การเข้าจับกุมพระธัมมชโยครั้งนี้ ดีเอสไอจะต้องหวังผลมากกว่าครั้งที่แล้วหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า
” ใช่สิ คุณจะให้เขาไม่ทำได้หรือไม่ ในเมื่อกระบวนการยุติธรรมถูกปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีใครไม่มีสิทธิที่จะไม่ทำในสิ่งเหล่านั้น
คุณจะหาบุคคลพิเศษขนาดไหนที่จะไม่ต้องทำในสิ่งเหล่านี้ เมื่อไม่ใช่ดีเอสไอก็ต้องทำใช่หรือไม่ ถ้าไม่ทำมันก็เป็นคนพิเศษขึ้นมา
มันก็เป็นการเลือกปฏิบัติ ไม่ทำตามกระบวนการยุติธรรม ก็จะทำให้สิ่งที่หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมที่ต้องปฏิบัติกับบุคคลอื่นจะเป็นข้ออ้างไปหมด
และสังคมยอมรับในสิ่งเหล่านี้ได้หรือไม่”

"พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก
หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของ คสช.และอดีตแม่ทัพภาคที่ 1

ผู้ได้รับฉายาว่า "มั่นคง ตรงไปตรงมา ทำจริงไม่มีคุย ไม่เลือกปฏิบัติ"


เมื่อกรณีธรรมกาย ถูกขยายจากประเด็น “ศาสนา” เข้าไปสู่พรมแดน “การเมือง” ทุกอย่างก็ไปกันใหญ่
เห็นได้จากการโยงไปยังความสัมพันธ์ระหว่างวัดนั่นก็คือ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กับวัดธรรมกาย
พลอยทำให้อุปัชฌาย์เดือดร้อนไปด้วย ทำให้ “รถโบราณ” ตั้งโชว์เพื่อการศึกษาในมิวเซียมกลายเป็น “รถหรู”
ขัดและไม่เหมาะต่อสมณสารูป จากนั้นก็ปรากฏขบวนการมากมาย จากฝ่ายที่ “ชัง” และจากฝ่ายที่ “ชอบ”
ชังนั้นโยงยาวไปยังกลุ่มเชียร์ ”รัฐประหาร” ชอบนั้นโยงยาวไปยังกลุ่มต้านรัฐประหาร
เรื่องในทาง “ศาสนา” เมื่อถูกแปรเป็นเรื่องในทาง “การเมือง” เมื่อใด สงคราม “สี” ก็ปะทุขึ้น
http://www.matichon.co.th/news/376707

อธิบดีดีเอสไอให้”พระทัตตชีโว”นำ ”พระธัมมชโย” มามอบตัว ถ้ายังอยู่วัด จ่อเอาผิดอาญาด้วย