หลังประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามในคำสั่งพิเศษอนุมัติให้สหรัฐงดการออกวีซ่าให้แก่พลเมืองจากทั้ง 7 ประเทศมุสลิม อันได้แก่ อิรัก, อิหร่าน, โซมาเลีย, ซูดาน, ซีเรีย, ลิเบีย และเยเมน ผลกระทบเกิดขึ้นมากมายแก่บรรดานักท่องเที่ยวชาวมุสลิม และผู้ลี้ภัย ผู้ไม่เห็นด้วยพากันแสดงออกผ่านการประท้วง และแสดงทัศนบนโลกออนไลน์
สหรัฐอ้างประเด็นความมั่นคงขึ้นมาใช้เป็นเหตุผลในการประกาศแบนครั้งนี้ เพื่อปกป้องประเทศของตนจากการก่อการร้าย ท่ามกลางความสงสัยว่าเหตุใดประเทศอย่างปากีสถาน และซาอุดิอาระเบียที่ล้วนเป็นแหล่งซ่องสุมของบรรดากลุ่มผู้ก่อการร้ายชาวมุสลิมเช่นกัน กลับไม่ถูกแบนไปด้วย
สำนักข่าวอังจาซีราได้ทำแผนภาพเปรียบเทียบจำนวนของบรรดาผู้อพยพ ที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐประจำปี 2015 มาให้ได้ชมกัน เพื่อช่วยให้คุณผู้อ่านมองเห็นภาพรวมของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยวงกลมสีส้มคือ 7 ประเทศที่ถูกแบน
ผู้ถือกรีนการ์ดในสหรัฐ
ดูจากแผนภาพจะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ถือกรีนการ์ด เพื่ออาศัยอยู่ในสหรัฐมากที่สุดคือมาจากเม็กซิโก ด้วยจำนวน 159,000 คน รองลงมาคือจีน 74,600 คน และตามด้วยชาวอินเดียอีกจำนวน 64,100 คน
ในขณะที่สัดส่วนของพลเมืองจากประเทศทั้ง 7 ที่ถูกแบนนั้นถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ มากที่สุดคือชาวอิรักจำนวน 21,100 คน รองลงมาคือชาวอิหร่านจำนวน 13,100 คน ในขณะที่พลเมืองจากอีก 5 ประเทศที่ถูกแบนนั้นมีจำนวนผู้ถือกรีนการ์ดในสัดส่วนไม่ถึงหมื่นคนต่อประเทศ
ผู้อพยพ
ชาวเมียนมาเป็นชาติที่มีจำนวนผู้อพยพเข้ามาในสหรัฐมากที่สุดด้วยสัดส่วน 18,400 คน ตามมาด้วยอิรักจำนวน 12,700 คน และโซมาเลียอีก 8,860 คน ส่วนวิกฤติสงครามซีเรียนั้น สหรัฐรับผู้อพยพจากประเทศนี้จำนวน 1,680 คนเท่านั้น ในขณะที่อิหร่านมีจำนวนผู้อพยพ 3,110 คน ซูดาน 1,580 คน เยเมนเพียง 16 คนเท่านั้น ส่วนข้อมูลของประชากรผู้อพยพจากลิเบียไม่ถูกเปิดเผย
ผู้ได้รับวีซ่าขอลี้ภัย
มากที่สุดคือชาวจีนจำนวน 3,610 คน ตามมาด้วยประเทศเพื่อนบ้านอย่าง กัวเตมาลา 369 คน และฮอนดูรัส 307 คน ส่วนในบรรดา 7 ประเทศที่ถูกแบนนั้นมีจำนวนผู้ได้รับวีซ่าขอลี้ภัยแต่ละประเทศไม่เกินร้อยคน มีเพียงโซมาเลีย และซีเรียเท่านั้น ด้วยจำนวน 161 และ 101 คน และลิเบียไม่มีข้อมูลเช่นเดิม
วีซ่าอื่นๆระยะสั้น เช่น วีซ่าธุรกิจ, ท่องเที่ยว และวีซ่านักเรียนเป็นต้น
ชาวเม็กซิโกเดินทางเข้ามาในสหรัฐด้วยธุระต่างๆมากที่สุด ด้วยจำนวน 20 ล้านคนในปี 2015 ตามมาด้วยแคนาดา 13.3 ล้านคน และสหราชอาณาจักร 4.81 ล้านคน ส่วนในบรรดา 7 ประเทศมุสลิมที่ถูกแบนนั้น แม้ว่าจะไม่มีคำสั่งแบนพลเมืองจากประเทศใดๆเฉพาะเจาะจงในตอนนั้นก็ตาม มีจำนวนผู้เดินทางจากประเทศต่างๆ ในแต่ละประเทศไม่ถึง 5 หมื่นคน
ขอขอบคุณ Aljazeera
ดูข้อมูลทั้งหมดได้ที่นี่
http://interactive.aljazeera.com/aje/2017/united-states-immigrants/index.html
http://www.posttoday.com/world/news/478994
เปรียบเทียบสัดส่วนจำนวนผู้อพยพในสหรัฐ มาจากประเทศไหนบ้าง?....
