[๑๔๖๖] สกวาที จิตตสันตติ (ความสืบต่อแห่งจิต) เป็นสมาธิ หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. จิตตสันตติที่เป็นอดีต เป็นสมาธิ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. จิตตสันตติ เป็นสมาธิ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. จิตตสันตติที่เป็นอนาคต เป็นสมาธิ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. จิตตสันตติ เป็นสมาธิ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. อดีตก็ดับไปแล้ว อนาคตก็ยังไม่เกิด มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า อดีตก็ดับไปแล้ว อนาคตก็ยังไม่เกิด ก็ต้อง
ไม่กล่าวว่า จิตตสันตติเป็นสมาธิ
[๑๔๖๗] ป. สมาธิเป็นไปในจิตตขณะอันหนึ่ง หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยจักขุวิญญาณ ชื่อว่าผู้เข้า
สมาบัติหรือ ?
ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ป. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยโสตวิญญาณ ฯลฯ ผู้พร้อม
เพรียงด้วยฆานวิญญาณ ฯลฯ ผู้พร้อมเพรียงด้วยชิวหาวิญญาณ ฯลฯ
ผู้พร้อมเพรียงด้วยกายวิญญาณ ฯลฯ ผู้พร้อมเพรียงด้วยอกุศลจิต ฯลฯ
ผู้พร้อมเพรียงด้วยจิตที่สหรคตด้วยราคะ ฯลฯ ผู้พร้อมเพรียงด้วยจิตที่สหรคต
ด้วยโทสะ ฯลฯ พร้อมเพรียงด้วยจิตที่สหรคตด้วยโมหะ ฯลฯ ผู้พร้อมเพรียง
ด้วยจิตที่สหรคตด้วยอโนตตัปปะ ชื่อว่า ผู้เข้าสมาบัติ หรือ ?
ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สมาธิกถา
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. จิตตสันตติที่เป็นอดีต เป็นสมาธิ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. จิตตสันตติ เป็นสมาธิ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. จิตตสันตติที่เป็นอนาคต เป็นสมาธิ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. จิตตสันตติ เป็นสมาธิ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. อดีตก็ดับไปแล้ว อนาคตก็ยังไม่เกิด มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า อดีตก็ดับไปแล้ว อนาคตก็ยังไม่เกิด ก็ต้อง
ไม่กล่าวว่า จิตตสันตติเป็นสมาธิ
[๑๔๖๗] ป. สมาธิเป็นไปในจิตตขณะอันหนึ่ง หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยจักขุวิญญาณ ชื่อว่าผู้เข้า
สมาบัติหรือ ?
ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ป. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยโสตวิญญาณ ฯลฯ ผู้พร้อม
เพรียงด้วยฆานวิญญาณ ฯลฯ ผู้พร้อมเพรียงด้วยชิวหาวิญญาณ ฯลฯ
ผู้พร้อมเพรียงด้วยกายวิญญาณ ฯลฯ ผู้พร้อมเพรียงด้วยอกุศลจิต ฯลฯ
ผู้พร้อมเพรียงด้วยจิตที่สหรคตด้วยราคะ ฯลฯ ผู้พร้อมเพรียงด้วยจิตที่สหรคต
ด้วยโทสะ ฯลฯ พร้อมเพรียงด้วยจิตที่สหรคตด้วยโมหะ ฯลฯ ผู้พร้อมเพรียง
ด้วยจิตที่สหรคตด้วยอโนตตัปปะ ชื่อว่า ผู้เข้าสมาบัติ หรือ ?
ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