ผมเป็นพนักงานระดับกลางๆในบริษัทขายอุปกรณ์ก่อสร้างที่ค่อนข้างใหญ่แห่งหนึ่งใน กทม. แน่นอนว่าชีวิตประจำวันมันก็เหมือนๆกับคนอื่นๆทั่วๆไป แต่ระยะหลังเริ่มมีบางสิ่งแปลกไปจากเดิม.... ผมว่าผมอ่านใจคนได้! ไม่ใช่เดาใจนะครับ ได้ยินเป็นเสียงพูดเข้ามาในหัวเลย เหมือนคนคุยกันนี่แหละ เพียงแต่ไม่ได้ขยับปากพูดแค่นั้น ที่มันเกิดขึ้นแบบนี้ได้เพราะเจ้านายผม พี่ชาติ แท้ๆทีเดียว เรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ.....
“ศร เอ็งส่งรีพอร์ทสัปดาห์นี้ให้พี่รึยัง?” เจ้านายเดินมาเกาะโต๊ะทำงานผม ถามหน้าเครียดมาเลย
“รีพอร์ทอะไรหรือครับ พี่ชาติ?” ผมถามกลับด้วยความสงสัย ทำไมผมไม่เห็นรู้เลยว่าแกสั่งผมตอนไหนหว่า ปกติผมไม่เคยลืมงานที่พี่ชาติสั่งเลย ผมจึงมั่นใจว่าแกไม่ได้สั่งแน่ๆหรืออาจจะจำผิดว่าสั่งไว้กับคนอื่น
“เฮ่อ....”พี่ชาติเริ่มหงุดหงิด ส่ายหัวแบบเอือมๆ “ พี่สั่งในที่ประชุมสัปดาห์ก่อนไง เห็นเอ็งยังก้มหน้าจดอยู่ยิกๆ”พร้อมกับชี้ไปที่สมุดจดงานของผม “ เอ้า ลองเปิดดูซิ ถ้าไม่เชื่อก็ “
ผมรีบเปิดสมุดดูอย่างรวดเร็ว อ้าว เฮ้ย!! มีจดไว้จริงๆด้วย เป็นไปได้ยังไง แต่จะว่าไปตั้งแต่ผมกลับมาทำงานหลังจากพักรักษาตัวจากอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์คว่ำเดือนก่อน ผมก็มีอาการมึนๆหลงๆอยู่บ้างจริงๆ เลยยิ้มแหยๆให้พี่ชาติไป 1 ดอก “ แหะๆๆ ขอโทษจริงๆครับพี่ เดี๋ยวผมส่งให้พี่เดี๋ยวนี้เลยครับ “
“ หึๆๆ พี่ว่าแล้ว เอ็งลืมแหงๆ อาการยังไม่ดีขึ้นรึ? “ แกถามอย่างห่วงใย ในบรรดาเจ้านายที่ผมเคยทำงานมาด้วย ผมยกพี่ชาติให้เป็นนายในฝันเลย ถึงแม้แกจะพูดจาโผงผาง หยาบบ้างสบถบ้างนิดๆหน่อยๆ แต่เรื่องรัก ปกป้องลูกน้องนี่แกมาที่หนึ่ง แถมทำงานเก่งซะด้วย ลูกน้องต้มแกยากมาก
“ ก็มีเป็นบางครั้งอะพี่ แต่หมอเขาบอกว่าสักพักก็จะค่อยๆดีขึ้นน่ะครับ “ ผมบอกให้แกคลายใจไปยังงั้นแหละ หมอไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับอาการแบบนี้เลย โรงพยาบาลรัฐผมไม่กล้าถามมากซะด้วย
“ดี ถ้าไม่ไหวจะลาพักร้อนซักระยะก็บอกนะ เอาให้หายดีก่อนค่อยมาทำงานก็ได้ รักษาตัวเองก่อน งานเอ็งเดี๋ยวพี่ให้ไอ้ป้อมมันดูแลแทนให้ “ แล้วแกก็ยิ้มให้กำลังใจพร้อมกับจ้ำอ้าวกลับห้องทำงานไป
