ในที่สุดช่วงเวลาที่น่าอึดอัดก็ผ่านไป(หรอ?) เรามาถึงโรงเรียนกันในช่วงเที่ยง เป็นโรงเรียนประถมขนาดเล็ก มีนักเรียนรวมทั้งหมดไม่เกิน 100 คน พอเรามาถึงพี่ค่ายก็พาเราไปไหว้เจ้าที่ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ แล้วก็พาเดินดูบริเวณรอบๆโรงเรียน ชี้แจงรายละเอียดต่างๆในการอยู่ค่าย ก่อนจะปล่อยให้เราไปเก็บของ แล้วมารวมตัวกันที่อาคารอเนกเพื่อทานข้าวกลางวันกัน จะบอกว่าโครตจะช็อคกับอาหารของค่ายนี้มาก จะไม่ขอบอกนะคะว่ามันเป็นยังไง(ความลับ) แต่ถึงยังไงมันก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น ก็แน่นอนค่ะว่าเรามาทำจิตอาสาไม่ได้มาเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัด เพราะฉะนั้นไม่ต้องหวังว่าจะมีที่นอนดีๆ อาหารดีๆ ทุกอย่างที่มีแค่พออยู่ได้ กินได้ ใช้ชีวิตได้ตลอดจนจบค่าย หลังจากผ่านพ้นอาหารมื้อแรกไปแบบ(...) เราก็แยกย้ายกันไปตามฝ่ายงานต่างๆ เราลืมบอกไป ค่ายนี้จะมีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม ตามกลุ่มงานแล้วเราจะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในแต่ละวัน คือมีงานสร้างที่เป็นจุดประสงค์ของการทำค่ายอาสา งานครัวเพื่อปากท้องของชาวค่าย และสุดท้ายงานศึกษาได้ออกไปศึกษาวิถีชีวิตของคนในชุมชน ในวันแรกเอสได้อยู่งานศึกษา เบื้องบนท่านคงเล่นตลกกับเอสแน่ๆ แน่นอนค่ะว่า..พี่เจเขาเป็นพี่งานศึกษา งานศึกษาวันนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรมากเพราะด้วยเป็นวันแรก เราเดินสำรวจโรงเรียนเพื่อทำแผนผังโรงเรียน หลังจากนั้นเราก็ออกเดินเที่ยวสำรวจชุมชนรอบๆโรงเรียน ระหว่างที่เรากำลังเที่ยวเล่นอยู่ เราเจอหมาชาวบ้านแล้วด้วยตัวเอสกลัวหมามากๆ จึงพยายามหลบหลังพี่ๆ
เอส : พี่ๆเอสกลัวไปด้วยๆ
พี่เจ : เอ่อ.. พี่ก็กลัว เราเดินห่างๆมั้ย
และก็นั่นแหละค่ะ ดันไปหลบหลังพี่เจ ซ้ำร้ายกว่านั้นคือ เราทั้งคู่กลัวหมาด้วยกันทั้งคู่ ผลมันก็เลยออกมาตรงกอดแขนกันแน่น เดินอยู่หลังแถวเพราะไม่กล้าเดินเร็วเลยทำให้เดินไม่ทันกลุ่มเพื่อนๆ นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราได้พูดคุยกันมากขึ้นอีกนิดนึง นั่นทำให้เรารู้ว่า พี่เขาจำเด็กปี 1 ที่กล่าวหาว่าเขาเป็นหมาป่า หรือเด็กปี 1 ที่พี่เขาทำน้ำลายเลอะหัวไหล่ตอนหลับ คนนั้นไม่ได้(ควรเศร้าหรือดีใจดี) ตลอดทางที่เราเดินด้วยกัน มันทำให้เราได้รู้อะไรมากขึ้น 'พี่เจก็พึ่งมาทำค่ายนี้เป็นค่ายแรก' และพี่เขาก็มีอีกมุมนึง 'กลัวหมา' 55555 แต่ใครๆก็กลัวไม่น่าใช่เรื่องแปลกเนอะ หมดไป 1 วันกับความเกรงกลัวต่อรุ่นพี่ลดลง
*ขอเปลี่ยนชื่อเรื่องแล้วกันนะ
รุ่นพี่ที่รัก ep2 : เดินเที่ยว
เอส : พี่ๆเอสกลัวไปด้วยๆ
พี่เจ : เอ่อ.. พี่ก็กลัว เราเดินห่างๆมั้ย
และก็นั่นแหละค่ะ ดันไปหลบหลังพี่เจ ซ้ำร้ายกว่านั้นคือ เราทั้งคู่กลัวหมาด้วยกันทั้งคู่ ผลมันก็เลยออกมาตรงกอดแขนกันแน่น เดินอยู่หลังแถวเพราะไม่กล้าเดินเร็วเลยทำให้เดินไม่ทันกลุ่มเพื่อนๆ นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราได้พูดคุยกันมากขึ้นอีกนิดนึง นั่นทำให้เรารู้ว่า พี่เขาจำเด็กปี 1 ที่กล่าวหาว่าเขาเป็นหมาป่า หรือเด็กปี 1 ที่พี่เขาทำน้ำลายเลอะหัวไหล่ตอนหลับ คนนั้นไม่ได้(ควรเศร้าหรือดีใจดี) ตลอดทางที่เราเดินด้วยกัน มันทำให้เราได้รู้อะไรมากขึ้น 'พี่เจก็พึ่งมาทำค่ายนี้เป็นค่ายแรก' และพี่เขาก็มีอีกมุมนึง 'กลัวหมา' 55555 แต่ใครๆก็กลัวไม่น่าใช่เรื่องแปลกเนอะ หมดไป 1 วันกับความเกรงกลัวต่อรุ่นพี่ลดลง
*ขอเปลี่ยนชื่อเรื่องแล้วกันนะ