เรื่องเล่า วิกฤติ COVID ที่ไม่เคยคิดว่าพบเจอในชีวิตนี้

จากกระทู้เก่าค่ะ  https://ppantip.com/topic/37365221

วันหนึ่งหัวหน้าตึกเข้ามาประกาศกับลูกทีมพยาบาลว่า อาทิตย์หน้าเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ ที่ตึกICCUของพวกเราจะเป็นตึก
คนไข้หนักICUของคนไข้COVID พวกเราพยาบาลทั้งทีมแตกตื่นกัน บางคนก็กลัวตาย บางคนกลัวนำโรคไปติดคนที่
บ้าน อย่างสามี ภรรยาและลูกๆ บางคนก็เฉยๆ บางคนก็อยากรู้อยากเห็น ไม่กลัวตาย(อย่างเช่นพยาบาลสาวไทยอย่างเรา)

ซึ่งหัวหน้าก็เข้าใจ ว่าไม่ควรบังคับข่มขืนใจใครให้มาทำงานอันตรายแบบนี้ จึงมีเพื่อนกลัวตายในตึกเราอาสา ไปอยู่ตึก
ICCU สามัญรับคนไข้ไม่ติดเชื้อ COVID อีกส่วนใหญ่ช่วยกันรับหน้ากับคนไข้วิกฤติCOVID พร้อมได้พยาบาลทีมเสริมจาก
ตึกอื่นมาช่วย 

เช้าวันจันทร์ ทุกคนร่วมแรงแข็งขัน คนไข้ที่จำเป็นต้องย้ายออก ก็จำหน่ายออกไปยังตึกอื่น ที่เตรียมการขนย้ายเครื่องมือ
ก็ต้องช่วยกันขนเข้าและย้ายออก ที่ต้องทำอุปกรณ์พิเศษก็มาตอกฝาตอกประตูกั้น หมอใหญ่ หมอเล็กเดินเข้า เดินออก

ใช้เวลาเพียงหนึ่งวัน ตึกของเรา ก็เป็นตึกต้องห้าม ห้ามคนเข้า ห้ามคนออกก่อนได้รับอนุญาติ มีประตูปิดมิดชิดเหมือนคุกน้อยๆ

วันถัดมาเริ่มรับคนไข้วิกฤติ covid (ซึ่งในขณะนั้คนไข้เตียงICU จำนวน ๒๔ เต็มหมดแล้ว และจำต้องรับคนไข้เพิ่มเข้าไปใน
ส่วนของเตียงคนไข้หลังผ่าตัด) วันแรกมีคนไข้ต้องใส่เครื่องช่วย๒คน คนไข้เหนื่อยหอบ จำต้องให้ออกซิเจนและติดตาม
ผลเลือดอย่างใกล้ชิดอีก๒ราย

ส่วนตัวเรามาเริ่มงานวันที่๒ ขึ้นเวรไปแบบงงๆ (เราได้รับอีเมล์มาก่อนแล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง) เพราะอะไรก็ใหม่หมด ขึ้นไป
มีแต่คนใส่ชุดอวกาศ ไม่รู้ใครเป็นใคร เหมือนเพื่อนๆจะรู้กัน เลยออกมาช่วย orientation และเขียนชื่อด้านหน้าและด้านหลัง
บนชุดที่ใส่ ทำให้รู้ว่าใครเป็นใคร 

พวกเราที่ขึ้นเวรมา จะแบ่งออกเป็น๒ทีม คือ ทีมสะอาดซึ่งจะเป็นพยาบาลทีมเสริมจากตึกอื่น มีหน้าที่เป็นมือ เป็นเท้าให้กับอีกทีม
ซึ่งเรียกกันว่า ทีมสกปรก

ที่เรียกว่าทีมสกปรก เพราะต้องเข้าไปให้การพยาบาลคนไข้ติดเชื้อ พวกทีมสกปรกนี้ห้ามเหยียบไปในโซนสะอาด อย่างเด็ดขาด
ทีมสกปรกนี้ จะต้องใส่ชุดอวกาศ ใส่ถุงมือ๒ชั้น ใส่หมวกคลุมผม ใส่แว่นตา ใส่ชีลด์ ใส่หน้ากากบังคับของFFP3  ใส่แล้วต้อง
อยู่ในโซนคนไข้เท่านั้น ลำบากลำบนเหลือแสน