ลาพักร้อนเหรอ.... อยากอยู่นะ แต่ถ้าลาช่วงนี้ผมบรรลัยแน่ๆ ใกล้สิ้นปีต้องเร่งยอดขายหน่อย ไม่งั้นมีหวังโบนัสติดดินแน่นอน โดยเฉพาะไอ้ป้อมนี่ตัวแย่งลูกค้าคนอื่นเลย ใครๆก็รู้ แต่มันขยันมาก อันนี้ยอมรับ
แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะ? หรือจะลองพึ่งแนวทางพุทธดู? แบบนั่งสมาธิกำหนดจิตอะไรแบบนั้น น่าจะช่วยผมได้ระดับนึงเลยนะ ว่าแล้วผมก็เริ่มหาข้อมูลทั้งใน Google และหนังสือธรรมะต่างๆได้พอสมควร
จากนั้นมาเกือบ 2 เดือน ผมนั่งสมาธิทุกวันเลย แรกๆก็ได้แป๊บเดียว เบื่อซะก่อน แต่ด้วยความเกรงใจพี่ชาติบวกกับกลัวโดนไอ้ป้อมแย่งลูกค้า ผมค่อยๆนั่งได้นานขึ้น จนกระทั่งนั่งถึงเช้าได้ก็มี จนวันหนึ่ง....
“ ป้า กระเพราเนื้อสับราดข้าวจานนึง ไม่ใส่ถั่วฝักยาว ข้าวโพด หอมใหญ่ ข้าวไม่ต้องเยอะ ไข่ดาวไข่แดงไม่สุก “ ผมสั่งเมนูเดิมๆกับป้าแหววร้านตามสั่งใกล้ๆออฟฟิศ แกทำเมนูนี้ประจำ แต่ก็ลืมประจำเช่นกัน ผมจึงต้องสั่งแบบนี้ทุกๆรอบ
“ แดรกห่าอะไรยุ่งยาก
!! กินง่ายๆแบบชาวบ้านเค้าจะตายมั้ย
!!” เสียงป้าไล่หลังผมมา
ผมหันขวับกลับไปด้วยความไม่เชื่อหูตัวเอง “ อะไรนะป้า?”
“ หืม...อะไรลูก จะเอาอะไรเพิ่มรึ? “ ป้ายิ้มอ่อนๆพร้อมกับถามกลับ
“ ก็ ก็ ผมได้ยินป้าด่าใครว่า
เมื่อกี้ “
“ วุ้ย!! ฮ่าๆๆๆ อย่างป้าจะไปด่าใครละลูก ศรนี่ก็พูดไปเรื่อย “ ป้าปิดปากหัวเราะ โบกไม้โบกมือออกจริตจก้าน
“ เออ กูก็ไม่เห็นป้าแกพูดอะไรเลย หูฝาดละ “ ไอ้ต๊อบเพื่อนกินข้าวขาประจำเหน็บยิ้มๆ
สงสัยผมจะหูฝาดจริงๆ แล้วเราก็นั่งรอข้าวที่สั่งกัน
“ โอ้โฮ นมใหญ่
ขอจับทีจะไม่ลืมพระคุณเลยน้องสาว วิ้วววว!!!!” เสียงไอ้ต๊อบดังลั่นจนผมตกใจ รีบหันซ้ายขวาทันที พร้อมกับพูดกับมันเบาๆ “ ไอ้ต๊อบ!!! จะบ้าเรอะ ตะโกนดังขนาดนั้น เดี๋ยวก็โดนตบหรอก
”
ไอ้ต๊อบทำหน้างง “ อะไร? นี่ท่าจะบ้านะ กูยังไม่ได้พูดห่าอะไรเลย เพี้ยนๆนะวันนี้ “แล้วมันก็นั่งดูดน้ำ ยลโฉมน้องนมโตโต๊ะข้างๆต่อไป
ผมก็งงน่ะสิครับ? เต็มสองรูหู สองครั้ง ที่ไอ้ต๊อบว่ามาก็ท่าจะจริง เพราะน้องโต๊ะข้างๆก็นั่งก้มหน้ากินข้าวตามปกติ ถ้ามันตะโกนจริงป่านนี้โดนฝ่ามือพิฆาตแน่นอน
เมื่อผมรู้เท่าทันความคิด....คนอื่น
“ศร เอ็งส่งรีพอร์ทสัปดาห์นี้ให้พี่รึยัง?” เจ้านายเดินมาเกาะโต๊ะทำงานผม ถามหน้าเครียดมาเลย
