Woman Says “YES”
Y = Younger skin ผิวอ่อนเยาว์
E = Emotional balance อารมณ์เบิกบาน
S = Soothing menopause วัยทองสดใส
ผู้หญิงทุกคนต่างใฝ่ฝันจะมีสุขภาพดี คงความอ่อนเยาว์ มีจิตใจที่เบิกบานแจ่มใส เปี่ยมด้วยพลังชีวิต และดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข โดยเพราะเมื่อย่างเข้าสู่วัยทองก็ยังสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ สิ่งสำคัญคือ การเตรียมตัวเข้าสู่วัยต่างๆ อย่างสร้าสรรค์ย่อมนุณภาพชีวิตที่ดีมาสู่ผู้หญิงที่เข้าใจ และเรียนรู้ท่ะปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
Women’s Health
เมื่อย่างเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ รังไข่ของผู้หญิงจะเริ่มผลิตไข่ และผลิตฮอร์โมนเพศหญิงทั้ง “เอสโตรเจน” และ “โปรเจสเตอโรน” ซึ่งเป็นวงจรของการมีรอบเดือน และส่งผลต่อเนื่องกับการทำงานของระบบอวัยวะต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง การมีความสมดุลของฮอร์โมนเพศหญิงจึงเป็นรากฐานของการมีสุขภาพที่ดีสำหรับผู้หญิงทุกคน
อาการก่อนการมีประจำเดือน (PMS)
ในช่วงที่ผู้หญิงมีรอบเดือนนั้น ปริมาณฮอร์โมนเพศหญิงจะไม่สมดุลอยู่ตลอดเวลา โดยช่วงแรกเมื่อรังไข่เริ่มต้นผลิตไข่และเม็ดไข่เริ่มเจริญก็จะมีการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน จนเมื่อมีการตกไข่ ผนังของเม็ดไข่ที่เหลือจะสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน และเมื่อใกล้มีรอบเดือน ระดับของฮอร์โมนทั้งสองชนิดจะลดลง นเกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศหญิง ผลที่เกิดขึ้นคือทำให้เกิดกลุ่มอาการก่อนการมีรอบเดือน ที่เรียกว่า PMS (premenstrual syndrome) ซึ่งทำให้ผู้หญิงมากกว่าร้อยละ 70 ต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้คุณภาพชีวิตลดลง
อาการที่เกิดขึ้นร่วมกันกับการมีประจำเดือน อันได้แก่ อาการปวดศรีษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย วิงเวียนศรีษะ ปวดหลัง รวมถึงอาการคัดหน้าอก เป็นอาการที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้หญิงเป็นอย่างมาก เป็นผลจากการบริโภคอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวมากเกินไป ทำให้ไขมันถูกเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มมากขึ้นในเนื้อเยื่อมดลูก ส่งผลให้มดลูกบีบตัวมากกว่าปกติ ทำให้อาการปวดท้องในขณะที่มีประจำเดือนเกิดขึ้น นอกจากนี้กรดไขมันอิ่มตัวที่มากเกินไปจะทำให้ฮอร์โมนโปรแลคตินเพิ่มมากขึ้น ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้จะทำให้เกิดอาการคัดหน้าอก และทำให้เลือดออกมาก เป็นผลให้เพิ่มการบีบตัวของเลือดในมดลูก ทำให้มีอาการปวดประจำเดือนมากด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ฮอร์โมนโปรแลคตินยังทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปวดศรีษะ ปวดหลัง ปวดเมื่อยรวมถึงอาการอ่อนเพลียขณะมีประจำเดือน
