[แชร์ประสบการณ์] อยู่เกาหลี 5 ปีกับ วีซ่า 4 แบบ (ตอนที่ 1)

สวัสดีค่า
ช่วงหลังๆมานี้เห็นมีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหลายคนสนใจที่จะเดินทางมาพำนักอยู่ที่เกาหลีกันเยอะ ไม่ว่าจะมาเรียนหรือมาทำงาน
มาวันนี้เราเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์การอยู่อาศัยอยู่ในเกาหลี ซึ่งปีนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 5 แล้ว ผ่านการขอวีซ่ามาด้วยกัน 4 แบบ
ให้เผื่อเพื่อนๆที่สนใจหรือต้องการความรู้เกี่ยวกับการขอพำนักระยะยาวแบบถูกต้องในเกาหลีได้เก็บเป็นความรู้กันค่า

แต่ขอออกตัวก่อนว่า จริงๆแล้วการขอวีซ่าแต่ละอันนั้นมีเงื่อนไขหลายๆอย่างที่แต่ละคนสามารถยื่นได้ เราขอแชร์แค่ประสบการณ์ของเราในการขอวีซ่าแบบนั้นๆละกันนะคะ

ที่ผ่านมาเราขอวีซ่ามาทั้งหมด 4 แบบนั่นคือ
D-2 : วีซ่านักเรียน
D-10 : วีซ่าหางาน
E-7 : วีซ่าทำงาน
F-2 : วีซ่าผู้อยู่อาศัย

D-2 :
ทำไมถึงมาเรียนเกาหลี? อืม เป็นคำถามที่เจอถามบ่อยมาก 555+ เอาจริงๆ ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เราตัดสินใจเดินทางมาเรียนที่นี่ ทั้งๆที่ตอนนั้นก็พอมีหลายทางเลือกให้เลือกอยู่… อาจจะเพราะอยากใช้ชีวิตให้สุดจริงๆ ไม่อยากทำอะไรเพราะใครๆบอกว่าควรทำหรือควรจะเป็น  อยากทำตามความรู้สึกตัวเองมากกว่า แต่เอาจริงๆ ก็ไม่ได้คิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอะไรนะ เพราะประสบการณ์ที่ได้รับมันคุ้มค่าจริงๆ

กลับเข้าเรื่องวีซ่า ตอนนั้นหลังจากทำงานประจำที่ไทยมาได้ 2 ปีก็ตัดสินใจเรียนต่อโทและเลือกมาเรียนที่เกาหลี
หลังจากที่ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยแล้ว ทางมหาวิทยาลัยจะขอให้เราขอวีซ่า D-2 ซึ่งเป็นวีซ่าสำหรับนักเรียน/นักศึกษาที่มาศึกษาต่อ(มาเรียนคอร์สภาษาจะเป็นอีกวีซ่านึงนะคะ)  
โดยทางสถานศึกษาจะเตรียมเอกสารมาให้เราเช่น เอกสารการตอบรับเข้าเรียน  เอกสารที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับค่าเทอมค่าใช้จ่ายต่างๆและยืนยันว่าทางเราสามารถดูแลในส่วนตรงนี้ได้

ส่วนทางเราต้องเตรียมเอกสารเบื้องต้นดังนี้ค่ะ
1.ใบสมัคร
2.Passport และสำเนา
3.รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว
4.หลักฐานการศึกษาล่าสุด(ใบจบ, ใบเกรด)
5.หลักฐานทางการเงิน
6.สำเนาทะเบียนบ้าน/สำเนาบัตรประชาชน (ในกรณีที่คนดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายเป็นผู้ปกครอง)

ทั้งนี้อาจจะมีเอกสารเพิ่มเติมนะคะ ยังไงลองติดต่อสถานศึกษาหรือสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอีกครั้งค่ะ การขอวีซ่าสามารถทำได้ทั้งที่ไทยและที่เกาหลีจ้า  

หลังจากเดินทางมาที่นี่แล้ว สิ่งที่ต้องเดินเรื่องคือการขอ Alien Card ซึ่งสำคัญมากๆๆ เป็นเหมือนบัตรประชาชนและวีซ่าของเราเลย ถ้ายังไม่ทำจะมีปัญหาเรื่องการทำประกันสุขภาพ เปิดบัญชีธนาคาร เปิดซิมมือถือ รวมไปถึงการเข้าออกเกาหลีในครั้งต่อๆไป  

