สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่การเดินทางของผมอีกครั้งนะครับ
ทริปนี้บอกเลยว่าติดใจบรรยากาศเมืองและอาหารการกินครับ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง ^^
หลังจาก ทำรีวิวไต้หวัน รู้สึกว่าทำแล้วมีประโยชน์ เลยรวมและเรียบเรียงข้อมูล เรื่องกิน เที่ยว
ไว้เป็นเรื่องเป็นราว เพื่อให้เพื่อนๆได้ติดตามและค้นข้อมูลได้ง่ายๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ติดตามและส่องต่อได้ตาม Link นี้เลย
Facebook : http://www.facebook.com/tem.temmax
Website : http://www.tem-temmax.com
ครั้งนี้ผมจะพาไปยังเมืองมรดกโลกที่เป็นเพื่อนบ้านของเรา นั่นคือ George Town, Penang นั่นเอง
ทริปนี้เกิดจากเพื่อนมาถามว่า เด็กหาดใหญ่บ้านอยู่ใกล้ปีนังทำไมไม่เคยไป คนอื่นอยู่ไกลก็ยังดั้นด้นไปกัน.. แต่ฟังแล้วขึ้น!
เลยรีบหาข้อมูล เห้ยๆ เมืองเล็กๆ ฮิปๆ เที่ยวง่าย ค่าเงินถูกลงเยอะ ไปคนเดียวก็ได้
เลยตัดสินใจลุยเดี่ยวเที่ยวแบบ solo traveler ซะเลย
...
...
สิ่งที่กังวลที่สุดของการเที่ยวคนเดียว คือเรื่องความปลอดภัยครับ
แต่จากที่ดูรีวิวต่างๆ ก็ปลอดภัยระดับหนึ่ง ที่เหลือก็ต้องระวังตัวเองครับ
Safety First
...
...
ทริปนี้เริ่มจากนั่งรถไฟจากสถานีรถไฟหัวลำโพงด้วย
รถด่วนขบวนทักษิณารัถย์
https://ppantip.com/topic/36006975
(เตียงล่าง ราคา 945 บาท) มาถึงหาดใหญ่เวลา 06.35 น.
แล้วต่อรถตู้ไปยังปีนังด้วย KTS Travel รอบเวลา 09.30 น.โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
เมื่อมาถึงด่านปาดังเบซา คนขับรถจะจอดให้ลงเพื่อยื่นพาสปอร์ตผ่าน ตม.
โดยใบผ่าน ตม. ทางคิวรถตู้จะช่วยกรอกให้
แต่ละคนจะต้องถือพาสปอร์ตของตัวเองพร้อมใบผ่าน ตม. ฝั่งไทย
เพื่อประทับตราออกจากไทยทีละคน
แล้วคนขับจะขับเข้าไปยังเขตมาเลย์เซีย ทุกคนจะต้องลงจากรถอีกครั้งและเข้าคิวเพื่อประทับเข้าประเทศมาเลเซียครับ
...
...
...
