จดหมายถึงเธอ

กระทู้สนทนา
"ค"
คิดถึง  คำสั้นๆที่ผมอยากจะบอกเธอแต่ไม่เคยกล้าซักที หลายครั้งที่มีโอกาส มีสถานการณ์แต่ความกล้าไม่เคยอำนวย
ครั้งนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมตัดสินใจจะบอกออกไป ถึงแม้โลกยุคนี้จะมีเทคโนโลยีที่สามารถบอกข้อความไปหาใครคนหนึ่งได้เพียงเสี้ยววินาที แต่สำหรับผมตอนนี้ มันคงเร็วมากไปกับการทำใจส่งไปถึง ผมนั่งอยู่ตรงนี้มาร่วม30นาที ปล่อยให้ไฟลามเลียมวนบุหรี่มวนแล้วมวนเล่า ถ้อยคำมากมายที่อยากจะสื่อถึงเธอคนนั้นพรั่งพรูอยู่ในความคิด เธอไม่ได้สวยเด่นกว่าใคร แต่ช่วงเวลามากมายที่ผ่านมามันก่อให้เกิดความผูกพันธ์ ความรู้สึกที่มากกว่าเพื่อนเริ่มกระหน่ำเข้ามาจากทุกช่วงเวลาที่อยู่ร่วมกัน แต่ด้วยความไม่กล้า ไม่กล้าที่จะเสี่ยงเสียมันไป ทำให้ความรู้สึกทั้งหมดจบลงในอักษรแรกของคำว่า คิดถึง

วัยเยาว์ช่างผ่านไปเร็วนัก เธอเป็นเพียงเด็กผู้หญิงที่ผมเคยล้อ ทั้งดำ อ้วน และไม่กล้าพูด เป็นเด็กหญิงที่ผมทำให้ร้องไห้ได้บ่อยๆจากการล้อปมด้อยกันแบบเด็กๆ เด็กหญิงที่ผมทำให้เธอรู้สึกสมเพชตัวเองในวันนั้น วันนี้เด็กหญิงคนนั้นทำให้ผมรู้สึกสมเพชตัวเองยิ่งกว่า กับแค่ความกล้าที่จะบอกความรู้สึกที่มีมาร่วม10ปี ความรู้สึกที่เก็บกดไว้จนแทบทนไม่ไหว ความรู้สึกที่มีมาตั้งแต่  "ว" วัยเยาว์ที่ยังไม่รู้จักความรัก แต่ไม่ได้แปลว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น สิ่งหนึ่งมันมีอยู่ตลอดมา แต่ผมอาจไม่เคยรู้สึกถึงมัน จนวันหนึ่งกว่าจะทำความเข้าใจได้ มันก็สายเกินไป สายไปทั้งสถานการณ์และความรู้สึกเมื่อเธอนั้นมาพร้อมกับแฟน แล้วตอนนั้นเองความรู้สึกก็ได้ชัดเจนขึ้นตอนนั้น ผมชอบเธอ อาจจะชอบเสมอมาตั้งแต่ตอนเด็กแล้วก็ได้ แต่ด้วยความรู้สึกแบบเด็กๆอาจทำให้ไม่กล้าที่จะทำอะไรมากมายจนในที่สุดก็สายไป