สหรัฐอ้างประเด็นความมั่นคงขึ้นมาใช้เป็นเหตุผลในการประกาศแบนครั้งนี้ เพื่อปกป้องประเทศของตนจากการก่อการร้าย ท่ามกลางความสงสัยว่าเหตุใดประเทศอย่างปากีสถาน และซาอุดิอาระเบียที่ล้วนเป็นแหล่งซ่องสุมของบรรดากลุ่มผู้ก่อการร้ายชาวมุสลิมเช่นกัน กลับไม่ถูกแบนไปด้วย
สำนักข่าวอังจาซีราได้ทำแผนภาพเปรียบเทียบจำนวนของบรรดาผู้อพยพ ที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐประจำปี 2015 มาให้ได้ชมกัน เพื่อช่วยให้คุณผู้อ่านมองเห็นภาพรวมของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยวงกลมสีส้มคือ 7 ประเทศที่ถูกแบน
ผู้ถือกรีนการ์ดในสหรัฐ
ดูจากแผนภาพจะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ถือกรีนการ์ด เพื่ออาศัยอยู่ในสหรัฐมากที่สุดคือมาจากเม็กซิโก ด้วยจำนวน 159,000 คน รองลงมาคือจีน 74,600 คน และตามด้วยชาวอินเดียอีกจำนวน 64,100 คน
ในขณะที่สัดส่วนของพลเมืองจากประเทศทั้ง 7 ที่ถูกแบนนั้นถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ มากที่สุดคือชาวอิรักจำนวน 21,100 คน รองลงมาคือชาวอิหร่านจำนวน 13,100 คน ในขณะที่พลเมืองจากอีก 5 ประเทศที่ถูกแบนนั้นมีจำนวนผู้ถือกรีนการ์ดในสัดส่วนไม่ถึงหมื่นคนต่อประเทศ
ผู้อพยพ
ชาวเมียนมาเป็นชาติที่มีจำนวนผู้อพยพเข้ามาในสหรัฐมากที่สุดด้วยสัดส่วน 18,400 คน ตามมาด้วยอิรักจำนวน 12,700 คน และโซมาเลียอีก 8,860 คน ส่วนวิกฤติสงครามซีเรียนั้น สหรัฐรับผู้อพยพจากประเทศนี้จำนวน 1,680 คนเท่านั้น ในขณะที่อิหร่านมีจำนวนผู้อพยพ 3,110 คน ซูดาน 1,580 คน เยเมนเพียง 16 คนเท่านั้น ส่วนข้อมูลของประชากรผู้อพยพจากลิเบียไม่ถูกเปิดเผย
ผู้ได้รับวีซ่าขอลี้ภัย
มากที่สุดคือชาวจีนจำนวน 3,610 คน ตามมาด้วยประเทศเพื่อนบ้านอย่าง กัวเตมาลา 369 คน และฮอนดูรัส 307 คน ส่วนในบรรดา 7 ประเทศที่ถูกแบนนั้นมีจำนวนผู้ได้รับวีซ่าขอลี้ภัยแต่ละประเทศไม่เกินร้อยคน มีเพียงโซมาเลีย และซีเรียเท่านั้น ด้วยจำนวน 161 และ 101 คน และลิเบียไม่มีข้อมูลเช่นเดิม
วีซ่าอื่นๆระยะสั้น เช่น วีซ่าธุรกิจ, ท่องเที่ยว และวีซ่านักเรียนเป็นต้น
ชาวเม็กซิโกเดินทางเข้ามาในสหรัฐด้วยธุระต่างๆมากที่สุด ด้วยจำนวน 20 ล้านคนในปี 2015 ตามมาด้วยแคนาดา 13.3 ล้านคน และสหราชอาณาจักร 4.81 ล้านคน ส่วนในบรรดา 7 ประเทศมุสลิมที่ถูกแบนนั้น แม้ว่าจะไม่มีคำสั่งแบนพลเมืองจากประเทศใดๆเฉพาะเจาะจงในตอนนั้นก็ตาม มีจำนวนผู้เดินทางจากประเทศต่างๆ ในแต่ละประเทศไม่ถึง 5 หมื่นคน
ขอขอบคุณ Aljazeera
ดูข้อมูลทั้งหมดได้ที่นี่ http://interactive.aljazeera.com/aje/2017/united-states-immigrants/index.html
http://www.posttoday.com/world/news/478994