ร.ท.สมนึก โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า วันนี้ เวลา 14.00 น. พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้นำสำนวนการสอบสวนและเอกสารหลักฐาน จำนวน 32 แฟ้ม 10,672 หน้า พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายศุภชัย ผู้ต้องหาที่ 1 , น.ส.ศรัณยา ผู้ต้องหาที่ 3 และนางทองพิน ผู้ต้องหาที่ 4 ในข้อหาร่วมกันสมคบการฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และสมควรสั่งฟ้องพระธัมมชโย ผู้ต้องหาที่ 2 กับนางศศิธร ผู้ต้องหาที่ 5 ฐานสมคบกันฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร มาส่งให้นายภาณุพงษ์ โชติสิน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ
โดยพนักงานสอบสวนดีเอสไอ แจ้งว่า นายศุภชัย ผู้ต้องหาที่ 1 ถูกควบคุมตามคำสั่งศาลในคดีแดงที่ อ.706/2559 ส่วนน.ส.ศรัณยา และนางทองพิน ผู้ต้องหาที่ 3-4 วันนี้เดินทางมาพบพนักงานอัยการและได้ปล่อยตัวไป โดยนัดมาฟังการสั่งคดี ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น.
ส่วนพระธัมมชโย และนางศศิธร ผู้ต้องหาที่ 2 และ 5 อยู่ระหว่างถูกศาลอาญาออกหมายจับ ซึ่งพนักงานสอบสวนอ้างว่า เชื่อว่าคงได้ตัวมา จึงไม่ได้นำตัวมาพร้อมกับสำนวนและความเห็นสมควรฟ้องในวันนี้ เบื้องต้นพนักงานอัยการจึงรับสำนวนไว้และนัดฟังคำสั่งในวันเดียวกัน
“เรื่องนี้ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภันฑ์บริภาร อัยการสูงสุด ทราบถึงการส่งสำนวนคดีแล้ว มอบหมายให้ นายภาณุพงษ์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เร่งดำเนินการ และได้กำชับให้พนักงานอัยการทำงานโดยเร็ว โปร่งใส และให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายโดยยึดข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเป็นสำคัญ” ร.ท.สมนึก กล่าวและว่า คดีนี้อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษได้มีคำสั่งตั้ง นายชาติพงษ์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน โดยมีนายนภดล บุญศร อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 และพนักงานอัยการอีก 3 คนเป็นคณะทำงานรวม 5 คน
พระธัมมชโย ผู้ต้องหาที่ 2 (วัดธรรมกาย)ฐานสมคบกันฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร ?
โดยพนักงานสอบสวนดีเอสไอ แจ้งว่า นายศุภชัย ผู้ต้องหาที่ 1 ถูกควบคุมตามคำสั่งศาลในคดีแดงที่ อ.706/2559 ส่วนน.ส.ศรัณยา และนางทองพิน ผู้ต้องหาที่ 3-4 วันนี้เดินทางมาพบพนักงานอัยการและได้ปล่อยตัวไป โดยนัดมาฟังการสั่งคดี ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น.
ส่วนพระธัมมชโย และนางศศิธร ผู้ต้องหาที่ 2 และ 5 อยู่ระหว่างถูกศาลอาญาออกหมายจับ ซึ่งพนักงานสอบสวนอ้างว่า เชื่อว่าคงได้ตัวมา จึงไม่ได้นำตัวมาพร้อมกับสำนวนและความเห็นสมควรฟ้องในวันนี้ เบื้องต้นพนักงานอัยการจึงรับสำนวนไว้และนัดฟังคำสั่งในวันเดียวกัน
“เรื่องนี้ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภันฑ์บริภาร อัยการสูงสุด ทราบถึงการส่งสำนวนคดีแล้ว มอบหมายให้ นายภาณุพงษ์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เร่งดำเนินการ และได้กำชับให้พนักงานอัยการทำงานโดยเร็ว โปร่งใส และให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายโดยยึดข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเป็นสำคัญ” ร.ท.สมนึก กล่าวและว่า คดีนี้อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษได้มีคำสั่งตั้ง นายชาติพงษ์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน โดยมีนายนภดล บุญศร อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 และพนักงานอัยการอีก 3 คนเป็นคณะทำงานรวม 5 คน