ยึด”กระทิงเทา” เบนซ์ เรซซิ่ง ขีดเส้น 3 วัน พบตำรวจ ชี้”เเพท”โดนด้วย หากรับโอนทรัพย์สินสามี

กระทู้คำถาม
2กพ.60-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจค้นอพาร์ทเม้นท์ของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ"เบนซ์ เรซซิ่ง " ซึ่งเป็นสามีของแพท" ณปภา ตันตระกูล" ดาราสาวในวันนี้ที่มีข่าวว่านายอัครกิตติ์อาจพัวพันเครือข่ายค้ายาเสพติดของนายไซซะนะ เเก้วพิมพา  พ่อค้ายาเสพติดชาวสปป.ลาวที่โดนเจ้าหน้าที่จับกุมได้เมื่อหลายวันก่อนหน้านั้น
                    
พล.ต.ท. สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด  (ปส.) เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้นายอัครกิตต์ยังไม่ได้ติดต่อเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากนายอัครกิตติ์พร้อม  สามารถเข้าพบตำรวจได้ 24 ชั่วโมง แต่หากไม่แสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 2-3 วันนี้จะออกหมายเรียกต่อไป                    
                                    
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าดาราสาวเเละภริยาของนายอัครกิตติ์จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่นั้น พล.ต.ท. สมหมาย ระบุว่า ขณะนี้การตรวจสอบยังไม่ถึง แต่ถ้าหากดาราสาวได้รับโอนทรัพย์สินจากนายอัครกิตติ์ ต้องนำตัวมาสอบปากคำ

"และยังคงยืนยันชัดเจนว่านายอัครกิตติ์ ไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหา แค่ถูกซัดทอดว่าเป็นคนนำเงินของนายไซซะนะมาซื้อรถ หากพยานหลักฐานครบถ้วน จะถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันสมคบฟอกเงิน"
                                          
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา16.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำรถแลมโบกินี่ หมายเลขทะเบียน กจ. 51 กรุงเทพมหานคร ของนายอัครกิตติ์มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท มาที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อตรวจสอบทะเบียนรถ ผู้ครอบครอง และการเสียภาษี รวมทั้งตรวจสอบด้วยว่า มีการนำเข้ามาภายในประเทศอย่างถูกต้องหรือไม่  เพราะในช่วงที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นที่พักของนายอัครกิตติ์เมื่อช่วงเช้าวันนี้นั้นไม่พบรถคันดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดี เเจ้งข้อมูลจึงทำให้ตรวจยึดรถยนต์หรูคันนี้ได้ในเขตกรุงเทพมหานคร
    
  พล.ต.ท. สมหมายกล่าวว่า  การปราบปรามเครือข่ายค้ายาเสพติดของนายไซซะนะนั้น    ตำรวจวางแผน 5 ปี เนื่องจากการปฏิบัติการแต่ละครั้ง เจ้าหน้าที่ต้องมีข้อมูลให้ครบถ้วน และต้องวางแผนเป็นอย่างดี เพราะการปฏิบัติการแต่ละครั้ง จะเสี่ยงต่อการสูญเสียกำลังเจ้าหน้าที่ และในปัจจุบัน กระบวนการทำงานของเครือข่ายค้ายาเสพติดไม่เหมือนอดีต มีระบบโซเชียลมีเดียเข้ามา ทำให้สามารถรวมกลุ่มกันง่ายขึ้น
http://www.springnews.co.th/th/2017/02/21730/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่