hardcore-nurse "มีความ เมโลดราม่า"

กระทู้สนทนา
อายุก็ปูนนี้แล้ว หนังไทยก็ผ่านตามาหลายเรื่อง ซีรี่ย์เกาหลีก้ไม่ค่อยจะพลาด สตอรี่เมโลดราม่า เรียกได้ว่าเห็นมานักต่อนัก มันคือประวัติศาสตร์แห่งวงการ ภาพยนตร์ ละคร และซีรี่ย์....
บราโว่ววววว.......ค่ะ

      ตอนดูนะ อื้อฮือ อ้าฮ้า อารมณ์มาเต็ม บ่อน้ำตาทะลัก น้ำมูกกระจาย ทำไมๆๆๆชีวิตรักพระนางช่างรัดทนปานนั้น (เป็นเอามากค่ะ) แต่พอดูจบก็เริ่มมีสติ แอบคิดขึ้นมานิดหนึ่ง 'ว่าชีวิตเราจริงจะเป็นได้อย่างนั้นเหรอ'

      ฉาก 'ของหล่นนางเอกก้มเก็บ พระเอกมาช่วยก็แบบมือชนกัน' 'ทะเลาะกัน ด่ากัน นางเอกตบ พระเอกจูบ' 'นางเอกเป็นลม แต่พระเอกก็รับไว้ทัน' ได้เหรอ มันได้เหรอ ในชีวิตกูก็มีโอกาสเเกิดเมโลดราม่าได้เหรอ เหนื่อสิ่งอื่นใดทำไมมันต้องจบด้วยเพลงประกอบละครที่ขึ้นเป็นแบ็คกราวทุกทีว่ะ

      เอาจริงๆว่ากันไม่ได้นะ ไอ้ตอนดูนะ อะ อ่ะ อ่า อร้ายยย นั่งจิกหมอนเวิ่นเว้ออยู่คนเดียว พอละครอวสานทำมาสงสัยนุ้น นี่ นั้น แต่อนาคตเป็นอะไรที่คาดเดายากว่าไหม และแล้วความเมโลดราม่าในชีวิตก็เกิดค่ะ แถมของฉันดูเหมือนจะร้อนแรงกว่าในละครมากกกกกก.....พูดเลย

      มันเริ่มจากช่วงดึกของวันหนึ่ง ที่อากาศค่อนชื้น แต่ก็ไม่ถึงกับอึดอัด สายฝนปรอยๆ ช่วยให้อากาศเย็นสบายยิ่งขึ้น.....(นี่ขนาดฉากแรกนะเนี้ย มีความเมโลดราม่าขั้นสุด อีกนิดๆๆๆ...ไปต่อค่ะ) พยาบาลสาว (ฉันเองๆๆๆ มีความอยากเป็นนางเอกมาก) กำลังวุ่นวายกับการทำเอกสารรับผู้ป่วยแอดมิทใหม่ เนื่องจากมีคนไข้ฉุกเฉินเข้ามาด้วยอาการปวดท้อง  คืนนี้มีพยาบาลอยู่เวร 3 คน ผู้ช่วยพยาบาล 1 คน พนักงานช่วยเหลือคนไข้ 3 คน แม่บ้าน 1 คน และคนไข้ที่อาการค่อนข้างคงที่อีก 26 คน พยาบาลสาวทำงานของเธออย่างไม่เร่งรีบเพราะเวรดึกคืนนี้สถานการณ์การค่อนข้างสงบ (ประเมินเอาเองทั้งนั้น)

      ทันใดนั้นเสียงตะโกนของใครคนหนึ่งดังมากจากห้องคนไข้ฝั่ง B (ห้องคนไข้ของโรงพยาบาลถูกแบ่งเป็น A และ B ตามราคาห้อง ฝั่ง A มีห้อง 01-19 ฝั่ง B มีห้อง 20-37) เสียงตะโกนที่ฟังได้ยากจากความก้องของตึก จึงไม่สามารถบอกได้ว่าคนที่ตะโกนต้องการสื่อสารอะไร แต่มันส่งผลให้กิจกรรมของเจ้าหน้าที่ทุกคนชะงัก และเงี้ยหูฟังเสียงนั้น (เชื่อเถอะค่ะ.....แวบหนึ่งของสติ มีแอบคิด คนหรือผีว่ะ ดังนั้นการส่งเสียงทักไปก่อนดูจะไม่ใช่เรื่องดี ดูหนังผีมาก็มากเกิดทักไป ตายแน่.....แม้จบสายวิทย์มา แต่หนังผีไทยทำให้สูญเสียการศึกษาไปแล้วค่ะ) แต่ด้วยสัญชาตญาณพยาบาล ฟังรู้เรื่องไม่รู้เรื่องไม่รู้ ได้ยินเสียงตะโกน แมร่งวิ่งไปก่อนค่ะ ฉันและพี่พยาบาลอีกคนออกวิ่งทันที วิ่งไปตายหรือเปล่ายังไม่รู้เลย

