สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 56
พิมพ์ไปก็เพราะปกป้องน้องสาวตัวเอง...ก็เลยไปลงกับสมาชิกใหม่ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย? ตลกมากๆ
ตอนเกิดเรื่องใหม่ๆ ก็แอบผิดหวังกับทีอาร่ามากๆ รวมถึงแอบสงสารฮวายอง
แต่พอเวลาผ่านไปไม่นาน ความจริงเริ่มปรากฎ ก็ลบอคติในใจออกจากทีอาร่าไป แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรฮวายอง เมื่อเธอเปลี่ยนเส้นทางแล้วก็อยากให้เธอประสบความสำเร็จในสิ่งที่เธอทำ ตอนเธอเริ่มได้รับคำชื่นชมในเรื่องการแสดงเนี่ย ผมเองก็ดีใจด้วย
พอมาเจอแบบนี้ มันทำให้เราน้ำตาไหลไม่รู้ตัว
ทำไมสิ่งนี้ต้องเกิดขึ้นกับวงที่ได้ชื่อว่าเป็น เกิร์ลกรุ๊ป อันดับ 2 ของประเทศ ในขณะนั้น วงที่ได้ชื่อว่า จะก้าวขึ้นมาล้ม เกิร์ลเจน?
ทำไมสมาชิกทุกคนต้องมาแบกรับในสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของคนๆเดียว?
ทำไมชื่อเสียงที่สะสมมาต้องมาพังทลายราบเป็นหน้ากลองจนตอนนี้ไม่ได้เหลือศูนย์แต่เป็นติดลบ คนเกลียดทั้งประเทศ ถูกไล่ให้ไปตาย เพียงเพราะเรื่องที่บิดเบือน?
ตอนนี้ ผมขอยืนยันเลยว่าผมจะยืนเคียงข้างทีอาร่าแน่นอน
ตอนเกิดเรื่องใหม่ๆ ก็แอบผิดหวังกับทีอาร่ามากๆ รวมถึงแอบสงสารฮวายอง
แต่พอเวลาผ่านไปไม่นาน ความจริงเริ่มปรากฎ ก็ลบอคติในใจออกจากทีอาร่าไป แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรฮวายอง เมื่อเธอเปลี่ยนเส้นทางแล้วก็อยากให้เธอประสบความสำเร็จในสิ่งที่เธอทำ ตอนเธอเริ่มได้รับคำชื่นชมในเรื่องการแสดงเนี่ย ผมเองก็ดีใจด้วย
พอมาเจอแบบนี้ มันทำให้เราน้ำตาไหลไม่รู้ตัว
ทำไมสิ่งนี้ต้องเกิดขึ้นกับวงที่ได้ชื่อว่าเป็น เกิร์ลกรุ๊ป อันดับ 2 ของประเทศ ในขณะนั้น วงที่ได้ชื่อว่า จะก้าวขึ้นมาล้ม เกิร์ลเจน?
ทำไมสมาชิกทุกคนต้องมาแบกรับในสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของคนๆเดียว?
ทำไมชื่อเสียงที่สะสมมาต้องมาพังทลายราบเป็นหน้ากลองจนตอนนี้ไม่ได้เหลือศูนย์แต่เป็นติดลบ คนเกลียดทั้งประเทศ ถูกไล่ให้ไปตาย เพียงเพราะเรื่องที่บิดเบือน?
