อ้างอิง
http://deeps.tnews.co.th/contents/196303/
-----
ช่วงบ่ายวันนี้ ( 14 ก.ค.) ที่ กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ ถึงความคืบหน้า คดี พระเทพญาณมุนี หรือ พระธัมมชโย หลังจาก อัยการฝ่ายคดีพิเศษ ได้แถลงวานนี้ โดยให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมมาให้อีกวันที่ 11 ส.ค.และ ให้ผู้ต้องหามารับทราบคำสั่งวันที่ 30 ส.ค.ว่า เป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนเคยพูดไว้เมื่อ 3 - 4 เดือนแล้วว่า อัยการอาจยกฟ้อง เลื่อนสั่งคดีก็ได้ ทั้งนี้ ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ต้องหาทำให้คดีทั่วไปกลายเป็นเรื่องใหญ่ และ บานปลายมีเรื่องเกี่ยวพันเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมพระธัมมชโยถึงได้กลัว ก็ต้องถามว่าท่านผิดจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าท่านมั่นใจว่าไม่ผิดอย่างที่ได้สื่อกับสังคมไว้ ก็ไม่ควรจะกลัวที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
พล.อ.ไพบูลย์ ยังกล่าวถึงกรณี มหาเถรสมาคม (มส.) ได้สั่งให้ผู้ปกครองสงฆ์ไปดำเนินการให้พระธัมมชโยมอบตัว ซึ่งโดยหลักการปกครองควรจะเชื่อผู้ปกครองแต่เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะเชื่อฟังกันหรือเปล่า ถ้าไม่เชื่อฟังผมก็ไม่เข้าใจว่าการปกครองทางสงฆ์มีกฎระเบียบอะไร ถึงตั้งองค์กรขึ้นมาแล้วไม่สามารถปกครองหรือควบคุมกันไม่ได้ ซึ่งจะปรากฏเป็นภาพการดำเนินการที่ไม่ชัดเจนและก็จะเกิดคำถามในสังคมว่าทำไมจึงปกครองกันไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมั่นใจว่าผู้ปกครองคณะสงฆ์รับทราบหมดแล้วว่า ไม่ได้มีการกลั่นแกล้ง พระธัมชโย อย่างที่สานุศิษย์และโฆษกคณะศิษย์วัดพระธรรมกายกล่าวอ้าง แต่เป็นคดีความตามกฎหมายบ้านเมือง ที่ ควบคุมบังคับใช้กับทุกคน ดังนั้น ต้องรอดูฝ่ายสงฆ์จะมีกฎระเบียบการปกครองอย่างไรเพื่อควบคุมเรื่องนี้ให้ไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งปัญหาก็คือท่านควบคุมกันได้หรือเปล่า ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ดีเอสไออาจจะต้องออกหมายค้นวัดพระธรรมกายรอบ 2 เพื่อจับกุมตัวพระธัมมชโย ซึ่งก็ต้องดูทางฝ่ายปกครองสงฆ์และอัยการอีกสักระยะ
โดยในเรื่องของการเข้าตรวจค้นเพื่อจับกุมตัวพระธัมมชโยนั้น ดีเอสไอสามารถทำได้ 2 ทาง คือ 1.ดีเอสไอทำได้เอง เพราะมีหมายจับที่ศาลอนุมัติให้แล้ว 2.อัยการสั่งให้ดีเอสไอไปนำตัวผู้ต้องหามา ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่นั้น ตนยังไม่ได้สอบถามพนักงานสอบสวน โดยปล่อยให้พนักงานสอบสวนได้ทำหน้าที่ของเขาไป
"ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนก็ต้องเตรียมดำเนินการวางแผนเพื่อจะดำเนินการออกหมายค้นเพื่อให้เป็นไปตามหมายจับที่ศาลได้อนุมัติแล้ว ซึ่งเขามีหน้าที่วางแผนก็ต้องทำไปก่อน ซึ่งถ้าทางฝ่ายสงฆ์ดำเนินการได้เรียบร้อยเรื่องจบ พนักงานสอบสวนก็ไม่ต้องทำตามแผนที่ได้วางไว้ เพราะถ้าหากทางสงฆ์บอกว่าจัดการกันไม่ได้ก็ต้องมาถึงเรื่องของทางฝ่ายพนักงานสอบสวนจัดการ" พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
