ครั้งหนึ่งในชีวิตกับการก้าวเข้าสู่สถานะใหม่ในชีวิตกับคำว่าแม่
เมื่อรู้ตัวว่าท้อง ก็ตั้งใจแล้วว่าจะต้องคลอดธรรมชาติให้ได้
สิ่งที่ทำอันดับแรกเลย คือ ตามหาคุณหมอที่เราต้องการคลอดด้วย
แล้วเราก็ได้ชื่อคุณหมอที่ต้องการ แม้จะใช้เวลาในการรอคอยการตรวจทุกครั้งเป็นเวลานาน อย่างน้อย 1 ชม. แต่เราก็เต็มใจที่จะรอ
คุณหมอจะตรวจทุกวันศุกร์และวันเสาร์ ซึ่งเราเคยเจอวันที่คุณหมอทำคลอดด้วย เลยภาวนาให้เราไม่ต้องคลอดวันที่หมอออกตรวจ
เพราะมันทำให้ต้องรอนานไปอีกอย่างน้อย 1 ชม.
และแล้ววันนั้นที่รอคอยก็มาถึง วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2559 !!! โอวววว วันศุกร์จ้าาาาาา
2.00 น. ปวดฉี่ ลุกมาขึ้นมาเข้าห้องน้ำ ปรากฎว่ามีเลือดออกมาด้วยจ้า
นี่มันต้องเป็นอาการน้ำเดินแน่ๆ ไม่ได้การแล้ว รีบปลุกแฟน "ไปหาหมอกันเถอะ"
2.30 น. ถึงโรงพยาบาล ทีมพยาบาลเข้าตรวจการเต้นของหัวใจเด็กและการบีบตัวของมดลูก ดูปากมดลูกว่าเปิดรึยัง
คุณพยาบาลก็ถามว่าปวดมั้ย ให้คะแนนความปวดเท่าไหร่
บอกเลยว่าตอนนั้นชิวมาก แล้วคิดในใจไม่เห็นจะปวดเหมือนที่ใครๆว่ากัน เรานี่โชคดีจริงๆ
คุณพยาบาลบอกว่าปากมดลูกยังไม่เปิด ให้นอนรอหมอมาตรวจประมาณ 9 โมงเช้า
6.30 น. พยาบาลเข้ามาเหน็บยาเร่งปากมดลูก โกนขน สวนยาถ่าย
ตอนสวนยาถ่าย ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิต เราก็นึกในใจว่ามันจะช่วยได้จริงเหรอ ไม่อยากจะเชื่อ
ผ่านไปไม่กี่นาที ปรากฎว่ามาเลยจ้า ถ่ายจนหมดไส้หมดพุงเลยจ้า
9.00 น. คุณหมอมาตรวจ ปากมดลูกก็ยังไม่เปิดจ้า
หมอก็บอกให้นอนต่อจนเย็น ถ้าปากมดลูกไม่เปิด จะให้กลับบ้าน
เราก็นึกในใจ -ไม่นะ ชั้นไม่อยากกลับ ได้แต่ภาวนาให้ปากมดลูกเปิดซะที-
14.00 น. ปากมดลูกก็ยังไม่เปิด โดยมีพยาบาลมาตรวจเป็นระยะๆ
แล้วให้กำลังใจว่าคลอดธรรมชาติก็แบบนี้ เข้าๆ ออกๆ หลายรอบ จนกว่าจะคลอด
ไม่นะ!!!!! ชั้นจะต้องคลอดวันนี้ ไม่อยากกลับบ้านแล้ว
17.30 น. เริ่มเจ็บมากขึ้น เลยให้แฟนเรียกพยาบาล
พยาบาลมา "ปากมดลูกเปิด 3 ซม. แล้วนะคะ"
เรา "เย้ๆ เปิดแล้ว จะได้คลอดวันนี้เลย"
