Tess Newall เจ้าสาวแสนสวยเพิ่งจะได้ชุดแต่งงาน
เป็นผ้าลูกไม้อายุ 147 ปีที่ตัดเย็บด้วยมือในปี 1840
เป็นสมบัติตกทอดมาจากย่าทวดของเธอกลับคืนมา
เพราะ Dora ย่าของเธอบอกว่า เธอควรสวมชุดนี้
และเธอก็สามารถสวมใส่ได้อย่างสวยงามและพอเหมาะ
หลังจากที่มีการปรับแก้ไขเพียงเล็กน้อย
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีสมรสแล้ว
Tess Newall ได้นำชุดแต่งงานชุดนี้
ไปที่ร้านซักรีด Kleen Cleaners ใน Edinburgh
แต่ร้านนี้ได้ยุติกิจการลงเพราะเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย
รวมทั้งยังมีหนังสือจาก Wylie & Bisset ผู้พิทักษ์ทรัพย์คดีล้มละลาย
ยืนยันว่าชุดแต่งงานของเธอไม่ได้อยู่ในร้าน Kleen Cleaners
ส่วน Tess Newell ก็เชื่อว่าชุดแต่งงานของเธอ
คงจะถูกคนลักขโมยและนำไปขายต่อไปแล้ว
ดังนั้นเธอจึงแจ้งเรื่องนี้ขอความช่วยเหลือจาก Social Media
เธอได้เขียนบอกเล่าเรื่องราวชุดแต่งงานนี้ลงใน Facebook
ทำให้มีผู้คนกด liked มากกว่า 48K กับแชร์มากกว่า 302K
และมีผู้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้กว่า 43K
เพื่อให้ช่วยกันติดตามหาชุดแต่งงานนี้คืนให้กับครอบครัวเธอด้วย
เพราะชุดแต่งงานชุดนี้มีความสำคัญกับครอบครัวของเธอเป็นอย่างมาก
โชคดีที่เจ้าของที่ดินอาคารให้เช่าร้านซักรีดแห่งนี้
ได้พบข้อความที่ Tess เขียนไว้บน Facebook โดยบังเอิญ
หลังจากเขาได้เข้าไปตรวจดูสภาพภายในร้านแห่งนี้
ก็พบว่าชุดแต่งงานของ Tess Newall ยังอยู่ในร้านนี้มีสภาพ
ผ้าลูกไม้โบราณกองยับยู่ยี่อยู่บนพื้น
ดังนั้น เขาจึงได้โทรศัพท์บอกกับครอบครัวของ Tess
พ่อและแม่ของ Tess จึงได้เข้าไปในร้านเพื่อดูว่าใช่หรือไม่
และแล้วก็พบว่า
ใช่เลย เป็นชุดแต่งงานของ Tess Newall
แต่ทั้งนี้ทางผู้พิทักษ์ทรัพย์ก็ยืนยันว่า ต้องทำตามกระบวนการกฎหมาย
โดยจะนำชุดแต่งงานนี้กลับไปที่สำนักงาน Wylie & Bisset
แล้วค่อยส่งกลับคืนให้กับ Tess อีกครั้งใน Glasgow
โดยคาดว่าจะส่งคืนให้ถึงมือ Tess ได้ในราววันจันทร์นี้
เรียบเรียง/ที่มา
https://goo.gl/CDyYkt
https://goo.gl/1WLsH7
Facebook Tess Newall
https://goo.gl/Se0ZFw
เธอให้สัมภาษณ์กับ
https://metro.co.uk ว่า
ชุดแต่งงานชุดนี้เป็นผ้าลูกไม้ทำกับมือ
เป็นฝีมือของย่าทวดเธอเองใช้ในปี 1870
และ Dora ย่าของเธอยังเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี
มันอยู่ในหีบที่วางอยู่บนห้องใต้หลังคา
ย่าได้แนะนำให้เธอแต่งชุดนี้ในวันแต่งงาน
