จากกระทู้เก่าๆ
https://ppantip.com/topic/36072992 ที่เพื่อนได้หลงเข้าไปอ่านกันก็คงจะพอรู้จัก
มาดามกับเบิร์นนี่แม่บ้านคู่ใจบ้างแล้วนะคะ ใครไม่รู้จัก จะกลับไปทำความรู้จักกันก่อนก็ได้นะคะ
วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ที่ได้ขึ้นรถเมล์บ้านเขาเป็นครั้งแรก แล้วก็ครั้งเดียวของมาดามให้ฟังค่ะ
อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าท่านเซอร์บียอร์น (สามีเรา) เลือกเช่าบ้านอยู่นอกเมืองตั้งแต่ก่อนเจอกับเรา
ประมาณว่าเอาบรรยากาศมากกว่าความสบายเพราะนางมีคนขับรถวิ่งหาของที่ต้องการให้ กลับมาจากทำงานเหนื่อยๆ
นางจะได้พักผ่อนเต็มที่ จะจัดปาร์ตี้ก็ไม่ต้องกลัวรบกวนใคร แต่พอมีมาดามมารวมอยู่ด้วย ความลำบาก(เรื่องกิน)
ก็เลยมาตกมาดามสิคะ จะขอให้ย้ายบ้านเข้าเมืองก็กระไร .. เราเพิ่งกำลังเรียนรู้ ดูใจกันเองนะ...
เห้อ.. อยากเปรี้ยวอยากหวานก็ต้องรอคนขับรถมารับอาทิตย์ละครั้ง เต็มที่สุดก็สองครั้ง
พวกผู้หญิงอย่างเรา คงเข้าใจใช่ไหมคะตอนไปซื้อของ ตั้งใจอย่างดีว่า อันนั้นต้องซื้อ อันนี้ต้องได้แต่พอกลับมาแล้ว
อ่ะ!โน้นก็ไม่มี อันนี้ก็ไม่ได้ ไอ้ที่ได้มา อะไรก็ไม่รู้ .. จะไปซื้ออีกทีก็ต้องรออาทิตย์หน้านู้น
สมัยนั้นบ้านเค้าไม่มีแท็กซี่วิ่งนอกเมืองมีแต่รถตุ๊กตุ๊ก แล้วไม่มีสถานที่ให้โทรเรียกแท็กซี่ด้วย
ความเจริญบ้านเขายังตามหลังเราอยู่ 15-20ปีเลย เพราะมัวมีแต่สงครามกัน ตอนเราไปอยู่เขาเพิ่งเสร็จสงครามกันใหม่ๆ
(จริงๆแล้วเราสามารถเรียกคนขับรถของแฟนเราได้ตลอดเวลา ถ้าเราต้องการ แต่เขาก็ต้องตีรถกลับจากบริษัทที่สามีเราทำงาน
ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า และหลังจากเสร็จธุระกับเราแล้วก็ต้องตีรถกลับบริษัทอีกแค่ไปกลับก็ 2 ชั่วโมงกว่าแล้วเราเกรงใจ)
อีกอย่างเราก็ยังไม่ชิน ที่จะต้องมีคนมาคอยทำอะไรให้ มาคอยบริการเรา บางทีอยากแวะดูนั้นนิด ดูนี่หน่อย ก็ลำบากใจ..
แล้วก็ถึงเวลาคนมันอยากจะกิน มันก็ไม่นั่งงอมืองอเท้า รอราชรถมาเกยหรอกเนอะ แล้ววันนี้อยากกินกุ้งมากๆ
เนื่องจากคิดว่า มือเท้าเราก็มี ชีวิตก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่คุณหนูจ๋าซะหน่อยนี่เนอะ ลำบากกว่านี้ก็เคยมาแล้ว
แค่จะนั่งรถเมล์เข้าเมืองมันจะลำบากอะไรหนักหนาเชียว หึหึ...
เราเลยบอกเบิร์นนีว่าเราจะไปตลาด เนี่ยมีมาดามท่านอื่นๆ ที่เคยดื่มกาแฟด้วยกัน บอกว่าตลาดในเมืองเนกอมโบ
จะมีอาหารทะเลสดๆมันลงช่วงเช้า พอได้ยินเบิร์นนี่รีบหยิบโทรศัพท์โทรหาเบนเนดิ๊กซ์คนขับรถทันที
เรารีบบอก "โนโนโนโน ไอจะไปรถเมล์" ... เบิร์นนี่บอก" โนโนโน ...โนเวย์ เบิร์นนี่ไม่อนุญาต"...
เราแกล้งว่า นี่ฉันต้องขออนุญาตเธอด้วยหรอ (เราแกล้งทำเสียงเข้มๆ)
เบิร์นนี่รีบบอกขอโทษแต่ยังไงก็ไม่ให้ไป ถ้าไปเดี๋ยวเรียกรถตุ๊กตุ๊กให้
เราบอกไม่เอาหรอก คราวที่แล้วก็เกือบพาฉันไปเทกระจาด อีกอย่างฉันอยากลองนั่งรถเมล์ดู
เบิร์นนี่บอกงั้นเบิร์นนี่จะไปด้วยเดี๋ยวเบิร์นนี่พาขึ้นเอง จ้า ฉันก็คิดว่าเธอจะยอมปล่อยฉันไปคนเดียวหรอก
สักพักเราก็ออกมายืนรอรถเมล์หน้าถนนใหญ่ตรงหน้าบ้าน พอเห็นรถมาแต่ไกลเราก็เตรียมตัวเบิร์นนี่ก็บอกว่าไม่ใช่เส้นทางที่เราจะไป
มาดามต้องรอก่อน" อ้าวเหรอ"... รถเมล์มันผ่านมาชะลอนิดนิดแล้วก็เร่งเครื่องบรืนนนน..ผ่านไป อืมม.. รออีกหน่อยก็ได้..