“รีพอร์ทอะไรหรือครับ พี่ชาติ?” ผมถามกลับด้วยความสงสัย ทำไมผมไม่เห็นรู้เลยว่าแกสั่งผมตอนไหนหว่า ปกติผมไม่เคยลืมงานที่พี่ชาติสั่งเลย ผมจึงมั่นใจว่าแกไม่ได้สั่งแน่ๆหรืออาจจะจำผิดว่าสั่งไว้กับคนอื่น
“เฮ่อ....”พี่ชาติเริ่มหงุดหงิด ส่ายหัวแบบเอือมๆ “ พี่สั่งในที่ประชุมสัปดาห์ก่อนไง เห็นเอ็งยังก้มหน้าจดอยู่ยิกๆ”พร้อมกับชี้ไปที่สมุดจดงานของผม “ เอ้า ลองเปิดดูซิ ถ้าไม่เชื่อก็ “
ผมรีบเปิดสมุดดูอย่างรวดเร็ว อ้าว เฮ้ย!! มีจดไว้จริงๆด้วย เป็นไปได้ยังไง แต่จะว่าไปตั้งแต่ผมกลับมาทำงานหลังจากพักรักษาตัวจากอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์คว่ำเดือนก่อน ผมก็มีอาการมึนๆหลงๆอยู่บ้างจริงๆ เลยยิ้มแหยๆให้พี่ชาติไป 1 ดอก “ แหะๆๆ ขอโทษจริงๆครับพี่ เดี๋ยวผมส่งให้พี่เดี๋ยวนี้เลยครับ “
“ หึๆๆ พี่ว่าแล้ว เอ็งลืมแหงๆ อาการยังไม่ดีขึ้นรึ? “ แกถามอย่างห่วงใย ในบรรดาเจ้านายที่ผมเคยทำงานมาด้วย ผมยกพี่ชาติให้เป็นนายในฝันเลย ถึงแม้แกจะพูดจาโผงผาง หยาบบ้างสบถบ้างนิดๆหน่อยๆ แต่เรื่องรัก ปกป้องลูกน้องนี่แกมาที่หนึ่ง แถมทำงานเก่งซะด้วย ลูกน้องต้มแกยากมาก
“ ก็มีเป็นบางครั้งอะพี่ แต่หมอเขาบอกว่าสักพักก็จะค่อยๆดีขึ้นน่ะครับ “ ผมบอกให้แกคลายใจไปยังงั้นแหละ หมอไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับอาการแบบนี้เลย โรงพยาบาลรัฐผมไม่กล้าถามมากซะด้วย
“ดี ถ้าไม่ไหวจะลาพักร้อนซักระยะก็บอกนะ เอาให้หายดีก่อนค่อยมาทำงานก็ได้ รักษาตัวเองก่อน งานเอ็งเดี๋ยวพี่ให้ไอ้ป้อมมันดูแลแทนให้ “ แล้วแกก็ยิ้มให้กำลังใจพร้อมกับจ้ำอ้าวกลับห้องทำงานไป
ลาพักร้อนเหรอ.... อยากอยู่นะ แต่ถ้าลาช่วงนี้ผมบรรลัยแน่ๆ ใกล้สิ้นปีต้องเร่งยอดขายหน่อย ไม่งั้นมีหวังโบนัสติดดินแน่นอน โดยเฉพาะไอ้ป้อมนี่ตัวแย่งลูกค้าคนอื่นเลย ใครๆก็รู้ แต่มันขยันมาก อันนี้ยอมรับ
แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะ? หรือจะลองพึ่งแนวทางพุทธดู? แบบนั่งสมาธิกำหนดจิตอะไรแบบนั้น น่าจะช่วยผมได้ระดับนึงเลยนะ ว่าแล้วผมก็เริ่มหาข้อมูลทั้งใน Google และหนังสือธรรมะต่างๆได้พอสมควร
จากนั้นมาเกือบ 2 เดือน ผมนั่งสมาธิทุกวันเลย แรกๆก็ได้แป๊บเดียว เบื่อซะก่อน แต่ด้วยความเกรงใจพี่ชาติบวกกับกลัวโดนไอ้ป้อมแย่งลูกค้า ผมค่อยๆนั่งได้นานขึ้น จนกระทั่งนั่งถึงเช้าได้ก็มี จนวันหนึ่ง....
