สิ้นสุดทริปฤดูหนาวนี้ บนดอยม่อนจอง
กับภารกิจตามหาหญ้าทอง ที่รอคอยมานานตั้งแต่ปีที่แล้ว
ทริปนี้ใช้เวลา 2 วัน 1 คืน ช่วงวันที่ 4-5 ก.พ. อาจจะเป็นทริปสั้น ๆ แต่บรรยากาศจัดเต็ม



ดอยม่อนจอง ตั้งอยู่บนทิวเขาถนนธงชัยตอนกลาง ครอบคลุมพื้นที่อำเภออมก๋อยจังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอสามเงา จังหวัดตาก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,929 เมตรจากระดับน้ำทะเล

ดอยม่อนจองเปิดให้ท่องเที่ยวในช่วงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึง 15 กุมภาพันธ์ของทุกปี หลังจากนั้นจะปิดฤดูท่องเที่ยว และไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้น เพราะต้องระวังภัยเรื่องช้างป่าที่ออกมาหากิน รวมถึงสภาพอากาศที่ค่อนข้างแห้งจัดซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า

ทริปนี้เราเดินทางด้วยรถตู้ โดยใช้เส้นทาง กทม - เถิน - ลี้ - ฮอด เริ่มออกเดินทางตั้งแต่คืนวันศุกร์ เวลาประมาณ 3 ทุ่ม ถึงอำเภออมก๋อย ประมาณ 8 โมงเช้า

จากนั้นแวะกินข้าวเช้าในตัวอำเภอ ก่อนจะเดินทางต่อไปยังศูนย์บริการการท่องเที่ยวดอยม่อนจอง หน่วยมูเซอ


ถึงแล้วหน่วยมูเซอร์ เตรียมตัวจัดแจงเก็บสัมภาระขึ้นรถ 4WD เพื่อเดินทางไปยังจุดเดินเท้าขึ้นดอยม่อนจอง ระยะทาง 16 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 - 1.30 ชม.


กว่าจะมาถึงจุดเดินเท้า มึนกันเลยทีเดียว โยกซ้ายโยกขวา แถมถนนที่รถวิ่งสามารถวิ่งได้คันเดียว พอมีรถสวนที หัวใจแทบวาย

ถึงแล้วจุดเดินเท้า ทริปนี้เราเจอนักท่องเที่ยวที่มาวันเดียวกับเราประมาณ 50 - 60 คน ถือว่าเยอะมาก เพราะใกล้จะถึงช่วงปิดฤดูการท่องเที่ยวของปีนี้แล้ว

จากจุดเดินเท้าขึ้นไปยังดอยม่อนจอง (แคมป์ อยู่ในหุบเขา) ระยะทางประมาณ 4.5 กิโลเมตร และจากแคมป์ไปยังผาหัวสิงห์ (จุดสูงสุดดอยม่อนจอง) อีก ประมาณ 1 กิโลเมตร

เราเริ่มเดินตอนประมาณ 11 โมง ใช้เวลา 2 ชม. กว่า ๆ ก็แคมป์ถึงแล้ว เส้นทางไม่ยาก แต่เจอเนินระดับความชัน 60 องศา น้ำตาจะไหล

ลุยกันเลย ฮึบ ฮึบ

เดินตามเป็ปซี่ที่อยู่ข้างหน้า อิอิ


เดินมาประมาณ 45 นาที ก็ถึงจุดพักจุดแรก ลานหินช่อ ใครหิวก็พักกินข้าวเที่ยงกันที่นี่


ผาหินช่อ สามารถขึ้นไปถ่ายรูปได้


ข้าวผัดกะเพราหมูสับไข่ดาว ที่อร่อยที่สุด ณ เวลานี้


อิ่มแล้วก็ลุยกันต่อเลย..