       งานนี้สัญชาตญาณได้ผลค่ะ ภาพตรงหน้าที่เห็นเป็นหนุ่มผิวขาว สูง สมาร์ท ตาตี๋ ดีกรีโอ้ปป้า แต่หน้าซีดไปหน่อย กำลังทำท่าที่ชวนนึกถึงตอนพี่แบงค์วงแคลชร้องเพลง ฉันชะงักเท้าไปแว้บหนึ่ง แต่เมื่อมาใกล้พอเสียงที่อื้ออึงจึงได้ยินชัดขึ้น

"ช่วยด้วย....ช่วยด้วยครับ"    

      เสียงเรียกทำเอาทั้งฉันทั้งพี่พยาบาลแอบลังเลเล็กน้อย เพราะเกรงว่าที่คนไข้ออกจากห้องมาเพราะจะโดนใครทำร้ายหรือเปล่า (มีความกลัวตายเหมือนกันค่ะ) แต่เมื่อไม่เห็นว่ามีใครตามมอก ฉันรีบวิ่งใส่เกียร์หมาเข้าไปเลยค่ะ งานนี้เพราะสภาพร่างกายตามอายุ ฉันจึงไปถึงตัวคนไข้ก่อนพี่พยาบาลอีกคน ทันทีที่ถึงตัวฉันจับประคองคนไข้ หวังว่าการกระทำของฉันจะช่วยให้เขาหายตกใจ

"มีอะไรค่ะ มีอะไร"
"ผมจะเป็นลมครับ"

     โอ้วววววว งานนี้คิดผิดค่ะ นึกว่ามีเหตุร้าย แต่ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงค่ะ พูดจบคนไข้โถมร่างลงมาที่ฉันทันทีค่ะ.....วินาทีเมโลดราม่าก็เกิดค่ะ ต่างกันตรงที่คนล้มทับดันเป็นชาย ส่วนหญิงอย่างฉันก็ต้องโชว์แกร่งในการเป็นผู้รับร่าง อื้อหือ ส่วนสูงที่แตกต่าง น้ำหนักที่แตกต่าง งานนี้ล้มอย่างเดียวค่ะ ระเนระนาดทั้งคนไข้ทั้งฉัน เหนือสัญชาตญาณก็สตินี้แหละค่ะที่รอดมาได้ ฉันให้คนไข้ล้มมาบนตัวฉัน และพยายามรับหัวคนไข้ให้อยู่บนตักฉันให้ได้ ทันทีที่ล้มลงมากองกับเพื่อนฉันพยายามนั่งใช้ตัวดันหลังคนไข้ไม่ให้ราบลงกับเพื่อน แต่น้ำหนักที่เทลงมาบนตัวฉันทั้งหมด มันไม่ไหว ชีวิตเมโลดราม่าไม่เหมือนในหนังเลยอ่ะ ตกใจขั้นสุด หนักร่างสุดขีด แถมไม่มีเพลงประกอบเป็นแบ็คกราว มีแต่เสียงตะโกนยามดึกของกูนี้แหละ ไพเราะขั้นสุด

"พี่ค่ะ  เร็วค่ะ" ฉันตะโกนขอความช่วยเหลือ เพราะกูคนเดียวเอาไม่อยู่อ่ะ
"ขอเครื่องวัดออกซิเจน ความดัน แอมโมเนีย ด้วย" ตะโกนสั่งงานไปอีก ทันทีที่พี่พยาบาลมาถึงตัว เราจึงประเมินคนไข้คร่าวๆ เรียกรู้สึกตัว ชีพจรมี แต่.....แมร่ง 2 คนก็หนักอยู่ดี เพราะพี่เขาก็ไม่ได้สูงไปกว่าฉันมาก พูดง่ายก็เตี้ยแคระทั้งคู่

       เราต้องพาคนไข้ไปที่เตียงเพื่อให้การพยาบาลได้สะดวก งานยากไปอีก จะยกกันยังไงอ่ะ ในหนังเค้าอุ้มกันท่าเจ้าหญิงโครตจะฟิน แต่โอ้ปป้าค่ะ นี้ขนาดประคองกันสองคน น้องยังจะตาย เหงื่อไหลย้อยซึมหลังไปหมด หน้ามันตั้งแต่ต้นเวร อย่าหวังว่าจะสวยแบบในละครเลย แค่ไม่กลายเป็นป้าไปก็บุญมากแล้ว

