สวัสดีอีกครั้งค่า
ได้ฤกษ์งามยามดี กลับมาต่อที่เขียนค้างไว้เกี่ยวกับเรื่องวีซ่า เพราะวีซ่าหลังๆกว่าจะเปลี่ยนได้ใช้เวลานานและยุ่งยากอยู่
ใครอยากติดตามเรื่องราวตอนแรกไปอ่านได้ที่กระทู้นี้เลยนะคะ
https://ppantip.com/topic/36074758
-----------------------------------------------------------------------------------------------
E-7
เข้าเรื่องเลยละกัน หลังจากถือวีซ่าหางานอยู่ไม่นาน เราก็ได้งานค่ะ เนื่องจากตอนนั้นบริษัทนี้กำลังมีโปรเจคกับที่ไทย ก็เลยได้มีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์แล้วก็ผ่านจ้า ตื่นเต้นมาก ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำงานต่างประเทศมาก่อน 555+ เมื่อได้งานแล้วเค้าก็จะให้ขอให้เราเปลี่ยนวีซ่าเป็นวีซ่าทำงาน E-7 จริงๆวีซ่าทำงานมีหลายประเภทนะ เช่น E-2 เป็นวีซ่าสอนภาษา// E-3 เป็นวีซ่าเกี่ยวกับงานค้นคว้า เป็นต้น E-7 นี่คือ Special Occupation ส่วนใหญ่เห็นเพื่อนคนไทยได้วีซ่านี้กันนะคะ แต่ไม่ใช่ทุกบริษัทจะขอวีซ่านี้ให้เราได้ เพราะทางเกาหลีก็จะมีกำหนดเงื่อนไขให้กับทางบริษัทในการรับคนต่างชาติเข้าทำงาน บริษัทนั้นๆเงื่อนไขไม่ผ่านก็รับไม่ได้นะคะ เงื่อนไขก็มีเช่น
- บริษัทนั้นต้องมีจำนวนคนที่ถือวีซ่า E-7 ไม่เกิน 20% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดในบริษัท
- ต้องจ่ายเงินเดือนขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 60% ของค่าเฉลี่ยเงินเดือนพนักงานในบริษัท
ส่วนตัวผู้ทำงานเอง ต้องจบมา หรือมีประสบการณ์ในสายงานที่ตรงกับตำแหน่งที่เค้ารับค่ะ เพราะว่าตอนส่งเอกสารให้กับตม.จะมีเอกสารจากฝั่งบริษัทที่จะต้องกรอกรหัสงานที่จะให้ทำแล้วทำไมถึงจำเป็นต้องจ้างเรา เค้าจะดูประวัติการทำงานเราและประวัติการศึกษา หากรหัสงานที่รับเข้าไปทำไม่เหมาะสมกับประวัติเรา ทางตม.อาจจะปฎิเสธได้
ตอนงานแรกเราไม่รู้ในส่วนของบริษัทเลย เค้าให้เอกสารเรามาปึ๊งนึงแล้วบอกให้ไปยื่นที่ตม.นะ แค่นั้นเลย - -“
แต่จากที่ดูรายละเอียดในเว็บของตม.แล้ว เอกสารเบื้องต้นที่ต้องเตรียมมีดังนี้ค่ะ
ทางส่วนของเรา
1. ใบสมัคร
2. พาสปอร์ต
3. Alien Card
4. รูปถ่าย 2 นิ้ว
5. สัญญาบ้าน/หลักฐานข้อมูลที่พำนักในเกาหลี
6. ใบจบ/ใบเกรด
7. ใบประสบการณ์การทำงาน
ทางฝั่งบริษัท
1. สัญญาจ้างงาน
