สวัสดีค่ะ ขอมาอัพเดทการขอวีซ่าเชงเก้น ช่วงที่โควิดยังมี แต่เที่ยวได้แล้ว เพราะช่วงเราเตรียมเอกสารไม่เห็นกระทู้ใหม่ๆมาสักพักแล้ว
โดยเราวางแผนไปเที่ยวสโลวีเนีย 10 กว่าวันค่ะ ไปแค่ประเทศเดียวเลย
กรณีของเรา เราแอบลุ้นเพราะ...
- เป็นการยื่นด้วยตัวเองครั้งแรก (2 ปีก่อน เราเคยได้วีซ่าเชงเก้นตอนไปเรียนที่สวิสแต่มีเอเจนซี่ดูเอกสารให้)
- ทริปเราไม่เหมือนทริปคนส่วนใหญ่ที่จะไปหลายประเทศในยุโรป
- ผู้หญิงเที่ยวคนเดียว
- เรายื่นด้วยเงินโบนัสก้อนเดียวที่เข้ามาก่อนยื่น 4 วัน
สำหรับเอกสารเพิ่มเติมจากที่ใช้กันปกติคือ:
1)
วัคซีนพาสพอร์ต: สามารถกดขอในแอพหมอพร้อมได้เลย กดที่ International Certificate รอประมาณ2-3วันก็ได้รับเอกสารทางอีเมลค่ะ
2)
ประกันภัยการเดินทาง: ต้องมีแจ้งว่าครอบคลุมโควิด
และตอนนี้
ไม่มีการเข้ามารับพาสพอร์ตคืนด้วยตัวเอง มีแค่
จัดส่งคืนทางไปรษณีย์เท่านั้นค่ะ
หน้าตาเอกสารของ 2 ตัวนี้ค่ะ
ระยะเวลาดำเนินการ: ของเราใช้ระยะเวลาดำเนินการ 5 วันทำการ
ศ. 04/02: ไปยื่นเอกสารทั้งหมด
จ. 07/02: เจ้าหน้าที่สถานฑูตโทรมาขอเอกสารเพิ่มเติม เพราะใบประกันภัยที่เราแนบไปไม่มีแจ้งว่าครอบคลุมโควิด
อ. 08/02: ส่งเอกสารไปตามอีเมลที่แจ้ง ซึ่งสถานฑูตไม่มีการตอบกลับว่าได้รับเอกสารนะคะ เรากังวลไปเอง จึงโทรไปสอบถามและจนท.ใจดีค่ะ ช่วยเช็คให้และแจ้งว่าได้รับแล้ว
ศ. 11/02: ได้รับ sms แจ้งว่าพาสพอร์ตกำลังเดินทางกลับมาหาเราแล้ว
ส. 12/02: ได้รับพาสพอร์ตคืน ลุ้นเปิดซอง ไม่เจอกระดาษขาว เจอวีซ่าในพาสพอร์ต เย้!
<<สำหรับพาร์ทละเอียดยิบเรื่องการเตรียมเอกสาร>>
ขอเกริ่นว่าทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อตอนช่วงกลางมกราคม เราดูแววว่าออฟฟิสเราจะให้กลับไปทำงานที่ออฟฟิสไม่น่าเกินเมษายนนี้
เราเลยคิดว่า โอกาสจะไปเที่ยวแบบไม่ต้องลายาวมันจะไม่มีแล้วนะ เราก็เลยตัดสินใจทำทริปเที่ยวเดือนกุมภานี้แหละ
ซึ่งเรามีเงินเก็บแต่อยู่ในบัญชีที่ใช้รวมกับการขายของออนไลน์ ซึ่งโดยส่วนตัวเรารู้สึกว่ามันยุ่งยากในการเตรียมเอกสารเกี่ยวกับร้านค้าออนไลน์
เราเลยรอแค่เงินโบนัสปลายเดือนมกราคมแล้วยื่นต้นเดือนกุมภาเลย เริ่มจาก...