ตอนนี้ ผมขอยืนยันเลยว่าผมจะยืนเคียงข้างทีอาร่าแน่นอน
ความคิดเห็นที่ 53
ส่วนตัวไม่ได้อยู่ฝ่ายไหนนะคะ ในมุมมองเรา ถ้าดูจากสังคมคนเกาหลีที่คลุกคลีมาหลังจากแต่งงาน เราว่าก็มีส่วนไม่ดีทั้งสองฝ่าย อาจจะเริ่มจากฮวายองทำตัวไม่ดี ทำตัวแปลกแยก ไม่ถูกใจคนในวง ก็เลยโดนคนในวงกลั่นแกล้งและเมิน ซึ่งปกติสังคมเกาหลี คนที่ทำตัวแปลกแยกกับคนอื่น ก็มักจะโดนคนอื่นเมิน และทิ้งเป็นหมาหัวเน่าอยู่แล้ว ยิ่งเป็นเด็กใหม่ที่เข้ามาทีหลังด้วย ยิ่งต้องเจอรับน้องหนักหน่วงพอสมควรค่ะ กลุ่มผู้หญิงด้วยกันก็เป็นแบบนี้แหละ เราคิดว่าก็ไม่ได้ใสซื่อมือสะอาดกันทั้งสองฝ่ายแหละค่ะ เพียงแต่ตอนที่ฮวายองออกจากวงแรกๆดันทำเหมือนตัวเองเป็นเหยื่อฝ่ายเดียว เลยทำให้เนติเซ่นและคนเกาหลีพาลเกลียดทอรไป เอาจริงๆพวกเนติเซ่นบางคนชีวิตจริงนี่เชื่อว่ายังเป็น1ในกลุ่มคนที่กลั่นแกล้งคนในโรงเรียนด้วยซ้ำไปเลยนะคะ ในโรงเรียนเกาหลีมีเรื่องกลั่นแกล้งแบบนี้เยอะมากจนเป็นปกติ จะว่าไปก็ดูเหมือนย้อนแย้ง ชีวิตจริงตัวเองกลั่นแกล้งคนอื่นหนักกว่าอีก และการพ่นความเห็นแย่ๆใส่ทอรหรือฮวายอง ก็ถือเป็น1ในการกลั่นแกล้งที่เราเรียกกันว่า cyber bullying ตัวเองด่าเค้าเรื่องนี้แต่ก็ทำแบบเดียวกันกับที่กำลังด่าอยู่ ตลกดีนะคะคนพวกนี้
ความคิดเห็นที่ 55
อันนี้จาก soompi [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
"สตาฟพูดถึงตอนที่ฮวายองเจ็บขาตอน 21 มิย 2012 #แฝดรยูแม่งูเอ๋ย
ทอร มีงานสเปเชียล มิวคอร์ ที่อุลซาน วันนั้น หลังจากแสดงจบ ฮวายองข้อเท้าพลิกระหว่างกลับไปห้องแต่งตัว ตอนที่พวกเราไปถึงโซลแล้ว ฮวายองก็ไป รพ ไป xray กับ มนจ หมอบอกว่า ไม่มีอะไรผิดปกติ
วันต่อมา ทอร มีตารางงานบูโดกันคอนเสิต ญี่ปุ่น มนจ ไปรับฮวายอง แต่ฮวายองออกมาจากบ้านพร้อมกับเฝือกที่ขา ทั้งที่หมอบอกว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร แต่เธอก็ยังใส่เฝือกที่ขาอยู่ดี มนจ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ฮวายองบอกว่าไป รพ อื่นมากับพ่อ หมอที่นั่นให้ใส่เฝือกไว้ แล้วก็ขึ้นรถ บนรถ ฮวาบอกว่าเธอเดินได้ แล้วเอาเฝือกออก(คนเล่าบอกว่าได้ยิน มนจ บอกว่างี้ในตอนนั้น)
พอถึงสนามบิน ฮวายองรู้ว่าจะมีนักข่าว ก็เลยขอให้เอารถเข็นออกมาให้ใช้ แต่พวกเราจะไปหารถเข็นมาให้ทันทีได้ยังไง ? สุดท้าย มนจ ก็ต้องเป็นคนที่พาฮวายองเดินในสนามบิน ฮวายองกลายเป็นคำที่ถูกค้นหามากที่สุดในวันนั้น นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ
วันต่อมา ฮโยมินโพสว่า ความตั้งใจที่แตกต่างกัน บนทวิตเตอร์ คนอื่นๆ ตอบ รีทวิต เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว สมาชิกในวงคนอื่นๆ ก็โจมตีฮวายองด้วยเหมือนกัน ไม่มีข้อแก้ตัวสำหรับเรื่องนี้ มันเป็นการตำหนิให้สาธารณชนรับรู้เกี่ยวกับสมาชิกในวง แต่ฉันเป็นบุคคลที่สาม เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น ฉันจึงเข้าใจว่าทำไมพวกสมาชิกคนอื่นถึงพูดแบบนั้น
ทุกคนที่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนซ้อมสำหรับคอนที่ญี่ปุ่นในวันที่ 24 จะเข้าใจ ฮวายองจะเอารถเข็นทั้งๆ ที่เธอมาถึงญี่ปุ่นแล้ว และยังคงบอกว่าข้อเท้าของเธอเจ็บ ดังนั้นเราจึงไปโรงพยาบาลกัน และแน่นอน หมอบอกว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เธอไม่ต้องใช้เฝือกหรอก
ถึงจะอย่างนั้น ฮวายองยังยืนยันจะเอารถเข็นให้ได้ เพราะบอกว่าเดินไม่ได้ (อย่าลืมว่าบนรถตู้นางบอก มนจ ว่าเดินได้) สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นทุเรศยิ่งกว่าอีก พวกสตาฟญี่ปุ่นที่ไป รพ ด้วย บอกว่า ฮวายองบอกว่า
“ฉันอยากไปทำเล็บ แทนที่จะไปห่วงเรื่องคอนเสิร์ต กลับโรงแรมกันเถอะ”
ฉันจำได้ว่าสตาฟของเอเจนซี่ญี่ปุ่นหัวร้อนมาก ทั้งที่ฮวายองรู้ว่าสมาชิกคนอื่นกำลังซ้อม แต่ยังจะอยากกลับโรงแรมและทำเล็บ ทุเรศขนาดไหนล่ะนั่น
ในฐานะที่เป็นสตาฟ ฉันรู้ว่าถ้าต้องเปลี่ยนท่าเต้นที่ใช้ 8 คนให้เหลือ 7 คน มันต้องเปลี่ยนทุกอย่างเลย เพราะว่าส่วนที่หายไปจะต้องมีคนมาแทนที่ เพราะว่าฮวายอง ทุกคน ทีมเต้น ผู้กำกับ ผู้กำกับแสง ทีมการแสดง ทุกคนต้องเปลี่ยนทุกอย่างเลย เพราะคนเดียวที่หายไป สตาฟทั้ง 80 ต้องอยู่ต่ออีก 8 ชั่วโมงทั้งๆ ที่ควรจะจบตั้งแต่ 2 ชั่วโมงแล้ว
สุดท้าย ฮวายองร้องแค่เพลงเดียวในบูโดกันคอนเสิร์ต นั่นคือ Day By Day เพลงที่โปรโมทในตอนนั้น เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกสมาชิกถึงพูดเรื่อง ‘ความตั้งใจ’ ถ้าฮวายองได้เข้าไปขอโทษ ทอร และสตาฟ มันคงไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่แบบนี้ละมั้ง ?
สมาชิกสตาฟคนอื่นๆ ยังบอกว่า หลังคอนเสิร์ต ตอนที่ทุกคนกลับเกาหลีไปงานมิวแบงค์นั้น สมาชิก ทอร คนอื่นรู้สึกเสียใจมากและอยากจะขอโทษเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น(ทวิต) ฮโยมินเป็นคนแรก ที่เข้าไปคุยกับฮวายอง แต่ฮวายองบอกว่า
“ฉันไม่ได้ทำผิดอะไร ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องขอโทษ”
ซึ่งทำให้บทสนทนาจบแค่นั้น และตอนนั้นคือตอนที่ฮโยยองส่งข้อความไปขู่อารึม...