2. เอกสารการจดทะเบียนบริษัท/รายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับบริษัท
3. เอกสารที่แจกแจงว่าจะจ้างเราทำไม จ้างถึงเมื่อไหร่ เป็นต้น ตัวนี้ทางบริษัทต้องเอาแบบฟอร์มมาจากตม.แล้วกรอก
เบื้องต้นประมาณนี้ ถ้าพร้อมแล้วก็เอาไปยื่นตม.โลด ถ้าผ่านเรียบร้อยเราก็จะได้วีซ่ามาประมาณ 1 ปี (ส่วนใหญ่นะ) เห็นบางคนได้ 6 เดือน บางคนได้ 2 ปีเลย อันนี้แล้วแต่ทางเค้าพิจารณา
เมื่ออยู่ด้วยวีซ่านี้ทำอะไรได้บ้าง
สิทธิ์ในการทำงานในบริษัทที่เราแจ้งไปเท่านั้น ยกเว้นบางสายงานเช่นเชฟ สามารถที่อื่นด้วยได้หรือต้องได้รับการยินยอมจากบริษัทแรกของเรา แต่ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ต้องแจ้งทางตม.ทุกครั้งนะคะ
ถ้าถือวีซ่านี้โดยมากเราจะเป็นพนักงานสัญญาจ้างและจ้างปีต่อปีค่ะ ไม่ใช่พนักงานประจำ และตามกฎหมายของเกาหลีพนักงานสัญญาจ้าง สามารถทำได้ไม่เกิน 2 ปีเว้นแต่มีเหตุผลอันควร หลังจาก 2 ปีแล้วต้องจ้างเป็นพนักงานประจำ ทำส่วนอื่น หรือเราต้องเปลี่ยนบริษัท
หมายเหตุ :
- โดยมากเนื่องจากสัญญาจ้างจะเป็นปีต่อปี วีซ่าก็จะครอบคลุมถึงหลังสัญญาหมดเป็นเวลา 1 เดือน ให้เรามีเวลาหางานใหม่ ทำเรื่องต่างๆ
- หลังจากวีซ่า E-7 เราสามารถเปลี่ยนวีซ่ากลับเป็นวีซ่าหางาน(D-10) ได้ แต่จากที่บอกไปในกระทู้ก่อนหน้าว่า เราสามารถขอวีซ่าหางานได้ 2 ครั้งเท่านั้น ถ้าใครเคยขอไปแล้ว สามารถขอได้อีกครั้ง โดยมีอายุวีซ่า 6 เดือนจ้า
-----------------------------------------------------------------------------------------------
F-2
หลังจากทำงานมาด้วย E-7 รวมๆแล้ว 2 ปีครึ่ง (ทำมา 2 บริษัท) สิ่งที่ได้ค้นพบคือ เครียด ค่ะ 555+ อาจจะเพราะเป็นคนขี้กังวลอยู่แล้ว วีซ่าต่อได้ทีละปี พอใกล้หมดก็แบบกังวลว่าเค้าจะต่อมั้ย ไหนบ้านก็สัญญาเป็นปีต่อปีใกล้หมดพร้อมวีซ่า ถ้าเกิดบริษัทไม่เค้าไม่ต่อแล้วเราบอกต่อสัญญาค่าบ้านไปแล้วล่ะ ยกเลิกโดนค่าปรับอีก หรือถ้าเราหางานใหม่ไม่ทันใน 1 เดือนที่เหลือว่าง หลังจากสัญญาหมดทำไง ทำเรื่องนู่นเรื่องนี่ไม่ทันทำไง ไรงี้ คิดไปล้านแปด คิดเอง ปวดหัวเอง 555+ ก็เลยหาทางออกด้วยการ ลองหาดูว่ามีวีซ่าอะไรอีกบ้างที่เราสามารถอยู่ระยะยาว ทำงานได้ถูกต้อง ก็ไปเจอว่าเราเข้าเงื่อนไขที่สามารถขอวีซ่าผู้อยู่อาศัยได้(F-2) ค่ะ
F-2 คืออะไร
วีซ่าระยะยาวสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนวีซ่าถาวรในอนาคต