ในเดือนกรกฏาคมปีที่แล้ว
" ชุดนี้แทบประเมินค่าไม่ได้
ตอนฉันแต่งงานในเดือนกรกฎาคม
ย่าฉันบอกว่า ฉันควรจะใส่ชุดนี้
มันเก็บไว้ในหีบที่ห้องใต้หลังคา
และมันใส่ได้พอเหมาะพอเจาะกับเรือนร่างฉันมาก
เพียงแต่ฉันแก้ไขช่วงบนเล็กน้อย
ตอนที่เราแต่งงานกันในสก็อตแลนด์
เราเพิ่งจะผ่านวันสวยสดงดงาม/ชื่นสุข
แต่มันสูญหายไป ตอนนำไปซักรีดที่
ร้านซักรีด Kleen Cleaners ใน Edinburgh
เพราะร้านนี้ถูกฟ้องล้มละลาย
เราจึงกลัวว่าชุดแต่งงานนี้ถูกขโมยไปแล้ว "
อย่างไรก็ตาม โชคดีที่มันยังอยู่
แต่มันกองยับยู่ยี่อยู่บนพื้นร้าน
ตอนที่มีการเปิดร้านเพื่อทำความสะอาด
และจะส่งคืนให้กับ Tess ภายในวันอื่น
เพราะต้องส่งไปลงรายการทรัพย์สินที่
สำนักงาน Wylie & Bisset ก่อนส่งคืนให้กับเธอ
" เราได้รับจดหมายจากผู้พิพักษ์ทรัพย์คดีล้มละลาย
Wylie & Bisset ยันยันว่าชุดแต่งงานของเรา
ไม่มีอยู่ในร้าน Kleen Cleaners
คาดว่าถูกขายทิ้ง หรือขายทอดตลาดไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม เราได้รับโทรศัพท์จาก
เจ้าของที่ดินที่ให้เช่าร้านนี้ที่แสนจะใจดีว่า
ท่านได้อ่านข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว
แล้วเข้าไปตรวจสอบว่ามีอะไรหลงเหลืออยู่บ้าง
หลังจากที่ Wylie & Bisset เข้าไปยึดทรัพย์แล้ว
และพบว่าชุดลูกไม้โบราณกองยับยู่ยี่อยู่บนพื้น
แม่ฉันกับพ่อฉันเพิ่งได้รับอนุญาตให้เข้าไปในร้าน
พวกท่านประหลาดใจและดีใจเป็นอย่างมาก
มันคือชุดแต่งงานของครอบครัวเรา
(ยังไม่ได้ซักรีดและยังมีใบเสร็จแนบติดอยู่)
ครอบครัวของเราไม่รู้จะขอบคุณท่านอย่างไรดี
ท่านใจดีมากเลยให้พวกเราเข้าไปในร้าน
ก่อนที่จะปิดร้านทำความสะอาดครั้งใหญ่
มันใช้เวลายาวนานราวกับบินอ้อมโลกพระจันทร์
ก่อนที่จะส่งคืนชุดแต่งงานย่า Dora ให้กับเรา "
(เธอคงเขียนประชด Wylie & Bisset ที่ทำงานเรื่องนี้
แบบไม่รับผิดชอบเรื่องนี้เลย เล่นแจ้งว่าหายแล้วแบบดื้อ ๆ
มีการขายทิ้งไปแล้ว หรือมีคนซื้อจากการขายทอดตลาดแล้ว
แล้วให้ Tess ส่งภาพถ่ายชุดแต่งงาน
กับเรียกร้องค่าเสียหายชุดแต่งงานทดแทน
ทั้งยังไม่อนุญาตให้เธอกับครอบครัว
เข้าไปในร้านนี้เพื่อค้นหาชุดแต่งงานก่อนหน้านี้
ทำให้เรื่องนี้ล่าช้าไปนานมากหลายสัปดาห์
แต่พอพ่อแม่เธอพบชุดแต่งงานนี้แล้ว
ก็อ้างว่าต้องนำกลับไปตรวจสอบก่อนอีกครั้ง
ก่อนจะส่งคืนให้กับเจ้าของทรัพย์สิน)
เช่นเดียวกับใน Social Media
Hamish Shephard ผู้ก่อตั้งธุรกิจ
Bridebook ผู้ให้บริการธุรกิจแต่งงาน
ได้ช่วยในการสืบค้นชุดแต่งงานชุดนี้