การบริโภค น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ซึ่งมีกรดแกมมา ไลโนเลนิก (GLA) สามารถช่วยลดอาการปวดประจำเดือน อาการก่อนและหลังประจำเดือน อาการคัดหน้าอก ลงได้ โดยต้องบริโภคทุกวัน ไม่ใช่บริโภคเฉพาะในขณะที่เป็นประจำเดือน เพราะร่างกายต้องการเวลาในการสร้างพรอสตาแกลนดิน 1(Prostaglandin E1 – PGE1) เพื่อให้ช่วยลดอาการปวดให้ลดลงได้ จากการที่น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส อุดมไปด้วย GLA ทำให้มันมีคุณสมบัติที่ดีในการรักษา โดยจะเปลี่ยนรูปเป็น พรอสตาแกลนดิน ที่มีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนในการช่วยให้หน้าที่ต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้มันยังมีคุณสมบัติในการต้านอาการอักเสบที่ดีด้วย
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose Oil) มีสารประกอบสำคัญ คือ กรดไขมันจำเป็นไม่อิ่มตัว (Essential Fatty Acid) ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ชนิดโอเมก้า 6 ได้แก่ กรดไลโนเลอิก (Linoleic - LA) และกรดแกมมาไลโนเลนิก (Gamma Linolenic acid – GLA) ซึ่งทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบหลักของเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell membrane) มีคุณสมบัติในการป้องกันการสูญเสียน้ำของเซลล์ผิวหนัง ผิวจึงคงความชุ่มชื่น สดใส เปล่งปลั่ง และมีน้ำมีนวล
LA ใน น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส จะถูกร่างกายเปลี่ยนเป็น GLA โดยเอนไซม์ 6-Desaturase ซึ่ง GLA นี้เป็นสารตั้งต้นในกระบวนการสร้างพรอสตาแกลนดิน 1 (Prostaglandin E1 – PGE1) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทช่วยให้ร่างกายเกิดความสบาย ตลอดจนป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อาทิ ช่วยลดการอักเสบ ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด ความดันดลหิตสูง บรรเทาอาการแทรกซ้อนจากโรค เบาหวาน และที่สำคัญที่สุด คือ รักษาอาการผิดปกติก่อนมีประจำเดือน
ข้อแนะนำในการรับประทาน
- รับประทาน น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส พร้อมอาหารเพื่อลดอาการข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น
- เพื่อให้ได้ผลดีในการใช้ในการรักษาอาการปวดประจำเดือน ดังนั้นเพื่อให้ น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส เปลี่ยนเป็น GLA ได้ดีควรรับประทานร่วมกับ Multivitamin (ควรจะประกอบไปด้วย zinc, vitamin C, vitamin B-complex vitamins และ magnesium)
- ในรายที่ต้องการผลด้าน ผิวหนัง ผม และเล็บ อาจจะต้องใช้เวลา 2-6 เดือนกว่าจะเห็นผล
อาการข้างเคียง
ถึงแม้ว่า น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส จะให้คุณประโยชน์ มากมาย แต่สำหรับผู้บริโภคบางรายที่รับประทานเข้าไปแล้ว อาจจะเกิดอาการข้างเคียงได้ อาทิ
- อาการคลื่นไส้ ท้องอืดเฟ้อ
- อาการปวดศรีษะ
- อาการผื่นแพ้
- อาการลมชักกำเริบ
ในยุคปัจจุบันนี้ ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะบริโภคกรดไขมันอิ่มตัวจากการกินเนื้อสัตว์ นม ช็อกโกแลตมากเกินไป จนกระทั่งกรดไขมันอิ่มตัวเข้าไปแทนที่กรดไขมันจำเป็น ทำให้ร่างกายได้รับกรดไขมันจำเป็นชนิดโอเมก้า 6 ไม่เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาวะที่สมดุล และช่วยป้องกันและบรรเทาอาการของโรคต่างๆ ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ดังนั้นจึงควรบริโภค น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส เพื่อให้ร่างกายเปลี่ยน กรดไลโนเลอิก (Linoleic - LA) เป็น กรดแกมมา ไลโนเลนิก (GLA) ทำให้ร่างกายมีสุขภาพดีในที่สุด