ผู้ที่สามารถเปลี่ยนวีซ่านี้ได้มีหลายข้อ ขอยกตัวอย่างแค่ที่คิดว่าคนส่วนใหญ่ที่อยู่นี่น่าจะเข้าข่ายละกันนะคะ
1. ถือวีซ่า E-7 มาเกิน 5 ปี
2. มีอายุ รายได้ การศึกษา และอื่นๆเข้าข่ายตรงกับที่ทางกระทรวงยุติธรรมได้กำหนด
3. ได้มีการลงทุนต่างๆเช่นที่อยู่อาศัย ซึ่งเข้าหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมได้กำหนด
ถึงเราจะถือวีซ่า E-7 มาแต่ว่าเรายังถือไม่ถึง 5 ปี ดังนั้นข้อแรกตกไป - -“ เราเลยมาลงที่ข้อ 2 ค่ะ ซึ่งเมื่อลองอ่านรายละเอียดดู การที่เราจะเข้าข่ายตรงกับเงื่อนไขที่ทางเค้าได้กำหนดได้หรือไม่นั้น เค้าวัดจาก Points-based system
Points-based system คืออะไร
คือระบบสะสมแต้มเพื่อขอวีซ่า (ประหนึ่งสะสมแสตมป์เซเว่น) หลักการก็คือ ทางเค้าจะมีเงื่อนไขพิจารณามาให้เราและแบ่งคะแนนในเงื่อนไขนั้นๆ รวมทั้งหมด 120 คะแนน ถ้าเราได้ 80 คะแนนขึ้นไปก็สามารถเปลี่ยนวีซ่าได้ค่ะ
มาดูกัน ว่าเงื่อนไขเหล่านั้นมีอะไรบ้าง
อย่างแรกเลยคนที่ขอวีซ่านี้ได้มีใครบ้าง หลักๆเลยคือ
1. ผู้ที่กำลังถือวีซ่า D-2 แต่ต้องเป็นผู้ที่จบการศึกษาจากระดับปริญญาโทในประเทศเกาหลีเท่านั้น
2. ผู้ที่กำลังถือวีซ่า D-10 แต่ต้องเป็นผู้ที่จบการศึกษาจากระดับปริญญาโทในประเทศเกาหลีเท่านั้น
3. ผู้ที่กำลังถือวีซ่า E-7
ฟังตรงนี้เหมือนจะง่าย ว่าอ่าว ถือวีซ่า D-2 เรียนปโทอยู่ก็ขอได้นิ ช้าก่อน.. เรามาดูรายละเอียดของแต่ละคะแนนกันดูดีกว่า
อันนี้รายละเอียดเอามาจากตัวเอกสารค่า แต่เอกสารนี้มีการอัพเดทวิธีพิจารณาบ่อยนะ ยังไงลองเช็คในเว็บไซด์ดูก่อนนะคะ
www.hikorea.go.kr
จากตารางด้านบนจะเห็นว่าคือกว่าจะสะสมแต่ละแต้ม มันต้องใช้เวลา จะเอาปีเดียวขอได้เลยนี่มันก็ยากอยู่ เพราะฉะนั้นใครที่อยากเปลี่ยนเป็นวีซ่าแบบนี้ ควรอ่านและเตรียมตัวแต่เนิ่นๆนะคะ ของเรารวมแล้วคะแนนเกินเกณฑ์มานิดเดียว หลังจากได้วีซ่าแล้ว วีซ่าจะมีอายุ 6 ปีน้า
เอกสารที่ต้องใช้
- เอกสารที่ทุกอย่างที่สามารถยืนยันได้ว่าเราผ่านข้อกำหนดนั้นค่ะ เช่นผลสอบภาษา หลักฐานการจบการศึกษา เอกสารรับรองประสบการณ์ทำงาน เป็นต้น
วีซ่านี้ทำอะไรได้บ้าง
- สามารถเลือกทำงานได้กว้างและหลายสาขาขึ้น
- ไม่จำเป็นนำเงินเข้ามาในปริมาณมากเพื่อเริ่มธุรกิจ
- ถ้ามีลูกหรือคู่สมรส บุคคลเหล่านั้นสามารถเปลี่ยนวีซ่าเป็น F-2 ได้ (กรณีคนที่ได้ F-2 คนแรก ได้จากการสะสมแต้ม)