เมืองปีนังนี้ เป็นส่วนหนึ่งของประเทศมาเลเซีย แต่ทริปนี้จะเน้นเที่ยวใน George Town เป็นหลัก
เพื่อชมตึกโบราณ, Street Art, และบรรยากาศในชุมชนเป็นหลัก
โดยจอร์จทาวน์และมะละกา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2008
ด้านภูมิสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยคนขับจะขับรถมาส่งให้ถึงที่พัก สำหรับคืนนี้เลือกพักที่ Noob Hostel ซึ่งไม่ไกลจากตึก KOMTAR
โดยเลือกนอนเป็น Mix Dorm ชาย-หญิง (ราคาคืนละ 33 RM)
ที่พักสะอาด เตียงกว้างนอนสบาย พร้อมผ้าม่านกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว
ถ้าใครมีของมีค่า สามารถใส่ไว้ในตู้ Locker นี้ได้ครับ โดยจะมีตู้ล็อคเกอร์เตียงละ 1 ตู้
หลังจากจัดแจงเก็บของเรียบร้อยก็ได้เวลาออกไปเดินเล่น
ตื่นเต้นกับการเจอ Street Art ชิ้นแรกโดยบังเอิญ และอยู่ใกล้ที่พักมากๆด้วย
เลยถ่าย Selfie เป็นที่ระลึกสักหน่อย
เดินชมตึก ซึมซับบรรยากาศรอบๆเมือง
สำหรับตึกสไตล์ชิโน-โปรตุกิสนี้ สามารถพบได้บางพื้นที่ในประเทศไทย เช่นภูเก็ต หรือสงขลา
แต่ที่นี่ตึกจะเป็นแบบนี้ทั้งเมือง ยิ่งดูยิ่งหลงน่าหลงไหล
ตึก KOMTAR ซึ่งถือเป็นตึกที่สูงที่สุดในปีนัง ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ในย่าน George Town
รถ Bus แทบทุกสายจะต้องมาหยุดที่นี่ จึงเป็นศูนย์กลางการเดินทางของเมือง George Town ก็ว่าได้
โดยตึกนี้จะเป็นห้างสรรพสินค้า 3 ตึกสามารถเดินเชื่อมกันได้ จึงมีจำหน่ายทุกอย่างที่เราต้องการ รวมถึง Sim Card สำหรับเล่นเน็ต
เลือกเป็น digi sim เพราะได้ยินป้าบนรถตู้แนะนำ บอกว่าดีสุด ขี้เกียจคิดเยอะเลยซื้อตามซะเลย
เราสามารถแจ้งจำนวนวันที่จะใช้แล้วพนักงานแนะนำให้เราได้ครับ (เบอร์พร้อม internet 35 RM)
ใกล้ตึก KOMTAR จะมีลอดช่องเจ้าดัง นั่นคือ Penang Road Famous Teochew Chendul
จะบอกว่าคิวยาวมาก ยาวแบบ.. แทบจะถอดใจ แต่พอยืนสังเกตดีๆ คิวยาวก็จริงแต่เจ้าของร้านทำเร็วมาก
รอไม่นานแนะนำให้เข้าคิวเลยอย่าคิดมาก
ไม่รู้สั่งสั่งยังไง เลยบอกไป "everything" (3.8 RM) ที่จริงอยากได้แบบ take away มีฝาปิดจะได้ถือไปกินที่อื่นได้
แต่ไม่รู้สั่งท่าไหนได้ถ้วยแบบนี้มาถือยากมากให้มาซะเต็มด้วย จะหกตลอดเวลา เลยต้องยืนกินหน้าร้านจนเสร็จ
ฝนก็ตก ลอดช่องก็ต้องกิน รูปก็ต้องถ่าย ทุลักทุเลไปหมด 555
สำหรับรสชาติก็อร่อยดี หอมๆ ช่วยให้สดชื่นในวันที่เหนื่อยล้า ยังคงเทใจให้ลอดช่องวัดเจษฯอยู่ดี 555|
แต่มาแล้วก็ต้องกินจะได้ไม่คาใจ
ข้างๆร้าน Teochew Chendul จะมีร้านอื่นๆอีกรวมถึง Char Koay Teow หน้าตาน่าทาน
แต่อยากกิน Laksa มากกว่า