1) นัดหมายวันยื่นเอกสาร: เข้าไปทำการจองวันที่จะยื่นวีซ่าในเว็บไซต์ของVFS
2) เตรียมเอกสารที่ต้องใช้: เราอิงจาก Check list form ที่ดาวน์โหลดได้ในเว็บไซต์ VFS เลย เพราะเจ้าหน้าที่ก็ใช้ลิสต์นี้ในการตรวจเช็คเอกสาร
(ขออธิบายเอกสารตามลำดับในลิสต์เลยนะคะ เฉพาะตัวที่จำเป็น เราไม่ได้ยื่นเอกสารที่เป็น Optional เลยค่ะ)
2.1) Visa application: ดาวน์โหลดจากในเว็บไซต์ได้เช่นกันค่ะ ของเราต้องไปกรอกใหม่หน้าเคาเตอร์เพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่าแบบฟอร์มเราเป็นฉบับเก่า ที่หัวเป็นสีเหลืองๆ ล่าสุดเราเช็คก็ยังเป็นฉบับเก่านะคะ แต่ก็โหลดมากรอกไว้ก่อนได้ค่ะ เพราะฉบับใหม่ก็เหมือนกันเลยแค่ตรงหัวไม่เป็นสีเหลือง
2.2) รูปถ่าย 2 ใบ: ถ่ายได้ตามร้านทั่วไปที่รับถ่ายรูปสำหรับขอวีซ่าเชงเก้นได้เลย ไม่เช่นนั้นที่ศูนย์ VFS ก็มีให้บริการค่ะ แต่ราคาสูงกว่าอยู่ที่ 250.- บาท
2.3) Valid passport: พาสพอร์ตที่ยังไม่หมดอายุและมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า (ของเราเล่มใหม่ ขาวจั๊วะเลย)
2.4) ตั๋วเครื่องบิน: เราใช้บริการเอเจนซี่ ออกตั๋วให้ก่อนโดยมัดจำ 2,000 บาท แล้วสามารถนำมาหักกับค่าตั๋วจริงได้เมื่อวีซ่าผ่านค่ะ
2.5) ใบจองโรงแรม: หลักๆจากที่อ่านรีวิวมาคือ ในใบจองต้องโชว์ชื่อเราและครอบคลุมตลอดระยะเวลาการเดินทางค่ะ
2.6) แผนการเดินทาง: อันนี้ตัวอย่างที่เราทำค่ะ ค่อนข้างเน้นง่าย โดยเราแพลนไปเที่ยวทั้งหมด 3 เมือง
วิธีของเราคือ ไปค้นหาในกูเกิ้ลว่า Sightseeing ของเมืองนั้นมีอะไรแล้วก็ปักหมุดในGoogle map ค่ะ แล้วก็ Capscreen มา ใส่ชื่อสถานที่ที่อยากไป เท่านั้นเลย สำหรับทริปนี้เราเช่ารถค่ะ เป็นคนไม่เก่งเรื่องใช้รถสาธารณะ (ขี้เกียจศึกษานั้นเอง) เลยขับรถเอาสะดวกสำหรับเรา
2.7) เอกสารแสดงสถานะทางการเงิน: เราขอสถานะทางการเงินย้อนหลัง 6 เดือนแค่บัญชีเดียวที่เป็นบัญชีไว้สำหรับรับเงินเดือน โดยกรณีขอเพื่อยื่นวีซ่าต้องทำที่สาขาเท่านั้นนะคะ เราขอกับธนาคารสีม่วง ความต่างคือถ้าเป็นช่องทางอื่นจะได้เป็นภาษาไทยเท่านั้นค่ะ แต่ถ้าเราแจ้งแบบวีซ่าตรงชื่อบัญชีจะโชว์เป็นภาษาอังกฤษ มีค่าธรรมเนียม 100.-
2.8) หนังสือรับรองการทำงาน: ตามเงื่อนไขที่ระบุในแบบฟอร์มคือ หัวจดหมายของบริษัท ระบุตำแหน่ง, เงินเดือน, ระยะเวลาเดินทาง พร้อมประทับตราบริษัทและลายเซ็นต์
2.9) ประกันการเดินทาง: มูลค่าขั้นต่ำ 1.5 ล้านบาท ในเว็บไซต์ VFS มีลิ้งค์ให้กดเพื่อไปเปรียบเทียบของแต่ละบริษัทประกันภัยเลยค่ะ จะซื้อจากในลิ้งเลยก็ได้ หรือเลือกที่สนใจแล้วไปซื้อตรงจากบ.ประกันภัย เรทราคาเดียวกันค่ะ
**สิ่งสำคัญตรวจสอบเอกสารว่าในใบประกันมีระบุว่าคุ้มครองการติดโควิดด้วย**
2.10) สำเนาวีซ่าเชงเก้นหากเคยได้มาก่อน: เราเคยได้วีซ่านักเรียนของสวิสเมื่อ 2 ปีก่อน และมีทำวีซ่าอังกฤษตอนอยู่สวิสด้วย เจ้าหน้าที่เก็บไปแค่ตัวของสวิสค่ะ
