คือว่าสงสัยอ่ะคับ พวกผู้หญิงมุสลิมที่เดินทางไปทำ ญิฮัทสวาท ให้พวก isis มันเรียงคิวนี่ ไม่ผิดหลักศาสนาเหรอ เห็นอิสลามมีกฏเหล็กอยู่ว่า ไม่ยินยอมให้สตรีมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่สามี ขนาดไปข้างนอกยังต้องมีคนตามไปด้วยเลย หรือว่าทำญิฮัทสวาทแล้วได้ขึ้นสวรรค์ (ก็คงขึ้นสวรรค์จิงๆแหละขณะทำ อิอิ ) คงจะเหนื่อยทั้งวันแน่ๆ รึว่าไม่บาปเพราะสมัครใจไป ยั่งงี้ก็ไม่เป็นธรรมสิ คนอื่นทำไม่ได้ ทำได้เฉพาะพวกตัวเองที่สิทธิ์ ไม่รู้ว่าที่เมืองไทยจะมีแอบไปกันมั่งรึป่าว เห็นมาเลย์ไปกันเยอะเลย.....อย่าไปเลยนะครับ คุณสาวๆ เสียดายอ่ะ สงสารแฟนคุณ คงทำใจลำบาก
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000098708
http://www.clarionproject.org/news/isis-issues-orders-mosul-give-over-girls-sex-jihad
ในขณะที่ IBT รายงานเมื่อวานนี้(27) ถึง “ “ญิฮัดสวาท” (Jihad al-Nikah) ที่บรรดาพลเมืองสตรีจากอังกฤษ ออสเตรเลีย และมาเลเซียเดินทางเข้าไปในอิรักเพื่อให้ความสุขทางเพศกับเหล่านักรบญิฮัด IS ถือเป็นปรากฏการณ์ล่าสุด
แหล่งข่าวกรองมาเลเซียในกรุงกัวลาลัมเปอร์ยืนยันว่า มีหญิงมาเลย์อย่างน้อย 3 รายเดินทางไปยังสาธารณรัฐอิสลาม (IS) อาณาจักรตั้งใหม่โดยคอลิฟะห์ของกลุ่ม IS ที่กินบริเวณตั้งแต่ซีเรียไปจนถึงอิรัก และเปิดเผยต่อว่า 1 ใน 3 ของหญิงมาเลย์กลุ่มนี้อยู่ในวัย 30 และอีก 2 คนอยู่ในวัย 40
กระแสการทำ“ญิฮัดสวาท”นี้แต่แรกเริ่มแพร่หลายเฉพาะในบริเวณการปะทะ เช่น ซีเรีย และอียิปต์ ที่ทั้งสองประเทศนี้ยังไม่มีสเถียรภาพทางการเมือง โดยในช่วงนั้น เชื่อกันว่าหญิงเหล่านี้ใช้ร่างกายของเธอเพื่อบำเรอสุขทางกามอารมณ์ให้กับเหล่าสมาชิกมุสลิมติดอาวุธเพื่อให้มีขวัญและกำลังใจดี
“เชื่อกันว่า หญิงเหล่านี้ได้เสนอร่างกายของพวกเธอต่อเหล่านักรบญิฮัดที่พยายามสร้างสาธารณรัฐอิสลามใหม่ภายใต้การปกครองของคอลิฟะห์ในตะวันออกกลาง และถึงแม้“ญิฮัดสวาท” จะมีหลักการดูล่อแหลม แต่ทว่าเริ่มเป็นกระแสนิยมเพราะบรรดาผู้หญิงมุสลิมในมาเลเซียต่างล้วนเห็นใจ IS ทั้งนั้น” แหล่งข่าวกรองมาเลย์ เผยกับมาเลเซียนอินไซด์ และเสริมต่อว่า จากข้อมูลข่าวกรองที่ทางมาเลย์รับมาจากอังกฤษและออสเตรเลีย พบว่า พลเมืองสตรีจากอังกฤษและออสเตรเลียล้วนเดินทางไปอิรักเพื่อทำหน้าที่บำเรอสุขให้กับนักรบญิฮัด IS ทั้งสิ้น