รถเมล์ผ่านไปคันแล้วคันเล่า ก็ยังไม่ใช่คันที่จะไปอยู่ดี
"เมื่อไหร่มันจะมาอ่ะ เบิร์นนี่ ฉันยื่นกินฝุ่นรอจนจะอิ่มแล้วเนี่ย ไม่กินมันแล้ว กุ้ง เกิ้งเนี่ย!"
เบิร์นนี่บอกก็นี่มันบ้านนอก รถออกแค่ชั่วโมงละคัน ... อ้าวแล้วไอ้ที่วิ่งๆผ่านไปนั่นล่ะ...
นางบอกมันไปกันคนละที่กันกับเรา ... ฮืม..อ่านภาษาบ้านนางไม่ออกเราก็ต้องเชื่อใช่ป่ะ
รอต่อไปสิค่ะ ... เบิร์นนี่ามว่า "ถ้ามาดามเบื่อรอ ให้เบิร์นนี่เรียกตุ๊กๆให้นะคะ" ...
ตอนนั้นก็อยากไปตุ๊กๆแล้วละ เพราะยืนจนเมื่อยแล้ว แต่ต่อมดื้อมันกระตุ๊กเอาไว้ ... "ไม่เอา บอกว่าอยากนั่งรถเมล์ก็จะนั่งรถเมล์
ถ้าฉันขึ้นรถเมล์บ้านเบิร์นนี่เป็นเมื่อไหร่ จะได้หนีเที่ยวบ่อยๆ ไม่ต้องรบกวนใครไง"
... ค่ะ ... เบิร์นนี่ตอบสั้นๆ ... เอ๊ะ!สั้นไปป่ะเนี่ย ..
รอไปรอมาสักพักเบิร์นนี่ก็ กระโดดตัวลอย "มาแล้ว มาแล้ว" พูดแล้วก็ดันเรามาข้างหน้า เราก็ห่วงแกจะให้แกขึ้นก่อน
เบิร์นนี่ก็ยังผลักเราไปข้างหน้าบอกว่า เวลาเบอร์นี่ดันตูดมาดาม มาดามรีบรีบกระโดดเลยนะคะ .. ห๊ะ?!? อะไรนะ+...
ยังไม่ทันทำความเข้าใจรถก็เร่งเครื่อง ตุเรง ตุเรง วิ่งล้อเอียงมาข้างหนึ่ง เหมือนมันจะไม่จอดเลยอ่ะ แต่ที่ไหนได้พอมาถึงหน้าเรามันก็
เบรคอี๊ยดดด....จึก! ประตูหลังมาจ่ออยู่ตรงหน้าเรา เบิร์นนี่ดันตูดเราพร้อมกับผลักหลังเรา ปากก็เร่งๆๆ เร็วมาดาม เร็วๆ เราก็รีบก้าวขาขึ้น
....พลั๊ก! ตุ๊บ! นังมาดามสะดุดล้มตรงบันไดขั้นที่สาม แล้วเบิร์นนี่ก็โดดตามขึ้นมา พรื๊ดดดด...รถก็ออกตัวเลย
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นใช้เวลาแค่ชั่ววินาที นังมาดามทุลักทุเลตะเกียกตะกายยืนขึ้น เห็นสายตาเป็นสิบๆคู่จ้องมองอยู่
ก็ทำเนียนๆเดินไปเอื้อมมือจะไปเกาะที่พนักเก้าอี้ เห็นเบิร์นนี่ยืนยิ้มอยู่แล้ว .. อ้าว!แล้วนางข้ามหัวฉันไปตอนไหนแว้ !!
ขณะที่คิด มือยังไม่ทันคว้าที่เกาะหลังเก้าอี้ให้แน่นดี ...เอี๊ยดดดด... เสียงเบรครถดังก็ดังเข้าหูแล้วก็รู้สึกว่าเหมือนมีมือมากระชากเราเเรง ๆ
ตัวเราลอยไปข้างหน้า แล้วก็ได้ยินเสียงลอยตามมา .. มาดามมมมม!!!! ยังไม่ทันสิ้นเสียงเบิร์นนี่ตัวเราก็ถลาพรืดดดด ลอยกลับมาปะทะกับเก้าอี้ที่เดิม
เราก็ทำเนียนๆว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น "ฉันก็ยืนอยู่นี่ไงเรียกอยู่ได้จะตะโกนไปไหนนนนนนน... ยังไม่ทันสิ้นคำตอบของเรา!
เสียงเบิร์นนี่ก็ตะโกน..มาดามมมมม เอี๊ยดดดดด.. ห๊ะ!เช๊ยะ มันเบรคอีกแล้ว.. ไม่ทันได้คว้าที่เกาะ ..
พรืดดด นังมาดามตัวลอยวืดไปข้างหน้าอีกแล้วครับท่าน!
คือทุกคนจะยืนหันหน้าเข้าหาฝั่งหน้าต่างหันหลังชนกันมือจับพนักเก้าอี้ไว้แน่นเวลารถเบรคทุกคนก็จะโน้มตัวยึดพนักเก้าอี้เอาไว้
ทำให้เกิดช่องว่างตรงกลางให้นั่งมาดามลอยวืดไปข้างหน้าแล้วก็แทบตีลังกาลอยกลับมาอยู่ข้างหลังที่เดิม!