ดอยหมาหอบ ดอยวัดใจ หรือเรียกว่า เนิน 60 เพราะมีระดับความชัน 60 องศา ถามว่าเหนื่อยไหม ขนาดหมายังหอบ คนไม่ต้องพูดถึง

ป้าลูกหาบแข็งแรงมาก

ขึ้นมาครึ่งทางแล้ว มองลงไปในใจก็คิดว่า แล้วพรุ่งนี้ตรูจะลงยังไงเนี่ย

อีกนิดเดียวก็จะพ้นเนินนี้แล้ว ฮึบ ฮึบ


ใกล้ถึงแล้ว เริ่มเห็นผาหัวสิงห์อยู่ไกล ๆ เดินต่อไป

เลี้ยวซ้ายไปแคมป์ เลี้ยวขวาไปผาหัวสิงห์


ถึงแล้ววว จุดพักแรมคืนนี้ หายเหนื่อยทันที

มีน้อง ๆ มาช่วยกางเต๊นท์ให้ด้วย สบายจัง ขอนอนพักเอาแรงสักแป็บ


พอตกเย็น เราก็ออกไปตามหาหญ้าทอง และแล้วก็ได้เจอสมใจ สวยมากมายก่ายกอง ทองอร่ามทั้งภูเขาเลย

ผาหัวสิงห์ จุดสูงสุดของดอยม่อนจอง


หลังจากเก็บภาพเก็บบรรยากาศความสวยงามกันแบบเต็มอิ่มแล้ว ก็เดินกลับที่พัก เพราะใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว บวกหิวมาก อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ เลยไม่ได้นั่งรอพระอาทิตย์ตก


ครัวกลางป่าของทริปนี้

พ่อครัวหัวป่าของทริปนี้ โดยโสโครกโภชนา พาเพลิน อิ่มอร่อยทุกมื้อ

หมูย่างน้ำจิ้มแจ่ว รสเด็ดมาก เราแอบหยิบกินไปหลายชิ้น เพราะทนหิวไม่ไหว แฮ่ ๆ


พ่อครัว แม่ครัว แคมป์ข้าง ๆ ควันโขมงเชียว


ม่อนจองมีห้องน้ำแล้วนะ เป็นแบบชักโครกด้วย แต่ไม่มีใครกล้าเปิดเพราะกลัวเจอเซอร์ไพร์ ขอเข้าป่าแบบธรรมาชาติดีกว่า อิอิ


หลังจากอาหารเสร็จเรียบร้อยเราก็กินแบบไม่ลืมหูลืมตาเลยว่าอร่อยรึป่าว แต่ที่แน่ ๆ คือหิวมาก จนไม่ได้ถ่ายรูปมาฝากเลย แฮ่ ๆ

กินเสร็จ อากาศเริ่มเย็นลง เลยรีบเข้าเต๊นท์ จัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวเข้านอน อุณหภูมิตอนดึก ๆ น่าจะอยู่ประมาณ 10 องศา หนาวจับใจกันเลยทีเเดียว

ตอนแรกเรากะจะออกไปถ่ายดาวซะหน่อย แต่.. นอนดีกว่า อิอิ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

พอถึงตอนเช้า เราก็ตื่นมากินข้าว เก็บข้าวของ เพื่อเดินกลับทางเดิม ตอนขาลงนี่ถึงไวมาก นึกว่ารีบไปตามควายที่ไหน อิอิ เพราะเราจะรีบทำเวลาลงไปอาบน้ำ เพราะวันที่เราไปจำนวนนักท่องเที่ยวเยอะมาก เกรงว่าห้องอาบน้ำจะไม่พอ และต้องรอคิวนาน เลยรีบลงแบบลืมเหนื่อยกันเลยทีเดียว

กลับละนะ ม่อนจอง

ปิดท้ายด้วยรูปนี้ ไว้มีโอกาสจะกลับมาใหม่



ขอบคุณที่ติดตามรับชมกันมาถึงตอนจบนะคะ ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้าค่ะ


ฝากติดตามเพจด้วยนะคะ ^^ https://www.facebook.com/TheJourneyOfLoveTH/

ติดตามการเดินทางต่าง ๆ
- ลุยเดี่ยว เที่ยวไต้หวัน >> http://ppantip.com/topic/35851314
- รักเลย ณ เชียงคาน >> https://ppantip.com/topic/35960939
- ตามรอยพ่อ โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ >> https://ppantip.com/topic/36009673
- ดอยภูแว ดินแดนแห่งสายหมอก >> https://ppantip.com/topic/36008081