หมายเหตุ : Alien Card จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับวีซ่าที่เราถือ ที่อยู่ที่เราพัก รวมไปถึงระยะเวลาที่เราสามารถอยู่เกาหลีได้นะคะ เข้าออกตม. หรือที่เค้าท์เตอร์สนามบิน ควรแสดงบัตรให้เค้าดูทุกครั้งนะคะ

เมื่ออยู่ด้วยวีซ่านี้ทำอะไรได้บ้าง

เรียนค่ะ 555+ นอกจากเรียนแล้ว การทำงาน Part-time สามารถทำได้ แต่ว่าไม่สามารถทำได้ทุกระดับการศึกษา แล้วก็ไม่ใช่ทุกงานที่สามารถทำได้ ยกตัวอย่างงานที่สามารถทำได้เช่นการเป็นล่ามแปลภาษา งานตามร้านอาหารต่างๆเป็นต้น และจะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อผ่าน 6 เดือนไปแล้วค่า ส่วนตัวตอนเรียนเราไม่ได้ทำงานอ่ะ คอร์สเรียนอัดแน่นตลอด 1 ปีจนจะไม่มีเวลานอน - -“

-------------------------------------------------------------------------------------

D-10

หลังจากเรียนโท ก็คิดว่าจะเอาไงต่อ กลับเลยหรือเรียนภาษาดี แต่ว่าไหนๆก็มาแล้ว สรุปเลยโอเค เรียนภาษาไปด้วยหางานทำไปด้วย เผื่อจะได้ แต่ติดที่ว่าถ้าเปลี่ยนเป็นวีซ่าเรียนภาษา เท่าที่ทราบตามกฎแล้วจะไม่สามารถหางานได้หรืออาจจะยุ่งยากในการรับเข้าทำงาน ประกอบกับมีวีซ่านึงที่เปิดโอกาสให้คนที่มีวีซ่า D-2 สามารถเปลี่ยนได้เพื่อใช้ในการหางานหรือฝึกงานได้นั่นคือวีซ่า D-10 (job seeking visa) นั่นเอง วีซ่านี้เมื่อขอแล้วจะมีอายุ 6 เดือนแต่ว่าสามารถขอได้ทั้งหมด 2 ครั้ง รวมเป็น 1 ปีนั่นเอง การขอวีซ่านั้นไม่ยากเลย
เอกสารที่ต้องเตรียมเบื้องต้นมีดังนี้ค่ะ
1.ใบสมัคร
2.พาสปอร์ต
3.Alien card
4.เอกสารจบการศึกษา//ใบเกรด (full transcript)
5.แผนการหางาน (Job-seeking Action Plan) *ตัวนี้จะเป็นใบที่ทางตม.จะมีให้นะคะ ก็กรอกรายละเอียดแผนหางาน เช่นว่าเดือนนี้เราจะสมัครงานที่ไหน ทำอะไรบ้างเป็นต้น

เมื่อเตรียมเอกสารพร้อมแล้วก็ยื่นที่ตม.แล้วถ้าไม่มีปัญหาอะไร เค้าก็เปลี่ยน Alien Card เราแล้วให้วีซ่า 6 เดือนเรามาจ้า

เมื่ออยู่ด้วยวีซ่านี้ทำอะไรได้บ้าง
หางาน เรียนภาษาหรือฝึกงานค่า

ตอนนั้นเราเปลี่ยนวีซ่าอยู่ประมาณ 3 เดือนแล้วก็ได้งานค่ะ ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนวีซ่าอีกครั้ง รายละเอียดเป็นอย่างไร เดี๋ยวมาต่อตอนหน้าน้า

หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะคะ ถ้าใครมีความคิดเห็น ข้อแนะนำ หรือข้อมูลเพิ่มเติมอะไรสามารถบอกได้จ้า แบ่งๆความรู้กันค่ะ ^^  ทั้งนี้ทั้งนั้นขอย้ำว่าจริงๆแล้วเงื่อนไขในการขอวีซ่ามีหลายเงื่อนไขมากค่ะ เราแชร์แค่ในส่วนประสบการณ์ของเราเท่านั้น ซึ่งอาจจะไม่ครบถ้วน ยังไงใครสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดูข้อมูลได้จากเว็บไซด์นี้เลยค่ะ www.hikorea.go.kr

แล้วพบกันใหม่ตอนหน้า

ฝากเพจด้วยได้มั้ย เพิ่งเริ่มเขียน ><
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่