ตอนนี้คบกับแฟนคนจีนอยู่ ใกล้จะครบปีแล้วค่ะ
มีการคุยกันเรื่องแต่งงาน และซื้อบ้านทำนู่นนี่นั่นด้วยกันในปีหน้า ด้วยความที่เราบ่นว่างานของเรามันต้องยืนทั้งวันแล้วเราเหนื่อย เขาก็เลยบอกว่างั้นเดี๋ยวเปิดร้านอะไรให้เธอสักอย่างให้เธอทำ แต่ที่นี้ดูเหมือนว่าเงินของเขานั้นไม่ได้มีมากพอที่จะทำทั้งซื้อบ้านและเปิดธุรกิจให้ เขาจึงบอกกับเราว่าเงินส่วนหนึ่งที่ซื้อบ้านคือเงินของแม่ และถ้าทำธุรกิจอาจจะต้องทำร่วมกันกับเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันกับเขา แล้วแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้กับเพื่อนคนนั้น เพื่อนเป็นผู้หญิง ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นมายังไง ซึ่งก่อนหน้านี้เขาถามว่าคนจีนสามารถซื้อเองได้ไหมสำหรับการซื้อบ้านหรือเปิดธุรกิจ ถ้าพวกเขาสามารถซื้อได้เขาอยากจะซื้อมันด้วยตัวเอง คือให้ผู้หญิงเป็นคนซื้อให้ดำเนินการต่างๆให้ ส่วนเราเป็นคนทำธุรกิจนั้นแล้วแบ่งเงินคืนให้ผู้หญิงไป เรารู้สึกว่าทำไมเขาถึงจะใจดีแปลกๆ แต่หลังจากที่เราบอกว่ามันไม่ได้ การที่จะซื้อบ้านหรือทำอะไรในไทยนั้น ต้องเป็นฉันเท่านั้น ดังนั้นเขาก็เลยโอเคงั้นจะทำตามความคิดเดิมก็คือกลับบ้านไปคุยกับแม่เรื่องแต่งงานกับเรา แล้วซื้อบ้านกัน แล้วเปิดร้านอะไรให้เราทำ เรามองว่าในหัวเขายังคงต้องการทุนจากผู้หญิงคนนั้นอยู่อีกครึ่งนึง ตรงนี้ก็คือเราไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของพวกเขาในความรู้สึกเราเรามองว่าเขาน่าจะมีการวางแผนและรู้เห็นกันมาก่อนหน้านั้นแล้วหรือเปล่า อย่างเช่นเขาสองคนอาจจะเป็นแฟนกันอยู่แล้วแต่ไม่ได้มีการแต่งงาน แล้วก็ต้องการขยายธุรกิจมาที่ไทยอยู่แล้วดังนั้นจึงอนุญาตให้ผัวแต่งกับคนอื่นได้แบบนี้หรือเปล่า ซึ่งอยู่ที่จีนผู้หญิงเขาเปิดคลินิกความงาม ถ้ามาเปิดที่ไทยเพิ่มแฟนบอกว่าให้เราเรียนกับเพื่อนของเขาคนนี้เพื่อเปิด แล้วก็ให้เราเรียนเกี่ยวกับสายงานนี้เพื่อที่จะมีใบอนุญาต มันคือการหวังดีต่อเราจริงๆหรอ หรือเขาสองคนรู้อยู่แล้ววางแผนไว้ตั้งแต่แรก มันมีคำถามแบบนี้อยู่ในหัวค่ะ อีกอย่างใน social ของเขาก็ไม่ได้มีการโพสต์อะไรถึงเรา อันนี้เราเข้าใจบาง app มันมีเพื่อนร่วมงานมีหัวหน้าก็ไม่ได้อยากโพสต์ แต่บาง app มันเป็นส่วนตัวก็ไม่ได้มีการโพสต์ถึงเราเช่นกันและไม่มีการโพสต์ถึงผู้หญิงคนไหน กับเพื่อนของเขาบางคนสามารถเปิดได้เปิดเผยได้ว่าคบกับเราอยู่ บางคนก็ไม่ได้ให้รู้ไม่ได้ก็ไม่เข้าใจ ทั้งๆที่คุยเรื่องที่จะแต่งงานกับเรา แต่บางเรื่องเรากลับถามเขาไม่ได้ คือเราต้องการรู้ละเอียดกว่านั้นหรือว่าเรางี่เง่าเกินไป อย่างเช่นถ้าเกิดคนนี้เขาบอกว่าอาจเป็นเพื่อนร่วมชั้นนะเราก็อาจจะสงสัยต่อไปว่าเพื่อนร่วมชั้นจริงหรอ เพื่อนแต่งงานหรือยัง เขาก็จะบ่ายเบี่ยงไม่ตอบ ความคิดของเราถูกต้อง ว่าเราแค่คิดมากไปเอง แต่จริงๆถ้ามันไม่มีอะไรที่ซับซ้อน