แล้วก็ได้ Assam Laksa ซึ่งเป็นเมนุเด็ดของปีนัง เป็นอาหารเปอรานากันที่ขึ้นชื่อ โดยจะมีน้ำแกงสีเข้ม
พร้อมน้ำสีดำแยกมาในช้อน ผักโรยหน้าชนิดต่างๆ น้ำซุปมีกลิ่นเครื่องแกงโดดและรสปลาชัดเจน
กลิ่นค่อนข้างแรง ให้ความรู้สึกนัวจัดจ้านสะใจ ทานพร้อมเส้นที่เหมือนขนมจีนบ้านเรา
แล้วก็มุ่งหน้าไปแถว Chew Jetty เพื่อเดินเล่นกันต่อ
มันยิสบนถนนอาเจาะ (Acheen Street Mosque)
มีชาวมุสลิมมาถ่าย pre-wedding ด้วย
แล้วก็แวะมาที่ บ้านสกุลคู (Khoo Kongsi) ซึ่งเป็นบ้านประจำตระกูลที่ใหญ่และโอ่โถงที่สุด
เทียบเท่าพระราชวังของจักรพรรดิจีนเลยทีเดียว
โดยถูกสร้างในช่วงปี ค.ศ. 1890 แต่ถูกไฟไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุจนเสียหายทั้งหลัง
และถูกสร้างใหม่ในปี ค.ศ. 1902 ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีจนปัจจุบัน
แต่เหมือนกำลังซ่อมแซมครั้งใหญ่เลยไม่ได้เข้าไปชมด้านใน แต่คืนนี้เป็นคืน X'mas eve
เลยมีการแสดงบริเวณลานด้านหน้า ก็เลยชมการแสดงเชิดสิงโตไปเพลินๆ
แล้วก็ออกมาเดินถนนอาเมเนี่ยน (Lebuh Armenian) กันต่อ โดยถนนเส้นนี้ถือว่าคึกคักตลอดวัน
จะมีการตั้งโต๊ะขายของ อาหาร เครื่องดื่ม รวมถึง Gallery และ Street Art เท่ๆตลอดทาง
รวมถึง Street Art รูปอาหมวยปั่นจักรยาน เลยแวะถ่ายรูปหน่อย
(โทษทีนะอาตี๋ เผลอนั่งทับไป T.T)
สุดถนน จะเจอกับ CF Food Court ซึ่งมีที่นั่งสบายๆ และร้านมากมายให้เลือกชิม
เรียกว่ามีเมนูดังของปีนังครบเลยครับ แถมราคาย่อมเยาอีกด้วย
George Town เป็นเมืองที่รักษาสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกิสไว้ ได้เกือบทั้งหมด
และเป็นเมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมที่หลากหลาย
ทั้งจีน อินเดีย มุสลิม ในพื้นที่ขนาดเล็ก เราจึงเห็นมัสยิด วัดแขก และวัดจีนอยู่ใกล้ๆกัน
แล้วเดินมาหาเมนูดังในตำนานนั่นก็คือ LOK LOK ในถนนจูเลีย (Lebuh Chulia)
เห็นรถเข็นหน้าตาแบบนี้ กับอะไรเสียบไม้วางเต็มไปหมดก็พุ่งเข้าไปเลย แม่ค้าจะเอาจานที่คลุมถุงพลาสติกมาให้
หลังจากนั้นก็แค่เลือกหยิบของที่อยากกิน จุ่มลงในหม้อน้ำเดือดๆ (ทุกคนจะจุ่มลงในหม้อนี้)
จนสุกแล้วก็วางในจาน ตักน้ำจิ้มราด อร่อยสุดๆ
พอกินเสร็จอย่าเพิ่งทิ้งไม้นะครับ ต้องเก็บไว้ให้แม่ค้านับและคิดราคา
อ้อ! ลืมบอกไปว่าปลายไม้จะมีสีแตกต่างกัน
ราคาก็แตกต่างกันตามแต่ละสีครับ (จะมีป้ายบอกสีและราคาแขวนไว้)
ระหว่างทางก็สะดุดตากับเจ้าแมวที่แอบมองอยู่ 555 ตาใหญ่มาก
ไม่ไหวแล้ว เดินจนปวดเท้าไปหมด ถึงเวลานอนพักเก็บแรงไว้ลุยพรุ่งนี้กันต่อ
เตียงกว้างจริงๆนะ นั่งก็ได้หัวไม่ชน นอนสบายมาก ติดที่ห้องน้ำจะไม่ได้สะอาดมากแต่ก็ไม่แย่เกินไปครับ
...
