ผมสงสัยไปค้น ดูเจอกระทู้นี้ ทำไมเราถึงคิดออกนอกระบบ สุริยะ ไปในแนวระนาบอย่างเดียว https://ppantip.com/topic/31066667

ผมอยากถามเพิ่มเติมว่า.ถ้ายานอวกาศที่ส่งไปในแนวตั้งฉากกับวงโคจรของระบบสุริยะ. ไปเรื่อยๆ (ถ้าพลังงานไม่หมด) ยานลำนั้นจะเจอ. กับแกแล็กซี่อื่น หรือระบบดาวฤกษ์อื่นหรือไม่ และ การเดินทางไปแนวตั้งนี้ ใช้พลังงานมากกว่าหรือน้อยกว่าทางราบครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ทำไมเราถึงคิดออกนอกระบบ สุริยะ ไปในแนวระนาบอย่างเดียว ถ้ายานอวกาศที่ส่งไปในแนวตั้งฉากกับวงโคจรของระบบสุริยะ.
ไปเรื่อยๆ (ถ้าพลังงานไม่หมด) ยานลำนั้นจะเจอ. กับแกแล็กซี่อื่น หรือระบบดาวฤกษ์อื่นหรือไม่

ตั้งแต่ที่มนุษย์ไปดวงจันทร์ได้  จุดประสงค์หลักของการส่งยานสำรวจอวกาศออกไปในระบบสุริยะ
คือ สำรวจดาวเคราะห์ และ วัตถุอวกาศอื่น ๆ ในระบบสุริยะเราครับ  และวัตถุที่ว่านี้ล้วนแล้วแต่อยู่ใน "ระนาบ"
แบบนี้ทั้งสิ้น  หากเราส่งยานสำรวจออกไปในแนวตั้งฉากกับระนาบนี้  ก็จะไม่เจออะไรเลย
อาจพูดได้ว่าส่งยานไปทิ้งเปล่าเสียอย่างนั้นครับ  

ในการส่งยานทั้งลำ  ค่าใช้จ่ายจะมหาศาลมาก  จึงต้องหาประโยชน์จากยานลำนั้นให้มากที่สุด
ยานโคจรผ่านดาวเคราะห์ดวงใดก็สามารถถ่ายภาพ  วัดค่าทางวิทยาศาสตร์กลับมาได้ครับ

และที่ถามว่า หากส่งยานในทิศตั้งฉากออกไปจะเจออะไรบ้าง ?
คำตอบคือเราจะไม่เจอวัตถุอวกาศใด ๆ เลย  ยานจะเดินทางออกนอกระบบสุริยะด้วยการใช้พลังงาน
การขับเคลื่อนด้วยตัวเองโดยไม่สามารถใช้ประโยชน์จาก gravity assist  และสิ่งที่จะเจอถัดไป
คือ "ดาวฤกษ์" ที่ใกล้สุดครับ  นั่นหมายถึงเวลาที่นานมาก ๆๆๆ  จนสิ้นยุคของมนุษย์ก็ว่าได้
เพราะดาวฤกษ์ที่ใกล้สุดเป็นไปตามแผนภาพนี้  จากภาพจะแสดงดาวฤกษ์ที่ใกล้ดวงอาทิตย์จำนวนหลายดวง
โดยบอกทิศทางของดวงต่าง ๆ  จขกท.จะเห็นดาวฤกษ์ Proxima และ Alpha Centauri  (ข้างใต้ดวงอาทิตย์)
นี่ก็ห่างไปประมาณ 4.2 ปีแสง แล้วครับ  หากยานอวกาศเดินทางได้เร็วสุด (สมมุติ) เร็วได้ถึง 200 กิโลเมตร/วินาที  
กว่าจะถึง Proxima centauri จะต้องใช้เวลาถึง 6,300 ปี

และ การเดินทางไปแนวตั้งนี้ ใช้พลังงานมากกว่าหรือน้อยกว่าทางราบครับ
แน่นอนว่าการเดินทางแนวตั้ง  จะใช้พลังงานมากกว่าแนวนอนครับ
เพราะแนวตั้งไม่สามารถใช้ประโยชน์จากการ gravity assist จากดาวเคราะห์ดวงใดได้เลย
ยกเว้นเป็นการวางแผนการออกนอกระบบสุริยะโดยการใช้ประโยชน์จาก Oberth effect ร่วมกับดวงอาทิตย์
ซึ่งเป็นหลักการที่ว่า  เมื่อยานวิ่งเข้าสู่วัตถุที่มีแรงโน้มถ่วงสูงและยานจุดจรวดที่มีแรงขับดันสูงมาก ๆ
จะทำให้เกิดความเร็วสูงอย่างมหาศาลจากการที่แรงขับดันจากจรวด + ความเร่งจากแรงโน้มถ่วงดึงเข้าไป
หากให้มองเห็นภาพง่าย ๆ ก็คือออกแบบทิศทางการส่งยานออกนอกระบบสุริยะ (แนวใดก็ได้ ตั้ง หรือ นอน)
แล้วใช้จรวดขับดันขนาดใหญ่พร้อมกับการใช้ gravity assist จากดวงอาทิตย์  เท่านี้ก็จะได้ความเร็ว
ที่มหาศาลเกินกว่า solar system escape velocity อย่างมากครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่