สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวที่ไปเที่ยวประเทศกัมพูชามา เมื่อวันที่ 11-13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาค่ะ
ต้องบอกก่อนว่าทริปนี้ ไม่ได้วางแผนอะไรเท่าไหร่ คือเห็นว่ามีวันหยุดยาวช่วงวันมาฆบูชา แล้วแฟนไปทำงานอยู่สระแก้ว เลยชวนกันข้ามฝั่งไปเที่ยวกัมพูชากันดีกว่า คิดได้ปุ๊บก็รีบจองโรงแรมกันเลยค่ะ จองโรงแรม V Siemreap town hotel จอง 2 คืน ราคา 852 บาท โรงแรมนี้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ห้องกว้างมาก พนักงานบริการดีมากๆค่ะ ที่สำคัญพูดไทยได้ด้วยนะคะ
ลิ้งค์โรงแรมที่พักค่ะ
https://www.agoda.com/th-th/v-siem-reap-town-hotels/hotel/siem-reap-kh.html
จองโรงแรมเรียบร้อยแล้วก็เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋ากันเลยค่ะ เก็บคืนวันศุกร์ เช้าวันเสาร์ก็ต้องรีบตื่นเพื่อออกเดินทางไปอรัญประเทศก่อน โดยรถไฟไทย(ฟรี)
ต้องบอกก่อนว่าไม่ได้จะประหยัดอะไรขนาดนั้นนะคะ แต่พอดีว่าแฟนทำงานอยู่ที่นั่น แล้วมารอที่สถานีรถไฟ แล้วจะข้ามไปฝั่งปอยเปตเพื่อต่อรถไปเสียมเรียบค่ะ แล้วที่พักก็อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมาก เลยว่าทางนี้สะดวกสุดแล้วค่ะ รถไฟไปอรัญประเทศมี 2 รอบต่อวัน คือ 6.43 น. และ 13.30 น. (ขึ้นที่สถานีหัวหมากค่ะ) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชม.
เมื่อเก็บของเสร็จกว่าจะได้นอนก็ปาไปตี 2 แล้วตั้งปลุกตี 5 แต่นาฬิกาเจ้ากรรมไม่ปลุก ตื่นมาอีกที 6.22 น. แม้เจ้า!! แล้วรถไฟออก 6.43 น. มีเวลาอาบน้ำแต่งตัวรวมเดินทางต้องไม่เกิน 20 นาที ตอนแรกก็ถอดใจแล้วว่าไปไม่ทันแน่ๆ ผู้หญิงกับการอาบน้ำแต่งตัวในเวลาแค่นี้ไม่ทันแน่ๆ แต่ไม่อยากเลื่อนเพราะไม่งั้นต้องไปอีกทีรอบบ่ายกว่าจะไปถึงก็ค่ำแล้ว เลยลองดูคิดว่ามันต้องทันซิน่า ทันใดนั้นรีบวิ่งเข้าห้องน้ำแล้วไปวิ่งผ่านน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน แล้วออกมาแต่งตัวแบบคว้าตัวไหนได้ก็ใส่ไปเลย แล้วรีบคว้ากระเป๋าออกจากห้อง ใส่รองเท้าผ้าใบแบบไม่มีถุงเท้า เพราะไม่มีเวลาหาแล้ว ออกจากห้องมา เหลือเวลาไม่ถึง 10 นาที เดินกว่าจะถึงวินก็เกือบ 5 นาทีแล้ว เหลือเวลาอีกแค่ 5 นาทีเท่านั้น บอกพี่วินแว้นซ์ไปอย่างไว ไฟแดงพี่วินก็ไม่หยุดค่ะ ดีงามมาก(มีความเสี่ยงแต่มันจะไม่ทันแล้วจริงๆอ่ะ) และแล้วก็มาถึงที่กั้นรถไฟ คือรถไฟมาแล้ว คือมันไม่ทันแล้ว เลยตัดสินใจให้พี่วินขับไปที่สถานีหน้า แบบซิ่งสุดๆไปเลย ด้วยความโชคดีที่พี่วินรู้จักเส้นทางเป็นอย่างดี พาลัดเลาะไปเรื่อยๆ จนได้ยินเสียงรถไฟตามมา แล้วก็แซงไป นาทีนั้นถอดใจแล้วว่าไม่ทันแล้ว วิ่งตามรถไฟไปอ่ะ แต่มีไปแยกกันตรงไหนก็ไม่รู้ แล้วลัดมาดักหน้ารถไฟได้ทันเวลาพอดีที่สถานีลาดกระบัง คือทันพอดี ดีใจมาก ปลื้มปริ่มกะพี่วินมาก พี่แกเหมาเราในราคา 200 บาท ก็ถือว่าไม่แพงนะคะ ขับมาไกลใช้ได้เลยทีเดียว ลงรถปุ๊บก็รีบขึ้นรถไฟในทันที จะบอกว่าคนแน่นมาก คนเยอะมาก ขึ้นกันแทบไม่หมด ขึ้นไปก็ไม่มีที่นั่ง ยืนกันเมื่อยเลย ขยับตัวก็แทบจะไม่ได้ พอถึงสถานีฉะเชิงเทราโชคดีมีคนลงเราเลยได้นั่ง จะบอกว่าง่วงมาก หิวมาก หน้าก็สดด้วย มีความไม่มั่นใจ แต่ช่างมัน ค่อยแต่งตอนถึงอรัญประเทศ...
เป็นไงคะ แค่เริ่มทริปก็ตื่นเต้นแล้วเนาะ
แต่เรื่องตื่นเต้นมันยังไม่จบแค่นี้ค่ะ
ทริปนี้มีเรื่องให้เราตื่นเต้นเยอะค่ะ
ต้องติดตามต่อค่ะ
นั่งรถไฟมาถึงอรัญประเทศประมาณเที่ยงๆก็เลยแวะหาอะไรกินกันก่อน แถวด่านไม่ค่อยมีอะไรให้กินเลย มีห้างอยู่ห้างนึงก็เลยแวะเข้าไปกิน KFC แล้วก็แต่งหน้าที่นั่น หาซื้อไม่เซลฟี่(เพราะลืมซื้อไป) และแลกเงิน(ดูซิ ไม่มีความพร้อมเลย) แลกไป 150 ดอลล่าร์(อัตราแลกเปลี่ยน 35.29) พร้อมกับพกเงินสดต่างหากไปอีก 1500 เผื่อๆไว้ เป็นค่าใช้จ่ายที่ใช้เที่ยวเป็นหลัก เพราะโรงแรมจองและจ่ายไปแล้ว
เมื่อเสร็จภารกิจแล้วก็ข้ามฝั่งกันได้แล้ว ลุยกันเลย... เมื่อข้ามมาก็จะมีชาวกัมพูชามาถามเราว่าเราไปไหน มีรถแท็กซี่ไปนะ นู่นนี่นั่น ทีนี้เราต้องพิจารณาเอาเองนะคะ ว่าจะเลือกเดินทางไปยังไง แต่เราคิดไว้แล้วว่าเลือกแท็กซี่เพราะให้เค้าไปส่งถึงโรงแรมเลย จะได้ไม่ต้องไปหาเอง(กลัวหลง หาเพื่อนหลงด้วย) แต่ขอย้ำเลยนะคะว่าต้องดีลดีๆ ต่อรองราคาให้ชัวร์ค่ะ เดี๋ยวจะโดนโกงได้นะคะ คือต้องบอกว่าทริปนี้เวลาเตรียมตัวไม่มีเลย ข้อมูลก็ไม่แน่นเลย แต่เสิร์ชหาข้อมูลเอาจากเนตล้วนๆเลยค่ะ เอามาพิจารณาได้บางส่วน คือเดินทางโดยรถทัวร์จะคนละ 400 บาท ไป 2 คนก็ 800 บาท(ไม่รู้ว่าราคาจริงๆกี่บาท อาจจะถูกกว่านี้ก็ได้) แต่แท็กซี่ 1200 บาท ส่งถึงโรงแรม ก็เลยนั่งแท็กซี่มา ซึ่งจริงๆต้องมีแค่เราใช่มั้ยที่นั่งมา แต่ขอโทษค่ะ มีรับผู้โดยสารเพิ่มมาด้วยค่ะ แอบงงนิดนึง แต่ก็เคยอ่านเจอมาเหมือนกัน เลยภาวนาว่าอย่าเยอะกว่านี้แล้วกัน สรุปรับเพิ่มมาอีก 1 ก็นั่งกันมา 4 คนรวมคนขับ เป็นรถ camry รุ่นธรรมดา คันเล็กและเก่ามาก วิ่งๆไปแอร์ไม่เย็นอีก หึหึ เปิดหน้าต่างเย็นๆกันไปค่ะ คนขับพูดไทยไม่ได้ แต่พี่ที่ขึ้นทีหลังพูดได้นิดหน่อย ก็ดีเหมือนกัน เหมือนมีล่ามกับคนขึบ เอาไว้สื่อสารตอนหาโรงแรม