ชัดเจน มันก็คงไม่ต้องคิดถูกไหม ถ้าดูการใช้ชีวิตปกติ เขาก็ดูดีกับเราหลายๆอย่างทำดีกับเราปกติ เหมือนคนที่อยู่ด้วยกันทั่วๆไป มีแค่เรื่องนี้ กับพฤติกรรมแปลกๆอย่างเช่นตอนกลางคืนแอบเล่นโทรศัพท์เพราะเรารู้สึกตัวก็จะทำเหมือนไม่ได้เล่นแกล้งหลับ ก็เลยเดาไม่ถูกว่าจริงๆแล้วความต้องการของผู้ชายคนนี้คืออะไร ถ้าแค่ต้องการทำธุรกิจจริงๆมันก็คุยกับเราตรงๆได้ เราอยู่ในสถานะอะไรยังไงมันก็สามารถเข้าใจได้ มันมีแล้วนะผู้หญิงที่ยอมเป็นน้อย หรือเขามองว่าเราอาจจะไม่ยอมก็เลยต้องหลอกงั้นหรอ แบบนี้ก็ใจร้ายกับเราไปหน่อยหรือเปล่า มันคือความสุขของเราทั้งชีวิต ถ้าเกิดวันนี้เป็นเพียงแค่การเล่นละคร นั่นเท่ากับว่าทั้งชีวิตเราจะไม่พบเจอกับความสุขเลย เราต้องทนข่มขืนกับเรื่องแบบนี้ไปตลอด หลายคนมองว่าเราเพียงแค่หาคำปลอบใจทั้งที่รู้อยู่แล้ว คือมันก็ไม่ใช่แบบนั้น เราอยากได้ความจริงแบบจริงๆ ถ้าเกิดว่าเราชวนเขาทะเลาะทั้งๆที่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราแค่คิดไปเอง การเลิกกันครั้งนี้เกิดจากความผิดเรามันก็อาจจะน่าเสียดายอยู่หน่อยๆ ที่ฝ่ายชายวางแผนอนาคตเอาไว้แต่เราเป็นคนทำมันพัง แต่ถ้ามันมีเรื่องแบบนั้นจริงๆ ที่เราโดนหลอก ก็จะได้วางแผนรับมือได้ทัน เรากลัวเราเสียใจจนรับไม่ได้ ถ้ารู้อะไรตั้งแต่เนิ่นๆอย่างน้อยก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นเราอาจจะทำใจได้ง่ายกว่าประมาณนั้น
ปัญหาเกี่ยวกับผู้ชายจีน การแต่งงานเชิงธุรกิจ
มีการคุยกันเรื่องแต่งงาน และซื้อบ้านทำนู่นนี่นั่นด้วยกันในปีหน้า ด้วยความที่เราบ่นว่างานของเรามันต้องยืนทั้งวันแล้วเราเหนื่อย เขาก็เลยบอกว่างั้นเดี๋ยวเปิดร้านอะไรให้เธอสักอย่างให้เธอทำ แต่ที่นี้ดูเหมือนว่าเงินของเขานั้นไม่ได้มีมากพอที่จะทำทั้งซื้อบ้านและเปิดธุรกิจให้ เขาจึงบอกกับเราว่าเงินส่วนหนึ่งที่ซื้อบ้านคือเงินของแม่ และถ้าทำธุรกิจอาจจะต้องทำร่วมกันกับเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันกับเขา แล้วแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้กับเพื่อนคนนั้น เพื่อนเป็นผู้หญิง ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นมายังไง ซึ่งก่อนหน้านี้เขาถามว่าคนจีนสามารถซื้อเองได้ไหมสำหรับการซื้อบ้านหรือเปิดธุรกิจ ถ้าพวกเขาสามารถซื้อได้เขาอยากจะซื้อมันด้วยตัวเอง คือให้ผู้หญิงเป็นคนซื้อให้ดำเนินการต่างๆให้ ส่วนเราเป็นคนทำธุรกิจนั้นแล้วแบ่งเงินคืนให้ผู้หญิงไป เรารู้สึกว่าทำไมเขาถึงจะใจดีแปลกๆ แต่หลังจากที่เราบอกว่ามันไม่ได้ การที่จะซื้อบ้านหรือทำอะไรในไทยนั้น ต้องเป็นฉันเท่านั้น ดังนั้นเขาก็เลยโอเคงั้นจะทำตามความคิดเดิมก็คือกลับบ้านไปคุยกับแม่เรื่องแต่งงานกับเรา แล้วซื้อบ้านกัน แล้วเปิดร้านอะไรให้เราทำ เรามองว่าในหัวเขายังคงต้องการทุนจากผู้หญิงคนนั้นอยู่อีกครึ่งนึง