อารึมเอาข้อความที่ได้รับให้สมาชิก ทอร ดู แล้วขอความช่วยเหลือและนั่นคือตอนที่ฉันเห็นพวกเธอ
นี่คือเรื่องที่อยู่เบื้องหลังและไม่มีใครรู้
ใช่ มันเป็นความจริง ทุกคนยังเด็กมากและไร้ประสบการณ์ในตอนนั้น แต่ด้วยความสัตย์จริง ฉันไม่สามารถที่จะมองแฝดเล่นบทเหยื่อต่อไปได้อีกแล้ว ตอนนี้ ห้าปีผ่านมาแล้ว ยังคงเห็นสองคนนั้นถูกมองว่าเป็นฝ่ายที่ถูกอยู่ ฉันทนมองเฉยๆไม่ได้จริงๆ
แล้วฮวายองพูดอะไรในปี 2012 “แฟนคลับเท่านั้นที่จะเข้าใจ” ฉันไม่รู้เลยว่านั่นเป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้าของเธอแล้ว แต่ทุกคน รวมทั้งแฟนคลับ รู้ความจริงเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ตอนที่ ฮวายองออกมาจากห้องแต่งตัว สตาฟจำได้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น การกระทำที่เห็นแก่ตัวของฮวายอง เล่นบทเหยื่อ แล้วยังไม่พอ ยังทำตัวเป็นฝ่ายที่ถูก ฉันรู้สึกแย่มาก และฉันพูดมามากพอแล้ว
ขอบคุณที่อ่านข้อความของฉัน"
"สตาฟพูดถึงตอนที่ฮวายองเจ็บขาตอน 21 มิย 2012 #แฝดรยูแม่งูเอ๋ย
ทอร มีงานสเปเชียล มิวคอร์ ที่อุลซาน วันนั้น หลังจากแสดงจบ ฮวายองข้อเท้าพลิกระหว่างกลับไปห้องแต่งตัว ตอนที่พวกเราไปถึงโซลแล้ว ฮวายองก็ไป รพ ไป xray กับ มนจ หมอบอกว่า ไม่มีอะไรผิดปกติ
วันต่อมา ทอร มีตารางงานบูโดกันคอนเสิต ญี่ปุ่น มนจ ไปรับฮวายอง แต่ฮวายองออกมาจากบ้านพร้อมกับเฝือกที่ขา ทั้งที่หมอบอกว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร แต่เธอก็ยังใส่เฝือกที่ขาอยู่ดี มนจ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ฮวายองบอกว่าไป รพ อื่นมากับพ่อ หมอที่นั่นให้ใส่เฝือกไว้ แล้วก็ขึ้นรถ บนรถ ฮวาบอกว่าเธอเดินได้ แล้วเอาเฝือกออก(คนเล่าบอกว่าได้ยิน มนจ บอกว่างี้ในตอนนั้น)
พอถึงสนามบิน ฮวายองรู้ว่าจะมีนักข่าว ก็เลยขอให้เอารถเข็นออกมาให้ใช้ แต่พวกเราจะไปหารถเข็นมาให้ทันทีได้ยังไง ? สุดท้าย มนจ ก็ต้องเป็นคนที่พาฮวายองเดินในสนามบิน ฮวายองกลายเป็นคำที่ถูกค้นหามากที่สุดในวันนั้น นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ
วันต่อมา ฮโยมินโพสว่า ความตั้งใจที่แตกต่างกัน บนทวิตเตอร์ คนอื่นๆ ตอบ รีทวิต เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว สมาชิกในวงคนอื่นๆ ก็โจมตีฮวายองด้วยเหมือนกัน ไม่มีข้อแก้ตัวสำหรับเรื่องนี้ มันเป็นการตำหนิให้สาธารณชนรับรู้เกี่ยวกับสมาชิกในวง แต่ฉันเป็นบุคคลที่สาม เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น ฉันจึงเข้าใจว่าทำไมพวกสมาชิกคนอื่นถึงพูดแบบนั้น
ทุกคนที่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนซ้อมสำหรับคอนที่ญี่ปุ่นในวันที่ 24 จะเข้าใจ ฮวายองจะเอารถเข็นทั้งๆ ที่เธอมาถึงญี่ปุ่นแล้ว และยังคงบอกว่าข้อเท้าของเธอเจ็บ ดังนั้นเราจึงไปโรงพยาบาลกัน และแน่นอน หมอบอกว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เธอไม่ต้องใช้เฝือกหรอก
ถึงจะอย่างนั้น ฮวายองยังยืนยันจะเอารถเข็นให้ได้ เพราะบอกว่าเดินไม่ได้ (อย่าลืมว่าบนรถตู้นางบอก มนจ ว่าเดินได้) สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นทุเรศยิ่งกว่าอีก พวกสตาฟญี่ปุ่นที่ไป รพ ด้วย บอกว่า ฮวายองบอกว่า
“ฉันอยากไปทำเล็บ แทนที่จะไปห่วงเรื่องคอนเสิร์ต กลับโรงแรมกันเถอะ”
ฉันจำได้ว่าสตาฟของเอเจนซี่ญี่ปุ่นหัวร้อนมาก ทั้งที่ฮวายองรู้ว่าสมาชิกคนอื่นกำลังซ้อม แต่ยังจะอยากกลับโรงแรมและทำเล็บ ทุเรศขนาดไหนล่ะนั่น
ในฐานะที่เป็นสตาฟ ฉันรู้ว่าถ้าต้องเปลี่ยนท่าเต้นที่ใช้ 8 คนให้เหลือ 7 คน มันต้องเปลี่ยนทุกอย่างเลย เพราะว่าส่วนที่หายไปจะต้องมีคนมาแทนที่ เพราะว่าฮวายอง ทุกคน ทีมเต้น ผู้กำกับ ผู้กำกับแสง ทีมการแสดง ทุกคนต้องเปลี่ยนทุกอย่างเลย เพราะคนเดียวที่หายไป สตาฟทั้ง 80 ต้องอยู่ต่ออีก 8 ชั่วโมงทั้งๆ ที่ควรจะจบตั้งแต่ 2 ชั่วโมงแล้ว
สุดท้าย ฮวายองร้องแค่เพลงเดียวในบูโดกันคอนเสิร์ต นั่นคือ Day By Day เพลงที่โปรโมทในตอนนั้น เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกสมาชิกถึงพูดเรื่อง ‘ความตั้งใจ’ ถ้าฮวายองได้เข้าไปขอโทษ ทอร และสตาฟ มันคงไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่แบบนี้ละมั้ง ?
