีอายุขัยไม่แน่นอน โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 75 ปีก็ตายกันแล้ว บางคนตายตั้งแต่ยังเด็ก บางคน 100 ปีก็ตาย เรียกว่าอายุขัย
ไม่แน่นอน ประมาณการไม่ได้ แต่ชาวอุตรกุรุทวีป มีอายุที่แน่นอนคือ 1,000 ปี ไม่ขาดไม่เกิน ไม่มีว่า ตายตอนเด็ก ตายเกินอายุอย่าง ฉะนั้นการเศร้าโศกเสียใจจากการตายของคนบนดาวดวงนี้ จึงไม่มี เมื่อมีการตายลง จะมีนกชื่อว่า "หัสดิงค์" มีปีกขนาดใหญ่ มีหัวเป็นช้าง บินมาจากเขาตรีกูฏ ตรงเชิงเขาพระสิเนรุ มาคาบศพสมมุติว่าเป็นชิ้นเนื้อนั้น ไปทิ้งที่เชิงเขาพระสิเนรุ คนบนดาวดวงนี้ จึงไม่มีการจัดงานศพเหมือนกับชาวโลกชมพูทวีป

รูปร่าง : ความสูงโดยปกติของชาวโลกจะอยู่ที่ประมาณ 4-6 ศอกโดยประมาณไม่ขาดไม่เกิน แต่ชาวอุตรกุรุทวีปจะสูงถึง 13 ศอก กับอีก 4 คืบ สูงกว่าชาวโลกของเรามาก

ผิวพรรณ หน้าตา : ชาวโลกของเรามีสีผิว ที่ค่อนข้างแตกต่างกันมาก ผิวดำ ผิวแดง ผิวขาว ผิงสองสี ขาวๆคล้ำๆ มีความแตกต่างสูง
แต่ชาวอุตรกุรุทวีป มีสีผิวเดียวกันทั้งดาว คือ ขาวอมเทา ในพระอรรกถาจารย์กล่าวว่า บนดาวอุตรกุรุทวีป แม้ในเวลากลางคืนก็สว่างสไวไปด้วยแสง
แสงจากผิวของคนบนดาวนั่นเอง  ส่วนหน้าตาทรงหน้า ก็มองดูเหมือนกันไปหมด ไม่แตกต่างกัน โดยเฉพาะผู้หญิงบนดาว รูปหน้าจะเป็นจันทร์ครึ่งดวง ส่วนผู้ชายเป็นทรงเหลี่ยม (สี่เหลี่ยม) แตกต่างจากชาวชมพูทวีปที่หน้าตาของแต่ละคนแตกต่างกันอย่างมาก

สังคม ความเป็นอยู่ : จะไม่ค่อยแตกต่างเท่าไหร่ แต่จะมีบางอย่างที่ผิดไปจากดาวของเราอยู่มาก อย่างเช่น
การกำเนิดบุตร โดยปกติชาวโลกของเรา มารดา หญิงตั้งครรภ์ 9 เดือน ก็คลอดบุตร บุตรนั้นกว่าจะโต กว่าจะเดิน กว่าจะพูด ก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป แต่บนดาวอุตรกุรุทวีป มารดาเมื่อคลอดบุตรแล้ว เด็กจะโตเหมือนกับว่าเด็กนั้นเป็นเด็ก 12 ขวบเลย พ่อแม่ก็เอาเด็กไปวางตรงทางสามแพร่ง
คือพ่อแม่ไม่มีความหวงลูกเลย ปล่อยทิ้งไว้ คนที่สัญจรไปมา ก็เอานิ้วชี้ จ่อลงในปากเด็ก น้ำนมก็ไหลจากนิ้วชี้ เด็กก็อิ่มนมนั้นจากคนแปลกหน้าตรงทางสามแพร่ง

อาชีพ การทำงาน : ตรงกลางของดาวอุตรกุรุทวีป จะมีต้นไม้ต้นหนึ่งใหญ่มาก ชื่อว่า "ต้นกัลป" ใบเป็นสีเงิน สีทองอร่ามทั้งต้น ในทุกๆวันพระขึ้น 15 ค่ำ ใครอยากได้อะไรก็ไปยกมือพนมตั้งอธิฐาน ขอของใช้ ขอข้าวของเงินทอง ต้นไม้ก็จะประทานของมาให้ จะได้กันทุกคน จึงไม่ต้องมีทหาร ตำรวจ แพทย์ เพราะทุกคนได้ของจากต้นนี้หมด ไม่ต้องมีการแย่งกัน

การกิน : ชาวชมพูทวีป โลกของเรานี้ กว่าจะกินข้าว เราต้องไปปลูกข้าว เกี่ยวข้าว กับข้าวก็ต้องหา เช่น ไก่ หมู ผัก กว่าจะได้กินเพื่ออิ่มก็ค่อนข้างยุ่งยาก แต่ชาวอุตรกุรุทวีป จะมีเตาไฟชนิดหนึ่ง เรียกว่า "ปาสาณา" วิธีใช้คือ นำข้าวสาลี ที่ปลูกบนดาวดวงนั้น มีขนาดประมาณ 1-2 ฟุตโดยประมาณ
นำข้าวนั้นมาวางลงบนเตา เตาก็ลุกเพลิงขึ้นโดยอัตโนมัติ เมื่อข้าวสุกไฟก็มอดลงเอง ข้าวนั้นกิน 1 เม็ด อิ่ม 7-8 วัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่