โดยผ่านทางเครือข่ายและพันธมิตรธุรกิจ
ที่มีเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 40,000 ราย
ได้ให้สัมภาษณ์ว่า
" เราได้พูดคุยกับร้านต่าง ๆ หลายพันร้าน
ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับงานแต่งงานทั่วประเทศ
เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีร้านใดรับซื้อชุดแต่งงานนี้
ทุกคนต่างตื่นเต้นดีใจมากเลย
ที่ Tess ได้เจอชุดแต่งงานเธอแล้ว
เรื่องนี้ทำให้เจ้าสาวหลายคนของเรา
ตอนนี้ต่างดูแลชุดแต่งงานเป็นอย่างดี
และ Tess ยังได้บอกกับเราว่า
ตอนนี้เธอจะไม่ยอมให้ชุดแต่งงานนี้
คลาดไปจากสายตาอีกเลย "
Tess ยังได้ให้สัมภาษณ์กับ Metro.co.uk อีกว่า
" ครอบครัวเธอไม่อยากที่จะสูญเสีย
สมบัติตกทอดชิ้นสำคัญของครอบครัว
อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ถ้าเจ้าสาวคนใดได้ซื้อชุดแต่งงานนี้
โดยซื้ออย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
พวกเธอก็ควรสวมใส่ในวันแต่งงาน
แต่ได้โปรดส่งคืนให้ครอบครัวฉันในวันหลังด้วย
เพื่อฉันจะได้ส่งคืนให้กับ Dora ย่าของฉัน
เพราะมันสำคัญยิ่งกับครอบครัวของฉัน "
เรียบเรียง/ที่มา
https://goo.gl/1WLsH7
Social Media ช่วยให้ชุดแต่งงานผ้าลูกไม้ 147 ปีที่หายได้กลับคืน
เป็นผ้าลูกไม้อายุ 147 ปีที่ตัดเย็บด้วยมือในปี 1840
เป็นสมบัติตกทอดมาจากย่าทวดของเธอกลับคืนมา
เพราะ Dora ย่าของเธอบอกว่า เธอควรสวมชุดนี้
และเธอก็สามารถสวมใส่ได้อย่างสวยงามและพอเหมาะ
หลังจากที่มีการปรับแก้ไขเพียงเล็กน้อย
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีสมรสแล้ว
Tess Newall ได้นำชุดแต่งงานชุดนี้
ไปที่ร้านซักรีด Kleen Cleaners ใน Edinburgh
แต่ร้านนี้ได้ยุติกิจการลงเพราะเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย
รวมทั้งยังมีหนังสือจาก Wylie & Bisset ผู้พิทักษ์ทรัพย์คดีล้มละลาย
ยืนยันว่าชุดแต่งงานของเธอไม่ได้อยู่ในร้าน Kleen Cleaners
ส่วน Tess Newell ก็เชื่อว่าชุดแต่งงานของเธอ
คงจะถูกคนลักขโมยและนำไปขายต่อไปแล้ว
ดังนั้นเธอจึงแจ้งเรื่องนี้ขอความช่วยเหลือจาก Social Media
เธอได้เขียนบอกเล่าเรื่องราวชุดแต่งงานนี้ลงใน Facebook
ทำให้มีผู้คนกด liked มากกว่า 48K กับแชร์มากกว่า 302K
และมีผู้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้กว่า 43K
เพื่อให้ช่วยกันติดตามหาชุดแต่งงานนี้คืนให้กับครอบครัวเธอด้วย
เพราะชุดแต่งงานชุดนี้มีความสำคัญกับครอบครัวของเธอเป็นอย่างมาก