หลังจากกลิ้งไปลอยมาสักพักก็จับหลักค้ำหลังคาไว้ได้ นังมาดามกอดไว้แน่น ประหนึ่งว่านี่คือทองกวาวที่โกโบริตามหามาทั้งชีวิต!
จะไม่มีใครมาพรากเราจากกันอีกแล้ว..ถ้ามันเบรคจนตัวลอยคราวนี้ตรูจะยกมันไปด้วยทั้งเสค้ำทั้งเก้าอี้นี่แหละ!
คือรถเมล์มันไม่ชะลอเลยมันวิ่งมาด้วยความเร็ว 80 พอเจอคนเรียกมันก็เบรคแมร่งทั้ง 80 นั่นแหละ
พอคนขึ้นปั๊บอีกขาก้าวยังไม่ทันพ้นพื้นดินมันก็ออกตัวไปที่ความเร็ว 80 อีก
แล้วเราไม่ทันได้ตั้งหลักก็ถลาไปตามแรงรถ แต่คนที่นี่เขาชิวๆกันนะ แม้แต้เบิร์นนี่!
พอรถวิ่งไปสักพักคนเริ่มเยอะ คนขึ้นมาแน่นแบบนี้เบรคให้ตายตรูก็ไม่ปลิวแล้ว อิอิอิ ...
แต่พอคนเริ่มเยอะขึ้น มันก็มาเบียด บางคนก็จะมารุมจ้องเรา (นี่คือสังคมบ้านเขาเลยนะ ยืนจ้องยืนเบียด เดินเบียดคนแปลกหน้าเนี่ย)
แถมบางคนทำจมูกฟุดฟิดฟุดฟิตแถวลำคอ แถวๆหัวเรา บ้างก็เริ่มมาจ้อง
ก้มลงมามองแบบไม่เกรงใจคือรุมมองเราจนจมูกมันนี้แทบจะติดผิวเราอยู่แล้ว โฮ้..ถ้าจ้องขนาดนี่ สิงตรูเลยดีกว่ามั้ย!
ทั้งผู้ชายแล้วก็ผู้หญิงเลยนะ ใจเรานี้อยากจะถามว่า
ทำไมคะไม่เคยเห็นคนสวยเหรอ... แต่ไม่กล้า กลัวไม่มีใครเข้าใจคนสวยอย่างเรา
เบิร์นนี่มองดูสักพักแล้วดึงก็เอาเรามาไว้ข้างหน้านาง
เบิร์นนี่ยืนเอาตัวนางซ้อนหลังเราไว้ข้างหน้าเราเบียดกับพนักเก้าอี้ ข้างหลังเราเบียดกับเบิร์นนี่
แต่ว่าเวลารถเบรคกระดูกนางก็จะทิ่มเรา อั๊ก ปึ๊ก อุบส์ .. แถมกลิ่นในรถก็เริ่มเหม็นเขียว ลูกเด็กเล็กแดงก็ร้องไห้กระจองงอแง
แล้วมันมีเสียงไก่ร้องกะต๊ากกะต๊าก มีคนเอาไก่ขึ้นมาด้วย! ไม่ใช่ตัวเดียวนะคะ เสียงตื่นขนาดนี้มากันหมดเล้าเลยมั้ง!
สักพักก็มีคนขึ้นมาขอทาน ยืนมองจนเราแทบละลาย เมิงจะมองเอาอะร้ายยยย .. อ่อ เอาเงิน!
เบิร์นนี่บอกมันเป็นวิธีการ ตื้อขอเงิน ถ้าเราไม่ให้เขาก็จะมองอยู่อย่างนั้น ให้หลบตาอย่าไปมองตอบ
เราก็ควานหาตังต์จะให้ เบิร์นนี่รีบตะปปมือเราไว้ ห้ามให้นะคะ ถ้ามาดามให้ ทุกคนบนรถนี้จะกลายเป็นขอทานทั้งหมดทันที!
ก้มหน้าเอาไว้อย่างเดียว ...
อ้าวเหรอ.. เราก็รีบก้มหน้า ขอทานคนนั้นก็ยืนจ้องเราต่ออีกสักพัก
คงเห็นว่าสายตาของเขาคงไม่สามารถหลอมละลายหนังหนาๆของเราได้ เขาก็ขยับไปยืนจ้องคนอื่นแทนต่อไป...
สักพักมีแม่ค้าแบกตะกร้าเทินบนหัวขายของขึ้นมาร้องขายของเป็นภาษาบ้านเค้า
คือโครตทึ่งเลยอ่ะความเร็วรถระดับนี้มีของเทินอยู่บนหัวนางเดินได้ไง ขายของได้ไง พอดีไม่มีใครซื้อเลยไม่เห็นการขายของ ..
พอรถชะลอรับคน นางก็หายตัวไปกับสายฝุ่น ....... สาบานว่านี่ยังไม่ถึงตลาดนะ โอ้มายก้อด!!