ขอเล่าความรู้สึกตอนที่ตัวเองใส่ชุดอวกาศให้ฟังหน่อย มันร้อน อึดอัด หายใจไม่ออก ใส่ไปๆแว่นตามองไม่เห็นเพราะไอน้ำ
มันจับกระจกแว่น ใส่ไปๆหนังยางหน้ากากรัดใบหู ทั้งเจ็บทั้งคัน เวลาพูดทีจะไม่ค่อยได้ยินแม้แต่จะตะโกนสียงดังแล้วก็ตาม
เวลาให้การพยาบาลคนไข้ที ร้อนตับแตก เหงื่อไหลไคลย้อย ทั้งๆที่เปิดแอร์ก็ยังร้อน และที่นี่ยังไม่เข้าหน้าร้อนอากาศกำลัง
สบายๆ๑๔-๑๘องศา เพื่อนฝรั่งจมูกโด่งโดนหน้ากากกดจนเป็นแผลถลอก ส่วนเราดั้งแบนกว่าเลยไม่มีปัญหา

จะเข้าห้องน้ำทีจะต้องไปถอดชุดอวกาศออกให้หมด และต้องล้างมือเช็ดมือก่อนทุกครั้ง ห้ามออกจากตึกออกไปกินข้าวที่อื่น
หลังลงเวรต้องไปอาบน้ำสระผมก่อนกลับบ้าน ช่วงนั้นพวกเรารักสะอาดกันมาก ไม่มีใครกล้าฝ่าฝืนกฎกันเลย

ขึ้นเวรวันแรก เรารู้สึกเหมือนถูกปล่อยเกาะ โดดเดี่ยวเดียวดายเพราะเราได้คนไข้ถึง๓คน ๑คนไข้ใส่เครื่องช่วยหายใจอาการวิกฤติ
ความดันวิกฤติต้องดูแลใกล้ชิด อีกคนอาการคงที่ ส่วนอีกคนตอนปลายเวรต้องใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจ

เหนื่อยสุดๆค่ะ เหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ น้ำตาไหลเพราะเหนื่อยสุดๆ โดดเดี่ยวจริงๆ เพราะเพื่อนๆก็ได้คนไข้อาการไม่ดีเหมือนกัน
ไม่มีใครมาช่วยใครได้ ก่อนลงเวรเพื่อนๆมากอดให้กำลังใจ กลับมาบ้านเจอหน้าสามี เราก็ยังร้องอยู่จนสามีตกใจเพราะเราไม่เคยร้อง
ไห้มาก่อน 

วันถัดมา เราได้บัดดี้เป็นพยาบาลทีมเสริม จึงทำให้งานสะดวกขึ้น ได้กำลังใจจากเพื่อนทีมเดิม ซึ่งพวกเรามาช่วยกันเสริมทีม
เสริมกำลังใจซึ่งกันและกัน พร้อมกับทีมจิตแพทย์เข้ามาประกบให้คำปรึกษา พร้อมทั้งช่วงนี้สื่อต่างๆออกมาให้กำลังใจ ตามบ้าน
เรือนแขวนผ้าสีขาวให้กำลังใจ กับทีมหมอ พยาบาลกัน ซึ่งมันช่วยได้จริงๆ 

(ตอนนี้ขออนุญาตไปนอนก่อน จะตี๑แล้วจ้ะ พรุ่งมาต่อใหม่)

เพิ่งมีเวลาเอารูปมาแปะค่ะ (13/06/2020)

 รูปเพื่อนๆที่ทำงานค่ะ

รูปหน้าตึกICUโควิดของเราค่ะ เหมือนคุกน้อยๆ(ในความคิดของเรา)



ทีมสกปรกจะใส่ชุดอวกาศ



ส่วนนี่คือทีมสะอาดค่ะ

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่