โชคดีที่เจ้าของที่ดินอาคารให้เช่าร้านซักรีดแห่งนี้
ได้พบข้อความที่ Tess เขียนไว้บน Facebook โดยบังเอิญ
หลังจากเขาได้เข้าไปตรวจดูสภาพภายในร้านแห่งนี้
ก็พบว่าชุดแต่งงานของ Tess Newall ยังอยู่ในร้านนี้มีสภาพ
ผ้าลูกไม้โบราณกองยับยู่ยี่อยู่บนพื้น
ดังนั้น เขาจึงได้โทรศัพท์บอกกับครอบครัวของ Tess
พ่อและแม่ของ Tess จึงได้เข้าไปในร้านเพื่อดูว่าใช่หรือไม่
และแล้วก็พบว่า ใช่เลย เป็นชุดแต่งงานของ Tess Newall
แต่ทั้งนี้ทางผู้พิทักษ์ทรัพย์ก็ยืนยันว่า ต้องทำตามกระบวนการกฎหมาย
โดยจะนำชุดแต่งงานนี้กลับไปที่สำนักงาน Wylie & Bisset
แล้วค่อยส่งกลับคืนให้กับ Tess อีกครั้งใน Glasgow
โดยคาดว่าจะส่งคืนให้ถึงมือ Tess ได้ในราววันจันทร์นี้
เรียบเรียง/ที่มา
https://goo.gl/CDyYkt
https://goo.gl/1WLsH7
Facebook Tess Newall https://goo.gl/Se0ZFw
🌸🌸🌸 THANK YOU !!! 🌸🌸🌸
เธอให้สัมภาษณ์กับ https://metro.co.uk ว่า
ชุดแต่งงานชุดนี้เป็นผ้าลูกไม้ทำกับมือ
เป็นฝีมือของย่าทวดเธอเองใช้ในปี 1870
และ Dora ย่าของเธอยังเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี
มันอยู่ในหีบที่วางอยู่บนห้องใต้หลังคา
ย่าได้แนะนำให้เธอแต่งชุดนี้ในวันแต่งงาน
ในเดือนกรกฏาคมปีที่แล้ว
" ชุดนี้แทบประเมินค่าไม่ได้
ตอนฉันแต่งงานในเดือนกรกฎาคม
ย่าฉันบอกว่า ฉันควรจะใส่ชุดนี้
มันเก็บไว้ในหีบที่ห้องใต้หลังคา
และมันใส่ได้พอเหมาะพอเจาะกับเรือนร่างฉันมาก
เพียงแต่ฉันแก้ไขช่วงบนเล็กน้อย
ตอนที่เราแต่งงานกันในสก็อตแลนด์
เราเพิ่งจะผ่านวันสวยสดงดงาม/ชื่นสุข
แต่มันสูญหายไป ตอนนำไปซักรีดที่
ร้านซักรีด Kleen Cleaners ใน Edinburgh
เพราะร้านนี้ถูกฟ้องล้มละลาย
เราจึงกลัวว่าชุดแต่งงานนี้ถูกขโมยไปแล้ว "
อย่างไรก็ตาม โชคดีที่มันยังอยู่
แต่มันกองยับยู่ยี่อยู่บนพื้นร้าน
ตอนที่มีการเปิดร้านเพื่อทำความสะอาด
และจะส่งคืนให้กับ Tess ภายในวันอื่น
เพราะต้องส่งไปลงรายการทรัพย์สินที่
สำนักงาน Wylie & Bisset ก่อนส่งคืนให้กับเธอ
" เราได้รับจดหมายจากผู้พิพักษ์ทรัพย์คดีล้มละลาย
Wylie & Bisset ยันยันว่าชุดแต่งงานของเรา
ไม่มีอยู่ในร้าน Kleen Cleaners
คาดว่าถูกขายทิ้ง หรือขายทอดตลาดไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม เราได้รับโทรศัพท์จาก
เจ้าของที่ดินที่ให้เช่าร้านนี้ที่แสนจะใจดีว่า
ท่านได้อ่านข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว
แล้วเข้าไปตรวจสอบว่ามีอะไรหลงเหลืออยู่บ้าง