      ทั้งเวรมีแต่สตรีแสนบอบบาง ต่างกันตรงที่อายุเท่านั้น เราเลยต้องโทรตามพนักงานแปล แต่รอยังไงก็ยังไม่มา โชคดีที่ดึกนี้มีไทยมุง เป็นผู้ชายญาติคนไข้ห้องอื่นที่ยืนดูอยู่ เราเลยอ้าปากใช้งานเลยค่ะแบบไม่เกรงจง เกรงใจหล่ะ กูจะตายอยู่แล้ว

"ช่วยยกหน่อยได้ไหมค่ะ"  

      ญาติคนไข้คนนั้นพยักหน้ารับ ท่าเจ้าหญิงเหรอ แบกขึ้นหลังเหรอ ฝันไปเถอะท่าพวกนั้น ความจริงใช้ไม่ได้เลย (แมร่งละครช่างหลอกลวง) ความจริงคือหิ้วปีกค่ะ ญาติคนไข้วิ่งไปจับเท้าคนไข้ เหิ้ยยยยไปอีกค่ะฉันต้องยกท่อนบน หนักสึส นี่มันช่วงลำเค็ญของชีวิตชัดๆ ส่วนคนอื่นก้ช่วยประคองยกหลังคนไข้ แต่ยังไงภาระหนักสุดก็เป็นฉันที่หิ้วเปียกยกคนไข้ ตอนแรกเรากะยกขึ้นเตียง

"ไม่ได้ค่ะ ๆๆๆๆ ขอโซฟาพอ น้องไม่ไหว"

      ไม่เก๊กค่ะงานนี้ ไม่ได้คือไม่ได้ ยกมาตรงนี้ได้ก็จะตายแล้ว  นิจะให้ยกขึ้นเตียง ช่วยดูสภาพหน้สมัน ร่างกายที่หอบ ส่วนสูงที่แสนอนาถของฉันด้วยค่ะ มันจะยกได้ยังงายยยยยย

      เปลี่ยนค่ะ เปลี่ยนจุดลงจอดอย่างด่วน จากเตียงเป็นโซฟา การลงจอดไม่มีความนิ่มนวลแม้แต่น้อย ระดับริกเตอร์แตกต่างจากโยนลงไปประมาณ 1 ริกเตอร์ แต่ด้วยจรรยาบรรณกลัวจะดูไม่งามหรือเพราะร่างกายที่สั้นเกินไป สรุปคือฉันต้องหิ้วร่างคนไข้พาขึ้นโซฟา เข่าแทบเสื่อมเลยงานนี้ บรรดาคนที่ช่วยกันยกมาก็ช่างไร้จังหวะหรือเพราะหนักไม่รู้ ทำให้เป็นอีกรอยที่คนไข้ล้มลงบนฉัน รอบบนี้ฉันหงายหลังเลยค่ะ ยังดีที่มีโซฟารับ ไม่งั้นคงได้แอดมิทกันอีกคน จัดท่าทางคนไข้ให้นอนบนโซฟา เลื่อนโซฟาไปแทนตำแหน่งเตียงเสร็จ ใส่ออกซิเจนให้คนไข้ ฉันก็เอาตัวเองออกมาเลยค่ะ ทิ้งให้เจ้าของทีมจัดการต่อ....ไปล่ะกู ไม่เอาหล่ะ เหนื่อยสึส ขอออกไปหายใจหน่อย

       นี้หรือคือ ความจริงของเมโลดราม่า น้ำตาไม่มี...มีแต่น้ำ้เหงื่อ ดนตรีประกอบไม่มี...มีแต่เสียงตะโกน ความเขินอายของพระเอกนางเอกเหรอ... แค่จะสบตากันยังยากเลย โอ้ปป้าก็หล่ออยู่หรอก...ใจก็เต้นตึก...ตัก..อยู่นะ แต่เพราะเหนื่อยอ่ะ ไม่ใช่เพราะประทับใจ พีคของพีคคือ ถ้าดูตามบทโทรทัศน์นี้แล้ว งานฉันคือพระเอกซินะ!!!!!!

ลงเวรมาปวดแขนมากเหมือนคนที่เพิ่งไปยกเวทมาเลย เกิดการเบิร์นกล้ามเนื้อไตรเซพ ไบเซพ
ปล.อนาคตข้างหน้า ขอบทนางเอกด้วยค่ะ ชีวิต (กูบอกใครว่ะ)

**HC-RN**
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่