- สามารถเปลี่ยนเป็นวีซ่า F-5 (ผู้อยู่อาศัยถาวร) หลังจากผ่าน 3 ปีไปแล้ว (กรณีนี้สำหรับคนที่ได้วีซ่ามาจากการสะสมแต้มเท่านั้น)
จริงๆ การทำเรื่องอยู่ประเทศเกาหลีระยะยาวอย่างถูกกฎหมาย มันอาจจะยุ่งยากไปบ้าง แต่ว่ามันก็มีหลายวิธีน่ะนะ วิธีของเราอาจจะใช้เวลาค่อนข้างนานไปหน่อย ><” หวังว่าเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากที่เราเขียนไปนะคะ ถ้าใครมีคำถามอะไรที่เราพอจะตอบได้ เราจะพยามตอบนะ แต่ถ้าให้ถูกทุกข้อร้อยเปอร์เซ็นนี่แนะนำให้เข้าไปตรวจสอบเอกสารที่เว็บ
www.hikorea.go.kr นี้น้า
หรือถ้าใครอยู่เกาหลีอยู่แล้ว แนะนำให้โทรไปที่เบอร์
1345 เลยค่ะ เค้ามีคนคอยอธิบายและให้คำแนะนำต่างๆ ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยนะ
แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้า
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวของชีวิตที่นี่เพิ่มเติม ทั้งเกี่ยวกับเกาหลี ไม่เกี่ยว สาระบ้าง ไม่สาระบ้าง ติดตามได้ตามนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/seoulrendipity/
[แชร์ประสบการณ์] อยู่เกาหลี 5 ปีกับ วีซ่า 4 แบบ (ตอนจบ : จากวีซ่าทำงาน สู่วีซ่าระยะยาว)
ได้ฤกษ์งามยามดี กลับมาต่อที่เขียนค้างไว้เกี่ยวกับเรื่องวีซ่า เพราะวีซ่าหลังๆกว่าจะเปลี่ยนได้ใช้เวลานานและยุ่งยากอยู่
ใครอยากติดตามเรื่องราวตอนแรกไปอ่านได้ที่กระทู้นี้เลยนะคะ
https://ppantip.com/topic/36074758
-----------------------------------------------------------------------------------------------
E-7
เข้าเรื่องเลยละกัน หลังจากถือวีซ่าหางานอยู่ไม่นาน เราก็ได้งานค่ะ เนื่องจากตอนนั้นบริษัทนี้กำลังมีโปรเจคกับที่ไทย ก็เลยได้มีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์แล้วก็ผ่านจ้า ตื่นเต้นมาก ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำงานต่างประเทศมาก่อน 555+ เมื่อได้งานแล้วเค้าก็จะให้ขอให้เราเปลี่ยนวีซ่าเป็นวีซ่าทำงาน E-7 จริงๆวีซ่าทำงานมีหลายประเภทนะ เช่น E-2 เป็นวีซ่าสอนภาษา// E-3 เป็นวีซ่าเกี่ยวกับงานค้นคว้า เป็นต้น E-7 นี่คือ Special Occupation ส่วนใหญ่เห็นเพื่อนคนไทยได้วีซ่านี้กันนะคะ แต่ไม่ใช่ทุกบริษัทจะขอวีซ่านี้ให้เราได้ เพราะทางเกาหลีก็จะมีกำหนดเงื่อนไขให้กับทางบริษัทในการรับคนต่างชาติเข้าทำงาน บริษัทนั้นๆเงื่อนไขไม่ผ่านก็รับไม่ได้นะคะ เงื่อนไขก็มีเช่น