ตรงนี้ก็คือเราไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของพวกเขาในความรู้สึกเราเรามองว่าเขาน่าจะมีการวางแผนและรู้เห็นกันมาก่อนหน้านั้นแล้วหรือเปล่า อย่างเช่นเขาสองคนอาจจะเป็นแฟนกันอยู่แล้วแต่ไม่ได้มีการแต่งงาน แล้วก็ต้องการขยายธุรกิจมาที่ไทยอยู่แล้วดังนั้นจึงอนุญาตให้ผัวแต่งกับคนอื่นได้แบบนี้หรือเปล่า ซึ่งอยู่ที่จีนผู้หญิงเขาเปิดคลินิกความงาม ถ้ามาเปิดที่ไทยเพิ่มแฟนบอกว่าให้เราเรียนกับเพื่อนของเขาคนนี้เพื่อเปิด แล้วก็ให้เราเรียนเกี่ยวกับสายงานนี้เพื่อที่จะมีใบอนุญาต มันคือการหวังดีต่อเราจริงๆหรอ หรือเขาสองคนรู้อยู่แล้ววางแผนไว้ตั้งแต่แรก มันมีคำถามแบบนี้อยู่ในหัวค่ะ อีกอย่างใน social ของเขาก็ไม่ได้มีการโพสต์อะไรถึงเรา อันนี้เราเข้าใจบาง app มันมีเพื่อนร่วมงานมีหัวหน้าก็ไม่ได้อยากโพสต์ แต่บาง app มันเป็นส่วนตัวก็ไม่ได้มีการโพสต์ถึงเราเช่นกันและไม่มีการโพสต์ถึงผู้หญิงคนไหน กับเพื่อนของเขาบางคนสามารถเปิดได้เปิดเผยได้ว่าคบกับเราอยู่ บางคนก็ไม่ได้ให้รู้ไม่ได้ก็ไม่เข้าใจ ทั้งๆที่คุยเรื่องที่จะแต่งงานกับเรา แต่บางเรื่องเรากลับถามเขาไม่ได้ คือเราต้องการรู้ละเอียดกว่านั้นหรือว่าเรางี่เง่าเกินไป อย่างเช่นถ้าเกิดคนนี้เขาบอกว่าอาจเป็นเพื่อนร่วมชั้นนะเราก็อาจจะสงสัยต่อไปว่าเพื่อนร่วมชั้นจริงหรอ เพื่อนแต่งงานหรือยัง เขาก็จะบ่ายเบี่ยงไม่ตอบ ความคิดของเราถูกต้อง ว่าเราแค่คิดมากไปเอง แต่จริงๆถ้ามันไม่มีอะไรที่ซับซ้อน ชัดเจน มันก็คงไม่ต้องคิดถูกไหม ถ้าดูการใช้ชีวิตปกติ เขาก็ดูดีกับเราหลายๆอย่างทำดีกับเราปกติ เหมือนคนที่อยู่ด้วยกันทั่วๆไป มีแค่เรื่องนี้ กับพฤติกรรมแปลกๆอย่างเช่นตอนกลางคืนแอบเล่นโทรศัพท์เพราะเรารู้สึกตัวก็จะทำเหมือนไม่ได้เล่นแกล้งหลับ ก็เลยเดาไม่ถูกว่าจริงๆแล้วความต้องการของผู้ชายคนนี้คืออะไร ถ้าแค่ต้องการทำธุรกิจจริงๆมันก็คุยกับเราตรงๆได้ เราอยู่ในสถานะอะไรยังไงมันก็สามารถเข้าใจได้ มันมีแล้วนะผู้หญิงที่ยอมเป็นน้อย หรือเขามองว่าเราอาจจะไม่ยอมก็เลยต้องหลอกงั้นหรอ แบบนี้ก็ใจร้ายกับเราไปหน่อยหรือเปล่า มันคือความสุขของเราทั้งชีวิต ถ้าเกิดวันนี้เป็นเพียงแค่การเล่นละคร นั่นเท่ากับว่าทั้งชีวิตเราจะไม่พบเจอกับความสุขเลย เราต้องทนข่มขืนกับเรื่องแบบนี้ไปตลอด หลายคนมองว่าเราเพียงแค่หาคำปลอบใจทั้งที่รู้อยู่แล้ว คือมันก็ไม่ใช่แบบนั้น เราอยากได้ความจริงแบบจริงๆ ถ้าเกิดว่าเราชวนเขาทะเลาะทั้งๆที่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราแค่คิดไปเอง การเลิกกันครั้งนี้เกิดจากความผิดเรามันก็อาจจะน่าเสียดายอยู่หน่อยๆ ที่ฝ่ายชายวางแผนอนาคตเอาไว้แต่เราเป็นคนทำมันพัง แต่ถ้ามันมีเรื่องแบบนั้นจริงๆ ที่เราโดนหลอก ก็จะได้วางแผนรับมือได้ทัน เรากลัวเราเสียใจจนรับไม่ได้ ถ้ารู้อะไรตั้งแต่เนิ่นๆอย่างน้อยก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นเราอาจจะทำใจได้ง่ายกว่าประมาณนั้น