สวัสดีค่ะ ก่ินอื่นต้องขอบคุณผู้ที่ให้คำแนะนำต่าง ๆ ด้วยดีตลอดมานะคะ
เมื่อวานนี้ (14 ก.พ. 2560) เรานัดยื่นเรื่องทำวีซ่าเยี่ยมแฟน ครั้งแรก ซึ่งเรากับแฟนเจอกันมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้เลยอยากไปเยี่ยมฝั่งโน้นบ้าง
โดยเอกสารที่เรามี มีดังนี้ค่ะ
1. สำเนาพาสปอตตัวเอง
2. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า/ใบลงนามรับทราบข้อกำหนด (อันนี้แนบต่อกันเลยนะคะ)
3. ใบเชิญอย่างเป็นทางการ ซึ่งตัวนี้การันตีว่าแฟนจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด (ตัวนี้แนบสำเนาไว้ด้านหลังด้วยนะ)/จดหมายเชิญที่แฟนเขียนขึ้นเอง
4. สำเนาพาสปอร์ตแฟน/สำเนาบัตรประชาชนแฟน/สำเนาใบขับขี่แฟน
5. สำเนาตั๋วเครื่องบินที่แฟนเคยบินมาไทย 2 ครั้ง
6. สเตจเม้นธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (เราเอาไปทั้งไทยและอังกฤษแต่เจ้าหน้าที่เอาแค่อังกฤษ)
7. สำเนาบัตรประชาชน/สำเนาทะเบียนบ้าน/สำเนาสูติบัตร (ของตัวเอง)
8. ในรับรองนักศึกษาออกให้โดยทางวิทยาลัย ไทยกับอังกฤษ
9. รูปถ่ายที่เรากับแฟนถ่ายตอนอยู่ด้วยกัน เพื่อยืนยันความสัมพันระหว่างเรากับคนเชิญ
10. ประกันการเดินทางของ ADAC
นี่คือเอกสารทั้งหมดที่เรายื่นให้กับเจ้าหน้าที่ ทั้งหมดนี้เราไม่ต้องเซ็นสำเนาถูกต้องนะคะ
มาเริ่มกันเลยเนาะ
... เรานัดยื่นวีซ่าเวลา 08.30 - 09.00 วันนั้นเราตื่นตั้งแต่ ตี 5 ครึ่ง นอนไม่หลับ ตื่นเต้นกลัวเอกสารมันขาดเหลือ เราาบน้ำแต่งตัว เสร็จสับก็ตรวจเอกสารอีกครั้งนึงเพื่อความแน่ใจ เรานั่งวินมอไซไปที่ MRT ที่ใกล้ที่สุด เราถึงสถานีลุมพินี ประมาณ 07.30 น. ออกจากประตูที่สองเราก็เลี้ยวซ้ายเดินไปเรื่อยๆ แปปเดียวถึงสถานทูตเลย คนเข้าแถวต่อคิวก็เยอะบ้างแล้ว เรายืนต่อคิวไม่ถึง 5 นาทีก็ได้เจอด่านแรก นั่นคือด่านโทรศัพท์ เราจัดการปิดเรียบร้อยโดยที่เจ้าหน้าที่ไม่ต้องบอกเลย เราถอดเครื่องประดับออกหมดก่อนเข้าไปทำให้ไม่เสียเวลา ด่าน 2 ตรวจกระเป๋าเครื่องแต่งกาย ซึ่งก็เหมือนกับเวลาเราเข้าเกทที่สนามบินนั่นล่ะ ด่าน 3 ด่านเก็บโทรศัพท์ ด่านนี้เจ้าหน้าที่จะเอาแผ่นเหล็กกลม ๆ ให้เรา เวลาเรากลับก็เอาตัวนี้แลกโทรศัพท์ ด่าน 4 เตรียมใบนัดที่ปริ๊นจากเมลแนบกับพาสปอตนะ เพราะเค้าจะตรวจว่าเลขที่พาสปอร์ตตรงกันมั้ย เสร็จแล้วเราก็เขามานั่งรอ มีเก้าอี้หลายตัวให้นั่งรอด้านใน คล้ายๆกับเกทในสนามบินนั่นอีกล่ะ 555 ตรงนี้เค้าจะให้เรานั่งรอเวลาตามนัด และถ้ายังไม่ถึงเวลานัดเราสามารถตรวจสอบเอกสารได้ เพราะมันมีโต๊ะสำหรับตรวจและเตรียมความพร้อมของเอกสาร ถ้าใครลืมถ่ายเอกสารไปที่นั่นมีบริการถ่ายเอกสาร แผ่นละ 3 บาท ถ่ายรูป 150 บาท เราแนะนำว่าให้ถ่ายที่สถานทูตครั้งเดียวจบเลยไม่ถึง 5 นาทีได้รูปตามต้องการ แต่กรอกแบบฟอร์มนี่ แนะนำว่าตรวจสอบให้ดี พยายามอย่ากรอกผิด เพราะเจ้าหน้าที่กรอกแบบฟอร์มปากจัดสุดยอด ค่าบริการกรอกแบบฟอร์ม 180 บาท พอตรวจเอกสารเสร็จเราก็ทำตามคำแนะนำของรุ่นพี่ ยื่นเอกสารให้กับผู้ชายตัวสูงใหญ่ ๆ หน้าเจ๊กๆนั่นละ แล้วบอกให้เค้าช่วยตรวจเอกสารให้หน่อย เรียงถูกมั้ย เอกสารถูกมั้ย ของเราเรียงถูกต้องแต่ได้กลับมาแก้ตรงเซนแบบฟอร์ม เพราะเราเขียนวันที่สถานที่เป็นภาษาไทย เค้าแนะนำให้เขียน BKK , 14.02.2017 ส่วนตรงซิกเนเจอ ต้องเซ็นให้เหมือนกับในพาสปอร์ตเรา เซ็นทั้งหมด 3 หน้า แบบเดียวกันหมด เสร็จแล้วก็นั่งรอเวลาที่เรานัดไว้ พอถึงเวลาเราก็เดินไปหาผู้ชายสูง ๆ คนเดิมแล้วถามเค้าว่า"ถึงเวลาตามนัดแล้วหนูเข้าไปได้รึยังคะ?" เค้าก็ดูเอกสารนัดเราแล้วก็บอกว่าเข้าไปได้เลยกดบัตรคิวแล้วรอช่อง 6-10 เราเดินเข้าไปกดบัตรคิวที่เครื่องด้านขวามือติดกับประตู เสร็จเราก็นั่งรอคิววนไป ฟังคนอื่นที่โดนสัมภาษก็เฉยๆ นะเราว่า ไม่เห็นเหมือนหลายคนบอกกันเลยว่าโหด .. พอมาถึงคิวเรา เราเข้าช่องที่ 7 เจ้าหน้าที่สวย ๆ น่ารัก ๆ พูดเพราะ ถามปกติมาก เรายื่นเอกสารทั้งหมดลงช่องยื่นเอกสาร คำถามมีประมาณนี้นะคะ
ขอวีซ่าไปทำอะไร? เป็นอะไรกับคนเชิญ? ปัจจุบันคุณอาศัยอยู่ที่ไหน? ทำอาชีพอะไร? เรียนอยู่ปีไหน? คบกันนานเท่าไหร่?
รู้จักกันได้ยังไง? มีที่ดินเป็นชื่อตัวเองมั้ย? แฟนส่งเงินมาให้ใช้มั้ย? เดือนละเท่าไหร่? เคยเจอกันมั้ย? เจอกันกี่ครั้ง?