...
เดี๋ยวมาต่อครับ
[CR] [Solo] Penang ปีนัง มาคนเดียวเที่ยวง่ายมาก.. 2 วัน 1 คืน
ทริปนี้บอกเลยว่าติดใจบรรยากาศเมืองและอาหารการกินครับ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง ^^
หลังจาก ทำรีวิวไต้หวัน รู้สึกว่าทำแล้วมีประโยชน์ เลยรวมและเรียบเรียงข้อมูล เรื่องกิน เที่ยว
ไว้เป็นเรื่องเป็นราว เพื่อให้เพื่อนๆได้ติดตามและค้นข้อมูลได้ง่ายๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ครั้งนี้ผมจะพาไปยังเมืองมรดกโลกที่เป็นเพื่อนบ้านของเรา นั่นคือ George Town, Penang นั่นเอง
ทริปนี้เกิดจากเพื่อนมาถามว่า เด็กหาดใหญ่บ้านอยู่ใกล้ปีนังทำไมไม่เคยไป คนอื่นอยู่ไกลก็ยังดั้นด้นไปกัน.. แต่ฟังแล้วขึ้น!
เลยรีบหาข้อมูล เห้ยๆ เมืองเล็กๆ ฮิปๆ เที่ยวง่าย ค่าเงินถูกลงเยอะ ไปคนเดียวก็ได้
เลยตัดสินใจลุยเดี่ยวเที่ยวแบบ solo traveler ซะเลย
...
...
สิ่งที่กังวลที่สุดของการเที่ยวคนเดียว คือเรื่องความปลอดภัยครับ
แต่จากที่ดูรีวิวต่างๆ ก็ปลอดภัยระดับหนึ่ง ที่เหลือก็ต้องระวังตัวเองครับ
Safety First
...
...
ทริปนี้เริ่มจากนั่งรถไฟจากสถานีรถไฟหัวลำโพงด้วย
รถด่วนขบวนทักษิณารัถย์ https://ppantip.com/topic/36006975
(เตียงล่าง ราคา 945 บาท) มาถึงหาดใหญ่เวลา 06.35 น.
แล้วต่อรถตู้ไปยังปีนังด้วย KTS Travel รอบเวลา 09.30 น.โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
เมื่อมาถึงด่านปาดังเบซา คนขับรถจะจอดให้ลงเพื่อยื่นพาสปอร์ตผ่าน ตม.
โดยใบผ่าน ตม. ทางคิวรถตู้จะช่วยกรอกให้
แต่ละคนจะต้องถือพาสปอร์ตของตัวเองพร้อมใบผ่าน ตม. ฝั่งไทย
เพื่อประทับตราออกจากไทยทีละคน
แล้วคนขับจะขับเข้าไปยังเขตมาเลย์เซีย ทุกคนจะต้องลงจากรถอีกครั้งและเข้าคิวเพื่อประทับเข้าประเทศมาเลเซียครับ
...
...
...
