อะไรอยู่ในมะพร้าว ๑๑ ก.พ.๖๐

เรื่องสัพเพเหระ

บันทึกของคนเดินเท้า

อะไรอยู่ในมะพร้าว

“เทพารักษ์”

        ถ้าจะมีการทายเล่น ๆ ว่า อะไรเอ่ยอยู่ในลูกมะพร้าว  ท่านผู้อ่านก็คงจะตอบได้อย่างง่ายดายว่า น้ำมะพร้าว หรือเนื้อมะพร้าว หรือจาวมะพร้าว เป็นแน่  แต่คำตอบนั้นใช่ว่าจะถูกต้องอย่างไม่ สามารถจะเถียงได้เพียงชุดเดียว  เพราะอาจจะยังมีสิ่งอื่นที่อยู่ในลูกมะพร้าวอีกก็ได้  จะเล่าตัวอย่างให้อ่าน จากคดีโบราณนี้ก็ได้

        เมื่อห้าสิบเจ็ดปีมาแล้ว ที่ศาลอาญา กรุงเทพมหานครสมัยที่ยังเป็นจังหวัดพระนคร  ได้รับคำฟ้องจากอัยการว่า  นางแก้ว (นามสมมุติ) เป็นชาวจังหวัดลำปาง ได้ถูกตำรวจจับที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม เวลากลางคืน ด้วยข้อหาว่า มีฝิ่นสุก ๒๐๐๐ กรัม ราคา ๘๐๐๐ บาท และฝิ่นดิบ ๙๖๑๐ กรัม ราคา ๓๘๔๐๐ บาท รวมฝิ่นหนัก ๑๑๖๑๐ กรัม ราคา ๔๖๔๐๐ บาท ซึ่งมิใช่ฝิ่นของรัฐบาลไว้ในครอบครอง  เหตุเกิดที่ถนนรองเมือง จังหวัดพระนคร  อัยการได้ฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาขอให้ลงโทษ

        จำเลยได้ให้การต่อศาลว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับจำเลย ขณะที่หาบมะพร้าวสิบสองผลลงจากสถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งมะพร้าวทั้งหมดมิใช่ของจำเลย แต่เป็นของชายคนหนึ่งได้จ้างด้วยเงินร้อยบาท ให้หาบขึ้นรถไฟที่สถานีบ้านปิน จะให้ไปลงที่สถานีเด่นไชย  แต่ เมื่อรถไฟได้แล่นผ่านสถานีต่าง ๆ  จำเลยก็ได้ถามชายผู้จ้างนั้นมาตลอดทางว่าจะลงที่ใด  ชายผู้นั้นก็ว่ายังไม่ถึง  จนกระทั่งมาถึงปลายทางที่สถานีหัวลำโพง  จึงได้หาบมะพร้าวข้างละหกผล  ลงจากรถไฟก็ถูกตำรวจจับไปสอบสวน และตั้งข้อหาดังกล่าว

        มะพร้าวทั้งสิบสองผลนั้นไม่มีรอยผ่า แต่เขย่าดูก็รู้สึกว่าไม่มีน้ำ เจ้าหน้าที่จึงผ่าออกแล้วพบว่ามีฝิ่นบรรจุอยู่ในกระป๋องเล็ก ๆ ทุกลูก เป็นน้ำหนักดังที่ได้แจ้งในคำฟ้องนั้น  แต่จำเลยได้ปฏิเสธว่าไม่ทราบเลยว่ามีฝิ่นบรรจุอยู่ในลูกมะพร้าว  จำเลยได้รับเงินค่าจ้างร้อยบาท และได้ใช้ไปหมดแล้ว  ส่วนชายผู้จ้างก็ไม่ได้พบกันอีกเลย  จำเลยไม่มีพยานมีแต่ตัวคนเดียว  ฝ่ายโจทก์นำพยานเข้าสืบสี่ปากรวมทั้งตำรวจซึ่งเป็นผู้จับกุมด้วย

        ศาลอาญาออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีนี้ ในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ได้พร้อมกันพิพากษามีความว่า