สมาชิกสตาฟคนอื่นๆ ยังบอกว่า หลังคอนเสิร์ต ตอนที่ทุกคนกลับเกาหลีไปงานมิวแบงค์นั้น สมาชิก ทอร คนอื่นรู้สึกเสียใจมากและอยากจะขอโทษเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น(ทวิต) ฮโยมินเป็นคนแรก ที่เข้าไปคุยกับฮวายอง แต่ฮวายองบอกว่า
“ฉันไม่ได้ทำผิดอะไร ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องขอโทษ”
ซึ่งทำให้บทสนทนาจบแค่นั้น และตอนนั้นคือตอนที่ฮโยยองส่งข้อความไปขู่อารึม...
อารึมเอาข้อความที่ได้รับให้สมาชิก ทอร ดู แล้วขอความช่วยเหลือและนั่นคือตอนที่ฉันเห็นพวกเธอ
นี่คือเรื่องที่อยู่เบื้องหลังและไม่มีใครรู้
ใช่ มันเป็นความจริง ทุกคนยังเด็กมากและไร้ประสบการณ์ในตอนนั้น แต่ด้วยความสัตย์จริง ฉันไม่สามารถที่จะมองแฝดเล่นบทเหยื่อต่อไปได้อีกแล้ว ตอนนี้ ห้าปีผ่านมาแล้ว ยังคงเห็นสองคนนั้นถูกมองว่าเป็นฝ่ายที่ถูกอยู่ ฉันทนมองเฉยๆไม่ได้จริงๆ
แล้วฮวายองพูดอะไรในปี 2012 “แฟนคลับเท่านั้นที่จะเข้าใจ” ฉันไม่รู้เลยว่านั่นเป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้าของเธอแล้ว แต่ทุกคน รวมทั้งแฟนคลับ รู้ความจริงเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ตอนที่ ฮวายองออกมาจากห้องแต่งตัว สตาฟจำได้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น การกระทำที่เห็นแก่ตัวของฮวายอง เล่นบทเหยื่อ แล้วยังไม่พอ ยังทำตัวเป็นฝ่ายที่ถูก ฉันรู้สึกแย่มาก และฉันพูดมามากพอแล้ว
ขอบคุณที่อ่านข้อความของฉัน"
แสดงความคิดเห็น
[KPOP] อดีต Staff ออกมาแฉ chat ระหว่างฮโยยอง(แฝดฮวายอง T-ara) ขู่กรีดหน้าอารึม(อดีต T-ara)
อัพเดท: ต้นสังกัดฮโยยองออกมาพูดว่า ฮโยยองทำ(ที่แชทขู่กรีดหน้าอารึม)เพื่อปกป้องฮวายองค่ะ
http://www.allkpop.com/article/2017/02/hyoyoungs-label-says-hyoyoung-only-sent-the-messages-to-defend-her-younger-sister
อัพเดท: ฮโยยองยอมรับว่าขู่จะกรีดหน้าอารึม
[★BREAKING] Hyoyoung admits she threatened to “cut up Areum’s face”
http://www.koreaboo.com/news/hyoyoung-admits-threatened-cut-areums-face-leaks-true/
http://www.allkpop.com/article/2017/02/hyoyoungs-label-says-hyoyoung-only-sent-the-messages-to-defend-her-younger-sister
Hyoyoung's label has basically admitted that the messages were not fabricated.