ผมยังนั่งอยู่ที่เดิม กับกระดาษจดหมายฉบับใหม่ บุหรี่มวนใหม่ถูกจุดขึ้น ท่ามกลางควันที่ล่องลอยขึ้นมาความคิดก็ล่องลอยตามไป กว่า2เดือนแล้วที่เธอเลิกกับแฟนคนล่าสุด ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่าหมอนอิง ที่ถูกกอด ถูกเช็ดน้ำตา อยู่กับเธอในเวลาสุข เศร้า กินขนม ดูหนัง ร้องไห้กับซีรีย์หรือแม้กระทั่งเป็นที่ระบายเรื่องราว แต่ไม่เคยได้เป็นหมอนจริงๆ ไม่เคยได้เป็นอะไรที่เธอจะทิ้งตัวลงนอนอย่างสบายใจ  นี่อาจเป็นโอกาสที่เข้ามาอีกครั้ง เพื่อให้ผมก้าวออกไป แต่ก็นั่นแหละ เหมือนกับทุกครั้ง ผมไม่กล้าบอกไป ไม่กล้าที่จะเปลี่ยนตำแหน่งของตัวเอง แต่ก็นั่นแหละ ถ้าผมยอมแพ้จริงๆคงไม่มานั่งเขียนจดหมายแบบนี้ อย่างน้อยวันนี้ต้องมีสิ่งหนึ่งเปลี่ยนไปยังไงข้อความที่ต้องบอกก็ต้องบอกให้ได้ 2เดือนที่เฝ้าปลอบใจเธอมามันทำให้ผมเก็บมันต่อไปไม่ไหวแล้ว ในใจผมกำลังแต่งกลอน
    ยามเธอเจ็บใจเจ็บเจ็บจับจิต   ยามเธอคิดช้ำใจใจยิ่งช้ำ
    เวลาเจ็บดั่งใจตกหลุมดำ       เธอเจ็บช้ำชั้นเจ็บใจเมื่อได้เจอ
    ตลอดมาชั้นเฝ้าแต่คิดถึง       ใจคำนึงทุกจิตอย่าพั้งเผลอ
    ไม่อาจบอกไปได้ชั้นรักเธอ     สายเสมอ สายไป ไม่อาจทำ
ในขณะที่กำลังเขียนกลอนลงไปในกระดาษนั้น ข้อความในเฟสก็แจ้งเตือนขึ้น เธอกลับไปคืนดีกับคนๆนั้นแล้ว ความล้มเหลวสะดุดมาล้มทับผมอีกครั้ง ความรู้สึกประดังประเดเข้ามาในจิตใจ น้ำตาค่อยๆหยดลงมาอย่างไม่อาจควบคุม จดหมายแผ่นที่3ที่จะบอกความในใจด้วยบทกลอน จบลงเพียงอักษรแรกของบทกลอน "ย"

สุดท้ายแล้ว ผมก็ตัดสินใจส่งจดหมายทั้ง3ฉบับไปให้เธอ
ฉบับแรก     คิดถึง     คำพูดที่อยากจะบอก
ฉบับที่สอง  วัยเยาว์   เรื่องราวที่อยากจะแก้ไข เพียงแค่อยากบอกว่าทุกเหตุผลที่กระทำในอดีตไม่ใช่เพราะความเกลียดชังหรือเพราะเป็นเพียงเพื่อน
ฉบับที่สาม  ยามเจ็บ  กลอนที่อยากสรุปความรู้สึกที่อยากจะบอก กลอนที่กลั่นมาตลอดบุหรี่8มวนกับใจเทาๆ บวกด้วยความกล้าตลอด10กว่าปีพร้อมน้ำตา
พับกระดาษสอดจดหมายจ่าหน้าถึงเธอด้วยข้อความที่เรียบเรียงขึ้นมาในใจ แม้ทุกฉบับจะทิ้งไว้เพียงอักษรแรกของแต่ละคำ

.
.
.
.
.
.
.
ข้อความเล็กๆที่สื่อออกไปอาจแฝงไปด้วยคำพูดนับพันคำ กว่าจะมีแต่ละประโยคหลุดออกมาให้คนได้อ่าน ในหัวของคนเขียนอาจมีคำพูดมากกว่านั้นเป็นพันเท่า บางคนมีความสุขในการเสพ แต่บางคนก็มีความสุขในการสื่อ เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนอ่านข้อความที่คนตั้งใจส่งมาให้ ยิ่งสั้นยิ่งต้องอ่าน เพราะการอธิบายด้วยข้อความยาวๆมากๆนั้นง่าย แต่การอธิบายเรื่องราวด้วยข้อความสั้นๆนั้นยากนัก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่