UK VISA ขอวีซ่าอังกฤษไม่ยากอย่างที่คิด

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับการขอวีซ่ามาฝากกันค่ะ สำหรับคนที่ขอวีซ่าอังกฤษครั้งแรกแบบเรา

หลังจากที่ได้ศึกษาข้อมูลมานานจากพันทิปและเว็บของ VFS เพื่อที่จะขอวีซ่าด้วยตัวเอง

เริ่มจากเก็บตังค์ก่อนเลย เราใช้เวลาเก็บตังค์เพื่อจะขอสเตทเม้นท์ใช้เวลา6เดือนยอดหลักแสนเพื่อจะได้อนุมัติวีซ่าได้ไม่ยาก จากนั้นเราก็วางแผนว่าจะไปวันไหน เราเริ่มจองตั๋วก่อนเลยเพราะตอนนั้นตั๋วถูกมากๆ เราจองเกือบ4เดือนล่วงหน้าได้ราคา 20,010 ไปกลับ ภูเก็ต-ลอนดอน กับมาเลเซียแอร์ไลน์ จ่ายตังค์เสร็จเรียบร้อย แต่ขอบอกก่อนว่าเป็นวิธีที่ไม่ควรทำถ้าไม่มั่นใจว่าจะได้วีซ่าหรือไม่ แนะนำให้จองก่อนขอวีซ่าสัปดาห์นึงแล้วไม่ต้องจ่ายตังค์แค่ปริ้นตั๋วที่จองออกมาใช้เป็นอ้างอิงให้สถานฑูตเท่านั้น ให้เลือกสายการบินที่สามารถจองแล้วไม่จ่ายเงินตั๋วก็จะยกเลิกเองอัตโนมัติ หลังจากจองตั๋วแล้วเราก็เตรียมเอกสาร อ่อ ลืมบอกไปเรามีแฟนเป็นคนอังกฤษซึ่งทำงานในไทย เราให้พ่อแฟนสแกนจดหมายเชิญให้ว่าจะไปพักบ้านพ่อแฟน งั้นที่พักเราก็ไม่ต้องจอง เราเตรียมเอกสารส่วนตัวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรากับแฟนไปด้วย จะได้ไม่ยุ่งยากในการพิจารณาของสถานฑูต เอกสารทั้งหมดมีดังนี้

1. ใบคำร้องขอวีซ่า เป็นใบที่เราปริ้นออกมาจากที่เราสมัครออนไลน์ เราเคยมีคำถามแต่แทบจะหาคำตอบจากเว็บต่างๆได้ยาก คือ การขอวีซ่าสามารถขอได้ล่วงหน้า 90 วัน คือนับยังไง เราคิดว่าหลายคนสงสัยเหมือนเราว่านับจากวันที่สมัครออนไลน์หรือนับจากวันที่นัดหมายไปที่ศูนย์ VFS จริงๆแล้วสมัครออนไลน์เกิน 90 วันได้ แต่ตอนที่นัดหมายไปยื่นเอกสารที่ VFS ต้องไม่เกิน 90 วัน อันนี้คอนเฟิร์มเพราะเราทำมาแล้ว เราสมัครออนไลน์ตั้งแต่ 12 เมษายน 2561 แต่เราไปยื่นเอกสารวันที่ 27 เมษา วันเดินทาง 26 กรกฎา 2561 ของเราจะครบ 90 วันล่วงหน้าพอดีนับจากวันที่ไปยื่นที่ศูนย์ VFS

2. Passport ตัวจริงและ copy อันนี้สำคัญมาก อย่าลืม copy ไปนะ ถ้าไป copy ที่ VFS บอกเลยว่าแพงมาก แผ่นละ 5 บาท อ่อ copy บัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านไปด้วยเผื่อไว้ เรายื่นหมดแต่ไม่รู้ว่าเค้าใช้รึเปล่า

3. เอกสารจองตั๋วเครื่องบิน อย่างที่ระบุไว้ข้างต้น

4. จดหมายเชิญจากญาติสำหรับที่พัก แต่ถ้าไม่มีญาติก็ต้องเป็นเอกสารการจองโรงแรม จองแบบยกเลิกได้

5. Travel Itinerary อันนี้คือการวางแผนการเดินทาง ท่องเที่ยว ใส่ไปไม่เสียหาย

6. ใบรับรองเงินเดือนและสเตทเม้นท์จากธนาคาร เราใช้ย้อนหลัง6เดือน ขอจาก SCB Bank ใบละ 100 อย่างละใบ เรายื่นสมุดบัญชีด้วยสองเล่ม แนะนำให้ถ่ายเอกสารทุกหน้าของบัญชีด้วย เราไม่รู้ว่าต้องถ่ายด้วยเพราะเรายื่นสเตทเม้นท์ที่ขอจากธนาคารมาแล้ว แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าจะยื่นสมุดเล่มจริงด้วยก็ให้ไปถ่ายเอกสารมาทุกหน้า เสียค่าถ่ายเอกสารไปอีก 50 บาท แพงมากๆ

7. ใบรับรองการทำงาน ออกเป็นภาษาอังกฤษ ระบุเงินเดือน ตำแหน่งงาน วันลา

8. สเตทเม้นท์ของแฟนหรือญาติในกรณีมีคนช่วยออกค่าใช้จ่าย เราระบุในใบสมัครว่าแฟนช่วยออกค่าใช้จ่าย เราเลยแนบสเตทเม้นท์ของแฟนไปด้วย

9. เอกสารอื่นๆที่จะยื่นแนบไปก็ได้ เราแนบเอกสารเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับแฟน มีรูปถ่าย, เอกสารเราเป็นเจ้าของรถ, สำเนาบัตรประชาชนของพ่อกับแม่ด้วยที่จะยืนยันว่าเรามีครอบครัวที่นี่และจะกลับมาเมืองไทยจริงๆ