แล้วทริปนี้ไม่ได้ซื้อซิมมา ไม่มีเนต คิดว่าคนขับน่าจะพาไปถึงโรงแรมได้แหละ คงไม่ต้องใช้เนตเปิด gps แต่ความจริงไม่เป็นแบบนั้นค่ะ หลงค่ะ หลงหนักมาก เมื่อมาถึงในตัวเมืองเสียมเรียบก็เลยให้หาร้านโทรศัพท์ซื้อซิมค่ะ ซื้อซิมเนต cellcard มา ในราคา 8 เหรียญ เพื่อเปิด gps หาโรงแรม และแล้วก็หลงอีก 555 เลยต้องโทรหาโรงแรมเพื่อถามทาง ยังค่ะอุปสรรคยังไม่หมด โทรไม่ติดค่ะ ทีนี้ทำไงล่ะ ก็เลยไปตาม gps บอกอีกที ค่อยไปถามเอาแถวใกล้ๆนั้น พอกลับมาอีกทีก็เจอโรงแรมค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง(ถ้าไม่หลง) ก็จ่ายเงินตามตกลง 1200 บาท แต่คนขับบอกว่าตกลงกัน 1600 บาท เอิ่ม นานีนั้นสตั้นก่อน 3 วิ คือไม่ใช่ละ จ่ายแค่ 1200 เท่านั้น เพราะคุยกันไว้แค่นี้จริงๆ ไม่ได้โกง ยืนเถียงกันจนมีพี่ชาวกัมพูชาที่อยู่แถวนั้นที่พูดไทยได้ มาช่วยเคลียร์ เลยโชคดีไป ไมงั้นก็ไม่รู้จะยังไงเลยค่ะ พี่คนที่มาช่วยเคลียร์ชื่อพี่สิทธิชัย พี่เค้าทำทัวร์ จัดทริปด้วยค่ะ มีตุ๊กตุ๊กพาเที่ยว เราเลยใช้บริการพี่แกค่ะ
Facebook ของพี่สิทธิชัยค่ะ เผื่อใครไปเที่ยว ใช้บริการพี่เค้าได้นะคะ ราคาไม่แพง บริการดีมากๆค่ะ
https://web.facebook.com/sithy.chhay999
เอาล่ะค่ะ เมื่อทุกอย่างเคลียร์ ก็ไป Check in กันค่ะ อากาศที่นี่ก็เย็นๆนะคะ
เมื่อ check in เรียบร้อย จะมีพนักงานพามาที่ห้องค่ะ มาแนะนำการใช้อุปกรณ์ต่างๆ พนักงาน friendly มาก คุยกันนี่ขำกันไปตลอดเวลา 5555
คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวมาก นอนด้วยกันเลยมั้ยคะ อิอิ
เก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้วก็พากันเดินไปหาของกิน และไปทำบุญด้วยค่ะ เพราะวันนั้นเป้นวันมาฆบูชาค่ะ ที่นี่เค้าก็นับถือศาสนาพุทธเหมือนกับเรา
ทำบุญเสร็จแล้วก็เดินไปแถวๆ Lucky mall
เป็นห้างเล็กๆค่ะ มีร้านอาหารแค่ 2 ร้าน มีเหมือนแมคโดนัลด์บ้านเรา กับร้านชาบูบุฟเฟ่ต์ค่ะ แต่เราไม่ได้กินที่ห้างค่ะ ไปเดินสำรวจเฉยๆ
ไปกินร้านอาหารข้างนอกห้าง มากินร้าน lily lily restaurant ค่ะ