เมืองปีนังนี้ เป็นส่วนหนึ่งของประเทศมาเลเซีย แต่ทริปนี้จะเน้นเที่ยวใน George Town เป็นหลัก
เพื่อชมตึกโบราณ, Street Art, และบรรยากาศในชุมชนเป็นหลัก
โดยจอร์จทาวน์และมะละกา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2008
ด้านภูมิสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยคนขับจะขับรถมาส่งให้ถึงที่พัก สำหรับคืนนี้เลือกพักที่ Noob Hostel ซึ่งไม่ไกลจากตึก KOMTAR
โดยเลือกนอนเป็น Mix Dorm ชาย-หญิง (ราคาคืนละ 33 RM)
ที่พักสะอาด เตียงกว้างนอนสบาย พร้อมผ้าม่านกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว
ถ้าใครมีของมีค่า สามารถใส่ไว้ในตู้ Locker นี้ได้ครับ โดยจะมีตู้ล็อคเกอร์เตียงละ 1 ตู้
หลังจากจัดแจงเก็บของเรียบร้อยก็ได้เวลาออกไปเดินเล่น
ตื่นเต้นกับการเจอ Street Art ชิ้นแรกโดยบังเอิญ และอยู่ใกล้ที่พักมากๆด้วย
เลยถ่าย Selfie เป็นที่ระลึกสักหน่อย
เดินชมตึก ซึมซับบรรยากาศรอบๆเมือง
สำหรับตึกสไตล์ชิโน-โปรตุกิสนี้ สามารถพบได้บางพื้นที่ในประเทศไทย เช่นภูเก็ต หรือสงขลา
แต่ที่นี่ตึกจะเป็นแบบนี้ทั้งเมือง ยิ่งดูยิ่งหลงน่าหลงไหล
ตึก KOMTAR ซึ่งถือเป็นตึกที่สูงที่สุดในปีนัง ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ในย่าน George Town
รถ Bus แทบทุกสายจะต้องมาหยุดที่นี่ จึงเป็นศูนย์กลางการเดินทางของเมือง George Town ก็ว่าได้
โดยตึกนี้จะเป็นห้างสรรพสินค้า 3 ตึกสามารถเดินเชื่อมกันได้ จึงมีจำหน่ายทุกอย่างที่เราต้องการ รวมถึง Sim Card สำหรับเล่นเน็ต
เลือกเป็น digi sim เพราะได้ยินป้าบนรถตู้แนะนำ บอกว่าดีสุด ขี้เกียจคิดเยอะเลยซื้อตามซะเลย
เราสามารถแจ้งจำนวนวันที่จะใช้แล้วพนักงานแนะนำให้เราได้ครับ (เบอร์พร้อม internet 35 RM)
ใกล้ตึก KOMTAR จะมีลอดช่องเจ้าดัง นั่นคือ Penang Road Famous Teochew Chendul
จะบอกว่าคิวยาวมาก ยาวแบบ.. แทบจะถอดใจ แต่พอยืนสังเกตดีๆ คิวยาวก็จริงแต่เจ้าของร้านทำเร็วมาก
รอไม่นานแนะนำให้เข้าคิวเลยอย่าคิดมาก
ไม่รู้สั่งสั่งยังไง เลยบอกไป "everything" (3.8 RM) ที่จริงอยากได้แบบ take away มีฝาปิดจะได้ถือไปกินที่อื่นได้
แต่ไม่รู้สั่งท่าไหนได้ถ้วยแบบนี้มาถือยากมากให้มาซะเต็มด้วย จะหกตลอดเวลา เลยต้องยืนกินหน้าร้านจนเสร็จ
ฝนก็ตก ลอดช่องก็ต้องกิน รูปก็ต้องถ่าย ทุลักทุเลไปหมด 555
สำหรับรสชาติก็อร่อยดี หอมๆ ช่วยให้สดชื่นในวันที่เหนื่อยล้า ยังคงเทใจให้ลอดช่องวัดเจษฯอยู่ดี 555|
แต่มาแล้วก็ต้องกินจะได้ไม่คาใจ
ข้างๆร้าน Teochew Chendul จะมีร้านอื่นๆอีกรวมถึง Char Koay Teow หน้าตาน่าทาน
แต่อยากกิน Laksa มากกว่า