2.11) พาสพอร์ตวัคซีน: อันนี้ไม่อยู่ในลิสต์แต่ต้องแนบไปค่ะ ตามที่อธิบายข้างต้นเลย
3) เอกสารเพิ่มเติม (ที่เรายื่นเอง)
3.1) จดหมายแนะนำตัว: เราตัดสินใจทำเพราะอยากอธิบายเรื่องแผนการท่องเที่ยวของเราและเงินก้อนที่เข้ามาค่ะ
3.2) เอกสารการจองเช่ารถ: เพื่อให้ดูว่านอกจากค่าใช้จ่ายรายวัน ค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆเรามีการจองไว้หมดแล้วค่ะ
3.3) อีเมลของบริษัทที่แจ้งเรื่องโบนัส: เพื่อแสดงที่มาของยอดเงินที่เข้ามา ซึ่งจริงๆ ในStatement ก็มีโชว์อยู่แล้วว่ามาจาก HR แต่ก็แนบไปเพิ่มค่ะ
<<ขั้นตอนการยื่นเอกสาร>>
1) เราได้รอบจองรอบแรกเลย 8.00 ทาง VFS มีการจัดการคิวที่ดี 8.00 พนักงานมาเรียกให้เข้าไปรับบัตรคิว
2) ไปรอตามช่องที่พนักงานแจ้ง วันนั้นมีคนไปขออิตาลีเยอะมาก ออสเตรียมีแค่เรา ก็คิวแรกเลย เจ้าหน้าที่บริการดีมาก ตรวจสอบเอกสารให้ พูดจาดี
3) ชำระด้วยเงินสดเท่านั้น (จริงๆมีแจ้งอยู่แล้วในแบบฟอร์มที่นัด) แต่เราเข้าใจไปเองว่าน่าจะรับโอนเลยไม่ได้กดเงินค่ะ ซึ่งไม่เป็นไรนะคะ ลงไปกดแล้วกลับมาชำระได้
แค่นี้ก็เรียบร้อยค่ะ ของเราใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที
หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่วางแผนเที่ยวช่วงนี้นะคะ
ขอบคุณค่ะ
**Edit: แนบรูปเอกสารเพิ่ม เพราะมีหลายคนทักมาขอหลังไมค์เลยแปะไว้ให้ค่ะ **
รีวิว ขอวีซ่าเชงเก้น ออสเตรีย 2022 เที่ยวยุโรปช่วงโควิด (อย่างละเอียดสำหรับคนยื่นเองครั้งแรก)
โดยเราวางแผนไปเที่ยวสโลวีเนีย 10 กว่าวันค่ะ ไปแค่ประเทศเดียวเลย
กรณีของเรา เราแอบลุ้นเพราะ...
- เป็นการยื่นด้วยตัวเองครั้งแรก (2 ปีก่อน เราเคยได้วีซ่าเชงเก้นตอนไปเรียนที่สวิสแต่มีเอเจนซี่ดูเอกสารให้)
- ทริปเราไม่เหมือนทริปคนส่วนใหญ่ที่จะไปหลายประเทศในยุโรป
- ผู้หญิงเที่ยวคนเดียว
- เรายื่นด้วยเงินโบนัสก้อนเดียวที่เข้ามาก่อนยื่น 4 วัน
สำหรับเอกสารเพิ่มเติมจากที่ใช้กันปกติคือ:
1) วัคซีนพาสพอร์ต: สามารถกดขอในแอพหมอพร้อมได้เลย กดที่ International Certificate รอประมาณ2-3วันก็ได้รับเอกสารทางอีเมลค่ะ
2) ประกันภัยการเดินทาง: ต้องมีแจ้งว่าครอบคลุมโควิด
และตอนนี้ไม่มีการเข้ามารับพาสพอร์ตคืนด้วยตัวเอง มีแค่จัดส่งคืนทางไปรษณีย์เท่านั้นค่ะ
ศ. 04/02: ไปยื่นเอกสารทั้งหมด
จ. 07/02: เจ้าหน้าที่สถานฑูตโทรมาขอเอกสารเพิ่มเติม เพราะใบประกันภัยที่เราแนบไปไม่มีแจ้งว่าครอบคลุมโควิด
อ. 08/02: ส่งเอกสารไปตามอีเมลที่แจ้ง ซึ่งสถานฑูตไม่มีการตอบกลับว่าได้รับเอกสารนะคะ เรากังวลไปเอง จึงโทรไปสอบถามและจนท.ใจดีค่ะ ช่วยเช็คให้และแจ้งว่าได้รับแล้ว
ศ. 11/02: ได้รับ sms แจ้งว่าพาสพอร์ตกำลังเดินทางกลับมาหาเราแล้ว
ส. 12/02: ได้รับพาสพอร์ตคืน ลุ้นเปิดซอง ไม่เจอกระดาษขาว เจอวีซ่าในพาสพอร์ต เย้!