“ ป้า กระเพราเนื้อสับราดข้าวจานนึง ไม่ใส่ถั่วฝักยาว ข้าวโพด หอมใหญ่ ข้าวไม่ต้องเยอะ ไข่ดาวไข่แดงไม่สุก “ ผมสั่งเมนูเดิมๆกับป้าแหววร้านตามสั่งใกล้ๆออฟฟิศ แกทำเมนูนี้ประจำ แต่ก็ลืมประจำเช่นกัน ผมจึงต้องสั่งแบบนี้ทุกๆรอบ
“ แดรกห่าอะไรยุ่งยาก!! กินง่ายๆแบบชาวบ้านเค้าจะตายมั้ย !!” เสียงป้าไล่หลังผมมา
ผมหันขวับกลับไปด้วยความไม่เชื่อหูตัวเอง “ อะไรนะป้า?”
“ หืม...อะไรลูก จะเอาอะไรเพิ่มรึ? “ ป้ายิ้มอ่อนๆพร้อมกับถามกลับ
“ ก็ ก็ ผมได้ยินป้าด่าใครว่าเมื่อกี้ “
“ วุ้ย!! ฮ่าๆๆๆ อย่างป้าจะไปด่าใครละลูก ศรนี่ก็พูดไปเรื่อย “ ป้าปิดปากหัวเราะ โบกไม้โบกมือออกจริตจก้าน
“ เออ กูก็ไม่เห็นป้าแกพูดอะไรเลย หูฝาดละ “ ไอ้ต๊อบเพื่อนกินข้าวขาประจำเหน็บยิ้มๆ
สงสัยผมจะหูฝาดจริงๆ แล้วเราก็นั่งรอข้าวที่สั่งกัน
“ โอ้โฮ นมใหญ่ ขอจับทีจะไม่ลืมพระคุณเลยน้องสาว วิ้วววว!!!!” เสียงไอ้ต๊อบดังลั่นจนผมตกใจ รีบหันซ้ายขวาทันที พร้อมกับพูดกับมันเบาๆ “ ไอ้ต๊อบ!!! จะบ้าเรอะ ตะโกนดังขนาดนั้น เดี๋ยวก็โดนตบหรอก ”
ไอ้ต๊อบทำหน้างง “ อะไร? นี่ท่าจะบ้านะ กูยังไม่ได้พูดห่าอะไรเลย เพี้ยนๆนะวันนี้ “แล้วมันก็นั่งดูดน้ำ ยลโฉมน้องนมโตโต๊ะข้างๆต่อไป
ผมก็งงน่ะสิครับ? เต็มสองรูหู สองครั้ง ที่ไอ้ต๊อบว่ามาก็ท่าจะจริง เพราะน้องโต๊ะข้างๆก็นั่งก้มหน้ากินข้าวตามปกติ ถ้ามันตะโกนจริงป่านนี้โดนฝ่ามือพิฆาตแน่นอน