ร้านนี้ก็อร่อยอยู่นะคะ อาหารเหมือนๆบ้านเราเลยค่ะ แต่รสชาติจะหวานๆหน่อย ส่วนน้ำมะพร้าวลองสั่งมาเพราะว่าลูกใหญ่มากๆ ราคา 1 เหรียญ ลูกใหญ่แต่ไม่หวานค่ะ จบเลย 555
อ้อ แล้วการเดินทางที่นี่ส่วนใหญ่ใช้ตุ๊กตุ๊กกันค่ะ แต่ราคาก็แรงใช้ได้เลยนะคะ แค่จากโรงแรมมาห้างนี่ 5 เหรียญ เราเลยเลือกเดินค่ะ เพราะไม่ไกลมาก
แล้วก็จะมีร้านเช่าจักรยาน กับมอเตอร์ไซต์ด้วยนะคะ เผื่ออยากขับรถชมวิวเอง ในราคาวันละ 10 เหรียญ
แล้วที่นี่ส่วนใหญ่ใช้เงินดอลล่าร์ เงินไทยก็ใช้ได้นะคะ แต่อัตราแลกเปลี่ยนจะแพงกว่า ใช้ดอลล่าร์จะดีกว่า 1 เหรียญเท่ากับ 4000 เรียล
เมื่ออิ่มแล้ว ก็ไปเดินเล่นถนนคนเดิน night marget ค่ะ
เดินไปเดินมาได้ผ้าถุงมา 1 ผืนค่ะ เอาไว้ใส่ไปเที่ยวปราสาทวันพรุ่งนี้ ในราคา 5 เหรียญ ต่อเหลือ 4 เหรียญ คนขายน่ารัก พูดไทยได้
คุยกันก็ขำไป สงสัยคนที่นี่อารมณ์ดีกันนะคะ ขำกันตลอดเลย...
จบไปแล้ว 1 วัน พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยวปราสาทนครวัด-นครธม และรอบๆนะคะ
[CR] เที่ยวกัมพูชา 3 วัน 2 คืน แบบไม่มีแผน งบไม่บานปลาย
ต้องบอกก่อนว่าทริปนี้ ไม่ได้วางแผนอะไรเท่าไหร่ คือเห็นว่ามีวันหยุดยาวช่วงวันมาฆบูชา แล้วแฟนไปทำงานอยู่สระแก้ว เลยชวนกันข้ามฝั่งไปเที่ยวกัมพูชากันดีกว่า คิดได้ปุ๊บก็รีบจองโรงแรมกันเลยค่ะ จองโรงแรม V Siemreap town hotel จอง 2 คืน ราคา 852 บาท โรงแรมนี้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ห้องกว้างมาก พนักงานบริการดีมากๆค่ะ ที่สำคัญพูดไทยได้ด้วยนะคะ
ลิ้งค์โรงแรมที่พักค่ะ https://www.agoda.com/th-th/v-siem-reap-town-hotels/hotel/siem-reap-kh.html
จองโรงแรมเรียบร้อยแล้วก็เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋ากันเลยค่ะ เก็บคืนวันศุกร์ เช้าวันเสาร์ก็ต้องรีบตื่นเพื่อออกเดินทางไปอรัญประเทศก่อน โดยรถไฟไทย(ฟรี)
ต้องบอกก่อนว่าไม่ได้จะประหยัดอะไรขนาดนั้นนะคะ แต่พอดีว่าแฟนทำงานอยู่ที่นั่น แล้วมารอที่สถานีรถไฟ แล้วจะข้ามไปฝั่งปอยเปตเพื่อต่อรถไปเสียมเรียบค่ะ แล้วที่พักก็อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมาก เลยว่าทางนี้สะดวกสุดแล้วค่ะ รถไฟไปอรัญประเทศมี 2 รอบต่อวัน คือ 6.43 น. และ 13.30 น. (ขึ้นที่สถานีหัวหมากค่ะ) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชม.