<<สำหรับพาร์ทละเอียดยิบเรื่องการเตรียมเอกสาร>>
ขอเกริ่นว่าทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อตอนช่วงกลางมกราคม เราดูแววว่าออฟฟิสเราจะให้กลับไปทำงานที่ออฟฟิสไม่น่าเกินเมษายนนี้
เราเลยคิดว่า โอกาสจะไปเที่ยวแบบไม่ต้องลายาวมันจะไม่มีแล้วนะ เราก็เลยตัดสินใจทำทริปเที่ยวเดือนกุมภานี้แหละ
ซึ่งเรามีเงินเก็บแต่อยู่ในบัญชีที่ใช้รวมกับการขายของออนไลน์ ซึ่งโดยส่วนตัวเรารู้สึกว่ามันยุ่งยากในการเตรียมเอกสารเกี่ยวกับร้านค้าออนไลน์
เราเลยรอแค่เงินโบนัสปลายเดือนมกราคมแล้วยื่นต้นเดือนกุมภาเลย เริ่มจาก...
1) นัดหมายวันยื่นเอกสาร: เข้าไปทำการจองวันที่จะยื่นวีซ่าในเว็บไซต์ของVFS
2) เตรียมเอกสารที่ต้องใช้: เราอิงจาก Check list form ที่ดาวน์โหลดได้ในเว็บไซต์ VFS เลย เพราะเจ้าหน้าที่ก็ใช้ลิสต์นี้ในการตรวจเช็คเอกสาร
(ขออธิบายเอกสารตามลำดับในลิสต์เลยนะคะ เฉพาะตัวที่จำเป็น เราไม่ได้ยื่นเอกสารที่เป็น Optional เลยค่ะ)
2.1) Visa application: ดาวน์โหลดจากในเว็บไซต์ได้เช่นกันค่ะ ของเราต้องไปกรอกใหม่หน้าเคาเตอร์เพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่าแบบฟอร์มเราเป็นฉบับเก่า ที่หัวเป็นสีเหลืองๆ ล่าสุดเราเช็คก็ยังเป็นฉบับเก่านะคะ แต่ก็โหลดมากรอกไว้ก่อนได้ค่ะ เพราะฉบับใหม่ก็เหมือนกันเลยแค่ตรงหัวไม่เป็นสีเหลือง
2.2) รูปถ่าย 2 ใบ: ถ่ายได้ตามร้านทั่วไปที่รับถ่ายรูปสำหรับขอวีซ่าเชงเก้นได้เลย ไม่เช่นนั้นที่ศูนย์ VFS ก็มีให้บริการค่ะ แต่ราคาสูงกว่าอยู่ที่ 250.- บาท
2.3) Valid passport: พาสพอร์ตที่ยังไม่หมดอายุและมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า (ของเราเล่มใหม่ ขาวจั๊วะเลย)
2.4) ตั๋วเครื่องบิน: เราใช้บริการเอเจนซี่ ออกตั๋วให้ก่อนโดยมัดจำ 2,000 บาท แล้วสามารถนำมาหักกับค่าตั๋วจริงได้เมื่อวีซ่าผ่านค่ะ
2.5) ใบจองโรงแรม: หลักๆจากที่อ่านรีวิวมาคือ ในใบจองต้องโชว์ชื่อเราและครอบคลุมตลอดระยะเวลาการเดินทางค่ะ
2.6) แผนการเดินทาง: อันนี้ตัวอย่างที่เราทำค่ะ ค่อนข้างเน้นง่าย โดยเราแพลนไปเที่ยวทั้งหมด 3 เมือง
วิธีของเราคือ ไปค้นหาในกูเกิ้ลว่า Sightseeing ของเมืองนั้นมีอะไรแล้วก็ปักหมุดในGoogle map ค่ะ แล้วก็ Capscreen มา ใส่ชื่อสถานที่ที่อยากไป เท่านั้นเลย สำหรับทริปนี้เราเช่ารถค่ะ เป็นคนไม่เก่งเรื่องใช้รถสาธารณะ (ขี้เกียจศึกษานั้นเอง) เลยขับรถเอาสะดวกสำหรับเรา