Her label B.A.M Company said, "Hyoyoung was very young back then, and her younger twin sister Hwayoung was having an incredibly difficult time because of the bullying situation. She only spoke up as family."
แปล: ตอนนั้นฮโยยองยังเด็กมาก และน้องสาวของเธอ(ฮวายอง) ก็ต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากเพราะการกลั่นแกล้ง ชีจึงออกมาพูดในฐานะครอบครัว
They added, "Hyoyoung did not know all the details to what was happening inside T-ara. She only sent the messages as an older sister because she was watching her younger sister suffer so much, and there was no other reason."
แปล: ฮโยยองไม่รู้ว่ารายละเอียดเป็นยังไงใน ทอร นางแค่ส่งข้อความในฐานะพี่สาวเพราะว่าเห็นฮวายองเจ็บปวดมาก ไม่มีเหตุผลอื่น
ฮโยยอง หงายการ์ด ยังรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จ้าาาา
ไม่เกี่ยวแต่อยากแถม ซองจงเพื่อนสนิทฮวาอันฟอลใน IG [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันนี้จาก soompi [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
"สตาฟพูดถึงตอนที่ฮวายองเจ็บขาตอน 21 มิย 2012 #แฝดรยูแม่งูเอ๋ย
ทอร มีงานสเปเชียล มิวคอร์ ที่อุลซาน วันนั้น หลังจากแสดงจบ ฮวายองข้อเท้าพลิกระหว่างกลับไปห้องแต่งตัว ตอนที่พวกเราไปถึงโซลแล้ว ฮวายองก็ไป รพ ไป xray กับ มนจ หมอบอกว่า ไม่มีอะไรผิดปกติ
วันต่อมา ทอร มีตารางงานบูโดกันคอนเสิต ญี่ปุ่น มนจ ไปรับฮวายอง แต่ฮวายองออกมาจากบ้านพร้อมกับเฝือกที่ขา ทั้งที่หมอบอกว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร แต่เธอก็ยังใส่เฝือกที่ขาอยู่ดี มนจ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ฮวายองบอกว่าไป รพ อื่นมากับพ่อ หมอที่นั่นให้ใส่เฝือกไว้ แล้วก็ขึ้นรถ บนรถ ฮวาบอกว่าเธอเดินได้ แล้วเอาเฝือกออก(คนเล่าบอกว่าได้ยิน มนจ บอกว่างี้ในตอนนั้น)
พอถึงสนามบิน ฮวายองรู้ว่าจะมีนักข่าว ก็เลยขอให้เอารถเข็นออกมาให้ใช้ แต่พวกเราจะไปหารถเข็นมาให้ทันทีได้ยังไง ? สุดท้าย มนจ ก็ต้องเป็นคนที่พาฮวายองเดินในสนามบิน ฮวายองกลายเป็นคำที่ถูกค้นหามากที่สุดในวันนั้น นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ
วันต่อมา ฮโยมินโพสว่า ความตั้งใจที่แตกต่างกัน บนทวิตเตอร์ คนอื่นๆ ตอบ รีทวิต เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว สมาชิกในวงคนอื่นๆ ก็โจมตีฮวายองด้วยเหมือนกัน ไม่มีข้อแก้ตัวสำหรับเรื่องนี้ มันเป็นการตำหนิให้สาธารณชนรับรู้เกี่ยวกับสมาชิกในวง แต่ฉันเป็นบุคคลที่สาม เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น ฉันจึงเข้าใจว่าทำไมพวกสมาชิกคนอื่นถึงพูดแบบนั้น
ทุกคนที่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนซ้อมสำหรับคอนที่ญี่ปุ่นในวันที่ 24 จะเข้าใจ ฮวายองจะเอารถเข็นทั้งๆ ที่เธอมาถึงญี่ปุ่นแล้ว และยังคงบอกว่าข้อเท้าของเธอเจ็บ ดังนั้นเราจึงไปโรงพยาบาลกัน และแน่นอน หมอบอกว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เธอไม่ต้องใช้เฝือกหรอก