เมื่อเก็บของเสร็จกว่าจะได้นอนก็ปาไปตี 2 แล้วตั้งปลุกตี 5 แต่นาฬิกาเจ้ากรรมไม่ปลุก ตื่นมาอีกที 6.22 น. แม้เจ้า!! แล้วรถไฟออก 6.43 น. มีเวลาอาบน้ำแต่งตัวรวมเดินทางต้องไม่เกิน 20 นาที ตอนแรกก็ถอดใจแล้วว่าไปไม่ทันแน่ๆ ผู้หญิงกับการอาบน้ำแต่งตัวในเวลาแค่นี้ไม่ทันแน่ๆ แต่ไม่อยากเลื่อนเพราะไม่งั้นต้องไปอีกทีรอบบ่ายกว่าจะไปถึงก็ค่ำแล้ว เลยลองดูคิดว่ามันต้องทันซิน่า ทันใดนั้นรีบวิ่งเข้าห้องน้ำแล้วไปวิ่งผ่านน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน แล้วออกมาแต่งตัวแบบคว้าตัวไหนได้ก็ใส่ไปเลย แล้วรีบคว้ากระเป๋าออกจากห้อง ใส่รองเท้าผ้าใบแบบไม่มีถุงเท้า เพราะไม่มีเวลาหาแล้ว ออกจากห้องมา เหลือเวลาไม่ถึง 10 นาที เดินกว่าจะถึงวินก็เกือบ 5 นาทีแล้ว เหลือเวลาอีกแค่ 5 นาทีเท่านั้น บอกพี่วินแว้นซ์ไปอย่างไว ไฟแดงพี่วินก็ไม่หยุดค่ะ ดีงามมาก(มีความเสี่ยงแต่มันจะไม่ทันแล้วจริงๆอ่ะ) และแล้วก็มาถึงที่กั้นรถไฟ คือรถไฟมาแล้ว คือมันไม่ทันแล้ว เลยตัดสินใจให้พี่วินขับไปที่สถานีหน้า แบบซิ่งสุดๆไปเลย ด้วยความโชคดีที่พี่วินรู้จักเส้นทางเป็นอย่างดี พาลัดเลาะไปเรื่อยๆ จนได้ยินเสียงรถไฟตามมา แล้วก็แซงไป นาทีนั้นถอดใจแล้วว่าไม่ทันแล้ว วิ่งตามรถไฟไปอ่ะ แต่มีไปแยกกันตรงไหนก็ไม่รู้ แล้วลัดมาดักหน้ารถไฟได้ทันเวลาพอดีที่สถานีลาดกระบัง คือทันพอดี ดีใจมาก ปลื้มปริ่มกะพี่วินมาก พี่แกเหมาเราในราคา 200 บาท ก็ถือว่าไม่แพงนะคะ ขับมาไกลใช้ได้เลยทีเดียว ลงรถปุ๊บก็รีบขึ้นรถไฟในทันที จะบอกว่าคนแน่นมาก คนเยอะมาก ขึ้นกันแทบไม่หมด ขึ้นไปก็ไม่มีที่นั่ง ยืนกันเมื่อยเลย ขยับตัวก็แทบจะไม่ได้ พอถึงสถานีฉะเชิงเทราโชคดีมีคนลงเราเลยได้นั่ง จะบอกว่าง่วงมาก หิวมาก หน้าก็สดด้วย มีความไม่มั่นใจ แต่ช่างมัน ค่อยแต่งตอนถึงอรัญประเทศ...