- บริษัทนั้นต้องมีจำนวนคนที่ถือวีซ่า E-7 ไม่เกิน 20% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดในบริษัท
- ต้องจ่ายเงินเดือนขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 60% ของค่าเฉลี่ยเงินเดือนพนักงานในบริษัท
ส่วนตัวผู้ทำงานเอง ต้องจบมา หรือมีประสบการณ์ในสายงานที่ตรงกับตำแหน่งที่เค้ารับค่ะ เพราะว่าตอนส่งเอกสารให้กับตม.จะมีเอกสารจากฝั่งบริษัทที่จะต้องกรอกรหัสงานที่จะให้ทำแล้วทำไมถึงจำเป็นต้องจ้างเรา เค้าจะดูประวัติการทำงานเราและประวัติการศึกษา หากรหัสงานที่รับเข้าไปทำไม่เหมาะสมกับประวัติเรา ทางตม.อาจจะปฎิเสธได้
ตอนงานแรกเราไม่รู้ในส่วนของบริษัทเลย เค้าให้เอกสารเรามาปึ๊งนึงแล้วบอกให้ไปยื่นที่ตม.นะ แค่นั้นเลย - -“
แต่จากที่ดูรายละเอียดในเว็บของตม.แล้ว เอกสารเบื้องต้นที่ต้องเตรียมมีดังนี้ค่ะ
ทางส่วนของเรา
1. ใบสมัคร
2. พาสปอร์ต
3. Alien Card
4. รูปถ่าย 2 นิ้ว
5. สัญญาบ้าน/หลักฐานข้อมูลที่พำนักในเกาหลี
6. ใบจบ/ใบเกรด
7. ใบประสบการณ์การทำงาน
ทางฝั่งบริษัท
1. สัญญาจ้างงาน
2. เอกสารการจดทะเบียนบริษัท/รายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับบริษัท
3. เอกสารที่แจกแจงว่าจะจ้างเราทำไม จ้างถึงเมื่อไหร่ เป็นต้น ตัวนี้ทางบริษัทต้องเอาแบบฟอร์มมาจากตม.แล้วกรอก
เบื้องต้นประมาณนี้ ถ้าพร้อมแล้วก็เอาไปยื่นตม.โลด ถ้าผ่านเรียบร้อยเราก็จะได้วีซ่ามาประมาณ 1 ปี (ส่วนใหญ่นะ) เห็นบางคนได้ 6 เดือน บางคนได้ 2 ปีเลย อันนี้แล้วแต่ทางเค้าพิจารณา
เมื่ออยู่ด้วยวีซ่านี้ทำอะไรได้บ้าง
สิทธิ์ในการทำงานในบริษัทที่เราแจ้งไปเท่านั้น ยกเว้นบางสายงานเช่นเชฟ สามารถที่อื่นด้วยได้หรือต้องได้รับการยินยอมจากบริษัทแรกของเรา แต่ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ต้องแจ้งทางตม.ทุกครั้งนะคะ
ถ้าถือวีซ่านี้โดยมากเราจะเป็นพนักงานสัญญาจ้างและจ้างปีต่อปีค่ะ ไม่ใช่พนักงานประจำ และตามกฎหมายของเกาหลีพนักงานสัญญาจ้าง สามารถทำได้ไม่เกิน 2 ปีเว้นแต่มีเหตุผลอันควร หลังจาก 2 ปีแล้วต้องจ้างเป็นพนักงานประจำ ทำส่วนอื่น หรือเราต้องเปลี่ยนบริษัท
หมายเหตุ :
- โดยมากเนื่องจากสัญญาจ้างจะเป็นปีต่อปี วีซ่าก็จะครอบคลุมถึงหลังสัญญาหมดเป็นเวลา 1 เดือน ให้เรามีเวลาหางานใหม่ ทำเรื่องต่างๆ