มีพลเมืองอังกฤษอย่างน้อย 600 คน รวมถึงผูหญิงชาวอังกฤษอีกจำนวนเล็กน้อยอยู่ที่เขตอิทธิพล IS ในอิรัก และซีเรีย “ตัวเลขนี้รวมถึงหญิงมุสลิมอังกฤษที่ไม่ได้ทำหน้าที่ในการรบในแนวหน้า แต่ทำหน้าที่บำเรอสุขในแนวหลัง และข่าวกรองออสเตรเลียเปิดเผยว่า มีชาวมุสลิมออสเตรเลียจำนวนมากกว่า 100 คนต่อสู้ร่วมกับ IS ในซีเรีย” แหล่งข่าวกรองมาเลย์ให้สัมภาษณ์ตบท้าย
สงสัยครับ ที่ผู้หญิงเดินทางไปทำ ญิฮัทสวาท ให้พวก isis มันเรียงคิวนี่ ไม่ผิดหลักคำสอนเหรอ
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000098708
http://www.clarionproject.org/news/isis-issues-orders-mosul-give-over-girls-sex-jihad
ในขณะที่ IBT รายงานเมื่อวานนี้(27) ถึง “ “ญิฮัดสวาท” (Jihad al-Nikah) ที่บรรดาพลเมืองสตรีจากอังกฤษ ออสเตรเลีย และมาเลเซียเดินทางเข้าไปในอิรักเพื่อให้ความสุขทางเพศกับเหล่านักรบญิฮัด IS ถือเป็นปรากฏการณ์ล่าสุด
แหล่งข่าวกรองมาเลเซียในกรุงกัวลาลัมเปอร์ยืนยันว่า มีหญิงมาเลย์อย่างน้อย 3 รายเดินทางไปยังสาธารณรัฐอิสลาม (IS) อาณาจักรตั้งใหม่โดยคอลิฟะห์ของกลุ่ม IS ที่กินบริเวณตั้งแต่ซีเรียไปจนถึงอิรัก และเปิดเผยต่อว่า 1 ใน 3 ของหญิงมาเลย์กลุ่มนี้อยู่ในวัย 30 และอีก 2 คนอยู่ในวัย 40
กระแสการทำ“ญิฮัดสวาท”นี้แต่แรกเริ่มแพร่หลายเฉพาะในบริเวณการปะทะ เช่น ซีเรีย และอียิปต์ ที่ทั้งสองประเทศนี้ยังไม่มีสเถียรภาพทางการเมือง โดยในช่วงนั้น เชื่อกันว่าหญิงเหล่านี้ใช้ร่างกายของเธอเพื่อบำเรอสุขทางกามอารมณ์ให้กับเหล่าสมาชิกมุสลิมติดอาวุธเพื่อให้มีขวัญและกำลังใจดี
“เชื่อกันว่า หญิงเหล่านี้ได้เสนอร่างกายของพวกเธอต่อเหล่านักรบญิฮัดที่พยายามสร้างสาธารณรัฐอิสลามใหม่ภายใต้การปกครองของคอลิฟะห์ในตะวันออกกลาง และถึงแม้“ญิฮัดสวาท” จะมีหลักการดูล่อแหลม แต่ทว่าเริ่มเป็นกระแสนิยมเพราะบรรดาผู้หญิงมุสลิมในมาเลเซียต่างล้วนเห็นใจ IS ทั้งนั้น” แหล่งข่าวกรองมาเลย์ เผยกับมาเลเซียนอินไซด์ และเสริมต่อว่า จากข้อมูลข่าวกรองที่ทางมาเลย์รับมาจากอังกฤษและออสเตรเลีย พบว่า พลเมืองสตรีจากอังกฤษและออสเตรเลียล้วนเดินทางไปอิรักเพื่อทำหน้าที่บำเรอสุขให้กับนักรบญิฮัด IS ทั้งสิ้น
มีพลเมืองอังกฤษอย่างน้อย 600 คน รวมถึงผูหญิงชาวอังกฤษอีกจำนวนเล็กน้อยอยู่ที่เขตอิทธิพล IS ในอิรัก และซีเรีย “ตัวเลขนี้รวมถึงหญิงมุสลิมอังกฤษที่ไม่ได้ทำหน้าที่ในการรบในแนวหน้า แต่ทำหน้าที่บำเรอสุขในแนวหลัง และข่าวกรองออสเตรเลียเปิดเผยว่า มีชาวมุสลิมออสเตรเลียจำนวนมากกว่า 100 คนต่อสู้ร่วมกับ IS ในซีเรีย” แหล่งข่าวกรองมาเลย์ให้สัมภาษณ์ตบท้าย