ตัวเราก็ยังโดนเบิร์นนี่กระแทกปัก ปักอยู่ข้างหลัง ข้างหน้าก็เบียดกับมุมพนักเก้าอี้เจ็บพุงไปหมด
ประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าๆต่อมาเราก็ถึงจุดหมายกัน
ตอนจะลงเราให้เบิร์นนี่ลงก่อน เพราะเบิร์นนี่อยู่ใกล้ประตูมากกว่า แล้วเราก็ห่วงเบิร์นนี่ด้วย พอเบอร์นี่ลงเสร็จ ตัวเรายังไม่ทันก้าวเท้า
พรืดดด!!!!รถก็ออกตัวไป เราตกใจก็รีบชักขากลับขึ้นมา "มาดามมมมม มาดามมมมม " เสียงเบิร์นนี่ตะโกนตามมา
พอหันไปดูเห็นเบิร์นนี่วิ่งตามรถ กวักมือหย่อยๆ " มาดามลงม๊า มาดามลงมา".... แล้วจะให้ลงยังง๊ายยย!!!
ตอนนั้นในใจเราสงสารหัวเข่าเบิร์นนี่มาก แต่จะให้กระโดดลงก็ไม่กล้า เราก็รีบกดกริ่งรัวๆๆ แต่กดเท่าไหร่มันก็ไม่ดัง
คนอื่นก็ช่วยกันตะโกนบอกคนขับรถ คราวนี้พอรถชะลอเราก็รีบกระโดดเลย พลั๊ก!แลนดิ่งสู่พื้นดิน แบบหมดสภาพ
พร้อมกับมีความรู้สึกว่าโดนถีบส่งลงมา คงมีผู้หวังดีช่วยดันเราลงมาละมั้ง พอเราเงยหน้าไปมอง
ก็เห็นแม่ลูกอ่อนจับมือเล็กๆของลูก ขึ้นมาทำท่าโบกมือบ๊ายบายให้เรา ฮึ!คงมีผู้หวังดีกลัวเราจะไม่กระโดดอีกละมั้ง ..
พอลงมายืนบนพื้นดินได้เรางี้แทบจะทรุดเข่ากราบงามงามเลย แผ่นดินที่รักจ๋าาาา ข้าจะทอดทิ้งเจ้าอีกแร้ว!
แป๋บเดียวเบอร์นี่ก็เดินกะเผลกมาถึงเรา หน้าตาเหรอหรามาก "ฉันนึกว่ามาดามจะไม่ลงรถมาแล้วซะอีก"
"ถ้ามาดามลงมาไม่ได้ แล้วฉันจะบอกเซอร์บียอร์นยังไง" ... อ๋อกลัวโดนด่ารึ ไอ้เราก็นึกว่าเป็นห่วง แหม...เบิร์นนี่อ่ะ
เนื่องจากมัวแต่ไม่กล้ากระโดดทำให้รถเลยทางเข้าตลาดมาเยอะ พวกเราต้องเดินย้อนกลับไปตลาดเพื่อซื้อของกัน
เบิร์นนี่ก็เดินไป บ่นไป "พูดอะไรมาดามก็ไม่เคยฟัง นั่งรถเมล์มันสนุกที่ไหน.. ไม่งั้นคนเขาจะรีบหาตังค์รีบรถขับกันเองทำไม.."
บลา บลา บลา บ่นยาวไปจนถึงตลาด
ตลอดเวลาที่ซื้อของกัน เบิร์นนี่จะพูดตลอดเวลาว่า "มาดามเร็วๆสามีคุณรออยู่นะ"
เรา: รู้แล้วๆ ไออยากได้กุ้งอ่ะ
เบิร์นนี่ : กุ้งนี้โลละเท่าไหร่สามีของมาดามฉันเค้าให้ถาม
เราก็งงบียอร์นให้ถามตอนไหนแว๊ เบิร์นนี่ก็แบบพูดภาษาอังกฤษคำ ภาษาบ้านตัวเองคำ ตลกอ่ะ
เบิร์นนี่มาเฉลยให้ฟังทีหลังว่าถ้าคนรู้ว่ามาดามแต่งงานแล้ววัยรุ่นจะได้ไม่แซว แล้วคนขายของจะได้ไม่โกงเพราะคิดว่ามาดามแต่งงานกับคนบ้านเขา ..
อ่อ.. มีงี้ด้วยเหรอ..?!?
แต่ระหว่างเดินดูของก็จะมีคนเดินมาเบียดๆ เดินมาดันเราตลอดเวลาทั้งๆที่มีที่ว่างตั้งเยอะเขาก็จะจ้องจนน่ากลัวเราแกล้งบอก
"เบิร์นนี่สงสัยคนที่นี่ไม่เคยเห็นคนสวยเนอะ" เบอร์นี่รีบบอก "เปล่า!เค้าแค่ไม่เคยเห็นคนหน้าแปลก"
" no! they never strange face "
not strange face .. you mean stranger? ไม่ใช้หน้าแปลก เธอหมายถึงคนแปลกหน้าใช่เปล่า
.. madam face same Same strange.. หน้ามาดาม ก็เหมือนแปลก...
คืออะไร
เบิร์นนี่เค้าคงหมายถึงคนแปลกหน้าละมั้ง.. คิดเข้าข้างตัวเองไว้ก่อนก็ภาษาเบิร์นนี่อ่อนขนาดนั้นนี่นะ ..ใช่ไหมหว่า..
ต้องใช่สิ เราแค่คนแปลกหน้า.. หน้าแปลกซะที่ไหน..