เรา "แล้วต้องเปิดกี่ ซม ถึงจะคลอดได้"
พยาบาล "ประมาณ 10 ซม ค่ะ"
เรา "แล้วจาก 3 ซม นี่ ต้องใช้เวลานานแค่ไหน ถึงจะเปิด 10 ซม หล่ะคะ"
พยาบาล "ปกติแล้ว มดลูกเปิด ชม ละ 1 ซม ค่ะ"
เรา สตั๊นไป 3 วิ ปาดดดดดดดดดดดด อยากจะผ่าคลอดเลยทีเดียว แต่หมอไม่อยู่ให้ได้ร้องขอเลย
19.00 น. ความเจ็บเพิ่มมากขึ้นเป็นขั้นสุด
มันเจ็บหน่วงๆ เหมือนปวดขี้ ประมาณว่ามีขี้ 2 ก้อนใหญ่ๆ มาจุกอยู่ที่ก้น ปวดทุกๆ 5 นาที
เจ็บมาก เจ็บที่สุด คิดในใจตลอดเวลาว่า ผ่าออกเลยได้มั้ย เอามันออกไป ไม่ไหวแล้ว
สุดท้ายบอกให้แฟนตามพยาบาล เพราะทนไม่ไหวแล้ว (ระหว่างนั้นฉีดยาแก้ปวดไปแล้ว 1 เข็ม)
พยาบาล "มดลูกเปิด 10 ซม แล้วค่ะ ตามคุณหมอด่วน"
เรา ดีใจที่สุด เวลานี้มาถึงซะที
พยาบาล "อย่าเพิ่งเบ่งนะคะ เดี๋ยวลูกออกมาก่อน รอหมอก่อนนะคะ"
ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที ทุกอย่างก็พร้อม อุปกรณ์ครบ หมอก็มาถึง
คุณหมอใส่แค่รองเท้าบู๊ท แต่ไม่ทันใส่เสื้อกราวน์ทำคลอด (สงสัยจะรีบมากกกก)
หมอ "อย่างเบ่งนะ รอหมอให้สัญญาณก่อน แล้วค่อยเบ่ง"
เรา เร็วหน่อยค่ะะะะ หนูปวดมากกก
หมอ "เบ่งได้"
เบ่งครั้งแรก รู้สึกว่าหัวจะออกมาก่อน แล้วคุณหมอก็เอามีดกรีดอะไรซักอย่าง แล้วให้ออกแรงเบ่งอีกครั้ง
เบ่งครั้งที่ 2 ลูกก็ออกมาทั้งตัว ร้องเสียงดังลั่นห้องเลยจ้า
คุณหมอเด็กก็มารับตัวลูกไป ส่วนคุณหมอทำคลอดก็เย็บแผลให้เราต่อไป
สรุปแล้ว ลูกน้อยคลอดเวลา 19.12 น. เป็นอันเสร็จภารกิจคลอดธรรมชาติ
แต่เป็นการเริ่มต้นของคำว่าครอบครัวน้องเพลิน แม่พร และพ่ออิ๊ก
ครั้งหนึ่ง...กับความเจ็บปวดที่สุดในชีวิต เพื่อคนที่ไม่เคยเห็นหน้า
เมื่อรู้ตัวว่าท้อง ก็ตั้งใจแล้วว่าจะต้องคลอดธรรมชาติให้ได้
สิ่งที่ทำอันดับแรกเลย คือ ตามหาคุณหมอที่เราต้องการคลอดด้วย
แล้วเราก็ได้ชื่อคุณหมอที่ต้องการ แม้จะใช้เวลาในการรอคอยการตรวจทุกครั้งเป็นเวลานาน อย่างน้อย 1 ชม. แต่เราก็เต็มใจที่จะรอ
คุณหมอจะตรวจทุกวันศุกร์และวันเสาร์ ซึ่งเราเคยเจอวันที่คุณหมอทำคลอดด้วย เลยภาวนาให้เราไม่ต้องคลอดวันที่หมอออกตรวจ
เพราะมันทำให้ต้องรอนานไปอีกอย่างน้อย 1 ชม.
