ดูละครแล้วมีความรู้สึกหน่วงมาก มันเป็นความรู้สึกผูกพันธ์ระหว่างยายหลานที่ถึงแม้จะไม่ใช่หลานแท้ๆแต่ยายจันทร์ก็เลี้ยงจีมาตั้งแต่เด็ก
ยิ่งตอนที่จีบอกยายว่าจะพาไปอยู่คอนโดแต่ยายไม่อยากไปไม่อยากเป็นภาระ แค่นี้ภาระแกก็มากอยู่แล้ว น้ำตาตอนนี้ก็คลอปริ่มจะไหลแล้ว แต่พอมาประโยคนี้ร้องไห้ไม่หยุดเลย
จีราวัจน์ : “ยายคือคนเดียวที่นั่งรอจีกลับจากโรงเรียน...คอยแกะปลาทูคลุกข้าวให้...เอาหม้อข้าวใบเดียวที่มีไปจำนำเพื่อซื้อชุดนักเรียนใหม่ให้จี..ยายคือคนเดียวที่ทำให้จีบอกตัวเองได้ว่าจียังมีครอบครัว...ถ้าไม่มียาย... แล้วใครจะคอยกอดจี”
ยายจัน : “งั้นตอนนี้ก็กอดยายให้แน่นๆ..กอดเยอะๆ..ก่อนที่..เราจะไม่ได้กอดกันอีก”
ญาญ่ากับยายจันเล่นเล่นรับส่งอารมณ์กันดีมากๆจนทำให้เชื่อได้ว่านี้คือยายหลานที่ผูกพันธ์กันมานาน รักกันมาก เมื่อต้องผลัดพรากจากกันมันเจ็บปวดจนเจียนตาย....ถ้านึกถึงนางเอกที่เล่นดราม่าดี ร้องไห้ได้เจ็บปวด ต้องมีชื่อญาญ่า อุรัสยาอยู่ในลิสต์แน่นอน ฝากการแสดงของญาญ่าด้วยนะคะ
น้ำตาไหลพรากๆๆ ญาญ่ากับยายจัน
ยิ่งตอนที่จีบอกยายว่าจะพาไปอยู่คอนโดแต่ยายไม่อยากไปไม่อยากเป็นภาระ แค่นี้ภาระแกก็มากอยู่แล้ว น้ำตาตอนนี้ก็คลอปริ่มจะไหลแล้ว แต่พอมาประโยคนี้ร้องไห้ไม่หยุดเลย
จีราวัจน์ : “ยายคือคนเดียวที่นั่งรอจีกลับจากโรงเรียน...คอยแกะปลาทูคลุกข้าวให้...เอาหม้อข้าวใบเดียวที่มีไปจำนำเพื่อซื้อชุดนักเรียนใหม่ให้จี..ยายคือคนเดียวที่ทำให้จีบอกตัวเองได้ว่าจียังมีครอบครัว...ถ้าไม่มียาย... แล้วใครจะคอยกอดจี”
ยายจัน : “งั้นตอนนี้ก็กอดยายให้แน่นๆ..กอดเยอะๆ..ก่อนที่..เราจะไม่ได้กอดกันอีก”
ญาญ่ากับยายจันเล่นเล่นรับส่งอารมณ์กันดีมากๆจนทำให้เชื่อได้ว่านี้คือยายหลานที่ผูกพันธ์กันมานาน รักกันมาก เมื่อต้องผลัดพรากจากกันมันเจ็บปวดจนเจียนตาย....ถ้านึกถึงนางเอกที่เล่นดราม่าดี ร้องไห้ได้เจ็บปวด ต้องมีชื่อญาญ่า อุรัสยาอยู่ในลิสต์แน่นอน ฝากการแสดงของญาญ่าด้วยนะคะ