** มันยาวไปหน่อย มีต่อในคอมเม้นต์นะคะ มีภาพประกอบนิดหน่อยด้วยค่ะ
ปล .. แก้ไขคำผิดค่ะ
ประสบการณ์ที่ศรีลังกา ตอน: มาดามมือใหม่หัดนั่งรถเมล์กับเบิร์นนี่ แม่บ้านคู่ใจ.. ครั้งแรกและครั้งเดียว
มาดามกับเบิร์นนี่แม่บ้านคู่ใจบ้างแล้วนะคะ ใครไม่รู้จัก จะกลับไปทำความรู้จักกันก่อนก็ได้นะคะ
วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ที่ได้ขึ้นรถเมล์บ้านเขาเป็นครั้งแรก แล้วก็ครั้งเดียวของมาดามให้ฟังค่ะ
อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าท่านเซอร์บียอร์น (สามีเรา) เลือกเช่าบ้านอยู่นอกเมืองตั้งแต่ก่อนเจอกับเรา
ประมาณว่าเอาบรรยากาศมากกว่าความสบายเพราะนางมีคนขับรถวิ่งหาของที่ต้องการให้ กลับมาจากทำงานเหนื่อยๆ
นางจะได้พักผ่อนเต็มที่ จะจัดปาร์ตี้ก็ไม่ต้องกลัวรบกวนใคร แต่พอมีมาดามมารวมอยู่ด้วย ความลำบาก(เรื่องกิน)
ก็เลยมาตกมาดามสิคะ จะขอให้ย้ายบ้านเข้าเมืองก็กระไร .. เราเพิ่งกำลังเรียนรู้ ดูใจกันเองนะ...
เห้อ.. อยากเปรี้ยวอยากหวานก็ต้องรอคนขับรถมารับอาทิตย์ละครั้ง เต็มที่สุดก็สองครั้ง
พวกผู้หญิงอย่างเรา คงเข้าใจใช่ไหมคะตอนไปซื้อของ ตั้งใจอย่างดีว่า อันนั้นต้องซื้อ อันนี้ต้องได้แต่พอกลับมาแล้ว
อ่ะ!โน้นก็ไม่มี อันนี้ก็ไม่ได้ ไอ้ที่ได้มา อะไรก็ไม่รู้ .. จะไปซื้ออีกทีก็ต้องรออาทิตย์หน้านู้น
สมัยนั้นบ้านเค้าไม่มีแท็กซี่วิ่งนอกเมืองมีแต่รถตุ๊กตุ๊ก แล้วไม่มีสถานที่ให้โทรเรียกแท็กซี่ด้วย
ความเจริญบ้านเขายังตามหลังเราอยู่ 15-20ปีเลย เพราะมัวมีแต่สงครามกัน ตอนเราไปอยู่เขาเพิ่งเสร็จสงครามกันใหม่ๆ
(จริงๆแล้วเราสามารถเรียกคนขับรถของแฟนเราได้ตลอดเวลา ถ้าเราต้องการ แต่เขาก็ต้องตีรถกลับจากบริษัทที่สามีเราทำงาน
ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า และหลังจากเสร็จธุระกับเราแล้วก็ต้องตีรถกลับบริษัทอีกแค่ไปกลับก็ 2 ชั่วโมงกว่าแล้วเราเกรงใจ)
อีกอย่างเราก็ยังไม่ชิน ที่จะต้องมีคนมาคอยทำอะไรให้ มาคอยบริการเรา บางทีอยากแวะดูนั้นนิด ดูนี่หน่อย ก็ลำบากใจ..
แล้วก็ถึงเวลาคนมันอยากจะกิน มันก็ไม่นั่งงอมืองอเท้า รอราชรถมาเกยหรอกเนอะ แล้ววันนี้อยากกินกุ้งมากๆ
เนื่องจากคิดว่า มือเท้าเราก็มี ชีวิตก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่คุณหนูจ๋าซะหน่อยนี่เนอะ ลำบากกว่านี้ก็เคยมาแล้ว
แค่จะนั่งรถเมล์เข้าเมืองมันจะลำบากอะไรหนักหนาเชียว หึหึ...
เราเลยบอกเบิร์นนีว่าเราจะไปตลาด เนี่ยมีมาดามท่านอื่นๆ ที่เคยดื่มกาแฟด้วยกัน บอกว่าตลาดในเมืองเนกอมโบ
จะมีอาหารทะเลสดๆมันลงช่วงเช้า พอได้ยินเบิร์นนี่รีบหยิบโทรศัพท์โทรหาเบนเนดิ๊กซ์คนขับรถทันที
เรารีบบอก "โนโนโนโน ไอจะไปรถเมล์" ... เบิร์นนี่บอก" โนโนโน ...โนเวย์ เบิร์นนี่ไม่อนุญาต"...
เราแกล้งว่า นี่ฉันต้องขออนุญาตเธอด้วยหรอ (เราแกล้งทำเสียงเข้มๆ)
เบิร์นนี่รีบบอกขอโทษแต่ยังไงก็ไม่ให้ไป ถ้าไปเดี๋ยวเรียกรถตุ๊กตุ๊กให้
เราบอกไม่เอาหรอก คราวที่แล้วก็เกือบพาฉันไปเทกระจาด อีกอย่างฉันอยากลองนั่งรถเมล์ดู
เบิร์นนี่บอกงั้นเบิร์นนี่จะไปด้วยเดี๋ยวเบิร์นนี่พาขึ้นเอง จ้า ฉันก็คิดว่าเธอจะยอมปล่อยฉันไปคนเดียวหรอก
สักพักเราก็ออกมายืนรอรถเมล์หน้าถนนใหญ่ตรงหน้าบ้าน พอเห็นรถมาแต่ไกลเราก็เตรียมตัวเบิร์นนี่ก็บอกว่าไม่ใช่เส้นทางที่เราจะไป
มาดามต้องรอก่อน" อ้าวเหรอ"... รถเมล์มันผ่านมาชะลอนิดนิดแล้วก็เร่งเครื่องบรืนนนน..ผ่านไป อืมม.. รออีกหน่อยก็ได้..