            ทางพิจารณาได้ความว่า เนื่องจากสายลับแจ้งต่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีการนำฝิ่นใส่มะพร้าวเดินทางเข้ากรุงเทพ และคนนำมามักจะเปลี่ยนหน้ากันบ่อย ๆ  และเป็นคนพื้นบ้านด้วย เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ศกนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบจึงไปคอยดักรอผู้โดยสารที่ลงจากรถไฟที่สถานีหัวลำโพง เมื่อรถไฟสายพิษณุโลกมาถึงราวสามทุ่ม จำเลยก็หาบมะพร้าวเปลือกแข็งร้อยเป็นพวงข้างละหกผล เดินออกมาจึงเข้าตรวจค้น  แต่ผลมะพร้าวก็ปรากฏว่าไม่มีร่องรอยอะไรเลย  แต่เจ้าหน้าที่ไม่หายสงสัย เนื่องจากจำเลยเป็นคนพื้นเมืองตรงกับที่สายลับบอกไว้  และการขนมะพร้าวจากเหนือลงใต้ไม่ค่อยมี จึงจับกุมตัวไว้พร้อมด้วยมะพร้าวทั้งสิบสองผลนั้น  เมื่อสอบถามจำเลย ก็ว่าเป็นของผู้อื่นฝากมา จึงให้จำเลยชี้ตัวผู้ฝาก จำเลยมองหาอยู่นานก็ไม่พบ  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาจำเลยและของกลางไปถึงสถานีกองปราบ แล้วผ่าลูกมะพร้าวดู จึงพบฝิ่นรายนี้

        จำเลยคงมีตัวจำเลยนำสืบประกอบคำให้การดังกล่าวแล้ว  ข้อเท็จจริงได้ความดังนี้

        ศาลเห็นว่าไม่มีทางลงโทษจำเลยได้ เพราะแม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุม ซึ่งเป็นพยานโจทก์เองยังเกือบไม่เชื่อว่ามีฝิ่นอยู่ภายในลูกมะพร้าวนั้นได้  โดยภายนอกไม่มีอะไรที่จะทำให้สงสัยได้เลย  เมื่อศาลตรวจดูก็รู้สึกว่าทำได้แนบเนียนเหลือเกิน  คือแกะเปลือกออกโดยไม่มีรอย แล้วถึงกับทำกระป๋องแบนโค้งบรรจุน้ำมะพร้าว บัดกรีสนิทติดกับกะลามะพร้าวมาทุกผล

        ฉะนั้นการที่จำเลยซึ่งเป็นหญิงพื้นบ้านเมืองลำปาง โง่เง่าและไม่รู้หนังสือ ยอมรับจ้างแบกมาก็โดยหวังค่าจ้างเท่านั้น  อีกทั้งเมื่อผ่านประตูสถานีรถไฟออกมา อาการกิริยาก็เป็นปกติไม่มีพุธแต่ประการใด  ดังนี้จึงน่าเชื่อว่า จำเลยไม่ทราบว่าจะมีฝิ่นในผลมะพร้าวนั้น

        ข้อแก้ตัวของจำเลยฟังขึ้น  จึงพร้อมกันพิพากษา ยกฟ้องโจทก์เสีย ปล่อยจำเลยพ้นข้อหาไป แต่ของกลางเป็นของผิดกฎหมายให้ริบเสีย

        เรื่องก็จบลงด้วยโล่งอกของจำเลยไปด้วยดี  แต่ยังสงสัยอยู่ว่าเมื่อจำเลยอยู่กรุงเทพหลายวัน และใช้เงินค่าจ้างหมดไปแล้ว  จำเลยจะหาเงินที่ไหนเป็นค่ารถไฟกลับไปลำปางได้ เพราะข่าวไม่ได้บอกไว้

        ส่วนวิธีการที่จะเอากระป๋องฝิ่นบรรจุเข้าไปในลูกมะพร้าวเปลือกแข็ง โดยไม่ให้มีร่องรอยนั้น  จะได้ทำหรือฝึกสอนกันต่อมาอีกเท่าไรก็ไม่ทราบได้  เพราะการค้าขายฝิ่นได้เลิกรากันไปเป็นเวลานับสิบ ๆ ปีแล้ว  มีแต่ยาเสพติดชนิดใหม่ ๆ ที่มีวิธีการพกพาได้หลายวิธี แต่ละวิธีก็ปฏิบัติได้ง่ายกว่ารายนี้มากนัก

        เพราะคดีนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๓ โน่น.

###########
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่