เป็นไงคะ แค่เริ่มทริปก็ตื่นเต้นแล้วเนาะ
แต่เรื่องตื่นเต้นมันยังไม่จบแค่นี้ค่ะ
ทริปนี้มีเรื่องให้เราตื่นเต้นเยอะค่ะ
ต้องติดตามต่อค่ะ
นั่งรถไฟมาถึงอรัญประเทศประมาณเที่ยงๆก็เลยแวะหาอะไรกินกันก่อน แถวด่านไม่ค่อยมีอะไรให้กินเลย มีห้างอยู่ห้างนึงก็เลยแวะเข้าไปกิน KFC แล้วก็แต่งหน้าที่นั่น หาซื้อไม่เซลฟี่(เพราะลืมซื้อไป) และแลกเงิน(ดูซิ ไม่มีความพร้อมเลย) แลกไป 150 ดอลล่าร์(อัตราแลกเปลี่ยน 35.29) พร้อมกับพกเงินสดต่างหากไปอีก 1500 เผื่อๆไว้ เป็นค่าใช้จ่ายที่ใช้เที่ยวเป็นหลัก เพราะโรงแรมจองและจ่ายไปแล้ว
เมื่อเสร็จภารกิจแล้วก็ข้ามฝั่งกันได้แล้ว ลุยกันเลย... เมื่อข้ามมาก็จะมีชาวกัมพูชามาถามเราว่าเราไปไหน มีรถแท็กซี่ไปนะ นู่นนี่นั่น ทีนี้เราต้องพิจารณาเอาเองนะคะ ว่าจะเลือกเดินทางไปยังไง แต่เราคิดไว้แล้วว่าเลือกแท็กซี่เพราะให้เค้าไปส่งถึงโรงแรมเลย จะได้ไม่ต้องไปหาเอง(กลัวหลง หาเพื่อนหลงด้วย) แต่ขอย้ำเลยนะคะว่าต้องดีลดีๆ ต่อรองราคาให้ชัวร์ค่ะ เดี๋ยวจะโดนโกงได้นะคะ คือต้องบอกว่าทริปนี้เวลาเตรียมตัวไม่มีเลย ข้อมูลก็ไม่แน่นเลย แต่เสิร์ชหาข้อมูลเอาจากเนตล้วนๆเลยค่ะ เอามาพิจารณาได้บางส่วน คือเดินทางโดยรถทัวร์จะคนละ 400 บาท ไป 2 คนก็ 800 บาท(ไม่รู้ว่าราคาจริงๆกี่บาท อาจจะถูกกว่านี้ก็ได้) แต่แท็กซี่ 1200 บาท ส่งถึงโรงแรม ก็เลยนั่งแท็กซี่มา ซึ่งจริงๆต้องมีแค่เราใช่มั้ยที่นั่งมา แต่ขอโทษค่ะ มีรับผู้โดยสารเพิ่มมาด้วยค่ะ แอบงงนิดนึง แต่ก็เคยอ่านเจอมาเหมือนกัน เลยภาวนาว่าอย่าเยอะกว่านี้แล้วกัน สรุปรับเพิ่มมาอีก 1 ก็นั่งกันมา 4 คนรวมคนขับ เป็นรถ camry รุ่นธรรมดา คันเล็กและเก่ามาก วิ่งๆไปแอร์ไม่เย็นอีก หึหึ เปิดหน้าต่างเย็นๆกันไปค่ะ คนขับพูดไทยไม่ได้ แต่พี่ที่ขึ้นทีหลังพูดได้นิดหน่อย ก็ดีเหมือนกัน เหมือนมีล่ามกับคนขึบ เอาไว้สื่อสารตอนหาโรงแรม
แล้วทริปนี้ไม่ได้ซื้อซิมมา ไม่มีเนต คิดว่าคนขับน่าจะพาไปถึงโรงแรมได้แหละ คงไม่ต้องใช้เนตเปิด gps แต่ความจริงไม่เป็นแบบนั้นค่ะ หลงค่ะ หลงหนักมาก เมื่อมาถึงในตัวเมืองเสียมเรียบก็เลยให้หาร้านโทรศัพท์ซื้อซิมค่ะ ซื้อซิมเนต cellcard มา ในราคา 8 เหรียญ เพื่อเปิด gps หาโรงแรม และแล้วก็หลงอีก 555 เลยต้องโทรหาโรงแรมเพื่อถามทาง ยังค่ะอุปสรรคยังไม่หมด โทรไม่ติดค่ะ ทีนี้ทำไงล่ะ ก็เลยไปตาม gps บอกอีกที ค่อยไปถามเอาแถวใกล้ๆนั้น พอกลับมาอีกทีก็เจอโรงแรมค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง(ถ้าไม่หลง) ก็จ่ายเงินตามตกลง 