รถเมล์ผ่านไปคันแล้วคันเล่า ก็ยังไม่ใช่คันที่จะไปอยู่ดี
"เมื่อไหร่มันจะมาอ่ะ เบิร์นนี่ ฉันยื่นกินฝุ่นรอจนจะอิ่มแล้วเนี่ย ไม่กินมันแล้ว กุ้ง เกิ้งเนี่ย!"
เบิร์นนี่บอกก็นี่มันบ้านนอก รถออกแค่ชั่วโมงละคัน ... อ้าวแล้วไอ้ที่วิ่งๆผ่านไปนั่นล่ะ...
นางบอกมันไปกันคนละที่กันกับเรา ... ฮืม..อ่านภาษาบ้านนางไม่ออกเราก็ต้องเชื่อใช่ป่ะ
รอต่อไปสิค่ะ ... เบิร์นนี่ามว่า "ถ้ามาดามเบื่อรอ ให้เบิร์นนี่เรียกตุ๊กๆให้นะคะ" ...
ตอนนั้นก็อยากไปตุ๊กๆแล้วละ เพราะยืนจนเมื่อยแล้ว แต่ต่อมดื้อมันกระตุ๊กเอาไว้ ... "ไม่เอา บอกว่าอยากนั่งรถเมล์ก็จะนั่งรถเมล์
ถ้าฉันขึ้นรถเมล์บ้านเบิร์นนี่เป็นเมื่อไหร่ จะได้หนีเที่ยวบ่อยๆ ไม่ต้องรบกวนใครไง"
... ค่ะ ... เบิร์นนี่ตอบสั้นๆ ... เอ๊ะ!สั้นไปป่ะเนี่ย ..
รอไปรอมาสักพักเบิร์นนี่ก็ กระโดดตัวลอย "มาแล้ว มาแล้ว" พูดแล้วก็ดันเรามาข้างหน้า เราก็ห่วงแกจะให้แกขึ้นก่อน
เบิร์นนี่ก็ยังผลักเราไปข้างหน้าบอกว่า เวลาเบอร์นี่ดันตูดมาดาม มาดามรีบรีบกระโดดเลยนะคะ .. ห๊ะ?!? อะไรนะ+...
ยังไม่ทันทำความเข้าใจรถก็เร่งเครื่อง ตุเรง ตุเรง วิ่งล้อเอียงมาข้างหนึ่ง เหมือนมันจะไม่จอดเลยอ่ะ แต่ที่ไหนได้พอมาถึงหน้าเรามันก็
เบรคอี๊ยดดด....จึก! ประตูหลังมาจ่ออยู่ตรงหน้าเรา เบิร์นนี่ดันตูดเราพร้อมกับผลักหลังเรา ปากก็เร่งๆๆ เร็วมาดาม เร็วๆ เราก็รีบก้าวขาขึ้น
....พลั๊ก! ตุ๊บ! นังมาดามสะดุดล้มตรงบันไดขั้นที่สาม แล้วเบิร์นนี่ก็โดดตามขึ้นมา พรื๊ดดดด...รถก็ออกตัวเลย
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นใช้เวลาแค่ชั่ววินาที นังมาดามทุลักทุเลตะเกียกตะกายยืนขึ้น เห็นสายตาเป็นสิบๆคู่จ้องมองอยู่
ก็ทำเนียนๆเดินไปเอื้อมมือจะไปเกาะที่พนักเก้าอี้ เห็นเบิร์นนี่ยืนยิ้มอยู่แล้ว .. อ้าว!แล้วนางข้ามหัวฉันไปตอนไหนแว้ !!
ขณะที่คิด มือยังไม่ทันคว้าที่เกาะหลังเก้าอี้ให้แน่นดี ...เอี๊ยดดดด... เสียงเบรครถดังก็ดังเข้าหูแล้วก็รู้สึกว่าเหมือนมีมือมากระชากเราเเรง ๆ
ตัวเราลอยไปข้างหน้า แล้วก็ได้ยินเสียงลอยตามมา .. มาดามมมมม!!!! ยังไม่ทันสิ้นเสียงเบิร์นนี่ตัวเราก็ถลาพรืดดดด ลอยกลับมาปะทะกับเก้าอี้ที่เดิม
เราก็ทำเนียนๆว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น "ฉันก็ยืนอยู่นี่ไงเรียกอยู่ได้จะตะโกนไปไหนนนนนนน... ยังไม่ทันสิ้นคำตอบของเรา!
เสียงเบิร์นนี่ก็ตะโกน..มาดามมมมม เอี๊ยดดดดด.. ห๊ะ!เช๊ยะ มันเบรคอีกแล้ว.. ไม่ทันได้คว้าที่เกาะ ..
พรืดดด นังมาดามตัวลอยวืดไปข้างหน้าอีกแล้วครับท่าน!