- หลังจากวีซ่า E-7 เราสามารถเปลี่ยนวีซ่ากลับเป็นวีซ่าหางาน(D-10) ได้ แต่จากที่บอกไปในกระทู้ก่อนหน้าว่า เราสามารถขอวีซ่าหางานได้ 2 ครั้งเท่านั้น ถ้าใครเคยขอไปแล้ว สามารถขอได้อีกครั้ง โดยมีอายุวีซ่า 6 เดือนจ้า
-----------------------------------------------------------------------------------------------
F-2
หลังจากทำงานมาด้วย E-7 รวมๆแล้ว 2 ปีครึ่ง (ทำมา 2 บริษัท) สิ่งที่ได้ค้นพบคือ เครียด ค่ะ 555+ อาจจะเพราะเป็นคนขี้กังวลอยู่แล้ว วีซ่าต่อได้ทีละปี พอใกล้หมดก็แบบกังวลว่าเค้าจะต่อมั้ย ไหนบ้านก็สัญญาเป็นปีต่อปีใกล้หมดพร้อมวีซ่า ถ้าเกิดบริษัทไม่เค้าไม่ต่อแล้วเราบอกต่อสัญญาค่าบ้านไปแล้วล่ะ ยกเลิกโดนค่าปรับอีก หรือถ้าเราหางานใหม่ไม่ทันใน 1 เดือนที่เหลือว่าง หลังจากสัญญาหมดทำไง ทำเรื่องนู่นเรื่องนี่ไม่ทันทำไง ไรงี้ คิดไปล้านแปด คิดเอง ปวดหัวเอง 555+ ก็เลยหาทางออกด้วยการ ลองหาดูว่ามีวีซ่าอะไรอีกบ้างที่เราสามารถอยู่ระยะยาว ทำงานได้ถูกต้อง ก็ไปเจอว่าเราเข้าเงื่อนไขที่สามารถขอวีซ่าผู้อยู่อาศัยได้(F-2) ค่ะ
F-2 คืออะไร
วีซ่าระยะยาวสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนวีซ่าถาวรในอนาคต
ผู้ที่สามารถเปลี่ยนวีซ่านี้ได้มีหลายข้อ ขอยกตัวอย่างแค่ที่คิดว่าคนส่วนใหญ่ที่อยู่นี่น่าจะเข้าข่ายละกันนะคะ
1. ถือวีซ่า E-7 มาเกิน 5 ปี
2. มีอายุ รายได้ การศึกษา และอื่นๆเข้าข่ายตรงกับที่ทางกระทรวงยุติธรรมได้กำหนด
3. ได้มีการลงทุนต่างๆเช่นที่อยู่อาศัย ซึ่งเข้าหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมได้กำหนด
ถึงเราจะถือวีซ่า E-7 มาแต่ว่าเรายังถือไม่ถึง 5 ปี ดังนั้นข้อแรกตกไป - -“ เราเลยมาลงที่ข้อ 2 ค่ะ ซึ่งเมื่อลองอ่านรายละเอียดดู การที่เราจะเข้าข่ายตรงกับเงื่อนไขที่ทางเค้าได้กำหนดได้หรือไม่นั้น เค้าวัดจาก Points-based system
Points-based system คืออะไร
คือระบบสะสมแต้มเพื่อขอวีซ่า (ประหนึ่งสะสมแสตมป์เซเว่น) หลักการก็คือ ทางเค้าจะมีเงื่อนไขพิจารณามาให้เราและแบ่งคะแนนในเงื่อนไขนั้นๆ รวมทั้งหมด 120 คะแนน ถ้าเราได้ 80 คะแนนขึ้นไปก็สามารถเปลี่ยนวีซ่าได้ค่ะ
มาดูกัน ว่าเงื่อนไขเหล่านั้นมีอะไรบ้าง
อย่างแรกเลยคนที่ขอวีซ่านี้ได้มีใครบ้าง หลักๆเลยคือ