1200 บาท แต่คนขับบอกว่าตกลงกัน 1600 บาท เอิ่ม นานีนั้นสตั้นก่อน 3 วิ คือไม่ใช่ละ จ่ายแค่ 1200 เท่านั้น เพราะคุยกันไว้แค่นี้จริงๆ ไม่ได้โกง ยืนเถียงกันจนมีพี่ชาวกัมพูชาที่อยู่แถวนั้นที่พูดไทยได้ มาช่วยเคลียร์ เลยโชคดีไป ไมงั้นก็ไม่รู้จะยังไงเลยค่ะ พี่คนที่มาช่วยเคลียร์ชื่อพี่สิทธิชัย พี่เค้าทำทัวร์ จัดทริปด้วยค่ะ มีตุ๊กตุ๊กพาเที่ยว เราเลยใช้บริการพี่แกค่ะ
Facebook ของพี่สิทธิชัยค่ะ เผื่อใครไปเที่ยว ใช้บริการพี่เค้าได้นะคะ ราคาไม่แพง บริการดีมากๆค่ะ
https://web.facebook.com/sithy.chhay999
เอาล่ะค่ะ เมื่อทุกอย่างเคลียร์ ก็ไป Check in กันค่ะ อากาศที่นี่ก็เย็นๆนะคะ
เมื่อ check in เรียบร้อย จะมีพนักงานพามาที่ห้องค่ะ มาแนะนำการใช้อุปกรณ์ต่างๆ พนักงาน friendly มาก คุยกันนี่ขำกันไปตลอดเวลา 5555
คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวมาก นอนด้วยกันเลยมั้ยคะ อิอิ
เก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้วก็พากันเดินไปหาของกิน และไปทำบุญด้วยค่ะ เพราะวันนั้นเป้นวันมาฆบูชาค่ะ ที่นี่เค้าก็นับถือศาสนาพุทธเหมือนกับเรา
ทำบุญเสร็จแล้วก็เดินไปแถวๆ Lucky mall
เป็นห้างเล็กๆค่ะ มีร้านอาหารแค่ 2 ร้าน มีเหมือนแมคโดนัลด์บ้านเรา กับร้านชาบูบุฟเฟ่ต์ค่ะ แต่เราไม่ได้กินที่ห้างค่ะ ไปเดินสำรวจเฉยๆ
ไปกินร้านอาหารข้างนอกห้าง มากินร้าน lily lily restaurant ค่ะ
ร้านนี้ก็อร่อยอยู่นะคะ อาหารเหมือนๆบ้านเราเลยค่ะ แต่รสชาติจะหวานๆหน่อย ส่วนน้ำมะพร้าวลองสั่งมาเพราะว่าลูกใหญ่มากๆ ราคา 1 เหรียญ ลูกใหญ่แต่ไม่หวานค่ะ จบเลย 555
อ้อ แล้วการเดินทางที่นี่ส่วนใหญ่ใช้ตุ๊กตุ๊กกันค่ะ แต่ราคาก็แรงใช้ได้เลยนะคะ แค่จากโรงแรมมาห้างนี่ 5 เหรียญ เราเลยเลือกเดินค่ะ เพราะไม่ไกลมาก
แล้วก็จะมีร้านเช่าจักรยาน กับมอเตอร์ไซต์ด้วยนะคะ เผื่ออยากขับรถชมวิวเอง ในราคาวันละ 10 เหรียญ
แล้วที่นี่ส่วนใหญ่ใช้เงินดอลล่าร์ เงินไทยก็ใช้ได้นะคะ แต่อัตราแลกเปลี่ยนจะแพงกว่า ใช้ดอลล่าร์จะดีกว่า 1 เหรียญเท่ากับ 4000 เรียล
เมื่ออิ่มแล้ว ก็ไปเดินเล่นถนนคนเดิน night marget ค่ะ
เดินไปเดินมาได้ผ้าถุงมา 1 ผืนค่ะ เอาไว้ใส่ไปเที่ยวปราสาทวันพรุ่งนี้ ในราคา 5 เหรียญ ต่อเหลือ 4 เหรียญ คนขายน่ารัก พูดไทยได้
คุยกันก็ขำไป สงสัยคนที่นี่อารมณ์ดีกันนะคะ ขำกันตลอดเลย...
จบไปแล้ว 1 วัน พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยวปราสาทนครวัด-นครธม และรอบๆนะคะ