และแล้ววันนั้นที่รอคอยก็มาถึง วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2559 !!! โอวววว วันศุกร์จ้าาาาาา
2.00 น. ปวดฉี่ ลุกมาขึ้นมาเข้าห้องน้ำ ปรากฎว่ามีเลือดออกมาด้วยจ้า
นี่มันต้องเป็นอาการน้ำเดินแน่ๆ ไม่ได้การแล้ว รีบปลุกแฟน "ไปหาหมอกันเถอะ"
2.30 น. ถึงโรงพยาบาล ทีมพยาบาลเข้าตรวจการเต้นของหัวใจเด็กและการบีบตัวของมดลูก ดูปากมดลูกว่าเปิดรึยัง
คุณพยาบาลก็ถามว่าปวดมั้ย ให้คะแนนความปวดเท่าไหร่
บอกเลยว่าตอนนั้นชิวมาก แล้วคิดในใจไม่เห็นจะปวดเหมือนที่ใครๆว่ากัน เรานี่โชคดีจริงๆ
คุณพยาบาลบอกว่าปากมดลูกยังไม่เปิด ให้นอนรอหมอมาตรวจประมาณ 9 โมงเช้า
6.30 น. พยาบาลเข้ามาเหน็บยาเร่งปากมดลูก โกนขน สวนยาถ่าย
ตอนสวนยาถ่าย ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิต เราก็นึกในใจว่ามันจะช่วยได้จริงเหรอ ไม่อยากจะเชื่อ
ผ่านไปไม่กี่นาที ปรากฎว่ามาเลยจ้า ถ่ายจนหมดไส้หมดพุงเลยจ้า
9.00 น. คุณหมอมาตรวจ ปากมดลูกก็ยังไม่เปิดจ้า
หมอก็บอกให้นอนต่อจนเย็น ถ้าปากมดลูกไม่เปิด จะให้กลับบ้าน
เราก็นึกในใจ -ไม่นะ ชั้นไม่อยากกลับ ได้แต่ภาวนาให้ปากมดลูกเปิดซะที-
14.00 น. ปากมดลูกก็ยังไม่เปิด โดยมีพยาบาลมาตรวจเป็นระยะๆ
แล้วให้กำลังใจว่าคลอดธรรมชาติก็แบบนี้ เข้าๆ ออกๆ หลายรอบ จนกว่าจะคลอด
ไม่นะ!!!!! ชั้นจะต้องคลอดวันนี้ ไม่อยากกลับบ้านแล้ว
17.30 น. เริ่มเจ็บมากขึ้น เลยให้แฟนเรียกพยาบาล
พยาบาลมา "ปากมดลูกเปิด 3 ซม. แล้วนะคะ"
เรา "เย้ๆ เปิดแล้ว จะได้คลอดวันนี้เลย"
เรา "แล้วต้องเปิดกี่ ซม ถึงจะคลอดได้"
พยาบาล "ประมาณ 10 ซม ค่ะ"
เรา "แล้วจาก 3 ซม นี่ ต้องใช้เวลานานแค่ไหน ถึงจะเปิด 10 ซม หล่ะคะ"
พยาบาล "ปกติแล้ว มดลูกเปิด ชม ละ 1 ซม ค่ะ"
เรา สตั๊นไป 3 วิ ปาดดดดดดดดดดดด อยากจะผ่าคลอดเลยทีเดียว แต่หมอไม่อยู่ให้ได้ร้องขอเลย
19.00 น. ความเจ็บเพิ่มมากขึ้นเป็นขั้นสุด
มันเจ็บหน่วงๆ เหมือนปวดขี้ ประมาณว่ามีขี้ 2 ก้อนใหญ่ๆ มาจุกอยู่ที่ก้น ปวดทุกๆ 5 นาที
เจ็บมาก เจ็บที่สุด คิดในใจตลอดเวลาว่า ผ่าออกเลยได้มั้ย เอามันออกไป ไม่ไหวแล้ว
สุดท้ายบอกให้แฟนตามพยาบาล เพราะทนไม่ไหวแล้ว (ระหว่างนั้นฉีดยาแก้ปวดไปแล้ว 1 เข็ม)
พยาบาล "มดลูกเปิด 10 ซม แล้วค่ะ ตามคุณหมอด่วน"
เรา ดีใจที่สุด เวลานี้มาถึงซะที
พยาบาล "อย่าเพิ่งเบ่งนะคะ เดี๋ยวลูกออกมาก่อน รอหมอก่อนนะคะ"
ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที ทุกอย่างก็พร้อม อุปกรณ์ครบ หมอก็มาถึง
คุณหมอใส่แค่รองเท้าบู๊ท แต่ไม่ทันใส่เสื้อกราวน์ทำคลอด (สงสัยจะรีบมากกกก)
หมอ "อย่างเบ่งนะ รอหมอให้สัญญาณก่อน แล้วค่อยเบ่ง"
เรา เร็วหน่อยค่ะะะะ หนูปวดมากกก
หมอ "เบ่งได้"
เบ่งครั้งแรก รู้สึกว่าหัวจะออกมาก่อน แล้วคุณหมอก็เอามีดกรีดอะไรซักอย่าง แล้วให้ออกแรงเบ่งอีกครั้ง
เบ่งครั้งที่ 2 ลูกก็ออกมาทั้งตัว ร้องเสียงดังลั่นห้องเลยจ้า
คุณหมอเด็กก็มารับตัวลูกไป ส่วนคุณหมอทำคลอดก็เย็บแผลให้เราต่อไป
สรุปแล้ว ลูกน้อยคลอดเวลา 19.12 น. เป็นอันเสร็จภารกิจคลอดธรรมชาติ
แต่เป็นการเริ่มต้นของคำว่าครอบครัวน้องเพลิน แม่พร และพ่ออิ๊ก