แล้วก็ได้ Assam Laksa ซึ่งเป็นเมนุเด็ดของปีนัง เป็นอาหารเปอรานากันที่ขึ้นชื่อ โดยจะมีน้ำแกงสีเข้ม
พร้อมน้ำสีดำแยกมาในช้อน ผักโรยหน้าชนิดต่างๆ น้ำซุปมีกลิ่นเครื่องแกงโดดและรสปลาชัดเจน
กลิ่นค่อนข้างแรง ให้ความรู้สึกนัวจัดจ้านสะใจ ทานพร้อมเส้นที่เหมือนขนมจีนบ้านเรา
แล้วก็มุ่งหน้าไปแถว Chew Jetty เพื่อเดินเล่นกันต่อ
มันยิสบนถนนอาเจาะ (Acheen Street Mosque)
มีชาวมุสลิมมาถ่าย pre-wedding ด้วย
แล้วก็แวะมาที่ บ้านสกุลคู (Khoo Kongsi) ซึ่งเป็นบ้านประจำตระกูลที่ใหญ่และโอ่โถงที่สุด
เทียบเท่าพระราชวังของจักรพรรดิจีนเลยทีเดียว
โดยถูกสร้างในช่วงปี ค.ศ. 1890 แต่ถูกไฟไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุจนเสียหายทั้งหลัง
และถูกสร้างใหม่ในปี ค.ศ. 1902 ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีจนปัจจุบัน
แต่เหมือนกำลังซ่อมแซมครั้งใหญ่เลยไม่ได้เข้าไปชมด้านใน แต่คืนนี้เป็นคืน X'mas eve
เลยมีการแสดงบริเวณลานด้านหน้า ก็เลยชมการแสดงเชิดสิงโตไปเพลินๆ
แล้วก็ออกมาเดินถนนอาเมเนี่ยน (Lebuh Armenian) กันต่อ โดยถนนเส้นนี้ถือว่าคึกคักตลอดวัน
จะมีการตั้งโต๊ะขายของ อาหาร เครื่องดื่ม รวมถึง Gallery และ Street Art เท่ๆตลอดทาง
รวมถึง Street Art รูปอาหมวยปั่นจักรยาน เลยแวะถ่ายรูปหน่อย
(โทษทีนะอาตี๋ เผลอนั่งทับไป T.T)
สุดถนน จะเจอกับ CF Food Court ซึ่งมีที่นั่งสบายๆ และร้านมากมายให้เลือกชิม
เรียกว่ามีเมนูดังของปีนังครบเลยครับ แถมราคาย่อมเยาอีกด้วย
George Town เป็นเมืองที่รักษาสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกิสไว้ ได้เกือบทั้งหมด
และเป็นเมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมที่หลากหลาย
ทั้งจีน อินเดีย มุสลิม ในพื้นที่ขนาดเล็ก เราจึงเห็นมัสยิด วัดแขก และวัดจีนอยู่ใกล้ๆกัน
แล้วเดินมาหาเมนูดังในตำนานนั่นก็คือ LOK LOK ในถนนจูเลีย (Lebuh Chulia)
เห็นรถเข็นหน้าตาแบบนี้ กับอะไรเสียบไม้วางเต็มไปหมดก็พุ่งเข้าไปเลย แม่ค้าจะเอาจานที่คลุมถุงพลาสติกมาให้
หลังจากนั้นก็แค่เลือกหยิบของที่อยากกิน จุ่มลงในหม้อน้ำเดือดๆ (ทุกคนจะจุ่มลงในหม้อนี้)
จนสุกแล้วก็วางในจาน ตักน้ำจิ้มราด อร่อยสุดๆ
พอกินเสร็จอย่าเพิ่งทิ้งไม้นะครับ ต้องเก็บไว้ให้แม่ค้านับและคิดราคา
อ้อ! ลืมบอกไปว่าปลายไม้จะมีสีแตกต่างกัน
ราคาก็แตกต่างกันตามแต่ละสีครับ (จะมีป้ายบอกสีและราคาแขวนไว้)
ระหว่างทางก็สะดุดตากับเจ้าแมวที่แอบมองอยู่ 555 ตาใหญ่มาก
ไม่ไหวแล้ว เดินจนปวดเท้าไปหมด ถึงเวลานอนพักเก็บแรงไว้ลุยพรุ่งนี้กันต่อ
เตียงกว้างจริงๆนะ นั่งก็ได้หัวไม่ชน นอนสบายมาก ติดที่ห้องน้ำจะไม่ได้สะอาดมากแต่ก็ไม่แย่เกินไปครับ
...
...
เดี๋ยวมาต่อครับ