1. ผู้ที่กำลังถือวีซ่า D-2 แต่ต้องเป็นผู้ที่จบการศึกษาจากระดับปริญญาโทในประเทศเกาหลีเท่านั้น
2. ผู้ที่กำลังถือวีซ่า D-10 แต่ต้องเป็นผู้ที่จบการศึกษาจากระดับปริญญาโทในประเทศเกาหลีเท่านั้น
3. ผู้ที่กำลังถือวีซ่า E-7
ฟังตรงนี้เหมือนจะง่าย ว่าอ่าว ถือวีซ่า D-2 เรียนปโทอยู่ก็ขอได้นิ ช้าก่อน.. เรามาดูรายละเอียดของแต่ละคะแนนกันดูดีกว่า
อันนี้รายละเอียดเอามาจากตัวเอกสารค่า แต่เอกสารนี้มีการอัพเดทวิธีพิจารณาบ่อยนะ ยังไงลองเช็คในเว็บไซด์ดูก่อนนะคะ www.hikorea.go.kr
จากตารางด้านบนจะเห็นว่าคือกว่าจะสะสมแต่ละแต้ม มันต้องใช้เวลา จะเอาปีเดียวขอได้เลยนี่มันก็ยากอยู่ เพราะฉะนั้นใครที่อยากเปลี่ยนเป็นวีซ่าแบบนี้ ควรอ่านและเตรียมตัวแต่เนิ่นๆนะคะ ของเรารวมแล้วคะแนนเกินเกณฑ์มานิดเดียว หลังจากได้วีซ่าแล้ว วีซ่าจะมีอายุ 6 ปีน้า
เอกสารที่ต้องใช้
- เอกสารที่ทุกอย่างที่สามารถยืนยันได้ว่าเราผ่านข้อกำหนดนั้นค่ะ เช่นผลสอบภาษา หลักฐานการจบการศึกษา เอกสารรับรองประสบการณ์ทำงาน เป็นต้น
วีซ่านี้ทำอะไรได้บ้าง
- สามารถเลือกทำงานได้กว้างและหลายสาขาขึ้น
- ไม่จำเป็นนำเงินเข้ามาในปริมาณมากเพื่อเริ่มธุรกิจ
- ถ้ามีลูกหรือคู่สมรส บุคคลเหล่านั้นสามารถเปลี่ยนวีซ่าเป็น F-2 ได้ (กรณีคนที่ได้ F-2 คนแรก ได้จากการสะสมแต้ม)
- สามารถเปลี่ยนเป็นวีซ่า F-5 (ผู้อยู่อาศัยถาวร) หลังจากผ่าน 3 ปีไปแล้ว (กรณีนี้สำหรับคนที่ได้วีซ่ามาจากการสะสมแต้มเท่านั้น)
จริงๆ การทำเรื่องอยู่ประเทศเกาหลีระยะยาวอย่างถูกกฎหมาย มันอาจจะยุ่งยากไปบ้าง แต่ว่ามันก็มีหลายวิธีน่ะนะ วิธีของเราอาจจะใช้เวลาค่อนข้างนานไปหน่อย ><” หวังว่าเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากที่เราเขียนไปนะคะ ถ้าใครมีคำถามอะไรที่เราพอจะตอบได้ เราจะพยามตอบนะ แต่ถ้าให้ถูกทุกข้อร้อยเปอร์เซ็นนี่แนะนำให้เข้าไปตรวจสอบเอกสารที่เว็บ www.hikorea.go.kr นี้น้า
หรือถ้าใครอยู่เกาหลีอยู่แล้ว แนะนำให้โทรไปที่เบอร์ 1345 เลยค่ะ เค้ามีคนคอยอธิบายและให้คำแนะนำต่างๆ ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยนะ
แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้า
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวของชีวิตที่นี่เพิ่มเติม ทั้งเกี่ยวกับเกาหลี ไม่เกี่ยว สาระบ้าง ไม่สาระบ้าง ติดตามได้ตามนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้