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสที่ผู้หญิงทุกคนต้อง Says “YES”
Y = Younger skin ผิวอ่อนเยาว์
E = Emotional balance อารมณ์เบิกบาน
S = Soothing menopause วัยทองสดใส
ผู้หญิงทุกคนต่างใฝ่ฝันจะมีสุขภาพดี คงความอ่อนเยาว์ มีจิตใจที่เบิกบานแจ่มใส เปี่ยมด้วยพลังชีวิต และดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข โดยเพราะเมื่อย่างเข้าสู่วัยทองก็ยังสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ สิ่งสำคัญคือ การเตรียมตัวเข้าสู่วัยต่างๆ อย่างสร้าสรรค์ย่อมนุณภาพชีวิตที่ดีมาสู่ผู้หญิงที่เข้าใจ และเรียนรู้ท่ะปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
Women’s Health
เมื่อย่างเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ รังไข่ของผู้หญิงจะเริ่มผลิตไข่ และผลิตฮอร์โมนเพศหญิงทั้ง “เอสโตรเจน” และ “โปรเจสเตอโรน” ซึ่งเป็นวงจรของการมีรอบเดือน และส่งผลต่อเนื่องกับการทำงานของระบบอวัยวะต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง การมีความสมดุลของฮอร์โมนเพศหญิงจึงเป็นรากฐานของการมีสุขภาพที่ดีสำหรับผู้หญิงทุกคน
อาการก่อนการมีประจำเดือน (PMS)
ในช่วงที่ผู้หญิงมีรอบเดือนนั้น ปริมาณฮอร์โมนเพศหญิงจะไม่สมดุลอยู่ตลอดเวลา โดยช่วงแรกเมื่อรังไข่เริ่มต้นผลิตไข่และเม็ดไข่เริ่มเจริญก็จะมีการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน จนเมื่อมีการตกไข่ ผนังของเม็ดไข่ที่เหลือจะสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน และเมื่อใกล้มีรอบเดือน ระดับของฮอร์โมนทั้งสองชนิดจะลดลง นเกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศหญิง ผลที่เกิดขึ้นคือทำให้เกิดกลุ่มอาการก่อนการมีรอบเดือน ที่เรียกว่า PMS (premenstrual syndrome) ซึ่งทำให้ผู้หญิงมากกว่าร้อยละ 70 ต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้คุณภาพชีวิตลดลง
อาการที่เกิดขึ้นร่วมกันกับการมีประจำเดือน อันได้แก่ อาการปวดศรีษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย วิงเวียนศรีษะ ปวดหลัง รวมถึงอาการคัดหน้าอก เป็นอาการที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้หญิงเป็นอย่างมาก เป็นผลจากการบริโภคอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวมากเกินไป ทำให้ไขมันถูกเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มมากขึ้นในเนื้อเยื่อมดลูก ส่งผลให้มดลูกบีบตัวมากกว่าปกติ ทำให้อาการปวดท้องในขณะที่มีประจำเดือนเกิดขึ้น นอกจากนี้กรดไขมันอิ่มตัวที่มากเกินไปจะทำให้ฮอร์โมนโปรแลคตินเพิ่มมากขึ้น ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้จะทำให้เกิดอาการคัดหน้าอก และทำให้เลือดออกมาก เป็นผลให้เพิ่มการบีบตัวของเลือดในมดลูก ทำให้มีอาการปวดประจำเดือนมากด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ฮอร์โมนโปรแลคตินยังทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปวดศรีษะ ปวดหลัง ปวดเมื่อยรวมถึงอาการอ่อนเพลียขณะมีประจำเดือน