2.7) เอกสารแสดงสถานะทางการเงิน: เราขอสถานะทางการเงินย้อนหลัง 6 เดือนแค่บัญชีเดียวที่เป็นบัญชีไว้สำหรับรับเงินเดือน โดยกรณีขอเพื่อยื่นวีซ่าต้องทำที่สาขาเท่านั้นนะคะ เราขอกับธนาคารสีม่วง ความต่างคือถ้าเป็นช่องทางอื่นจะได้เป็นภาษาไทยเท่านั้นค่ะ แต่ถ้าเราแจ้งแบบวีซ่าตรงชื่อบัญชีจะโชว์เป็นภาษาอังกฤษ มีค่าธรรมเนียม 100.-
2.8) หนังสือรับรองการทำงาน: ตามเงื่อนไขที่ระบุในแบบฟอร์มคือ หัวจดหมายของบริษัท ระบุตำแหน่ง, เงินเดือน, ระยะเวลาเดินทาง พร้อมประทับตราบริษัทและลายเซ็นต์
2.9) ประกันการเดินทาง: มูลค่าขั้นต่ำ 1.5 ล้านบาท ในเว็บไซต์ VFS มีลิ้งค์ให้กดเพื่อไปเปรียบเทียบของแต่ละบริษัทประกันภัยเลยค่ะ จะซื้อจากในลิ้งเลยก็ได้ หรือเลือกที่สนใจแล้วไปซื้อตรงจากบ.ประกันภัย เรทราคาเดียวกันค่ะ
**สิ่งสำคัญตรวจสอบเอกสารว่าในใบประกันมีระบุว่าคุ้มครองการติดโควิดด้วย**
2.10) สำเนาวีซ่าเชงเก้นหากเคยได้มาก่อน: เราเคยได้วีซ่านักเรียนของสวิสเมื่อ 2 ปีก่อน และมีทำวีซ่าอังกฤษตอนอยู่สวิสด้วย เจ้าหน้าที่เก็บไปแค่ตัวของสวิสค่ะ
2.11) พาสพอร์ตวัคซีน: อันนี้ไม่อยู่ในลิสต์แต่ต้องแนบไปค่ะ ตามที่อธิบายข้างต้นเลย
3) เอกสารเพิ่มเติม (ที่เรายื่นเอง)
3.1) จดหมายแนะนำตัว: เราตัดสินใจทำเพราะอยากอธิบายเรื่องแผนการท่องเที่ยวของเราและเงินก้อนที่เข้ามาค่ะ
3.2) เอกสารการจองเช่ารถ: เพื่อให้ดูว่านอกจากค่าใช้จ่ายรายวัน ค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆเรามีการจองไว้หมดแล้วค่ะ
3.3) อีเมลของบริษัทที่แจ้งเรื่องโบนัส: เพื่อแสดงที่มาของยอดเงินที่เข้ามา ซึ่งจริงๆ ในStatement ก็มีโชว์อยู่แล้วว่ามาจาก HR แต่ก็แนบไปเพิ่มค่ะ
<<ขั้นตอนการยื่นเอกสาร>>
1) เราได้รอบจองรอบแรกเลย 8.00 ทาง VFS มีการจัดการคิวที่ดี 8.00 พนักงานมาเรียกให้เข้าไปรับบัตรคิว
2) ไปรอตามช่องที่พนักงานแจ้ง วันนั้นมีคนไปขออิตาลีเยอะมาก ออสเตรียมีแค่เรา ก็คิวแรกเลย เจ้าหน้าที่บริการดีมาก ตรวจสอบเอกสารให้ พูดจาดี
3) ชำระด้วยเงินสดเท่านั้น (จริงๆมีแจ้งอยู่แล้วในแบบฟอร์มที่นัด) แต่เราเข้าใจไปเองว่าน่าจะรับโอนเลยไม่ได้กดเงินค่ะ ซึ่งไม่เป็นไรนะคะ ลงไปกดแล้วกลับมาชำระได้
แค่นี้ก็เรียบร้อยค่ะ ของเราใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที
หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่วางแผนเที่ยวช่วงนี้นะคะ
ขอบคุณค่ะ
**Edit: แนบรูปเอกสารเพิ่ม เพราะมีหลายคนทักมาขอหลังไมค์เลยแปะไว้ให้ค่ะ **