คำถามจะอยู่ประมาณนี้ค่ะ เสร็จแล้วก็สแกนลายนิ้วมือ แล้วออกมาซื้อซองตรงจุดที่เราเคยนั่งรอเวลานัดนั่นล่ะค่ะ ซื้อซองเสร็จก็กลับได้
ตอนนี้ก็มานั่งรอลุ้นผลที่บ้านว่าจะผ่านมั้ย ใจจดจ่อมากเลยค่ะ
แชร์ประสบการณ์วีซ่าเยี่ยมเยือนเยอรมัน รอลุ้นไปด้วยกัน^^
เมื่อวานนี้ (14 ก.พ. 2560) เรานัดยื่นเรื่องทำวีซ่าเยี่ยมแฟน ครั้งแรก ซึ่งเรากับแฟนเจอกันมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้เลยอยากไปเยี่ยมฝั่งโน้นบ้าง
โดยเอกสารที่เรามี มีดังนี้ค่ะ
1. สำเนาพาสปอตตัวเอง
2. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า/ใบลงนามรับทราบข้อกำหนด (อันนี้แนบต่อกันเลยนะคะ)
3. ใบเชิญอย่างเป็นทางการ ซึ่งตัวนี้การันตีว่าแฟนจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด (ตัวนี้แนบสำเนาไว้ด้านหลังด้วยนะ)/จดหมายเชิญที่แฟนเขียนขึ้นเอง
4. สำเนาพาสปอร์ตแฟน/สำเนาบัตรประชาชนแฟน/สำเนาใบขับขี่แฟน
5. สำเนาตั๋วเครื่องบินที่แฟนเคยบินมาไทย 2 ครั้ง
6. สเตจเม้นธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (เราเอาไปทั้งไทยและอังกฤษแต่เจ้าหน้าที่เอาแค่อังกฤษ)
7. สำเนาบัตรประชาชน/สำเนาทะเบียนบ้าน/สำเนาสูติบัตร (ของตัวเอง)
8. ในรับรองนักศึกษาออกให้โดยทางวิทยาลัย ไทยกับอังกฤษ
9. รูปถ่ายที่เรากับแฟนถ่ายตอนอยู่ด้วยกัน เพื่อยืนยันความสัมพันระหว่างเรากับคนเชิญ
10. ประกันการเดินทางของ ADAC
นี่คือเอกสารทั้งหมดที่เรายื่นให้กับเจ้าหน้าที่ ทั้งหมดนี้เราไม่ต้องเซ็นสำเนาถูกต้องนะคะ
มาเริ่มกันเลยเนาะ
... เรานัดยื่นวีซ่าเวลา 08.30 - 09.00 วันนั้นเราตื่นตั้งแต่ ตี 5 ครึ่ง นอนไม่หลับ ตื่นเต้นกลัวเอกสารมันขาดเหลือ เราาบน้ำแต่งตัว เสร็จสับก็ตรวจเอกสารอีกครั้งนึงเพื่อความแน่ใจ เรานั่งวินมอไซไปที่ MRT ที่ใกล้ที่สุด เราถึงสถานีลุมพินี ประมาณ 07.30 น. ออกจากประตูที่สองเราก็เลี้ยวซ้ายเดินไปเรื่อยๆ แปปเดียวถึงสถานทูตเลย คนเข้าแถวต่อคิวก็เยอะบ้างแล้ว เรายืนต่อคิวไม่ถึง 5 นาทีก็ได้เจอด่านแรก นั่นคือด่านโทรศัพท์ เราจัดการปิดเรียบร้อยโดยที่เจ้าหน้าที่ไม่ต้องบอกเลย เราถอดเครื่องประดับออกหมดก่อนเข้าไปทำให้ไม่เสียเวลา ด่าน 2 ตรวจกระเป๋าเครื่องแต่งกาย ซึ่งก็เหมือนกับเวลาเราเข้าเกทที่สนามบินนั่นล่ะ ด่าน 3 ด่านเก็บโทรศัพท์ ด่านนี้เจ้าหน้าที่จะเอาแผ่นเหล็กกลม ๆ ให้เรา เวลาเรากลับก็เอาตัวนี้แลกโทรศัพท์ ด่าน 4 เตรียมใบนัดที่ปริ๊นจากเมลแนบกับพาสปอตนะ เพราะเค้าจะตรวจว่าเลขที่พาสปอร์ตตรงกันมั้ย เสร็จแล้วเราก็เขามานั่งรอ มีเก้าอี้หลายตัวให้นั่งรอด้านใน คล้ายๆกับเกทในสนามบินนั่นอีกล่ะ 555 ตรงนี้เค้าจะให้เรานั่งรอเวลาตามนัด และถ้ายังไม่ถึงเวลานัดเราสามารถตรวจสอบเอกสารได้ เพราะมันมีโต๊ะสำหรับตรวจและเตรียมความพร้อมของเอกสาร ถ้าใครลืมถ่ายเอกสารไปที่นั่นมีบริการถ่ายเอกสาร แผ่นละ 3 บาท ถ่ายรูป 150 บาท เราแนะนำว่าให้ถ่ายที่สถานทูตครั้งเดียวจบเลยไม่ถึง 5 นาทีได้รูปตามต้องการ แต่กรอกแบบฟอร์มนี่ แนะนำว่าตรวจสอบให้ดี พยายามอย่ากรอกผิด เพราะเจ้าหน้าที่กรอกแบบฟอร์มปากจัดสุดยอด ค่าบริการกรอกแบบฟอร์ม 180 บาท พอตรวจเอกสารเสร็จเราก็ทำตามคำแนะนำของรุ่นพี่ ยื่นเอกสารให้กับผู้ชายตัวสูงใหญ่ ๆ หน้าเจ๊กๆนั่นละ แล้วบอกให้เค้าช่วยตรวจเอกสารให้หน่อย เรียงถูกมั้ย เอกสารถูกมั้ย ของเราเรียงถูกต้องแต่ได้กลับมาแก้ตรงเซนแบบฟอร์ม เพราะเราเขียนวันที่สถานที่เป็นภาษาไทย เค้าแนะนำให้เขียน BKK , 14.02.2017 ส่วนตรงซิกเนเจอ ต้องเซ็นให้เหมือนกับในพาสปอร์ตเรา เซ็นทั้งหมด 3 หน้า แบบเดียวกันหมด เสร็จแล้วก็นั่งรอเวลาที่เรานัดไว้ พอถึงเวลาเราก็เดินไปหาผู้ชายสูง ๆ คนเดิมแล้วถามเค้าว่า"ถึงเวลาตามนัดแล้วหนูเข้าไปได้รึยังคะ?" เค้าก็ดูเอกสารนัดเราแล้วก็บอกว่าเข้าไปได้เลยกดบัตรคิวแล้วรอช่อง 6-10 เราเดินเข้าไปกดบัตรคิวที่เครื่องด้านขวามือติดกับประตู เสร็จเราก็นั่งรอคิววนไป ฟังคนอื่นที่โดนสัมภาษก็เฉยๆ นะเราว่า ไม่เห็นเหมือนหลายคนบอกกันเลยว่าโหด .. พอมาถึงคิวเรา เราเข้าช่องที่ 7 เจ้าหน้าที่สวย ๆ น่ารัก ๆ พูดเพราะ ถามปกติมาก เรายื่นเอกสารทั้งหมดลงช่องยื่นเอกสาร คำถามมีประมาณนี้นะคะ
ขอวีซ่าไปทำอะไร? เป็นอะไรกับคนเชิญ? ปัจจุบันคุณอาศัยอยู่ที่ไหน? ทำอาชีพอะไร? เรียนอยู่ปีไหน? คบกันนานเท่าไหร่?
รู้จักกันได้ยังไง? มีที่ดินเป็นชื่อตัวเองมั้ย? แฟนส่งเงินมาให้ใช้มั้ย? เดือนละเท่าไหร่? เคยเจอกันมั้ย? เจอกันกี่ครั้ง?
คำถามจะอยู่ประมาณนี้ค่ะ เสร็จแล้วก็สแกนลายนิ้วมือ แล้วออกมาซื้อซองตรงจุดที่เราเคยนั่งรอเวลานัดนั่นล่ะค่ะ ซื้อซองเสร็จก็กลับได้
ตอนนี้ก็มานั่งรอลุ้นผลที่บ้านว่าจะผ่านมั้ย ใจจดจ่อมากเลยค่ะ