คือทุกคนจะยืนหันหน้าเข้าหาฝั่งหน้าต่างหันหลังชนกันมือจับพนักเก้าอี้ไว้แน่นเวลารถเบรคทุกคนก็จะโน้มตัวยึดพนักเก้าอี้เอาไว้
ทำให้เกิดช่องว่างตรงกลางให้นั่งมาดามลอยวืดไปข้างหน้าแล้วก็แทบตีลังกาลอยกลับมาอยู่ข้างหลังที่เดิม!
หลังจากกลิ้งไปลอยมาสักพักก็จับหลักค้ำหลังคาไว้ได้ นังมาดามกอดไว้แน่น ประหนึ่งว่านี่คือทองกวาวที่โกโบริตามหามาทั้งชีวิต!
จะไม่มีใครมาพรากเราจากกันอีกแล้ว..ถ้ามันเบรคจนตัวลอยคราวนี้ตรูจะยกมันไปด้วยทั้งเสค้ำทั้งเก้าอี้นี่แหละ!
คือรถเมล์มันไม่ชะลอเลยมันวิ่งมาด้วยความเร็ว 80 พอเจอคนเรียกมันก็เบรคแมร่งทั้ง 80 นั่นแหละ
พอคนขึ้นปั๊บอีกขาก้าวยังไม่ทันพ้นพื้นดินมันก็ออกตัวไปที่ความเร็ว 80 อีก
แล้วเราไม่ทันได้ตั้งหลักก็ถลาไปตามแรงรถ แต่คนที่นี่เขาชิวๆกันนะ แม้แต้เบิร์นนี่!
พอรถวิ่งไปสักพักคนเริ่มเยอะ คนขึ้นมาแน่นแบบนี้เบรคให้ตายตรูก็ไม่ปลิวแล้ว อิอิอิ ...
แต่พอคนเริ่มเยอะขึ้น มันก็มาเบียด บางคนก็จะมารุมจ้องเรา (นี่คือสังคมบ้านเขาเลยนะ ยืนจ้องยืนเบียด เดินเบียดคนแปลกหน้าเนี่ย)
แถมบางคนทำจมูกฟุดฟิดฟุดฟิตแถวลำคอ แถวๆหัวเรา บ้างก็เริ่มมาจ้อง
ก้มลงมามองแบบไม่เกรงใจคือรุมมองเราจนจมูกมันนี้แทบจะติดผิวเราอยู่แล้ว โฮ้..ถ้าจ้องขนาดนี่ สิงตรูเลยดีกว่ามั้ย!
ทั้งผู้ชายแล้วก็ผู้หญิงเลยนะ ใจเรานี้อยากจะถามว่า ทำไมคะไม่เคยเห็นคนสวยเหรอ... แต่ไม่กล้า กลัวไม่มีใครเข้าใจคนสวยอย่างเรา
เบิร์นนี่มองดูสักพักแล้วดึงก็เอาเรามาไว้ข้างหน้านาง
เบิร์นนี่ยืนเอาตัวนางซ้อนหลังเราไว้ข้างหน้าเราเบียดกับพนักเก้าอี้ ข้างหลังเราเบียดกับเบิร์นนี่
แต่ว่าเวลารถเบรคกระดูกนางก็จะทิ่มเรา อั๊ก ปึ๊ก อุบส์ .. แถมกลิ่นในรถก็เริ่มเหม็นเขียว ลูกเด็กเล็กแดงก็ร้องไห้กระจองงอแง
แล้วมันมีเสียงไก่ร้องกะต๊ากกะต๊าก มีคนเอาไก่ขึ้นมาด้วย! ไม่ใช่ตัวเดียวนะคะ เสียงตื่นขนาดนี้มากันหมดเล้าเลยมั้ง!
สักพักก็มีคนขึ้นมาขอทาน ยืนมองจนเราแทบละลาย เมิงจะมองเอาอะร้ายยยย .. อ่อ เอาเงิน!
เบิร์นนี่บอกมันเป็นวิธีการ ตื้อขอเงิน ถ้าเราไม่ให้เขาก็จะมองอยู่อย่างนั้น ให้หลบตาอย่าไปมองตอบ
เราก็ควานหาตังต์จะให้ เบิร์นนี่รีบตะปปมือเราไว้ ห้ามให้นะคะ ถ้ามาดามให้ ทุกคนบนรถนี้จะกลายเป็นขอทานทั้งหมดทันที!
ก้มหน้าเอาไว้อย่างเดียว ...อ้าวเหรอ.. เราก็รีบก้มหน้า ขอทานคนนั้นก็ยืนจ้องเราต่ออีกสักพัก
คงเห็นว่าสายตาของเขาคงไม่สามารถหลอมละลายหนังหนาๆของเราได้ เขาก็ขยับไปยืนจ้องคนอื่นแทนต่อไป...
สักพักมีแม่ค้าแบกตะกร้าเทินบนหัวขายของขึ้นมาร้องขายของเป็นภาษาบ้านเค้า
คือโครตทึ่งเลยอ่ะความเร็วรถระดับนี้มีของเทินอยู่บนหัวนางเดินได้ไง ขายของได้ไง พอดีไม่มีใครซื้อเลยไม่เห็นการขายของ ..
พอรถชะลอรับคน นางก็หายตัวไปกับสายฝุ่น ....... สาบานว่านี่ยังไม่ถึงตลาดนะ โอ้มายก้อด!!
