คนที่มีใจเป็นกลางได้ฟัง 4 ประเด็นนี้แล้ว
ก็จะรู้สึกว่า กระบวนการยุติธรรม
มันอันตราย ไม่โปร่งใส ไม่ตรงไปตรงมา
การใช้ ม.44 แทนกฎหมายปกติ
ก็ดูไม่สมเหตุสมผล และทำเกินกว่าเหตุ
1) เมื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงข้อหาฟอกเงินไม่ได้
รัฐจึงไม่สามารถเอาผิดท่านได้ด้วยกฎหมายธรรมดา
รัฐก็เลยต้องใช้ ม.44 จับกุมท่าน เพื่อจะเอาผิดท่านให้ได้
2) การแจ้งข้อหาแจ้งที่ไหนก็ได้
แจ้งในคุกในค่ายทหารก็ได้
แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมไปแจ้งที่วัด
แม้ทางวัดจะเชิญไปตั้งหลายครั้ง
พฤติกรรมย่อมส่อเจตนาว่า
มีเจตนาจะออกหมายจับไว้ก่อนแล้ว
3) วัดเป็นศาสนสถานที่ประชาชนเป็นผู้สร้างขึ้น
จากการบริจาคทรัพย์ให้แก่พระพุทธศาสนา
การไปวัดจึงไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย
พระในวัดไม่ใช่ผู้ต้องหา ไม่สามารถเอาผิด
ด้วยกฎหมายปกติได้ จึงต้องใช้คำสั่ง ม.44
เพื่ออ้างเหตุว่าใครขัดคำสั่ง ม.44
ถือว่าผิดกฎหมาย จับกุมได้ทันที
4) การใช้ ม.44 จึงขัดต่อนิติรัฐทั้งสองส่วน
คือ ขัดต่อหลักกฎหมายปกติ
และขัดต่อหลักรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว
ที่รัฐบาล คสช. เขียนขึ้นเอง
ส่วนคนที่ไม่ชอบวัดพระธรรมกาย
ได้ฟังแล้วจะรู้สึกว่าขัดใจ
ถ้าใช้กฎหมายปกติไม่ได้
ก็ใช้ ม.44 จัดการไปเลย เป็นสิ่งถูกต้องแล้ว
ความเกลียดชังนี่แหละที่ทำให้ความไม่ถูกต้อง
ถูกรับรองให้กลายเป็นความถูกต้องขึ้นมาได้
ความปรองดองของประเทศนี้ที่มันไม่มีวันเกิดขึ้น
เพราะคนส่วนใหญ่ยังใช้ความเกลียดชัง
รับรองความไม่ถูกต้องให้กลายเป็นความถูกต้อง
เพียงเพราะสะใจที่ได้เห็นคนที่ตัวเองเกลียดชังถูกทำลาย
แม้จะด้วยวิธีที่ผิดกฎหมายอย่างไรก็ได้
ปัญหาเรื่องวัดพระธรรมกายจึงยังอยู่ที่
สังคมไทยใช้ความเกลียดชังรับรองความไม่ถูกต้อง
ให้กลายเป็นความถูกต้องเหมือนเดิม
แม้ว่าพระในวัดพระธรรมกาย
จะไม่เคยไปฆ่าใครตายเหมือนกับโจรใต้ก็ตาม
แต่ก็ยังถูกสังคมพิพากษาให้สมควรตายด้วย ม.44 อยู่ดี
ความไม่โปร่งใส เกี่ยวกับคคีธรรมกาย
ก็จะรู้สึกว่า กระบวนการยุติธรรม
มันอันตราย ไม่โปร่งใส ไม่ตรงไปตรงมา
การใช้ ม.44 แทนกฎหมายปกติ
ก็ดูไม่สมเหตุสมผล และทำเกินกว่าเหตุ
1) เมื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงข้อหาฟอกเงินไม่ได้
รัฐจึงไม่สามารถเอาผิดท่านได้ด้วยกฎหมายธรรมดา
รัฐก็เลยต้องใช้ ม.44 จับกุมท่าน เพื่อจะเอาผิดท่านให้ได้
2) การแจ้งข้อหาแจ้งที่ไหนก็ได้
แจ้งในคุกในค่ายทหารก็ได้
แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมไปแจ้งที่วัด
แม้ทางวัดจะเชิญไปตั้งหลายครั้ง
พฤติกรรมย่อมส่อเจตนาว่า
มีเจตนาจะออกหมายจับไว้ก่อนแล้ว
3) วัดเป็นศาสนสถานที่ประชาชนเป็นผู้สร้างขึ้น
จากการบริจาคทรัพย์ให้แก่พระพุทธศาสนา
การไปวัดจึงไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย
พระในวัดไม่ใช่ผู้ต้องหา ไม่สามารถเอาผิด
ด้วยกฎหมายปกติได้ จึงต้องใช้คำสั่ง ม.44
เพื่ออ้างเหตุว่าใครขัดคำสั่ง ม.44
ถือว่าผิดกฎหมาย จับกุมได้ทันที
4) การใช้ ม.44 จึงขัดต่อนิติรัฐทั้งสองส่วน
คือ ขัดต่อหลักกฎหมายปกติ
และขัดต่อหลักรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว
ที่รัฐบาล คสช. เขียนขึ้นเอง
ส่วนคนที่ไม่ชอบวัดพระธรรมกาย
ได้ฟังแล้วจะรู้สึกว่าขัดใจ
ถ้าใช้กฎหมายปกติไม่ได้
ก็ใช้ ม.44 จัดการไปเลย เป็นสิ่งถูกต้องแล้ว
ความเกลียดชังนี่แหละที่ทำให้ความไม่ถูกต้อง
ถูกรับรองให้กลายเป็นความถูกต้องขึ้นมาได้
ความปรองดองของประเทศนี้ที่มันไม่มีวันเกิดขึ้น
เพราะคนส่วนใหญ่ยังใช้ความเกลียดชัง
รับรองความไม่ถูกต้องให้กลายเป็นความถูกต้อง
เพียงเพราะสะใจที่ได้เห็นคนที่ตัวเองเกลียดชังถูกทำลาย
แม้จะด้วยวิธีที่ผิดกฎหมายอย่างไรก็ได้
ปัญหาเรื่องวัดพระธรรมกายจึงยังอยู่ที่
สังคมไทยใช้ความเกลียดชังรับรองความไม่ถูกต้อง
ให้กลายเป็นความถูกต้องเหมือนเดิม
แม้ว่าพระในวัดพระธรรมกาย
จะไม่เคยไปฆ่าใครตายเหมือนกับโจรใต้ก็ตาม
แต่ก็ยังถูกสังคมพิพากษาให้สมควรตายด้วย ม.44 อยู่ดี