การบริโภค น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ซึ่งมีกรดแกมมา ไลโนเลนิก (GLA) สามารถช่วยลดอาการปวดประจำเดือน อาการก่อนและหลังประจำเดือน อาการคัดหน้าอก ลงได้ โดยต้องบริโภคทุกวัน ไม่ใช่บริโภคเฉพาะในขณะที่เป็นประจำเดือน เพราะร่างกายต้องการเวลาในการสร้างพรอสตาแกลนดิน 1(Prostaglandin E1 – PGE1) เพื่อให้ช่วยลดอาการปวดให้ลดลงได้ จากการที่น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส อุดมไปด้วย GLA ทำให้มันมีคุณสมบัติที่ดีในการรักษา โดยจะเปลี่ยนรูปเป็น พรอสตาแกลนดิน ที่มีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนในการช่วยให้หน้าที่ต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้มันยังมีคุณสมบัติในการต้านอาการอักเสบที่ดีด้วย
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose Oil) มีสารประกอบสำคัญ คือ กรดไขมันจำเป็นไม่อิ่มตัว (Essential Fatty Acid) ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ชนิดโอเมก้า 6 ได้แก่ กรดไลโนเลอิก (Linoleic - LA) และกรดแกมมาไลโนเลนิก (Gamma Linolenic acid – GLA) ซึ่งทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบหลักของเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell membrane) มีคุณสมบัติในการป้องกันการสูญเสียน้ำของเซลล์ผิวหนัง ผิวจึงคงความชุ่มชื่น สดใส เปล่งปลั่ง และมีน้ำมีนวล
LA ใน น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส จะถูกร่างกายเปลี่ยนเป็น GLA โดยเอนไซม์ 6-Desaturase ซึ่ง GLA นี้เป็นสารตั้งต้นในกระบวนการสร้างพรอสตาแกลนดิน 1 (Prostaglandin E1 – PGE1) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทช่วยให้ร่างกายเกิดความสบาย ตลอดจนป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อาทิ ช่วยลดการอักเสบ ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด ความดันดลหิตสูง บรรเทาอาการแทรกซ้อนจากโรค เบาหวาน และที่สำคัญที่สุด คือ รักษาอาการผิดปกติก่อนมีประจำเดือน
ข้อแนะนำในการรับประทาน
- รับประทาน น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส พร้อมอาหารเพื่อลดอาการข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น
- เพื่อให้ได้ผลดีในการใช้ในการรักษาอาการปวดประจำเดือน ดังนั้นเพื่อให้ น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส เปลี่ยนเป็น GLA ได้ดีควรรับประทานร่วมกับ Multivitamin (ควรจะประกอบไปด้วย zinc, vitamin C, vitamin B-complex vitamins และ magnesium)
- ในรายที่ต้องการผลด้าน ผิวหนัง ผม และเล็บ อาจจะต้องใช้เวลา 2-6 เดือนกว่าจะเห็นผล
อาการข้างเคียง
ถึงแม้ว่า น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส จะให้คุณประโยชน์ มากมาย แต่สำหรับผู้บริโภคบางรายที่รับประทานเข้าไปแล้ว อาจจะเกิดอาการข้างเคียงได้ อาทิ
- อาการคลื่นไส้ ท้องอืดเฟ้อ
- อาการปวดศรีษะ
- อาการผื่นแพ้
- อาการลมชักกำเริบ
ในยุคปัจจุบันนี้ ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะบริโภคกรดไขมันอิ่มตัวจากการกินเนื้อสัตว์ นม ช็อกโกแลตมากเกินไป จนกระทั่งกรดไขมันอิ่มตัวเข้าไปแทนที่กรดไขมันจำเป็น ทำให้ร่างกายได้รับกรดไขมันจำเป็นชนิดโอเมก้า 6 ไม่เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาวะที่สมดุล และช่วยป้องกันและบรรเทาอาการของโรคต่างๆ ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ดังนั้นจึงควรบริโภค น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส เพื่อให้ร่างกายเปลี่ยน กรดไลโนเลอิก (Linoleic - LA) เป็น กรดแกมมา ไลโนเลนิก (GLA) ทำให้ร่างกายมีสุขภาพดีในที่สุด