ไขมันพอกตับและมีพังผืด

กระทู้คำถาม
ขอคำแนะนำค่ะ
1. ดิฉันไปตรวจมาพบว่ามีไขมันพอกตับและมีพังผืด แต่ผิวตับเรียบ ยังไม่มีก้อนข้างใน หมอนัดตรวจเลือดเดือน พ.ค.
มีวิธีการดูแลสุขภาพช่วงนี้ยังไง
2. น้ำหนัก 58 กก. สูง 160 ซม. ท้วมๆ 2- 3 วันนี้ รับประทานแต่น้ำผักปั่น กล้วยและน้ำเต้าหู้ เพื่อลดน้ำหนัก
หมอแนะนำให้ลดน้ำหนัก ลง 7 % และออกกำลังกาย
  
  หมายเหตุ : อายุ 63  มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูง แต่ทั้ง 2 ตวบคุมได้อยู่ในเกณฑ์ เพราะรับประทานยา
และไม่เคยดื่มยาดอง ของเมา หรือเป็นโรคไวรัสตับมาก่อน
  ดิฉันเป็นทุกข์มากหรือเกิน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 24
เคสของคุณน่าจะเป็นเพราะไขมันในเลือดสูง เพราะมักจะมาคู่กับไขมันพอกตับ เบื้องต้นที่เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองในเรื่องการกินก็จัดว่าดีแล้วครับ แต่นอกจากเพิ่มแล้ว ต้องลดด้วยนะ คือต้องตั้งใจลดพวกของหวาน ทอด มัน กะทิ อาหารคอเลสเตอรอลสูง กาแฟถ้าปกติกินก็ลองเปลี่ยนเป็นชาเขียวร้อนบ้าง ชาใบหม่อนบ้าง ไม่เอาพวกกาแฟ3in1นะพวกนี้มีครีมเทียมผสม  ข้าวก็ลองเลือกกินที่เป็นข้าวไม่ขัดสี อย่างพวกข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ฟังดูเหมือนยุ่งยากแต่จริง ๆ แล้วแค่ช่วงเริ่มต้นเท่านั้นแหละครับ พอทำไปจนชิน มันก็กลายเป็นกิจวัตรเราเลย ถ้ารู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถทำได้ขนาดนั้นก็หาอาหารเสริมที่เน้นบำรุงและล้างสารพิษในตับ อย่าง วิตาลิฟ กินวันละเม็ดพร้อมข้าวก็ได้  ส่วนออกกำลังกาย ก็เน้นคาร์ดิโอ หรือถ้าหนักไปในอายุ63 ก็แอโรบิกก็ได้นะ อีกอย่างถ้ามีความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูงผสมอยู่ด้วย พยายามหาทางลดไขมันในเลือด กินปลา กินไข่ขาว ผลไม้สด เยอะๆครับ หาพวกสมุนไพรที่ช่วยเรื่องดักจับและลดไขมันในเลือด ช่วยคุมน้ำตาล อย่าง หลินจือ-1 มันมีส่วนผสมของเห็ดหลินจือที่ช่วยเรื่องนี้โดยเฉพาะกินเสริม น่าจะเหมาะกับผู้ป่วยที่อายุเยอะนะ
ความคิดเห็นที่ 7
สาเหตุหลักที่คนไทยป่วยเป็นมะเร็งตับ และโรคเกี่ยวกับตับเยอะคือ

** น้ำตาล และ ไขมัน ** ครับ

คนไทยเรากินรสจัดมาก กินหวาน เค็ม มัน เครื่องดื่มและของกินสำเร็จรูปต่างๆก็ใส่น้ำตาล และไขมันเลวในปริมาณที่สูงมากๆ
รวมกับการกินข้าวสวย ข้าวหอม ซึ่งเป็นแป้งที่เปลี่ยนรูปเป็นน้ำตาลได้ไวมาก
หนักขึ้นไปอีกคือกินโปรตีนน้อย เพราะไม่กล้ากินไข่ กินไก่ซึ่งเป็นโปรตีนราคาถูก เพราะกลัวเก๊าท์ กับคอลเลสตอลรอล ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดมานานมาก

ทั้งหมดนี้ทำให้คนไทยเป็นโรคเกี่ยวกับตับมาก ทั้งๆที่เราไม่ได้กิน เนย กิน ไขมัน มากเหมือนฝรั่ง แต่ลักษณะการกินแบบนี้มันทำลายสุขภาพมากกว่าพวก junk food ของตะวันตกซะอีก

วิธีแก้ที่ได้ผลยั่งยืน คือ

*คุมอาหาร
*พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก ตื่นแต่เช้า
*ออกกำลังกาย อย่างน้อยเดิน หรือแกว่งแขนต่อเนื่องให้เกิน 20 นาที 3 ครั้งต่ออาทิตย์
*ทำจิตใจให้แจ่มใส คิดบวก สำคัญมากอย่ามองข้าม เพราะลดการหลั่ง คอร์ติซอล หรือโฮโมนเครียด

หลักการคุมอาหารใหญ่ๆ ที่ทำได้ง่ายๆคือ

- เลี่ยงการกินน้ำตาลอย่างเด็ดขาด ชา กาแฟ เครื่องดื่มอะไรที่ใส่น้ำตาลเลิกให้หมด ดื่มน้ำเปล่าแทน รวมถึงผลไม้ที่มีรสหวานและแป้งเยอะอย่าง สับปะรด มะม่วง ขนุน ทุเรียน กินพวกหวานน้อยกากใยเยอะอย่าง ฝรั่ง แตงโม พืชตระกูลเบอรี่ ฟักต่างๆ มะเขือเทศ ฝักทอง และควรกินผลสด การคั้นน้ำแล้วทิ้งกากใส่น้ำตาล ไม่ค่อยต่างอะไรกับการกินน้ำอัดลม รวมถึงกินผักใบเขียวเยอะๆ

- กินโปรตีนให้มากขึ้น 63 ก็ยังควรกินโปรตีนให้ครบตามที่สาธรณสุขแนะนำคือ 0.8กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโล
ซึ่งถ้าน้ำหนักตัวประมาณ 50 ก.ก. ควรกินไก่หรือเนื้อสัตว์ หรือปลาประมาณ 2 ขีดต่อวัน หรือถ้ากินไข่อย่างเดียวตกประมาณวันละ 8 ฟอง

ครับ ไม่ผิดหรอก 8 ฟอง การกินไข่ไม่ได้ทำให้คอลเลสตอลรอลเพิ่มแต่การเครียดและขาดการออกกำลังต่างหากเป็นสาเหตุ
ถ้าไม่สะดวกใจหรือมีปัญหาเกี่ยวกับ ไขมัน หรือโรคหัวใจขั้นวิกฤติ กินแต่ไข่ขาวก็ได้ครับ

- กินคาร์โบไฮเดรตที่มีกากใยเยอะขึ้น ลดการกินข้าวขาว ข้าวสวย ขนมปัง กินพวกข้าวกล้องข้าวซ้อมมือแทน หรือข้าวโอ๊ต มันต้ม ดีกว่าทั้งนั้นครับ

*** นมควรลดหรือเลิกเด็ดขาด เพราะโปรตีนน้อย ไขมันสูง ย่อยยาก และเขาใส่น้ำตาลลงไปแม้ในนมจืดก็มีน้ำตาล 12-16 กรัมต่อ 200 ml

ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆตับและสุขภาพจะดีขึ้นครับ พวกสูตรวิเศษต่างๆแบบกินวันละแก้วสองแก้วได้ผลไม่มีจริงครับ ถ้าอาหารหลัก และการใช้ชีวิตส่วนใหญ่ไม่ดีขึ้น ยังไงก็ไม่ดีขึ้นครับ

ส่วนเรื่องเข้าค่ายที่ถาม ผมตามไปดูใน youtube พูดได้เต็มปากว่าหลอกลวงประชาชน เก็บค่าใช้จ่าย แล้วเอาคนไปกินอาหารที่มีคุณค่าต่ำ กินข้าวกับเกลือ กินปัสสาวะ แล้วมีศาสดามานั่งพูดว่าดีอย่างโน้นอย่างนี้ ดีไม่ดีเข้าไปแล้วจะเครียดมากขึ้น คุมอาหาร ออกกำลังกาย อยู่กับคนที่รักที่บ้านดีกว่าครับ

พิพพ์ยาว แต่ด้วยความปราถนาดีครับผม ขอให้มีสุขภาพที่ดี ปลอดโรคภัยไข้เจ็บครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่