หลังจากที่ Wylie & Bisset เข้าไปยึดทรัพย์แล้ว
และพบว่าชุดลูกไม้โบราณกองยับยู่ยี่อยู่บนพื้น
แม่ฉันกับพ่อฉันเพิ่งได้รับอนุญาตให้เข้าไปในร้าน
พวกท่านประหลาดใจและดีใจเป็นอย่างมาก
มันคือชุดแต่งงานของครอบครัวเรา
(ยังไม่ได้ซักรีดและยังมีใบเสร็จแนบติดอยู่)
ครอบครัวของเราไม่รู้จะขอบคุณท่านอย่างไรดี
ท่านใจดีมากเลยให้พวกเราเข้าไปในร้าน
ก่อนที่จะปิดร้านทำความสะอาดครั้งใหญ่
มันใช้เวลายาวนานราวกับบินอ้อมโลกพระจันทร์
ก่อนที่จะส่งคืนชุดแต่งงานย่า Dora ให้กับเรา "
(เธอคงเขียนประชด Wylie & Bisset ที่ทำงานเรื่องนี้
แบบไม่รับผิดชอบเรื่องนี้เลย เล่นแจ้งว่าหายแล้วแบบดื้อ ๆ
มีการขายทิ้งไปแล้ว หรือมีคนซื้อจากการขายทอดตลาดแล้ว
แล้วให้ Tess ส่งภาพถ่ายชุดแต่งงาน
กับเรียกร้องค่าเสียหายชุดแต่งงานทดแทน
ทั้งยังไม่อนุญาตให้เธอกับครอบครัว
เข้าไปในร้านนี้เพื่อค้นหาชุดแต่งงานก่อนหน้านี้
ทำให้เรื่องนี้ล่าช้าไปนานมากหลายสัปดาห์
แต่พอพ่อแม่เธอพบชุดแต่งงานนี้แล้ว
ก็อ้างว่าต้องนำกลับไปตรวจสอบก่อนอีกครั้ง
ก่อนจะส่งคืนให้กับเจ้าของทรัพย์สิน)
เช่นเดียวกับใน Social Media
Hamish Shephard ผู้ก่อตั้งธุรกิจ
Bridebook ผู้ให้บริการธุรกิจแต่งงาน
ได้ช่วยในการสืบค้นชุดแต่งงานชุดนี้
โดยผ่านทางเครือข่ายและพันธมิตรธุรกิจ
ที่มีเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 40,000 ราย
ได้ให้สัมภาษณ์ว่า
" เราได้พูดคุยกับร้านต่าง ๆ หลายพันร้าน
ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับงานแต่งงานทั่วประเทศ
เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีร้านใดรับซื้อชุดแต่งงานนี้
ทุกคนต่างตื่นเต้นดีใจมากเลย
ที่ Tess ได้เจอชุดแต่งงานเธอแล้ว
เรื่องนี้ทำให้เจ้าสาวหลายคนของเรา
ตอนนี้ต่างดูแลชุดแต่งงานเป็นอย่างดี
และ Tess ยังได้บอกกับเราว่า
ตอนนี้เธอจะไม่ยอมให้ชุดแต่งงานนี้
คลาดไปจากสายตาอีกเลย "
Tess ยังได้ให้สัมภาษณ์กับ Metro.co.uk อีกว่า
" ครอบครัวเธอไม่อยากที่จะสูญเสีย
สมบัติตกทอดชิ้นสำคัญของครอบครัว
อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ถ้าเจ้าสาวคนใดได้ซื้อชุดแต่งงานนี้
โดยซื้ออย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
พวกเธอก็ควรสวมใส่ในวันแต่งงาน
แต่ได้โปรดส่งคืนให้ครอบครัวฉันในวันหลังด้วย
เพื่อฉันจะได้ส่งคืนให้กับ Dora ย่าของฉัน
เพราะมันสำคัญยิ่งกับครอบครัวของฉัน "
เรียบเรียง/ที่มา
https://goo.gl/1WLsH7