รุ่นพี่ที่(น่า)รัก ep1 : แรกพบ

ใครจะรู้ว่าความรักจะเกิดขึ้นในรูปแบบไหน และกับคนไหน
สวัสดีค่ะ เราขอแทนตัวเราเองว่า 'เอส' นะคะ เอสเป็นเด็กเฟรชชี่ปี1ค่ะ เป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯคนเดียว ไม่มีเพื่อนจากโรงเรียนเก่ามาเรียนด้วยกันเลย ต้องมาเริ่มชีวิตใหม่ในมหาลัยคนเดียว ยอมรับเลยค่ะว่าช่วงแรกปรับตัวลำบากมาก สังคมมหาลัยแตกต่างกับสังคมมัธยมอย่างมาก ใช้เวลานานพอสมควรเลยค่ากว่าจะมีกลุ่มเพื่อน เอสเป็นคนที่แทบจะไม่มีตัวตนในคณะเลยค่ะ เหมือนเป็นเมย์ไหนเลย55555 อ้อ!ลืมบอกไป เอสเรียนพยาบาล คณะนี้เป็นคณะที่แบบนิสัยผู้หญิงมากๆ มีลำดับชั้นรุ่นพี่-รุ่นน้อง รุ่นน้องแทบทุกคนเกรงกลัวรุ่นพี่กันทั้งนั้นรวมถึงตัวเอสเองด้วย แต่แล้ววันหนึ่งอะไรก็ไม่รู้ดลใจให้เรามีความคิดที่จะไปค่ายอาสา มันคงเป็นความคิดแบบดูดีๆที่ว่า "ครั้งหนึ่งในชีวิตมหาลัยใช้ให้คุ้มหน่อย เรียนด้วยกิจกรรมด้วย จะได้ไม่เครียด แถมยังได้เพื่อนต่างคณะ มีคนรู้จักเพิ่มมากขึ้น" คงเพราะประโยคนี้เลยทำให้เรามายืนอยู่ตรงนี้ ตรงโต๊ะลงทะเบียนเพื่อไปออกค่ายอาสา แล้วก็เหมือนเดิมการมาค่ายนี้โดยมีเพื่อนไปด้วยแค่คนเดียว~เฮ้อ การไปค่ายอาสาครั้งนี้เราเดินทางกันโดยรถไฟ เป็นการเดินทางโดยรถไฟที่ยาวนานถึง 17 ชม. นอนแล้วตื่นแล้วนอน 2-3 รอบก็ยังไม่ถึง(นานเกิน) ตลอดการเดินทางมีทั้งคนหลับ คนเล่นเกม ส่วนเอสนอนตลอดการเดินทางนอนจนเบื่อเลยลุกออกมาเล่นเกมกับเพื่อนๆและพี่ค่าย เกมที่เรากำลังเล่นคือ เกมwerewolf มันคือเกมที่มี 2 ฝ่าย คือฝ่ายหมาป่ากับฝ่ายชาวบ้าน ทุกๆคืนหมาป่าจะออกล่าเหยื่อ อาจจะมีคนตายก็ได้หรือไม่ก็ได้ ส่วนชาวบ้านมีหน้าที่ตามล่าหมาป่าในตอนเช้า พอเริ่มเล่นเกมไปเรื่อยๆ เอสอยู่ฝ่ายชาวบ้าน พอตอนเช้าที่เราต้องตามหาหมาป่า เราก็ต้องเลือกผู้ต้องสงสัยว่าใครน่าจะเป็นหมาป่า เอสก็เลยชี้ไปที่ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มพวกเรา
เอส : "นี่ๆ คนๆนี้แหละเป็นหมาป่า" พูดออกไปด้วยความมั่นใจมากๆ
คนนั้นเขาก็เลยถามเราว่า "ทำไมถึงคิดว่าเป็นเราล่ะ"
เอสรู้สึกว่าเขาถามเราด้วยเสียงที่แข็งนิดๆ เอสจึงหันไปหาเขา บอกเลยช็อคมากๆ เพราะเขาคนนั้นเป็นพี่ค่ายไม่ใช่เพื่อน และที่ไปกว่านั้นคือพี่เขาเป็นรุ่นพี่คณะ ตัวแข็งเลยค่า ทำได้แค่ "เอ่อๆ" บอกตามตรงตอนนั้นกลัวสุดๆเล่นเกมต่อไป แต่รู้สึกความสนุกมันลดลงยังไงก็ไม่รู้ ตั้งแต่จบเกมจนกลับมาหลับต่อจนถึงสถานี เอสก็ยังไม่ได้พูดกับพี่เจเลย ใช่แล้วค่ะ เอสขอแทนชื่อพี่เขาว่า 'พี่เจ' หลังจากที่เราถึงสถานีรถไฟแล้ว แต่การเดินทางของเรายังไม่สิ้นสุดลง เราต้องนั่งรถทหารต่อเข้าไปอีก โรงเรียนที่เราจะไปอยู่กลางเขา ต้องนั่งรถต่อเข้าไปอีก 2 ชม. บนรถทหารเป็นเบาะแบบ 3 ที่นั่ง เพื่อนที่มากับเอสเขาเมารถ เอสเลยให้เขานั่งติดหน้าต่าง แล้วเอสนั่งเบาะตรงกลาง ตอนที่รถกำลังจะออก มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งถามว่า
ผู้หญิงคนนั้น : "ตรงนี้มีใครนั่งมั้ยคะ?"
เอส : "ไม่มีค่ะ นั่งได้" ไอ้นี่ก็ตอบไปโดยที่ไม่ได้มองหน้าเขาด้วยซ้ำ
ใช่แล้วค่ะ อย่างที่พวกคุณคิดไว้นั่นแหละค่ะ คนๆนั้นก็คือพี่เจ รุ่นพี่ในคณะที่รุ่นน้องต่างเกรงกลัว คนที่เราไปกล่าวหาว่าเขาเป็นหมาป่า ในใจนี่แบบ 'นี่เราต้องนั่งข้างพี่เขาไปตลอด 2 ชม.เลยหรอ' รถออกจากสถานีรถไฟมาได้เพียงครึ่งชม. คนเกือบทั้งคันพากันนอนหลับ จากการเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางที่ยาวนาน รวมถึงเอสเองด้วย แต่แล้ว! เอสกับรู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆบนไหล่ เลยทำให้จำเป็นต้องตื่นมาดู ใช่แล้วค่ะอย่างที่พวกคุณคิดแหละค่ะ ไม่ใช่ศีรษะของเพื่อนเอส แต่เป็นศีรษะของพี่เจ โห!เอาแล้วไง 'ต้องทำยังไง ปล่อยไปให้พี่เขานอนไป หรือปลุกพี่เขาดี เอาไงดีๆ' สุดท้ายเอสก็เป็นคนดีเกินไป พี่เขาคงเหนื่อยมากแน่ๆ รถวิ่งทางลูกรังขนาดนี้ยังไม่ตื่น ตลอดทางหลายชั่วโมง เอสเลยต้องสละไหล่ข้างนี้ให้พี่เขาหนุนนอนแทนหมอน จริงๆเวลาที่พี่เขาหลับ.. 'ก็น่ารักดีนะ'.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่