ถึงจะอย่างนั้น ฮวายองยังยืนยันจะเอารถเข็นให้ได้ เพราะบอกว่าเดินไม่ได้ (อย่าลืมว่าบนรถตู้นางบอก มนจ ว่าเดินได้) สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นทุเรศยิ่งกว่าอีก พวกสตาฟญี่ปุ่นที่ไป รพ ด้วย บอกว่า ฮวายองบอกว่า
“ฉันอยากไปทำเล็บ แทนที่จะไปห่วงเรื่องคอนเสิร์ต กลับโรงแรมกันเถอะ”
ฉันจำได้ว่าสตาฟของเอเจนซี่ญี่ปุ่นหัวร้อนมาก ทั้งที่ฮวายองรู้ว่าสมาชิกคนอื่นกำลังซ้อม แต่ยังจะอยากกลับโรงแรมและทำเล็บ ทุเรศขนาดไหนล่ะนั่น
ในฐานะที่เป็นสตาฟ ฉันรู้ว่าถ้าต้องเปลี่ยนท่าเต้นที่ใช้ 8 คนให้เหลือ 7 คน มันต้องเปลี่ยนทุกอย่างเลย เพราะว่าส่วนที่หายไปจะต้องมีคนมาแทนที่ เพราะว่าฮวายอง ทุกคน ทีมเต้น ผู้กำกับ ผู้กำกับแสง ทีมการแสดง ทุกคนต้องเปลี่ยนทุกอย่างเลย เพราะคนเดียวที่หายไป สตาฟทั้ง 80 ต้องอยู่ต่ออีก 8 ชั่วโมงทั้งๆ ที่ควรจะจบตั้งแต่ 2 ชั่วโมงแล้ว
สุดท้าย ฮวายองร้องแค่เพลงเดียวในบูโดกันคอนเสิร์ต นั่นคือ Day By Day เพลงที่โปรโมทในตอนนั้น เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกสมาชิกถึงพูดเรื่อง ‘ความตั้งใจ’ ถ้าฮวายองได้เข้าไปขอโทษ ทอร และสตาฟ มันคงไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่แบบนี้ละมั้ง ?
สมาชิกสตาฟคนอื่นๆ ยังบอกว่า หลังคอนเสิร์ต ตอนที่ทุกคนกลับเกาหลีไปงานมิวแบงค์นั้น สมาชิก ทอร คนอื่นรู้สึกเสียใจมากและอยากจะขอโทษเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น(ทวิต) ฮโยมินเป็นคนแรก ที่เข้าไปคุยกับฮวายอง แต่ฮวายองบอกว่า
“ฉันไม่ได้ทำผิดอะไร ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องขอโทษ”
ซึ่งทำให้บทสนทนาจบแค่นั้น และตอนนั้นคือตอนที่ฮโยยองส่งข้อความไปขู่อารึม...
อารึมเอาข้อความที่ได้รับให้สมาชิก ทอร ดู แล้วขอความช่วยเหลือและนั่นคือตอนที่ฉันเห็นพวกเธอ
นี่คือเรื่องที่อยู่เบื้องหลังและไม่มีใครรู้
ใช่ มันเป็นความจริง ทุกคนยังเด็กมากและไร้ประสบการณ์ในตอนนั้น แต่ด้วยความสัตย์จริง ฉันไม่สามารถที่จะมองแฝดเล่นบทเหยื่อต่อไปได้อีกแล้ว ตอนนี้ ห้าปีผ่านมาแล้ว ยังคงเห็นสองคนนั้นถูกมองว่าเป็นฝ่ายที่ถูกอยู่ ฉันทนมองเฉยๆไม่ได้จริงๆ
แล้วฮวายองพูดอะไรในปี 2012 “แฟนคลับเท่านั้นที่จะเข้าใจ” ฉันไม่รู้เลยว่านั่นเป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้าของเธอแล้ว แต่ทุกคน รวมทั้งแฟนคลับ รู้ความจริงเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ตอนที่ ฮวายองออกมาจากห้องแต่งตัว สตาฟจำได้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น การกระทำที่เห็นแก่ตัวของฮวายอง เล่นบทเหยื่อ แล้วยังไม่พอ ยังทำตัวเป็นฝ่ายที่ถูก ฉันรู้สึกแย่มาก และฉันพูดมามากพอแล้ว
ขอบคุณที่อ่านข้อความของฉัน"