ตัวเราก็ยังโดนเบิร์นนี่กระแทกปัก ปักอยู่ข้างหลัง ข้างหน้าก็เบียดกับมุมพนักเก้าอี้เจ็บพุงไปหมด
ประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าๆต่อมาเราก็ถึงจุดหมายกัน
ตอนจะลงเราให้เบิร์นนี่ลงก่อน เพราะเบิร์นนี่อยู่ใกล้ประตูมากกว่า แล้วเราก็ห่วงเบิร์นนี่ด้วย พอเบอร์นี่ลงเสร็จ ตัวเรายังไม่ทันก้าวเท้า
พรืดดด!!!!รถก็ออกตัวไป เราตกใจก็รีบชักขากลับขึ้นมา "มาดามมมมม มาดามมมมม " เสียงเบิร์นนี่ตะโกนตามมา
พอหันไปดูเห็นเบิร์นนี่วิ่งตามรถ กวักมือหย่อยๆ " มาดามลงม๊า มาดามลงมา".... แล้วจะให้ลงยังง๊ายยย!!!
ตอนนั้นในใจเราสงสารหัวเข่าเบิร์นนี่มาก แต่จะให้กระโดดลงก็ไม่กล้า เราก็รีบกดกริ่งรัวๆๆ แต่กดเท่าไหร่มันก็ไม่ดัง
คนอื่นก็ช่วยกันตะโกนบอกคนขับรถ คราวนี้พอรถชะลอเราก็รีบกระโดดเลย พลั๊ก!แลนดิ่งสู่พื้นดิน แบบหมดสภาพ
พร้อมกับมีความรู้สึกว่าโดนถีบส่งลงมา คงมีผู้หวังดีช่วยดันเราลงมาละมั้ง พอเราเงยหน้าไปมอง
ก็เห็นแม่ลูกอ่อนจับมือเล็กๆของลูก ขึ้นมาทำท่าโบกมือบ๊ายบายให้เรา ฮึ!คงมีผู้หวังดีกลัวเราจะไม่กระโดดอีกละมั้ง ..
พอลงมายืนบนพื้นดินได้เรางี้แทบจะทรุดเข่ากราบงามงามเลย แผ่นดินที่รักจ๋าาาา ข้าจะทอดทิ้งเจ้าอีกแร้ว!
แป๋บเดียวเบอร์นี่ก็เดินกะเผลกมาถึงเรา หน้าตาเหรอหรามาก "ฉันนึกว่ามาดามจะไม่ลงรถมาแล้วซะอีก"
"ถ้ามาดามลงมาไม่ได้ แล้วฉันจะบอกเซอร์บียอร์นยังไง" ... อ๋อกลัวโดนด่ารึ ไอ้เราก็นึกว่าเป็นห่วง แหม...เบิร์นนี่อ่ะ
เนื่องจากมัวแต่ไม่กล้ากระโดดทำให้รถเลยทางเข้าตลาดมาเยอะ พวกเราต้องเดินย้อนกลับไปตลาดเพื่อซื้อของกัน
เบิร์นนี่ก็เดินไป บ่นไป "พูดอะไรมาดามก็ไม่เคยฟัง นั่งรถเมล์มันสนุกที่ไหน.. ไม่งั้นคนเขาจะรีบหาตังค์รีบรถขับกันเองทำไม.."
บลา บลา บลา บ่นยาวไปจนถึงตลาด
ตลอดเวลาที่ซื้อของกัน เบิร์นนี่จะพูดตลอดเวลาว่า "มาดามเร็วๆสามีคุณรออยู่นะ"
เรา: รู้แล้วๆ ไออยากได้กุ้งอ่ะ
เบิร์นนี่ : กุ้งนี้โลละเท่าไหร่สามีของมาดามฉันเค้าให้ถาม
เราก็งงบียอร์นให้ถามตอนไหนแว๊ เบิร์นนี่ก็แบบพูดภาษาอังกฤษคำ ภาษาบ้านตัวเองคำ ตลกอ่ะ
เบิร์นนี่มาเฉลยให้ฟังทีหลังว่าถ้าคนรู้ว่ามาดามแต่งงานแล้ววัยรุ่นจะได้ไม่แซว แล้วคนขายของจะได้ไม่โกงเพราะคิดว่ามาดามแต่งงานกับคนบ้านเขา ..
อ่อ.. มีงี้ด้วยเหรอ..?!?
แต่ระหว่างเดินดูของก็จะมีคนเดินมาเบียดๆ เดินมาดันเราตลอดเวลาทั้งๆที่มีที่ว่างตั้งเยอะเขาก็จะจ้องจนน่ากลัวเราแกล้งบอก
"เบิร์นนี่สงสัยคนที่นี่ไม่เคยเห็นคนสวยเนอะ" เบอร์นี่รีบบอก "เปล่า!เค้าแค่ไม่เคยเห็นคนหน้าแปลก"
" no! they never strange face "
not strange face .. you mean stranger? ไม่ใช้หน้าแปลก เธอหมายถึงคนแปลกหน้าใช่เปล่า
.. madam face same Same strange.. หน้ามาดาม ก็เหมือนแปลก...คืออะไร
เบิร์นนี่เค้าคงหมายถึงคนแปลกหน้าละมั้ง.. คิดเข้าข้างตัวเองไว้ก่อนก็ภาษาเบิร์นนี่อ่อนขนาดนั้นนี่นะ ..ใช่ไหมหว่า..
ต้องใช่สิ เราแค่คนแปลกหน้า.. หน้าแปลกซะที่ไหน..
** มันยาวไปหน่อย มีต่อในคอมเม้นต์นะคะ มีภาพประกอบนิดหน่อยด้วยค่ะ
ปล .. แก้ไขคำผิดค่ะ