ตอนสมัครออนไลน์เราสามารถเลือกใช้ได้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ปกติเราทำงานใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน เรายังใช้เวลาในการสมัครออนไลน์เกือบชั่วโมงครึ่ง บอกเลยว่าเค้าถามละเอียดยิบ ให้เราเตรียมตัวไว้ให้พร้อมและใช้เวลาในการกรอกข้อมูลอยู่เงียบๆคนเดียวจะได้มีสมาธิมากขึ้น เพราะข้อมูลหลังจากเรากดส่งแล้วจะไม่แก้ไขได้อีกแต่ในขณะที่กรอกข้อมูลอยู่แต่ยังไม่กดส่งก็สามารถกลับมาแก้ไขข้อที่ต้องการแก้ไขได้ หลังจากกดส่งข้อมูลแล้วระบบจะให้เราจ่ายตังค์ 138 USD แล้วเลือกวันที่ต้องการจะไปยื่นเอกสารที่ VFS ถ้าวันที่เราต้องการไม่ว่างให้เราออกจากระบบไปก่อนแล้วค่อยเข้ามาดูใหม่ว่าว่างหรือยัง ไม่ต้องกังวลเพราะข้อมูลถูกบันทึกส่งไปยังอีเมลที่เราให้ไว้แล้ว พอเราล็อกอินเข้าไปใหม่มันก็จะเข้าหน้าที่เราค้างไว้ให้เลือกวัน ตอนแรกของเราก็ไม่ว่าง แต่ผ่านไปสัปดาห์นึงดันว่างซะงั้น

ต่อไปจะเล่าถึงวันที่ไปยื่นที่ VFS ตอนไปถึงที่ตึก trendy จะมีเค้าเตอร์ VFS ให้เราไปที่เค้าเตอร์นั้นก่อน เจ้าหน้าที่จะขอดูใบสมัคร และบอกให้เราไปชั้นที่ 28 ให้ขึ้นลิฟต์เบอร์ 10 ถ้าจำไม่ผิดนะ เจ้าหน้าที่จะบอกเอง แต่ถ้าขึ้นผิดต้องกลับมาใหม่นะ เพราะลิฟต์แต่ละตัวจะไม่ได้ไปชั้น 28 ทั้งหมด พอไปถึงชั้น 28 เราก็ไปหาเจ้าหน้าที่ข้างหน้า เค้าจะขอดูพาสพอร์ตกับเวลานัดจากนั้นก็ได้บัตรคิว แนะนำให้ไปก่อน10นาที เรารอแค่ 10-15 นาทีเท่านั้นก็ได้ยื่นเอกสาร ช่วงที่ยื่นเอกสารเจ้าหน้าที่จะถามว่าสมัคร sms แจ้งเตือนเกี่ยวกับวีซ่ามั้ย เราบอกว่าไม่สมัคร เพราะเราอ่านมาจากหลายกระทู้ว่าไม่จำเป็น จ่าย 85 บาท แต่มีข้อความเข้าแค่สองครั้งว่าเอกสารไปถึงสถานฑูตแล้วกับเอกสารมาถึง VFS แล้วให้ไปรับเอกสารได้ในอีกสองวันทำการ ซึ่งถ้าเราไม่สมัครเราก็จะมีอีเมลส่งมาจากสถานฑูตว่าวีซ่าของเราได้รับการพิจารณาแล้ว สามารถไปรับพาสพอร์ตคืนได้อีกสองวัน งั้น sms ก็ไม่จำเป็นเสียตังค์ฟรีๆ เราไปยื่นเอกสารวันที่ 27 เมษา 2561 พอวันที่ 7 พฤษภา 2561 ก็ได้รับอีเมลว่าวีซ่าได้รับการพิจารณาแล้ว แต่อีเมลของเราเข้าในอีเมลขยะเลยต้องเช็คดีๆ ตอนนั้นไม่ได้เช็คแต่ได้พาสพอร์ตส่งกลับมาทางไปรษณีย์แล้ว ค่าส่งไปรษณีย์ 280 บาท แอบแพงอยู่นะ หลังจากยื่นเอกสารเสร็จเจ้าหน้าที่ให้เอกสารคืนมากับเราและบอกว่าห้ามเปิดซองเอกสารอีกและบอกเราให้รอเพื่อที่จะถ่ายรูปกับสแกนรูม่านตา รูปถ่ายไม่ต้องเอาไปนะ เดี๋ยวนี้ไปถ่ายที่นั่นแล้วรูปเราก็จะเก็บลงระบบไปเลย หลังจากนั้นก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยกลับบ้านได้

หลังจากนั้นก็ รอๆๆ และสุดท้ายก็ได้พาสพอร์ตคืนทางไปรษณีย์ สรุประยะเวลาพิจารณาวีซ่าของเราแค่ 6 วันทำการไม่รวมเสาร์อาทิตย์ ถือว่าเร็วมากๆ พอได้รับเล่มก็เปิดดูพาสพอร์ตเลยค่าาา ลุ้นมากว่าจะได้วีซ่ารึเปล่า สุดท้ายก็ได้มาครอบครองอย่างง่ายดาย

ฉะนั้นเราแนะนำให้เพื่อนๆทุกคนเตรียมเอกสารไว้ให้พร้อมเพราะเราจะได้ไม่เสียเวลาและการขอวีซ่าก็จะง่ายดายสำหรับเรา

ใครมีคำถามอะไรเพิ่มเติมที่เราสามารถตอบได้เราก็ยินดีที่จะตอบให้นะ

ขอให้ทุกคนโชคดีเช่นกันค่ะ 😊
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่