###ความคืบหน้า ...ขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม###
http://deeps.tnews.co.th/contents/196303/
-----
ช่วงบ่ายวันนี้ ( 14 ก.ค.) ที่ กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ ถึงความคืบหน้า คดี พระเทพญาณมุนี หรือ พระธัมมชโย หลังจาก อัยการฝ่ายคดีพิเศษ ได้แถลงวานนี้ โดยให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมมาให้อีกวันที่ 11 ส.ค.และ ให้ผู้ต้องหามารับทราบคำสั่งวันที่ 30 ส.ค.ว่า เป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนเคยพูดไว้เมื่อ 3 - 4 เดือนแล้วว่า อัยการอาจยกฟ้อง เลื่อนสั่งคดีก็ได้ ทั้งนี้ ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ต้องหาทำให้คดีทั่วไปกลายเป็นเรื่องใหญ่ และ บานปลายมีเรื่องเกี่ยวพันเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมพระธัมมชโยถึงได้กลัว ก็ต้องถามว่าท่านผิดจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าท่านมั่นใจว่าไม่ผิดอย่างที่ได้สื่อกับสังคมไว้ ก็ไม่ควรจะกลัวที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
พล.อ.ไพบูลย์ ยังกล่าวถึงกรณี มหาเถรสมาคม (มส.) ได้สั่งให้ผู้ปกครองสงฆ์ไปดำเนินการให้พระธัมมชโยมอบตัว ซึ่งโดยหลักการปกครองควรจะเชื่อผู้ปกครองแต่เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะเชื่อฟังกันหรือเปล่า ถ้าไม่เชื่อฟังผมก็ไม่เข้าใจว่าการปกครองทางสงฆ์มีกฎระเบียบอะไร ถึงตั้งองค์กรขึ้นมาแล้วไม่สามารถปกครองหรือควบคุมกันไม่ได้ ซึ่งจะปรากฏเป็นภาพการดำเนินการที่ไม่ชัดเจนและก็จะเกิดคำถามในสังคมว่าทำไมจึงปกครองกันไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมั่นใจว่าผู้ปกครองคณะสงฆ์รับทราบหมดแล้วว่า ไม่ได้มีการกลั่นแกล้ง พระธัมชโย อย่างที่สานุศิษย์และโฆษกคณะศิษย์วัดพระธรรมกายกล่าวอ้าง แต่เป็นคดีความตามกฎหมายบ้านเมือง ที่ ควบคุมบังคับใช้กับทุกคน ดังนั้น ต้องรอดูฝ่ายสงฆ์จะมีกฎระเบียบการปกครองอย่างไรเพื่อควบคุมเรื่องนี้ให้ไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งปัญหาก็คือท่านควบคุมกันได้หรือเปล่า ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ดีเอสไออาจจะต้องออกหมายค้นวัดพระธรรมกายรอบ 2 เพื่อจับกุมตัวพระธัมมชโย ซึ่งก็ต้องดูทางฝ่ายปกครองสงฆ์และอัยการอีกสักระยะ
โดยในเรื่องของการเข้าตรวจค้นเพื่อจับกุมตัวพระธัมมชโยนั้น ดีเอสไอสามารถทำได้ 2 ทาง คือ 1.ดีเอสไอทำได้เอง เพราะมีหมายจับที่ศาลอนุมัติให้แล้ว 2.อัยการสั่งให้ดีเอสไอไปนำตัวผู้ต้องหามา ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่นั้น ตนยังไม่ได้สอบถามพนักงานสอบสวน โดยปล่อยให้พนักงานสอบสวนได้ทำหน้าที่ของเขาไป
"ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนก็ต้องเตรียมดำเนินการวางแผนเพื่อจะดำเนินการออกหมายค้นเพื่อให้เป็นไปตามหมายจับที่ศาลได้อนุมัติแล้ว ซึ่งเขามีหน้าที่วางแผนก็ต้องทำไปก่อน ซึ่งถ้าทางฝ่ายสงฆ์ดำเนินการได้เรียบร้อยเรื่องจบ พนักงานสอบสวนก็ไม่ต้องทำตามแผนที่ได้วางไว้ เพราะถ้าหากทางสงฆ์บอกว่าจัดการกันไม่ได้ก็ต้องมาถึงเรื่องของทางฝ่ายพนักงานสอบสวนจัดการ" พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว